ข่าว
จรวด 'ฟอลคอน 9' ของ 'สเปซเอ็กซ์' ระเบิดขณะทดสอบยิงที่ฟลอริดา

จรวดฟอลคอน 9 ของบริษัท สเปซเอ็กซ์ ระเบิดระหว่างการทดสอบจุดจรวด ที่ฐานในรัฐฟลอริดา แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้...

จรวด 'ฟอลคอน 9' ของบริษัท สเปซเอ็กซ์ ระเบิดระหว่างการทดสอบจุดจรวดตามกำหนดการ ที่ฐานปล่อยจรวดบนแหลมคะแนเวอรัล ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ก.ย. โดยแรงระเบิดทำให้อาคารที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตรสั่นไหว และทำให้เกิดกลุ่มควันดำหนาทึบลอยไปไกล

หลังเกิดเหตุ บริษัทสเปซเอ็กซ์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ แต่ความผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการทดสอบจุดจรวดส่งผลให้พวกเขาสูญเสียจรวดฟอลคอน 9 และดาวเทียมสื่อสารของบริษัท สเปซคอม ของอิสราเอลซึ่งมีกำหนดถูกส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดลูกนี้ในวันเสาร์ที่ 3 ก.ย.

ด้านนายไบรอัน เพอร์เทลล์ โฆษกของฐานทัพอากาศ เคป คะแนเวอรัล เผยว่า การระเบิดอย่างมีนัยสำคัญครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากช่วง 10:00น. ที่ฐานปล่อยจรวด Launch Complex 40 ซึ่งสเปซเอ็กซ์เช่าอยู่ โดยทีมจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของพวกเขาได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว แต่เขาไม่เปิดเผยว่าฐานปล่อยจรวดได้รับความเสียหายหรือไม่

“จุ๊บจิ๊บ-ธนพร” นศ.แพทย์ ม.พะเยา เจ้าของมงกุฎนางสาวไทย ปี 59

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมด้วยบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) จัดงานประกวด “นางสาวไทย 2559” รอบตัดสิน ที่ เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์เฮ้าส์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยสาวงามผู้คว้าตำแหน่ง นางสาวไทยปีนี้ได้แก่หมายเลข 12 จุ๊บจิ๊บ – นางสาวธนพร ศรีวิราช อายุ 21 ปี จากจังหวัดพะเยา นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

บรรยากาศการประกวดเริ่มต้นขึ้นด้วยการแสดงประกอบแสงสีเสียงจาก 24 สาวงามผู้เข้าประกวดรอบสุดท้ายในชุดไทย 3 ยุคทองแห่งกรุงสยาม ได้แก่ กรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์ จากห้องเสื้ออมิตา โดยให้สาวงามยุคสุโขทัยบนกระทงยักษ์ลอยอยู่เหนือแม่น้ำ จากนั้นเป็นการแสดงชุด ฟิวเจอร์ เพอร์เฟค ให้สาวๆแนะนำตัวด้วยชุด มิลเลเนียม เซ็ต จากมิลิน พร้อมประกาศผลผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย พร้อมให้มาอวดโฉมอีกครั้งในชุดราตรียาวพร้อมตอบคำถาท 12 คำถา และประกาศผล 5 คนสุดท้ายตามลำดับ เพื่อตอบคำถามสุดท้ายบนเวที ก่อนจะเป็นพิธีอำลาตำแหน่งของนางสาวไทยรุ่นพี่ อี้ – นางสาววิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทยประจำปี 2557

สำหรับผู้ได้รับรางวัลนางสาวไทยประจำปี 2559 จุ๊บจิ๊บ – นางสาวธนพร ศรีวิราช อายุ 21 ปี จากจังหวัดพะเยา กำลังศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา คว้ามงกุฏนางสาวไทย คนที่ 50 มาครองได้สำเร็จ พร้อมรางวัลรวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ประกอบด้วยมงกุฎเพชรประดับด้วยเพชรแท้จากเบลเยียม 4.88 กะรัต ไพลิน 12.35 กะรัต มูลค่า 1.2 ล้านบาท, เงินสด มูลค่า 1 ล้านบาทและอื่นๆ นอกจากนี้ยังคว้ารางวัลพิเศษอีก 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลมิส สมายด์ และรางวัลมิสป๊อปปูลาร์โหวต

