ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
สตมวาร 100 วัน ตอนที่ 9

งานถวายความอาลัยพ่อของแผ่นดิน ยังเต็มไปด้วยกิจกรรม อีกนานชั่วโมง ชีวิตการมางานย่อมมีคุณค่าต่อชีวิต พ่อแม่ สังคม วัด โรงเรียน และสถาบันคุณความดี ที่เป็นแบบ สอนโดยการเล่าเรียน บอกจากปาก และที่สำคัญยิ่ง “การปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่าง” ชีวิตย่อมเพิ่มพูนคุณค่า

ผมกับแม่บ้าน ถึงจะสนุก แต่เวลาเริ่มบีบรัด ชีวิตยังถือว่ามีโชค ยังเดิน และช่วยตัวเองได้ ความจำถึงจะยังไม่เหมือนเดิม ลืมบ้าง ขาดความสนใจบ้าง ธรรมชาติถึงไม่เอ่ยให้ช้ำใจ แต่กาลเวลาจะไม่มีอะไรคงสภาพเดิม เปลี่ยนแปลง เกิดใหม่ยังเด็กเรียนรู้ได้รับการเอาใจสารพัด พอโต เดิน วิ่ง ไปโรงเรียน ก็ต้องดูแลตัวเอง พอชีวิตถึงวัยมีครอบครัว ก็ทุ่มเทกายใจไม่เพียงคู่ชีวิตก็ต้องมีลูก พอถึงวันนี้ความรู้สึกสบายเกี่ยวกับลูก แต่ชีวิตเริ่มเห็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิต สามารถมองอะไรชัด โปร่งเรื่องความต้องการ พฤติกรรมของลูกหลาน และย่ิงมั่นใจ ถ้าเอาใจใส่ดูแล เรื่องความเป็นอยู่โดยเฉพาะอาหาร ถ้าเป็นไปได้ใช้ส่วนประกอบปลอดสาร การวิจัยบอกเสมอ ชีวิตย่อมห่างโรค ส่วนการบ้านเป็นส่วนของการเคลื่อนไหว

พอถึงวันนี้ ชีวิตทุกอย่างขาลง อยู่กับธรรมชาติ ไม่เอาเปรียบ แต่กลับได้รับการตอบแทนดูแล วัยของชีวิตเริ่มต้องดูแลตัวเอง ชีวิตเริ่มเจ็บ ขัด ทุกสิ่งช้าลง เป็นคำสัตย์ ทุกคนย่อมตากจาก เป็นคำพูดของศาสนาพุทธ จริงแท้ถึงจะเป็นกฎของโลก ทุกคนรับรู้ เมื่อมีเกิดย่อมมีตาย เมื่อมีความสมหวัง ย่อมพลาดพลั้งเจ็บปวดได้ เพียงศาสนาพุทธนำมาสอน อบรมเตือนสติ ให้ชีวิตให้อยู่ในสังคม ด้วยความรอบคอบ มีจิตรักใคร่ ปรองดองต่อกัน ถ้าหยิบยื่นความเมตตาได้ อย่าเฉย ศาสนาพุทธกล่าว โอกาสให้ทำความดี ถึงจะผ่านมาให้กับชีวิต ถ้าเราทำเท่ากับวัดคุณภาพของชีวิต เราสะสมความเมตตา ไม่หนักที่ต้องแบกหามไปกับเราทุกที่

