ข่าว
รองอธิบดีฯจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ สปป.ลาว ส่งไลน์ขอความช่วยเหลือถึง ปภ.กาญจน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเกิดเหตุเขื่อนผลิตไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย สปป.ลาวแตกเป็นเหตุทำให้ประชาชนเสียชีวิตและสูญหาย และปัจจุบันมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.20 น.วันนี้ (26 ก.ค.61) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ที่ผ่านมา ตนได้รับการประสานทางไลน์จากนายวิไลพงษ์ ศรีสมหวัง รองอธิบดีสำนักงานการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ สปป.ลาว (Mr.Vilayphong Srisomvang รองอธิบดีสำนักงานจัดการภัยพิบัติ สปป.ลาว) ที่เป็นเพื่อนสนิทกับตนให้ช่วยกระจายข่าวถึงความต้องการของประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ให้คนไทยทราบถึงสิ่งจำเป็นที่ประชาชนต้องการที่สุด ตอนนี้ คือ 1. ห้องสุขาเคลื่อนที่ 2. เต้นท์ 3. น้ำดื่ม 4. เรือท้องแบนอลูมิเนียม/เรือกู้ภัย ดังนั้นตนจึงขอให้สื่อมวลชน ช่วยกันกระจายข่าวนี้ออกไป เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือตรงตามวัตถุประสงค์ของประชาชนชาวลาว

"We urgently need the mobile toilets, tents, drinking water and aluminum rescue boats" said an official of LAO PDR' National Disaster Management Office regarding the response dam break situation. (26 July 2018, 7.30 am)

เขื่อนแตกลาววิกฤติหนัก พบแล้ว 26 ศพ น้ำท่วมสูง 6 พันคนไร้ที่อยู่

รัฐบาลไทยสั่งหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ สปป.ลาวทุกมิติ พร้อมจัดส่งน้ำดื่ม อาหาร ยา สิ่งของบรรเทาทุกข์ลอตแรก นายกฯมอบเงินช่วยฉุกเฉินเบื้องต้นให้ทูตลาว 5 ล้าน ขณะที่ลาวเปิดวอร์รูมช่วยผู้ประสบอุทกภัยที่ห้องว่าการแขวงอัตตะปือรับความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง ตัวเลขคนไร้บ้านนับพัน สูญหายหลายร้อยคน ความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะปฏิบัติการบรรเทาทุกข์เป็นไปด้วยความยากลำบาก ระดับน้ำยังสูงเกือบมิดหลังคา ต้องใช้ฮ.-เรือ เท่านั้นล่าสุดหน่วยกู้ภัยพบแล้วกว่า 26 ศพ

ความคืบหน้าเหตุเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ “เซ เปียน- เซน้ำน้อย” ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง สันเขื่อน D เกิดทรุด มีรอยร้าวก่อนพังถล่มที่เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสปป.ลาว ทำให้มวลน้ำมากกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตรทะลักท่วมบ้านเรือนใกล้เคียง ทำให้มีผู้สูญหายหลายร้อยคน กลายเป็นคนไร้บ้านนับพันคน และมีรายงานผู้เสียชีวิต ที่คาดว่าจะมีจำนวนมาก ขณะที่ทางการลาวระดมความช่วยเหลือ พร้อมเปิดขอรับบริจาคสิ่งของ เช่นเดียวกับรัฐบาลไทยที่พร้อมส่งความช่วยเหลือให้ทันที


รบ.พร้อมช่วยเหลือทุกมิติ

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ จากสันเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อยแตก พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่ เบื้องต้น มีอาสาสมัครเดินทางเข้าไปในสปป.ลาวแล้ว ส่วนรัฐบาลยินดีสนับสนุนหน่วยกู้ภัย แพทย์ พยาบาล ทหาร เจ้าหน้าที่ไฟฟ้า รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์จำเป็น

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาล เช่น กองทัพ ภาครัฐ และภาคเอกชน เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือภัยพิบัติเขื่อนแตกในลาว ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับรัฐบาลลาวอย่างใกล้ชิด เพื่อรับทราบความต้องการความช่วยเหลือไทยพร้อมดำเนินการทุกเรื่องที่ขอมา


พร้อมจัดส่งอาหาร-น้ำดื่มให้ทันที

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือลาวว่า นายกฯมีนโยบายให้ความช่วยเหลือทางการลาวอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ ไทยพร้อมจัดส่งสิ่งของจำเป็นเบื้องต้น เช่น อาหาร น้ำดื่ม เต็นท์ที่พัก เพื่อช่วยเหลือลาวแล้ว

ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรงงกลาโหมเปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมสั่งทุกเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในลาว และเตรียมความพร้อมช่วยเหลือทันที เมื่อได้รับการประสานจากรัฐบาลลาว


นายกฯมอบเงินช่วย 5 ล้าน

ด้านน.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือ สปป. ลาวว่า วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะมอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเบื้องต้น 5 ล้าน บาทให้นายแสง สุขะทิวง เอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย ขณะที่นายดำรง ใคร่ครวญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือและระดมความช่วยเหลือตามความต้องการของลาว และจัดส่งให้รัฐบาลลาวเพิ่มเติม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรีบจัดส่งความช่วยเหลือชุดแรกที่จำเป็นเบื้องต้น เช่น เต๊นท์ และน้ำให้ลาวต่อไป

ขณะเดียวกัน นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูตไทย ประจำ สปป.ลาว จะมอบเงินความช่วยเหลือเบื้องต้นของสถานทูต บริษัทเอกชน และคนไทยในลาวให้ลาว ผ่านรองรัฐมนตรีแรงงานและสวัสดิการสังคมลาวจำนวน 500,000 บาท ขณะที่ไทยยังอยู่ระหว่างระดมความช่วยเหลือตามความต้องการของลาวที่ร้องขอมา


6 พันคนระทม-น้ำยังมิดหลังคา

น.ส.บุษฎีกล่าวต่อว่า กระทรวงยังได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ไทย (สกญ.) ณ สะหวันนะเขต ถึงความคืบหน้าเหตุการณ์ในพื้นที่ว่า สถานการณ์ระดับน้ำยังอยู่ระดับท่วมหลังคาบ้าน ในบางพื้นที่อยู่ที่ระดับอก ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ และยังบอกไม่ได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าใดในการบรรเทาทุกข์จากอุทกภัยครั้งนี้ ส่วนผู้ได้รับความเสียหายเป็นคนลาวที่อาศัยอยู่ใกล้เขื่อนกว่า 6,000 คน จาก 8 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและยากจน ล่าสุดเริ่มค้นพบศพผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบศพ ไม่มีชาวต่างชาติและไม่มีคนไทยที่ได้รับผลกระทบหรือบาดเจ็บ


แขวงอัตตะปือเปิดศูนย์ฯ24ชม.

ส่วนการให้ความช่วยเหลือ น.ส.บุษฎีกล่าวว่า นอกจากข้าวสาร อาหารแห้ง คือ เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เต็นท์ ถุงนอน สำหรับการให้ความช่วยเหลือส่งสิ่งของมายังอัตตะปือนั้น คนไทย โดย สกญ.เป็นกลุ่มแรก โดยมอบความช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นสิ่งของยังชีพกว่า 100,000 บาท และขณะนี้มีกลุ่มคนไทยทยอยมาเรื่อยๆ โดยแขวงอัตตะปือกำหนดให้ศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตั้งอยู่ที่ห้องว่าการแขวง เพียงจุดเดียวในการรับบริจาคสิ่งของ เปิดรับความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง


ทางการลาวไม่ให้สื่อเข้าพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ แจ้งว่า ทางการลาวแจ้งว่า ไม่อนุญาตให้สื่อต่างประเทศเข้าพื้นที่ โดยขอให้ติดตามจากสื่อลาว เนื่องจากการลงไปในพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ควรกระทำ เพราะอันตรายและทางการยังไม่อนุญาต

วันเดียวกัน สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คของสำนักเลขานุการฯว่า จากเหตุเขื่อนเชเปีย-เซน้ำน้อยแตก ก่อให้เกิดอุทกภัยในแขวงอัตตะปือ มีผู้ประสบความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ความทราบแล้วนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชาโปรดให้คณะสงฆ์หนตะวันออกทุกจังหวัด รวบรวมกัปปิยภัณฑ์พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค และมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัดประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้ และโปรดให้คณะสงฆ์ทั่วประเทศร่วมแผ่เมตตาจิต เพื่อให้ชาวลาวผู้ประสบภัย ผ่านพ้นภัยพิบัติดังกล่าวไปได้โดยสวัสดิภาพ อนึ่ง โปรดมีพระบัญชาให้ไวยาวัจกรนำส่งกัปปิยภัณฑ์เท่าราคา 1,000,000 บาท เพื่อสงเคราะห์ผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้


ทัพฟ้าพร้อมลำเลียงความช่วยเหลือ

พล.อ.ต. พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะ โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดอุทกภัยขนาดใหญ่ในแขวงอัตตะปือ และแขวงจำปาสัก ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวลาวเป็นจำนวนมากนั้น เย็นวันนี้ (25 กรกฎาคม 2561) กองทัพอากาศ ได้จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 หรือ C-130 นำสิ่งของพระราชทาน ประกอบด้วย น้ำดื่มพระราชทาน จำนวน 10,000 ขวด ผ้าเช็ดตัวพระราชทาน จำนวน 2,000 ผืน เครื่องกรองน้ำพระราชทาน จำนวน 49 เครื่อง อาหารและยาพระราชทานอีกจำนวนหนึ่ง

พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้ลำเลียงถุงยังชีพในนามรัฐบาลไทย จำนวน 5,000 ชุด ไปในเที่ยวบินดังกล่าวด้วย โดยเบื้องต้นได้วางแผนการบิน จำนวน 4 เที่ยวบิน เส้นทางบิน ดอนเมือง – ท่าอากาศยานนานาชาติปากเซ ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 20 นาที ทั้งนี้ เครื่องบิน C-130 พร้อมวิ่งขึ้นทันทีเมื่อได้รับการอนุมัติการบินผ่านน่านฟ้าเข้า สปป.ลาว และความพร้อมด้านการจราจรทางอากาศของสนามบินปลายทาง โดยเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติปากเซแล้ว ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ จะเป็นผู้มารับของและประสานการส่งต่อความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่อไป


ค้นหา-พบแล้วอย่างน้อย26ศพ

วันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด ของสปป.ลาวลงพื้นที่ประสบภัยเขื่อนแตก พบปะเยี่ยมประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวในแขวงอัตตะปือ สำหรับสถานการณ์ในเมืองสะหนามไซ หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์รายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยของลาวเริ่มปฏิบัติติการบรรเทาทุกข์ ค้นหาผู้สูญหาย ผู้รอดชีวิต และช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ไร้ที่อยู่อาศัยแล้ว เบื้องต้น พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 ศพ และมีประชาชนมากกว่า 3,000 คนต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ มีประชาชนประมาณ 2,851 คน ได้รับการช่วยเหลือแล้ว ส่วนผู้สูญหายคาดว่าจะมีหลายร้อยคน มีหมู่บ้านอย่างน้อย 7 แห่งจมอยู่ใต้กระแสน้ำ และมีประชาชนท้ายเขื่อนหลายพันคน กลายเป็นคนไร้บ้าน ทั้ง นี้ ผู้เชี่ยวชาญที่ลงพื้นที่ระบุว่า ระดับน้ำที่ยังสูง และพื้นที่ประสบภัยอยู่ห่างไกล ทำให้ปฏิบัติการบรรเทาทุกข์เป็นไปอย่างยากลำบาก


บ.เกาหลีใต้พบรอยร้าวก่อนแตก

ขณะที่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท เอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น บริษัทก่อสร้างของเกาหลีใต้ ซึ่งร่วมทุนโครงการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ เซ เปียน-เซ น้ำน้อย เปิดเผยว่า บริษัทฯตรวจพบโครงสร้างตอนบนของเขื่อนได้รับความเสียหาย ก่อนเกิดรอยแตกที่สันเขื่อนในอีก 24 ชั่วโมงต่อมา ยืนยันว่า ได้แจ้งทางการลาวและให้เริ่มขั้นตอนการเริ่มอพยพชาวบ้านที่อยู่ปลายน้ำ รวมทั้งพยายามซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ขณะเดียวกันได้ระบายน้ำออกจากเขื่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายเขื่อนแตก


เกาหลีส่งทีมกู้ภัยบินด่วนช่วยลาว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีมุน แจ อินของเกาหลีใต้ มีคำสั่งด่วนให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือสปป.ลาวเต็มที่ พร้อมส่งทีมกู้ภัยฉุกเฉินจากเกาหลีใต้ เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในลาว ที่มีผู้เสียชีวิต สูญหายจำนวนมาก และไร้ที่อยู่หลายพันคน โดยโฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แถลงด้วยว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ส่งทีมกู้ภัยฉุกเฉินไปช่วยชาวลาวที่ประสบภัยน้ำท่วม เพราะต้องมีส่วนรับผิดชอบจากการมีบริษัทก่อสร้างของเกาหลีใต้ได้ร่วมลงทุนในโครงการสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำ เซเปียน-เซน้ำน้อยด้วย

สปป.ลาวเปิดรับบริจาคของช่วยเหลือเหยื่อเขื่อนแตก ที่สถานกงสุลในขอนแก่น

วันนี้ (25 ก.ค.) เฟซบุ๊กทีมงานของนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ที่ใช้ชื่อว่า "Support Prime Minister Thongloun Sisoulith" ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยถึงสถานการณ์ภายหลังเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แขวงอัตตะปือ สปป.ลาว แตกส่งผลให้มวลน้ำกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียงบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ประชาชนต้องพากันหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนที่สูง และหลังคาบ้าน-วัด โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยได้สั่งการด่วนให้ช่วยเหลือประชาชนลาวที่ประสบภัยน้ำท่วมจากเขื่อนเซเปี่ยน-เซน้ำน้อย เมืองสะหนามไช แขวงอัตตะปือ

ด้านนายไพทูรย์ รักษ์ประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากเขื่อนเซเปียน-เขื่อนเซน้ำน้อยแตก พร้อมทั้งเชิญชวนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ร่วมกันบริจาคเงิน เครื่องนุ่งห่ม อาหาร และสิ่งของจำเป็น เพื่อนำไปมอบให้ผู้ได้รับผลกระทบผ่านทางสถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำแขวงสะหวันนะเขต และสถานกงสุลสปป.ลาว ประจำจ.ขอนแก่น โดยเริ่มรับบริจาคอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ก.ค.นี้