รองอันดับ 1 หมายเลข 16 นางสาวปิ่นทิพย์ อรชร หรือ ขวัญ อายุ 21 ปี จากจังหวัดนครศรีธรรมราช นักศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ รับมงกุฎเพชร มูลค่า 6 แสนบาทพร้อมเงินสด มูลค่า 5 แสนบาท

รองอันดับ 2 หมายเลข 9 สายไหม – นางสาวสุปภาดา ภูรีพงศ์ อายุ 24 ปี จากจังหวัดพิษณุโลก กำลังศึกษาปริญญาเอก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย ลิเวอร์พูล จอห์น มัวร์ อาจารย์มหาวิทยาลัย รับรางวัลมงกุฎเพชร มูลค่า 6 แสนบาท พร้อมเงินสด 3 แสนบาท

นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษ ประกอบด้วย รางวัลมิส อินเทลลิเจนซ์ หมายเลย 6 จูน-นางสาวณัฎฐ์วลัญญ์ พงษ์บุญ, รางวัล มิสบิวตี้ สกิน หมายเลข 24 ฟาฟา – นางสาววริษา ตยางคนนท์ และรางวัลนางงามมิตรภาพ หมายเลข 2 แบม-นางสาวณัฐรียา สามารถ

นางสาวธนพร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังได้รับตำแหน่งว่า รู้สึกดีใจมาก ที่ได้ตำแหน่งนางสาวไทย ส่วนตัวไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับตำแหน่ง เพราะเพื่อนๆ แต่ละคนสวยและมีความสามารถ คิดว่าความมั่นใจและการตอบคำถามบนเวทีทำให้ชนะใจกรรมการได้สำเร็จ

ซึ่งเธอตอบคำถามที่ทำให้ชนะใจกรรมการจากคำถามที่ว่า “สิ่งแรกที่คุณอยากพูดในฐานะนางสาวไทยคืออะไร และภารกิจแรกที่คุณอยากจะทำ ในฐานะนางสาวไทย”

นางสาวไทยคนล่าสุด ตอบคำถามว่า “อันดับแรกจะขอก้มกราบพ่อแม่ที่ทำให้มีทุกวันนี้ ขอบคุณชาวพะเยา ภารกิจแรกคือกลับไปบ้านเกิด” และหลังจากได้รับมงกุฎแล้ว เธอก็ทำดั่งที่พูดไว้บนเวที คือ ก้มกราบเท้าบุพการีทั้งสอง

จุ๊บจิ๊บ บอกอีกว่า หลังจากได้รับตำแหน่งแล้ว เธออยากจะช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสต่อไป อย่างการเก็บตัวประกวดที่ผ่านมา แม้จะชื่นชอบทุกภารกิจที่ทำ แต่มีภารกิจหนึ่งที่ประทับใจที่สุดคือการได้ลงไปช่วยเหลือคนที่จังหวัดปัตตานี

“การเป็นนางงามสำหรับจุ๊บจิ๊บ คือคนที่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ คือคนที่ได้ทำอะไรเพื่อสังคม อย่างพี่บุ๋ม ปนัดดา ที่ได้ทำเพื่อคนอื่นโดยไม่หวังอะไรตอบแทน กับตัวจุ๊บจิ๊บเองเลือกเรียนหมอ ก็เพราะอยากช่วยเหลือคนอื่น การที่เราได้ช่วยคนๆ หนึ่ง อาจจะเป็นทหาร ตำรวจ เขาก็จะไปช่วยเหลือคนอื่นได้อีก ทำให้จุ๊บจิ๊บเลือกเรียนแพทยศาสตร์ สาขาการแพทย์แผนจีน คู่ขนานศิลปศาสตร์ภาษาจีน”

นอกจากนี้ เธอยังชอบทำงานจิตอาสา ที่ผ่านมามีโอกาสได้ทำหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเดินตามรอยพ่อ รับบริจาคเสื้อกันหนาวไปบริจาคนในภาคเหนือซึ่งก้าวขึ้นปีที่ 3 รวมทั้งขายของนำเงินไปช่วยเหลือภัยธรรมชาติที่ฟิลิปปินส์ด้วย

“เวทีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้จุ๊บจิ๊บสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น และก็จะทำหน้าที่นี้ควบคู่ไปกับการเรียนให้ดีที่สุด มีการเรียนแบบอีเลิร์นนิ่งในอินเตอร์เนตบ้าง แต่ไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน”

