ข่าว
เผย 19 รายชื่อ รับเครื่องราชฯ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2557 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ประกาศรายชื่อ 19 รายที่ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประจำปี 2556

โดยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ให้แก่บุคคลสัญชาติไทยที่มีถิ่นพำนักในต่างประเทศ จำนวน 19 ราย

มีบุคคลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ และมีถิ่นพำนักอยู่ในฮอลลีวูด 3 ราย ได้แก่ เหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์ นางกิ่งกาญจน์ สมิตามร จากเมือง Union City รัฐแคลิฟอร์เนีย (ตำแหน่งรองประธานสภาวัฒนธรรมไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา แห่งเมืองฟรีมอนต์ แคลิฟอร์เนีย) เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ นายไพสันติ์ พรหมน้อย จากเมือง Norwalk รัฐแคลิฟอร์เนีย (บก. น.ส.พ. The Asian Pacific News อดีตนายสมาคมธรรมศาสตร์แห่งแคลิฟอร์เนีย และอดีตนายกสมาคมสื่อมวลชนไทยในสหรัฐอเมริกา) และน.ส. สุวรรณี วิทยพูม จากเมือง Arcadia รัฐแคลิฟอร์เนีย (อดีตนายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2556 รวมทั้งสิ้น 6,660 ราย

สำหรับคนไทยในสหรัฐที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ มี 19 ราย ประกอบด้วยรายชื่อดังต่อไปนี้

เบญจดิเรกคุณาภรณ์ 1. นายสุเมธ เจียรวนนท์ 2. นางกัญญา มูลศิริ 3. นางแสงจันทร์ เฟรดริก 4. นางสาว วอริสรา รัตนบุตร

เหรียญทองดำเริกคุณาภรณ์ 1. นายวิเชษฐ อึ้งวิเชียร 2. นางกิ่งกาญจน์ สมิตามร 3. นางนารี ลาภไชยวุฒิ 4. นางอิ่มทิพย์ ซูฮาร์โต

เหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ 1. นายเชิดศักดิ์ นิยมศิลป์ 2. นายธีระชัย เปรมไทย 3. นางพงษ์ศักดิ์ ทองอำไพ 4. นายไพสันติ์ พรหมน้อย 5. นางนพมาศ ลิ้มสุวรรณ 6. นางยุพดี ฮีมอร์ 7. นางสุนิษา พิชา 8. นางสุวรรณี ไตรยศรี 9. นางสาวสุวรรณี วิทยพูม 10. นางอรพิน ตันตระกูล 11. นางอุทิศ เภกะนันท์ นอกจากนี้สถานกงสุลใหญ่ ยังได้มีจดหมายเป็นทางการส่งตรงไปยังผู้รับพร้อมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่ไปรับพระราชทานที่สถานกงสุลใหญ่แอล.เอ. ต่อไป


7 ศิลปินแห่งชาติ โชว์ผลงานที่ Artcore

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ขอประชาสัมพันธ์การจัดนิทรรศการ “International Exchange Show Thailand 2014” ซึ่งเป็นนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของศิลปินแห่งชาติชาวไทย จำนวน 7 ท่าน ประกอบด้วย ดร. กมล ทัศนาญชลี ดร. ถวัลย์ ดัชนี ศาสตรจารย์เดชา วราชุน นายทวี รัชนีกร นายธงชัย รักปทุม ศาสตราจารย์วิโชค มุกดามณี และ ศาสตราจารย์เมธี นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ซึ่งในโอกาสนี้ ศิลปินแห่งชาติจะเดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิสด้วย

นิทรรศการดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสภาศิลปกรรมไทยสหรัฐอเมริกา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ LA Artcore โดยจัดแสดงระหว่างวันที่ 1 – 16 เมษายน 2557 ณ LA Artcore, Union Center for the Arts (120 Judge John Aiso Street, Los Angeles, CA 90012) และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2557 เวลา 15.00 – 17.00 น. โดยมีนายเจษฎา กตเวทิน กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส และนายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ

ไทยเท็กซัสเช่าซื้อพระเก๊ สูญกว่าสองแสนเหรียญ

นายพุฒิกรณ์ เตชะพิสุทธิกุล เจ้าของร้านอาหารไทยในเท็กซัส จัดแถลงข่าวของแก๊งค์ 18 มงกุฏในแอล.เอ. หลอกขายพระเครื่องปลอม ทำให้สูญเงินไปกว่า 2 แสนเหรียญ

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 เวลา 14.00 น. นายพุฒิกรณ์ เตชะพิสุทธิกุล ได้เปิดแถลงข่าว ที่ร้านอาหารแก๊งค์หมูกรอบ ถึงการหลอกลวงของ 18 มงกุฎแอล.เอ. หลอกขายพระเครื่องให้กับตน กว่า 300 ร้ององค์ ทำให้ต้องสูญเงินกว่า 2 แสนเหรียญ

เขากล่าวว่า ตัวของเขามีอาชีพทำกิจการร้านอาหารไทย อยู่ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ต่อมาได้รู้จักเซียนพระเครื่องคนหนึ่ง โดยไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว โดยที่ตนได้มาเที่ยวไทยทาวน์แอล.เอ. เมื่อปี 2555 จึงได้รู้จักกับเซียนพระผู้นี้ โดยเซียนพระผู้นี้ประกอบธุรกิจรับจ้างดูดวง ดูลายมือ และโหวงเฮ้ง อยู่ในศูนย์พระแห่งนั้นด้วย ตามความจริง นายพุฒิกรณ์ เคยเห็นเซียนพระผู้นี้มาบ้างแล้วผ่านรายการพระเครื่องทางทีวี

และในวันนั้นเอง เซียนพระผู้นี้ได้พยายามพูดโฆษณาชวนเชื่อให้ นายพุฒิกรณ์ร่วมลงทุนทำธุรกิจซื้อขายพระเครื่อง พระบูชา และวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อนำกลับไปขายที่ประเทศไทย ในลักษณะที่ว่าตนเป็นผู้ซื้อ และเซียนพระเป็นคนหาพระมาปล่อยให้ตนเช่าต่อ นายพุฒิกรณ์หลงเชื่อ และได้ทำการเช่าพระในงวดแรก 6,250 เหรียญ แต่มีเงินสดเพียง 2,500 เหรียญ จึงเจรจา จะโอนเงินส่วนที่เหลือให้หลังจากถึงเท็กซัสแล้ว ส่วนเซียนพระผู้นี้ก็ตอบตกลง และไม่ท่าทีกังวลว่าตนจะไม่จ่ายเงินแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นในสายตาของตน เลยตกลงทำธุรกิจซื้อขายพระเครื่องร่วมกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

หลังจากนั้นในระยะเวลา 6-7 เดือน ก็ได้มีการทำการค้าขายระหว่างกันจน นายพุฒิกรณ์ สะสมพระจากเซียนพระผู้นี้ได้ 2-3 ร้อยองค์ โดยได้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารให้ก่อนที่พระจะถูกขนส่งมาให้ โดยได้โอนเงินผ่านหลายบัญชี ที่เป็นพวกพ้องเดียวกันกับเซียนพระผู้นี้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายพุฒิกรณ์ ไม่ได้ทำการตรวจสอบพระเลย จนเมื่อประมาณปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2556 เห็นว่าควรนำพระทั้งหมดกลับเมืองไทย พร้อมกับภรรยา เมื่อนำพระเครื่องทั้งหมดไปตามศูนย์พระเครื่องต่างๆ ในกรุงเทพฯ ปรากฎว่าศูนย์พระดังทุกที่ต่างยืนยันว่าเกือบทั้งหมดเป็นของปลอม

“ผมตกใจแทบช๊อกแต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียวจึงนำพระเหล่านั้นไปขอคำแนะนำจากผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายๆ ท่าน รวมทั้ง พยัพ คำพันธ์ นายกสมาคมและประธานชมรมพระเครื่องแห่งประเทศไทย ก็ยืนยันกลับมาว่าไม่ใช่พระแท้ เป็นพระปลอมทำเลียนแบบผมคิดได้ทันทีว่าถูกหลอกแน่”