ยังโชคดี ยังขับรถไปไหนต่อไหนได้ แต่ก็ต้องรู้กฎของชีวิต จะกลับมืดค่ำ ดึก ความปลอดภัยอาจลดเพราะตา หู และพฤติกรรมสอนการขับขี่ ไม่เพียงเราเท่านั้น อุบัติเหตุสาเหตุเกิดจากคนอื่นมากมาย ยิ่งสังคมของโลกปัจจุบัน คนเครียดมากขึ้น เหตุผลงาน วัตถุ และการจัดสรรเวลา ตอนบริษัทคอมพิวเตอร์มาเปิด รับคนทำงานเยอะ เงินดี คนย่อมเฮโร แน่นอนรอบตัว ค่าเช่าบ้านแพง ค่าครองชีพสูง รถติด หงุดหงิด ความเห็นแก่ตัวมากขึ้น คนย้ายไปอยู่ 40-50 ไมล์ หาที่อยู่ถูก เช้า-เย็นเดินทาง ครับเพิ่มพูนทุกข์ทางจิตใจตลอด เดี๋ยวนี้ขับรถ ถ้าขับช้าคนบีบแตรไล่ ไฟแดงเปลี่ยนแตรปิ๋น ชีวิตสอนทุกวัน แม้แต่นำจากคนภายนอกมาสร้างเป็นพฤติกรรมดีๆ ให้ตัว คนอยู่ในอเมริกาถือว่าโชคดี โดยเฉพาะผู้สูงอายุ สังคมภายนอกตัวบริหารโดยคนเคยรับรู้ความไม่คล่องตัว เมื่อชรา หรือพิการ ชีวิตในอเมริกาสอนให้พึ่งตัวเอง การมีชีวิตอยู่อย่างอิสระ ต้องดูแลและช่วยตัวเอง ยิ่งต้องไปตลาด คุ๊กอาหาร การมีชีวิตด้วยตัวเอง ย่อมปลอดโปร่ง โล่งใจ ไม่มีคำเตือนจากภายนอก แต่เราก็ต้องเตือนตัวเอง จะไปไหนๆ ไม่ต้องขออนุญาต แต่เมื่อวัยชรา ความคล่องตัวย่อมลดลง ผมมีเพื่อนวัยเดียวกันหลายคน ค่ำคืนไม่อยากขับรถ ขาดความมั่นใจ รัฐบาลสร้างระบบให้กับคนชราและพิการ อดขอบคุณ เมื่อมีชีวิตลำพัง ชีวิตก็ต้องคล่องตัว การออกกำลังจำเป็น มีคุณน้าอายุ 80 ปี บ้านอยู่บนเขา จะเดินขึ้นลงหลายรอบ อาหารทานประเภทผัก ผมไม่ได้ซอกแซก กรึบเบียร์และไวน์บ้างหรือเปล่า หรืออาจมีเหล้าดองยา เดินตัวตรง แข็งแรง ไม่เหนื่อย และเมื่อย

วันเขียนผมมาอยู่เมืองมิชิแกน จะขับรถไปเมือง Livonia ที่ศูนย์กลางผู้สูงอายุ จันทร์-ศุกร์ เวลาแตกต่างเพื่อออกกำลัง มีแตกต่างสองอย่าง ทางร่างกาย และทางการป้องกันความพิการ ครั้งละบาท แต่คนนอกเมืองอย่างผม เพิ่ม 25 เซ็นต์ คนสอนชื่อ “มาทรา” คุยได้ตลอดเวลาตลก โจ๊ก แม้แต่ลามกสลับ ผมชอบอ่านเรื่องขำขัน หัวเราะ ผมเคยอ่านในหนังสือไทย เรื่องคนสูงอายุ สามีบอกภรรยา จะไปสำนักงานขอเงินผู้สูงอายุที่อำเภอ เมียบอกว่า เธอไม่มีเอกสารแสดงจะได้เหรอ สามีหายไปครึ่งวัน กลับบ้านเจอหน้าเมียยิ้ม เมียถามเขาให้เงินสูงอายุไหม ให้ เธอมีอะไรบอกเขาล่ะ สามีถอดเสื้อบอกให้ดูขนที่หน้าอกเปลี่ยนเป็นสีขาว เขาเลยยอม เมียบอกเธอน่าจะให้ดูอีกอย่างซึ่งใช้งานไม่ได้มานานมาแล้ว

แม่บ้านผมอยู่แคลิฟอร์เนีย เป็นสมาชิก วายเอ็มซีเอ จ่ายเดือนละ 50 เหรียญ พยายามโฆษณาให้ผมเป็นสมาชิกด้วย ห่างจากบ้าน 2-3 ไมล์ มีสระว่ายน้ำ และซาวน่า ผมเริ่มคิด เห็นทีจะต้องยอมจำนน มองคล้อยสุขภาพน่าจะดีขึ้น มีเพื่อนคุย และกิจกรรมทำให้ตื่นตัว

ศาสนาพุทธ สอนการออกกำลังทางจิต คือเดินจงกลม และนั่งสมาธิ จิตจะหยุดวุ่นวาย หลายคนบอกนอนหลับสบาย จิตไม่ฟุ้งซ่าน ลูกสาวผมคนเป็นหมอ ตื่นแต่เช้า ก่อนลูกๆ ตื่น นั่งสมาธิ เคยเรียนรู้ตอนเป็นเด็กที่วัดพุทธานุสรณ์ ลูกบอกว่าใจสงบขึ้น ถึงที่คลินิค Emcura คนไข้เยอะทุกวัน จะมีเวลาแนะนำ ช่วยเหลือ โทรคุยได้ ระหว่างนั่งทานอาหาร เลือกนั่งใกล้คนเคยคุ้นเคย คนนั่งคุยด้วย อายุน้อยกว่าผม 5-6 ปี ตอนนี้ยังตื่นเช้า ไปร้านขายผักแบบยกลัง มีสารพัด เนื้อ ไข่ ของใช้ ราคาถูกกว่าขายปลีก ตอนผมมีร้านก็มาขลุกอยู่แถวนี้ ส่วนตัวออกจากบ้านแต่มืด แวะสนามกอล์ฟ เจอเพื่อนออกรอบ 9 หลุม ถ้าไม่เจอก็ตีลูกหนึ่งตระกร้า หัดพัด หัดชิฟ ครับทำอย่างไรได้ ชีวิตชอบกอล์ฟ เวลาออกสนามกับก๊วน ชอบมีพนันนิดหน่อย ได้เสียคือ พลังความมานะและพยายาม