ทั้งนี้ นางสาวธนพรกล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปแก้บนพระเจ้าทันใจ ที่เจ้าตัวบนไข่ไว้ ที่จ.พะเยา เพราะถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิที่นับถือ


แรงงานไทยเฮ! ญี่ปุ่นเตรียมเปิดตำแหน่งงาน พ่อครัว ฟันรายได้เดือนละแสน

แรงงานไทยเฮ! ญี่ปุ่นเตรียมเปิดตำแหน่งงานให้โกยเงินเยน รองรับเจ้าภาพโอลิมปิก 2020 ระบุ อยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมาย คาดแล้วเสร็จ พ.ย. เผย งานพ่อครัว แม่ครัว ก่อสร้าง โอกาสสดใส รายได้เดือนละเป็นแสน แต่ห่วงติดปัญหาด้านภาษา

วันที่ 2 ก.ย. 59 นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวถึงผลการเดินทางไปเจรจาหาตำแหน่งงานให้คนไทยในญี่ปุ่น ว่า ได้นำข้าราชกร และสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ 20 บริษัท ไปหารือกับ JITCO (Japan International Training Cooperation Organization) หน่วยงานกลางที่รับแรงงานไปทำงานในญี่ปุ่น 80 แห่ง และบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นอีกกว่า 50 แห่ง ถึงการรับแรงงานไทยเข้าไปทำงานในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทางประเทศญี่ปุ่นแจ้งว่า มีความต้องการแรงงานไทยเข้าไปทำงานหลายด้าน แต่ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมายขยายตำแหน่งงาน เพื่อให้คนไทยที่เดินทางสามารถเข้าไปทำอาชีพอื่นได้ นอกเหนือจากไปฝึกงาน ด้านอิเล็กทรอนิกส์ ช่างกล เครื่องกลต่างๆ เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถ ให้กลับมาแล้ว สามารถทำงานในบริษัทของญี่ปุ่นที่มาลงทุนทำธุรกิจในไทยได้ โดยที่ผ่านมา ได้มีการส่งผู้ฝึกงานเทคนิคไปทำงานจนถึงเดือน ก.ค. 59 จำนวน 9,079 คน ในจำนวนนี้ จัดส่งโดย กกจ. 1,587 คน และบริษัทจัดหางาน 7,484 คน ต่อไปจะมีการเพิ่มงานดูแลผู้สูงอายุ ให้แรงงานไทยทำ คาดว่าการแก้ไขกฎหมายจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.

นายอารักษ์ กล่าวว่า งานด้านการก่อสร้าง การโรงแรม ที่พัก และการท่องเที่ยว กำลังเป็นที่ต้องการมาก เพราะญี่ปุ่นต้องเตรียมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันโอลิมปิก ปี ค.ศ. 2020 เมื่อแก้ไขกฎหมายเสร็จแล้ว ทางการญี่ปุ่นจะแจ้งถึงความต้องการแรงงานในแต่ละสาขาอาชีพมายัง กกจ.

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องภาษา เพราะจะไปทำงานต้องรู้ภาษาญี่ปุ่นขั้นพื้นฐาน แต่การเรียนภาษาญี่ปุ่นในไทยมีค่าใช้จ่ายสูง แรงงานไทยที่สนใจจะไปเรียนเพื่อรอทำงาน อาจจะยังไม่มั่นใจว่า เมื่อมีทักษะภาษาญี่ปุ่นแล้ว จะได้เดินทางไปทำงานในญี่ปุ่นหรือไม่ รวมทั้งขณะนี้ ทางญี่ปุ่นยังไม่ได้แจ้งสาขาอาชีพ และจำนวนความต้องการที่ชัดเจน กกจ. จึงได้ประสานข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดหาแรงงานไทยไว้รองรับ

"งานพ่อครัวในญี่ปุ่นน่าสนใจมาก มีรายได้เดือนละเป็นแสน คนไทยเดินทางไปทำงานนี้ด้วยตัวเอง ปีละกว่า 500 คน กกจ. จะช่วยส่งเสริมพ่อครัวแม่ครัวไทยไปทำงานต่างประเทศ โดยจะร่วมมือกับโครงการไทยซีเล็คท์ ของกระทรวงพาณิชย์ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ญี่ปุ่นกำลังเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพกีฬา โอลิมปิกปี 2020 งานก่อสร้าง และพ่อครัว แม่ครัว จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น แรงงานไทยที่ต้องการไปทำงานจึงต้องเตรียมพร้อม และต้องรู้ภาษาพื้นฐาน" นายอารักษ์ กล่าว