จากนั้นเมื่อเดินทางกลับมาจากประเทศไทย นายพุฒิกรณ์จึงได้นำพระเครื่องทั้งหมดไปพบกับเซียนพระผู้นั้น และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง พร้อมทั้งขอคืนเงินทั้งหมด แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงว่าไม่มีเงิน และได้ยื่นข้อเสนอใหม่ให้ตนมอบพระเครื่องทั้งหมดไว้ และเขาจะพยายามช่วยขายให้ โดยจะนำพระเหล่านี้ไปขายผ่านรายการพระเครื่อง ทางช่องลาว-ไทย ยูเอสทีวี ซึ่งทำร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง “ผมต้องจำใจยอม เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ไม่มีทางเลือก” หลังจากนั้นจึงได้ติดตามดูรายการทีวีดังกล่าว และหลายครั้งเห็นว่าพระเครื่องเหล่านั้นได้ถูกขายไปในราคาสูง จึงได้ติดต่อกับเซียนพระผู้นี้เพื่อถวงเงินคืนอีกครั้ง แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนในที่สุดจึงทิ้งงานที่ทำอยู่ที่เท็กซัส มาที่แอล.เอ. เพื่อมาถวงเงินโดยตรงโดยบอกว่า ไม่ต้องการเงินทั้งหมดคืน แต่ขอเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะตอนนี้ตนเองก็เดือดร้อนหนักเกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่ก็ถูกปฏิเสธ พร้อมท้าให้ทำการฟ้องร้องเอาเอง

ส่วนตัวเชื่อว่าพวกนี้ทำงานเป็นแก๊งค์ เพราะได้ติดต่อกับเจ้าของบัญชีที่โอนเงินให้ก็ได้รับการปฏิเสธทั้งหมด และมีอีกหลายๆ รายที่ต้องเสียเงินเรือนหมื่นในการหลอกลวงลักษณะเดียวกัน แต่ไม่มีใครกล้าเอาเรื่อง เพราะอาย และกลัวคนประนามว่าโง่ให้คนพวกนี้มาหลอก

อย่างไรก็ตามตนได้ดำเนินการติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการเอาผิดกับแก๊งค์หลอกลวงนี้ แต่ตีแผ่ความจริงให้คนไทยได้ทราบ และไม่ถูกหลอกอีกต่อไป

โดยนายพุฒิกรณ์ ได้ทำการร้องทุกข์ผ่านศูนย์ส่งเสริมชาวไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยศูนย์ฯ จะเป็นตัวกลางประสานงานกับหน่วยงานของสหรัฐฯ และได้บันทึกถ่ายสำเนาหลักฐานทั้งหมด ติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีใหญ่ และยังได้ส่งเรื่องผ่านไปยังหน่วยงานเอฟบีไอด้วย

สำหรับผู้ที่คิดว่าตนเคยตกเป็นเหยื่อแก๊งค์นี้มาก่อน หรืออาจกำลังตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งความประสงค์ร่วมลงชื่อฟ้องร้องดำเนินคดีได้ที่ 713-584-5299 ตลอด 24 ชั่วโมง


“ฟิล์ม-บอย” บินร่วมงาน “ไทยนิวเยียร์ : สงกรานต์เฟสติวัล” ประธานสภา กทม.นำทีมฉลองความสัมพันธ์กับแอล.เอ.

นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดงาน “ไทยนิวเยียร์ : สงกรานต์เฟสติวัล” และกรรมการประสานงานฝ่ายประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดงาน “ไทยนิวเยียร์ 2014 : สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 11” วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2557 ซึ่งปิดถนนฮอลลีวูด ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อโปรโมทชุมชนไทย ประเทศไทย วัฒนธรรมไทย สินค้าไทยและการท่องเที่ยวไทย ยังคงได้รับความสนใจากชาวไทยในสหรัฐอเมริกาและที่ประเทศไทย สำหรับปีนี้คณะกรรมการประสานงานฝ่ายประเทศไทย ได้เชิญดาราศิลปินชายชื่อดัง 2 คน มาร่วมงาน ได้แก่ ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ จากค่ายอาร์เอสฯ มีผลงานเป็นนักร้องชื่อดังและพระเอกละครโทรทัศน์ และ บอย-พิษณุ นิ่มสกุล หรือ บอย AF2 เป็นทั้งนักร้องและดาราละครโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมจากแฟนละครทั้งในและต่างประเทศ จะมาสร้างสีสันให้แฟนเพลงในสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภากรุงเทพมหานคร ได้นำคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) รวม 20 คน พร้อมสื่อมวลชนไทยหนังสือพิมพ์และโทรัทศน์อีก 4 คน มาร่วมฉลองครบรอบ 1 ปี การลงนามสภามิตรภาพระหว่างสภา กทม. กับสภาเทศบาลนครลอสแอนเจลิส โดยเข้าร่วมขบวนพาเหรด การจัดนิทรรศการความสัมพันธ์ และสนับสนุนกิจกรรมเวทีการแสดงใหญ่ เพื่อให้งานยิ่งใหญ่อลังการ “คุณพิพัฒน์ ฝากบอกมาถึงชาวไทยในสหรัฐฯว่า ทางสภา กทม.ได้ลงนามความสัมพันธ์สภามิตรภาพกับสภาเทศบาลนครลอสแอนเจลิสมาครบ 1 ปีพอดี

จึงได้นำคณะ สก.มาร่วมกระชับความสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมมาร่วมสนับสนุนให้งานไทยนิวเยียร์ ยิ่งใหญ่ จะได้ช่วยกันโปรโมทประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร ชาวอเมริกันและชาวต่างชาติที่มาร่วมงาน จะได้ไปเที่ยวเมืองไทยกันมากขึ้น” นายดำฤทธิ์กล่าว

นายดำฤทธิ์ เปิดเผยอีกว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงนามคำสั่งก่อนหน้าที่จะหยุดปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากศาลอุทธรณ์รับคำร้องที่ กกต.แจกใบเหลือง ให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. จัดการแสดงและกิจกรรมมาร่วมโปรโมทกรุงเทพมหานคร เมืองที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก ในงาน“ไทยนิวเยียร์ : สงกรานต์เฟสติวัล”ด้วยโดยนำวง“บอยไทย” วงดนตรีร่วมสมัยระหว่างเครื่องดนตรีไทยและดนตรีสากล ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก นำโดยนางอัมพร จักกะพาก มาบรรเลงในงานให้ฟังกันอย่างเต็มอิ่ม และยังมีคณะคีตศิลป์ของ กทม. มาร่วมโชว์การแสดงอย่างยิ่งใหญ่ที่เวทีวัฒนธรรม มีทั้งวงโปงลาง รำ ฟ้อน เซิ้ง รวม 18 ชุด มาแสดงอย่างสนุกสุดเหวี่ยง

“เดิมทีท่านผู้ว่าฯสุขุมพันธ์ ตั้งใจสนับสนุนการจัดงานไทยนิวเยียร์อย่างเต็มที่ เพราะได้ทราบรายละเอียดของงานจาก สุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง และ ศรีวงษ์ อาญาสิทธิ์เมื่อคราวนพโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ไปเยี่ยมคารวะ และจะมาร่วมงานด้วยตนเอง แต่เนื่องจากต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อรอคำตัดสินของศาลอุทธรณ์กรณี กกต.ให้ใบเหลืองในการเลือกตั้ง จึงไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่มี นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯกทม. เป็นหัวหน้าคณะมาแทน พร้อมด้วย นายมานิตย์ เตชอภิโชค รองปลัด กทม. และ นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้ช่วยปลัด กทม.โดยทาง กทม. จะมาจัดบูธประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับรางวัลเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 3 ปีซ้อนด้วย”นายดำฤทธิ์ กล่าว

ด้าน ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ พระเอกและศิลปินชื่อดัง กล่าวถึงความรู้สึกในการมาร่วมงานไทยนิวเยียร์ฯว่า

ตั้งใจจะมาร่วมงานตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ช่วงนั้นติดถ่ายละครเรื่องผู้ชนะสิบทิศและอีกหลายเรื่อง ต่อเร่งถ่ายให้ทันออกอากาศ ผู้จัดจึงไม่สามารถเคลียร์คิวให้ได้ พอถ่ายเสร็จก็ล็อกคิวไว้แล้วว่าช่วงปลายเดือนมีนาคมและต้นเดือนเมษายน

จะไม่รับงาน เพื่อจะมาร่วมงานครั้งนี้ และขอขอบคุณคณะกรรมการที่เชิญมาร่วมงาน

ส่วน บอย-พิษณุ นิ่มสกุล เปิดเผยว่า พี่ดำฤทธิ์เชิญมาตั้งแต่ปีที่แล้วอยากมามาก เพราะติดตามข่าวงานไทยนิวเยียร์ฯ มาตลอด ตื่นเต้นที่ปิดถนนฮอลลีวูดจัดงานโปรโมทประเทศไทยได้ แต่ติดถ่ายละครซึ่งกำลังออกอากาศทางช่อง 3 จึงเคลียร์คิวร่วมงานไม่ได้ “บอยอยากมาร่วมงานมาก จึงล็อกคิวไว้เลยล่วงหน้าเป็นปี และบอกพี่ดำฤทธิ์ว่าบอยอยากมา อย่าลืมบอยนะ พี่เขาก็บอกว่าคณะกรรมการโอเคแล้ว ดีใจที่จะได้มาพบกับแฟนเพลงและแฟนละครในสหรัฐอเมริกา” บอย-พิษณุ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟิล์ม-รัฐภูมิ ได้เดินทางถึงสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม โดยเดินทางมาก่อนล่วงหน้า เพื่อพาพ่อแม่มาเที่ยวสหรัฐอเมริกาเพราะยังไม่เคยมาเลย และถือโอกาสพบแฟนเพลงต่างรัฐด้วย จากนั้นวันที่ 3 เมษายน จึงเดินทางกลับมาเข้าโปรแกรมของคณะกรรมการ“ไทยนิวเยียร์ฯ” ส่วนคณะของนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภา กทม. และนายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่า กทม.พร้อมคณะ รวมทั้งบอย-พิษณุ กำหนดเดินทางถึงนครลอสแอนเจลิส เย็นวันที่ 3 เมษายน โดยสายการบินไทย

สำหรับโปรแกรมในนครลอสแอนเจลิสของฟิล์ม-รัฐภูมิ และบอย-พิษณุ วันที่ 4 เมษายน ไปเที่ยวยูนิเวอร์แซล

เพื่อถ่ายทำรายการโทรทัศน์ด้วย และค่ำไปออกรายการโทรทัศน์ที่ช่องแนททีวี ประชาสัมพันธ์งานไทยนิวเยียร์ฯ วันที่ 5 เมษายน เวลา 10.30-11.30 น. ไปเยี่ยมวัดไทยนครลอสแอนเจลิส ชมการเรียนการสอนโรงเรียนพุทธศาสนาและพบปะเยาวชนไทย เที่ยงไปสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ประชาสัมพันธ์งานไทยนิวเยียร์ฯ จากนั้นเย็นไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านพัก กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส วันที่ 6 เมษายน ร่วมการแสดงในงานไทยนิวเยียร์ฯ ทั้งวัน วันที่ 7 เมษายน ไปทัศนศึกษา และถ่ายทำรายการโทรทัศน์ วันที่ 8 เมษายน พักผ่อน ก่อนเดินทางกลับช่วงค่ำ

การจัดงาน “ไทยนิวเยียร์ 2014: สงกรานต์เฟสติวัล ครั้งที่ 11” ปีนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส, เทศบาลนครลอสแอนเจลิส, บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บมจ. การบินไทย, สภากรุงเทพมหานคร, กรุงเทพมหานคร, หน่วยงานทีมประเทศไทย, สมาคม ชมรม ชุมชนไทย, บริษัท

กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด, บริษัทเฉาก๊วยชากังราวตราเพชร และอีกหลายองค์กร

ระบบแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหว

หลายปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์พยายามผลักดันให้รัฐแคลิฟอร์เนียมีระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับการเกิดแผ่นดินไหว อย่างเช่นในประเทศญี่ปุ่นหรือ เม็กซิโก หลังจากที่ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริกเตอร์ในเมือง La Habra รัฐแคลิฟอร์เนีย ในวันศุกร์ที่ผ่านมา และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 8.2 ริกเตอร์ที่ประเทศ Chile ในวันอังคารที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดต่อเนื่องในอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ารัฐแคลิฟอร์เนียควรนำระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าทางออนไลน์มาใช้ในทันที

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ระบบเตือนภัยที่ได้ทำการประดิษฐ์คิดค้นมานานนับปีที่ Caltech จะทำงานในทันทีและเตือนประชาชน เป็นเวลาถึง1นาที ก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนหลังจากแผ่นดินไหวได้เริ่มขึ้น นักวิทยาศาสตร์สามารถทำการบันทึกได้อย่างรวดเร็วและประเมินออกมาว่าจะมีการเกิดแผ่นดินไหวแรงมากขนาดที่จะส่งคำเตือนออกไปหรือไม่

ระบบสามารถแจ้งให้ทราบก่อนเป็นเวลาจาก 1 วินาที ถึง 1 นาที ขึ้นอยู่กับระยะใกล้หรือไกลจากแรงสั่นสะเทือน ถึงแม้ระบบจะสามารถเตือนก่อนไม่นานนัก แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังเชื่อว่าระบบเตือนภัยมีความสำคัญ และมันจะสามารถช่วยชีวิตและที่อยู่อาศัยได้มากมาย มันจะช่วยให้คนมีเวลาพอที่จะปิดไฟฟ้าในบ้านและหาที่หลบภัย

เราอาจเคยได้ยินหรือได้เห็นประโยชน์ของระบบเตือนภัยล่วงหน้าแล้วในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาสามารถหยุดรถไฟฟ้าความเร็วสูงและได้แจ้งเตือนประชาชนได้ทันเวลา นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ถ้าถามคนในรัฐแคลิฟอร์เนียว่าจะยอมจ่ายเงินไม่กี่ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อรับระบบเตือนภัยนี้ไหม? เราว่าพวกเค้ายินดีที่จะจ่าย

แต่ระบบก็ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากขาดทุนและขาดทรัพยากรในการพัฒนาเพิ่มเติม ในวันพฤหัสบดีตัวแทนสภาคองเกรสจะนำจดหมายไปยื่นให้แก่คณะกรรมการจัดสรรเงินงบประมาณ เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาสนับสนุนกองทุนเพื่อพัฒนาระบบเตือนภัยการเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้า และจะต้องการเงินเป็นจำนวน 16 ล้านดอลล่าร์ต่อปี ในการดำเนินงาน แต่ทั้งนี้นับว่าคุ้มถ้าระบบจะช่วยชีวิตและทรัพยากรอื่นๆอย่างมากมาย


(แปลและเรียบเรียงโดย ธัญญ่า บราวน์)

สถานกงสุลเปิดคอร์สมวยไทย ที่ Los Angeles City College

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ร่วมกับ Los Angeles City College (LACC) เปิดหลักสูตรการสอนมวยไทย (Muay Thai Program) ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป เพื่อส่งเสริม และเผยแพร่ภูมิปัญญาด้านศิลปะการต่อสู้ของไทย รวมถึงประชาสัมพันธ์มวยไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยหลักสูตรสอนมวยไทยนี้จะมีขึ้นทุกวันเสาร์ เวลา 11.00 – 13.00 น. ระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 28 มิถุนายน 2557 รวมเวลาทั้งหมด 10 สัปดาห์ ที่ LACC 855 N. Vermont Avenue, Los Angeles, CA 90029 ผู้ที่สมัครเรียน 20 รายแรก จะได้รับของสมนาคุณเป็นกางเกงมวยไทยและนวมมวยไทยจากสถานกงสุลใหญ่ฯ

ผู้ที่สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้ทางเว็บไซต์ www.lacitycollege.edu หรือ communityservices.lacitycollege.edu และหมายเลขโทรศัพท์ (323) 953- 4000 ต่อ 2651