เพื่อนคนนั่งคุย เดี๋ยวนี้มีสองร้าน ความรู้สึกผม อดชมเก่ง เพราะร้านอาหารย่อมต้องอาศัยปัจจัยคนงาน ครับร้านไทยเปิดมากขึ้น คนที่ใช้ทำงานย่อมคนไทย เดี๋ยวนี้คนหางานง่าย ถ้าเก่ง เงินเดือนยังไม่ขึ้น สวัสดิการไม่เป็นไปตามความต้องการ ก็สามารถเล่นตัวได้ ครับเป็นธรรมชาติของชีวิตคน ปัญหาคนงานเพิ่ม

ผมถามคงยังไม่คิดเลิก เพราะอายุก็เลยเกษียณ ลูกๆ ก็เรียนจบ หลายรายก็เอาลูกมาทำงาน เพื่อบอกยังหรอก เลิกร้านไม่รู้จะทำอะไร เขาหันมาถามผม อยู่สองผัวเมีย ไม่เหงา ไม่เบื่อบ้างเหรอ ไม่น่ะ ผมตอบ เพราะเป็นวัยหมดเวลา วิ่งเต้น แบกหาม กังวลกับคนงานลาหยุด และสำคัญ เบื่อสุดๆ เมื่อคนงานหยุดกระทันหัน ต้องเรียกคนอื่นมาทำแทน โดยมากถ้าไม่ได้ทำงานเช้ายันเย็น บ่อยครั้งคนขาด ต้องล้างจาน เคยทำแทนผู้ช่วยคุ๊ก เวลายุ่ง คนผัดและแกง เคยตะคอกใส่ ทำไม่ทันเดี๋ยวเจ้าของร้านบ่นเอาหรอก อย่าหวังรางวัลเล็กๆน้อยเลยไม่ได้หรอก ยิ้มแหย พูดกับตัวข้าหรือเอ็งเป็นเจ้าของร้านกันแน่ เรื่องเช็ดถู ดูแล ส้วมเราว่าง เวลาลูกค้าบ่น กระดาษไม่มี ส้วมสกปรก มีบ้างส้วมตัน อยากบอกลูกค้าที่มาบอก ผมเป็นเจ้าของร้านนะโว๊ยรู้จักไหม Boss น่ะ เคยคิดไส่ลูกค้าคนบอก ทำไมไม่ทำเอง เป็นคนใช้บริการ เมื่อเห็นไม่ดีก็ทำเสีย แต่ปิดปากสนิทการเป็นผู้ขายบริการนอกจากดูแล ทำงาน ยังต้องมีสติ

สุดท้ายเพื่อนโบ้ยสายตาไปยังเมีย กำลังเพลินกับเงิน เข้ากระเป๋าสดทุกวัน อยากได้อะไร ซื้อก่อนจ่ายหลัง ไม่เคยมีปัญหา ถึงจะมีปัญหาเรื่อง IRS บ้าง ก็เงินสดเข้ากระเป๋า เพียงหลงลืม ใส่ลงในรายได้บัญชี ไม่น่าจะเป็นเรื่องเอะอะ หัวเสีย กล่าวโทษ ถ้าตรวจพบ อาจปิดร้านได้ คน IRS บอกกล่าว “ขู่” ถ้าเขาคิดลึภๆ จะรู้ว่าธุรกิจเล็ก อย่างร้านอาหาร เจ้าของร้านทำงานหนัก แล้วยังขนลูกเมีย แม่ยายมาทำมาหากิน รายได้จากภาษีของพวกเรา เขาออกไปจ่ายคนไม่ทำงาน สารพัดอ้าง เจ็บหลัง ทำงานหนักไม่ได้ นี่ใบหมอ และนี่ใบจากทนายความ หลายคนมีลูกเยอะ ความสามารถในงานไม่มี เก่งเรื่องทำลูก ปลูกเสน่ห์