ซัมซุง! ประกาศระงับการขาย เรียกคืน กาแลคซี่ โน้ต 7 แล้ว

ซัมซุง รีบแก้ไขก่อนสาย...ประกาศระงับการขาย กาแลคซี่ โน้ต 7 แล้ว พร้อมกับเรียกคืนมือถือรุ่นเรือธงของบริษัท หลังเพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายใน 10 ประเทศทั่วโลกไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่ยอดขายพุ่งไปแล้วถึง 2.5 ล้านเครื่อง

เมื่อ 2 ก.ย. บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ในเกาหลีใต้ได้ประกาศระงับการขายสมาร์ทโฟน กาแลคซี่ โน้ต 7 (Galaxy Note 7) ทั้งหมดแล้ว พร้อมกับเรียกคืนสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงใหม่ล่าสุดของซัมซุง ที่วางจำหน่ายใน 10 ประเทศทั่วโลก หลังจากได้รับรายงานปัญหาจากลูกค้าที่ซื้อ กาแลคซี่ โน้ต 7 ไปแล้ว 35 ราย เกิดปัญหาเครื่องระเบิด และไฟไหม้ระหว่างชาร์จแบตเตอรี่

นายโคห์ ดอง จิน หัวหน้าสายงานธุรกิจของบริษัทซัมซุง ได้เปิดการแถลงข่าวที่กรุงโซล ในวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.ว่า บริษัทซัมซุงมีความเสียใจที่ทางบริษัทต้องเรียกคืนกาแลคซี่ โน้ต 7 ทั้งหมด ที่วางจำหน่ายไปแล้วใน 10 ประเทศ รวมทั้งเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ

ขณะที่ ผู้บริหารคนหนึ่งของซัมซุง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ กล่าวว่า บริษัทซัมซุงได้จำหน่ายกาแลคซี่ โน้ต 7 ไปแล้ว 2.5 ล้านเครื่อง หลังจากเปิดตัวและวางจำหน่ายใน 10 ประเทศทั่วโลก เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ด้านผู้เชี่ยวชาญในแวดวงไอที กล่าวว่าการที่บริษัทซัมซุงรีบดำเนินการระงับการขายกาแลคซี่ โน้ต 7 รวมถึงเรียกคืนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว หลังได้รับทราบปัญหาจากลูกค้าบางคนที่ซื้อมือถือรุ่นล่าสุดนี้ไป ถือเป็นการลดความเสียหายให้เกิดน้อยที่สุดต่อการกลับมาจำหน่ายกาแลคซี่ โน้ต 7 ขณะที่บริษัทซัมซุง ยังมุ่งหวังว่า สมาร์ทโฟน กาแลคซี่ โน้ต 7 จะกลับมามียอดจำหน่ายอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลัง สามารถต่อกรสู้กับคู่แข่งสำคัญ บริษัทแอปเปิล ที่เตรียมจะเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ ในสัปดาห์หน้า.


เมลาเนีย ทรัมป์ ฟ้องเดลีเมล ตีข่าวเคยเป็นสาวไซด์ไลน์

เมลาเนีย ทรัมป์ เลือดขึ้นหน้า ..ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 5พันล้าน จาก นสพ.เดลีเมล ในอังกฤษและบล็อกเกอร์ชาวอเมริกัน รายงานข่าวสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียง กล่าวหา เมลาเนีย ทรัมป์ เคยเป็นสาวเอสคอร์ต หรือสาวไซด์ไลน์มาก่อน และยังกลัวว่าเรื่องอื้อฉาวของเธอจะถูกแฉต่อสาธารณะ

เมื่อ 2 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวฮือฮา เมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยาคนสวยของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ที่อยู่ระหว่างหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังยื่นฟ้อง นสพ.เดลีเมล ในอังกฤษ และกริฟฟิน ทาร์ปลีย์ บล็อกเกอร์ชาวอเมริกัน เรียกเงินค่าเสียหายนับ 150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5,100 ล้านบาท จากกรณีที่ นสพ.เดลีเมล (Daily Mail)เคยกล่าวหาเธอว่า ครั้งหนึ่งเคยเป็นสาวเอสคอร์ต ในธุรกิจให้บริการทางเพศ ขณะที่ กริฟฟิน ทาร์ปลีย์ บล็อกเกอร์ชาวอเมริกัน ยังเคยเขียนข่าวว่า เมลาเนีย ทรัมป์ อดีตนางแบบสาวที่อาจจะได้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง ยังกลัวว่าเรื่องฉาวของเธอในอดีตจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

เว็บไซต์มิรเรอร์ อ้างข่าวจากบีบีซี ว่า นสพ.เดลีเมลในอังกฤษ ได้เคยรายงานข่าวว่า บริษัทโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง ซึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหุ้นส่วนในช่วงทศวรรษ 1990 มีการให้บริการเอสคอร์ตด้วย โดยข่าวดังกล่าวในหนังสือพิมพ์ ซึ่งอ้างอิงมาจากนิตยสารในสโลวีเนีย บ้านเกิดของ เมลาเนีย ทรัมป์ บอกเป็นนัยว่า เมลาเนีย ทรัมป์ ได้พบกับสามีของเธอ มานานกว่าที่หลายคนเชื่อกัน ขณะที่ กริฟฟิน ทาร์ปลีย์ บล็อกเกอร์บนเว็บไซต์ ยังเขียนต่ออีกว่า นางทรัมป์ กลัวว่าเรื่องราวของเธอในอดีตจะถูกนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ

มิรเรอร์ รายงานว่า นสพ.เดลีเมล ได้ถอดข่าวนี้บนเว็บไซต์ของเดลีเมลแล้ว เมื่อค่ำวันพฤหัสฯ ที่ 1 ก.ย. พร้อมกับเขียนข้อความแสดงความเสียใจต่อการรายงานข่าวของเมลาเนีย ทรัมป์ ที่กล่าวหาว่า เธอเคยเป็นสาวเอสคอร์ต หรือสาวที่เคยทำงานในธุรกิจบริการทางเพศ หลังจากเมลาเนีย ทรัมป์ ออกมาเตือน นสพ.เดลีเมล ว่า เธอจะใช้กฎหมายเล่นงาน ฟ้องร้อง นสพ. และสื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ด้านทนายความของเมลาเนีย ทรัมป์ ได้ออกมาระบุว่า ข่าวที่เดลีเมล และบล็อกเกอร์ชาวอเมริกันรายงานนั้น เป็นข่าวเท็จ 100% ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างยิ่ง

เฮอริเคน เฮอร์มีนถล่มฟลอริดา! เจอสตอร์มเซิร์จ ประกาศฉุกเฉิน

ชาวอเมริกันในรัฐฟลอริดาเผชิญหน้า ‘เฮอร์มีน’ เฮอริเคนลูกแรกในรอบ 11 ปี ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก คลื่นลมแรงจัดและเกิดสตอร์มเซิร์จ คลื่นสูงซัดฝั่ง ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 51 เขตแล้ว

เมื่อ 2 ก.ย.59 ประชาชนในรัฐฟลอริดา ในสหรัฐฯ เผชิญกับพายุฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุเฮอริเคน เฮอร์มีน (Hermine) ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง ถล่มรัฐฟลอริดา เมื่อเช้าวันที่ 2 ก.ย. จนนับเป็นเฮอริเคนลูกแรกในรอบ 11 ปีที่พัดถล่มรัฐนี้ของสหรัฐฯ ขณะที่นายริค สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 51 เขต เตรียมพร้อมรับมือกับหายนภัยจากเฮอริเคนเฮอร์มีน ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดลมกระโชกแรงจัด ฝนตกหนักแล้ว ยังทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จ คลื่นสูงซัดชายฝั่งด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาได้สั่งอพยพประชาชนใน 5 เขต ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐไปพำนักในที่ปลอดภัยแล้ว

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯประกาศว่า เฮอริเคนเฮอร์มีน ซึ่งมีความรุนแรงของเฮอริเคน ในระดับ 1 ได้เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลม 130 กม./ชม. ขณะขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา และได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน หลังจากเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดาผ่านมา 2 ชั่วโมง

ด้านเจ้าหน้าที่ทางการเมืองทัลลาแฮซซี ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ควรย้ายไปอยู่บนที่สูง เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่ประชาชนอย่างน้อย 70,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ ตำรวจในเขตเทย์เลอร์ เคาน์ตี้ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 20,000 คน แจ้งว่า ได้เกิดสตอร์มเซิร์จ หรือคลื่นสูงซัดฝั่งจนทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก.