ข่าว
กฎหมายถุงมือยาง

ผ่านมาหลายทศวรรษที่ โทชิอะกิ โทโยชิมา ได้ดำเนินการเตรียมอาหารตามปกติทุกๆเช้าที่ร้านอาหารในดาวน์ทาวน์ของเขาเขาสวมเสื้อญี่ปุ่นแขนสั้นและใส่หมวกสีขาวก่อนที่เขาจะเริ่มการตัดปลาสำหรับลูกค้านับ 500 รายที่จะมารับประทานซูชิที่ร้าน

แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาต้องเพิ่มอีกหนึ่งขั้นตอนในการเตรียมอาหารทุกๆเช้าของเขา ขั้นตอนนั้นก็คือกฎหมายใหม่ที่บังคับให้เขาใส่ถุงมือยางก่อนที่เขาจะสามารถสัมผัสปลาได้ การสวมใส่ถุงมือไม่ได้ลดความชำนาญในการตัดชิ้นปลาทูน่าและปลาดิบของเขาเลยแต่โทชิอะกิ ก็ไม่สามารถซ่อนความผิดหวังของเขาได้ เขากล่าวว่า มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับเขาใน 48 ปีของการเป็นเชฟซูชิเลยทีเดียว “ผมไม่รู้สึกเชื่อมต่อกับอาหารของผม มันเหมือนผมไม่ได้ทำซูชิด้วยมือของผมเอง”

“มันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับฉันที่จะสามารถที่จะจัดการกับส่วนผสมอาหารของฉันด้วยมือเปล่าของฉัน”แนนซี่ ซิลเวอร์ทอน เชฟแห่งร้านอาหาร โมซซ่า กล่าว “การสัมผัสด้วยมือเปล่าช่วยให้ฉันสามารถบอกความแตกต่างระหว่างชีส มันช่วยฉันทำอาหารของฉัน เช่นเดียวกับประติมากรสัมผัสดิน”

กฎหมายห้ามผู้ประกอบอาหารสัมผัสอาหารด้วยมือเปล่าได้ถูกเสนอขึ้นเนื่องจาก 1 ใน 6 คน ในสหรัฐอเมริกาได้ล้มป่วยจากการรับประทานอาหาร พ่อครัว/แม่ครัวต้องสวมถุงมือที่ใช้แล้วทิ้งหรือใช้ช้อน หรือ ภาชนะอื่นๆในการประกอบอาหารเช่น ผัก ผลไม้ ขนมปัง เนื้อ และสิ่งที่จะไม่ได้รับการปรุงให้สุกหรืออุ่นก่อนที่จะนำไปเสิร์ฟ

กฎหมายนี้มีผลบังคับในแคลิฟอร์เนียเมื่อ 1 มกราคม และในมิชิแกน นอร์ทแคโรไลนา เนวาดา และนิวยอร์ก ก็มีกฎหมายที่คล้ายๆกัน แต่เชฟหลายๆคนก็กล่าวว่ากฎหมายไม่ได้ผล เพิ่มค่าใช้จ่าย และไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม


(แปลและเรียบเรียงโดย ธัญญ่า บราวน์)
พระเทพฯรับปริญญาเอก จาก “โพโมนา คอลเลจ”

สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากโพโมนา คอลเลจ วิทยาลัยแคลร์มอนท์ ในฐานะพระองค์ประสบความสำเร็จ เป็นนักวิชาการและทำงานการกุศล

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี แห่งประเทศไทย ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากโพโมนา คอลเลจ วิทยาลัยแคลร์มอนท์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในฐานะที่พระองค์ประสบความสำเร็จในฐานะนักวิชาการและทำงานการกุศลในประเทศไทยและทั่วโลก ท่ามกลางฝูงชนหลายร้อยคนใน บริดเจส ฮอลล์

พิธียิ่งใหญ่สองวันโดยสมเด็จพระเทพฯ และคณะผู้แทนของผู้นำทางการศึกษาจากประเทศไทย ไปยังโพโมนา คอลเลจ ฮาร์วีย์มัดด์ คอลเลจ และแคลร์มอนท์ แมคเคนน่า คอลเลจ ได้หารือกับอธิการบดีวิทยาลัย อาจารย์และนักศึกษาเกี่ยวกับคุณค่าและประโยชน์ของศิลปศาสตร์

ที่โพโมนา คอลเลจ สมเด็จพระเทพฯ ได้พบกับอาจารย์ สำหรับการอภิปรายที่หลากหลาย ได้ทรงจดบันทึกตามวิธีการของพระองค์ ยังเข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการเคมีของโพโมนา โดยมีนักศึกษา ได้ช่วยกันอธิบายการวิจัยระดับปริญญาตรีของพวกเขา

ศาสตราจารย์ด้านศิลปะ เมอร์เซเดส ทักซิโด ถวายการต้อนรับสมเด็จพระเทพฯ ในห้องเรียนที่มีการวาดภาพ “ดรออิ้ง” ของนักศึกษา

ที่โพโมนา โอเดนเบิร์ก ศูนย์ด้านภาษาสมัยใหม่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สมเด็จพระเทพฯ ได้พบกับนักศึกษาไทย ในวิทยาลัยแคลร์มอนท์

เหตุการณ์สำคัญช่วงกลางวันของวันอังคาร ในโพโมนา เซนจูรี โอลด์บริจเจส ฮอลล์ สมเด็จพระเทพฯ ทรงได้รับการเสนอปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เนื่องจากเดวิด ออกซ์โทบี อธิการบดี ได้เล็งเห็นความสัมพันธ์ที่ยาวนานและการเติบโตระหว่างวิทยาลัยและประเทศไทย

ตัวแทนนักศึกษา วิทิษตา วัฒนานิมิตกุล กล่าวว่าพ่อแม่ของเธอเรียนราชาศัพท์ เมื่อพวกเขาทราบว่าลูกสาว จะได้มีส่วนร่วมในการเข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพฯ ได้บอกข่าวนี้ไปยังครอบครัวที่เมืองไทย แต่ไม่มีใครเชื่อ

วิทิษตา กล่าวว่า ช่างเป็นภาพที่งดงามเหนือความจริง ซึ่งครอบครัวเธอมาจากรัฐอริโซนา ได้เข้าร่วมในพิธีการครั้งนี้

“ถือเป็นโอกาสที่สูงสุด สำหรับครอบครัวของหนู และตัวหนู”

โพโมนา คอลเลจ กล่าวถึงสมเด็จพระเทพฯ ว่าเป็นสมาชิกของพระราชวงศ์แห่งประเทศไทย เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ปัจจุบันพระองค์ เป็นผู้อำนวยการภาควิชาประวัติศาสตร์ ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

ในฐานะที่เป็นนักวิชาการ พระองค์ได้ทรงงานในการป้องกันมรดกทางวัฒนธรรม การพัฒนาดนตรีไทยแบบดั้งเดิม และการสร้างคลังข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของภาษาไทยที่ทันสมัยในปี 2007

พระองค์เป็นที่ยอมรับในสถาบันภาษาไทยสิรินธร ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการส่งเสริมการเรียนการสอนและประเมินการใช้ภาษาไทย

พระองค์สามารถพูดภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และเยอรมัน และเป็นนักวิชาการของภาษาบาลีสันสกฤตและภาษาเขมร

สมเด็จพระเทพฯ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจในการพัฒนาและงานการกุศลทั่วโลก กับโครงการที่มุ่งเน้นการศึกษาและโภชนาการของประชากรชายขอบและคนที่ต้องการ

ทรงเป็นรองประธานบริหารของสภากาชาดไทย และทำหน้าที่เป็นประธานของมูลนิธิการตัดสินรางวัลเป็นประจำทุกปี ให้กับสมาชิกของประชาคมระหว่างประเทศ สำหรับผลงานที่โดดเด่นกับการแพทย์และการสาธารณสุข

พระองค์ยังทำงานองค์กรการกุศลหลายแห่ง และมูลนิธิส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและการศึกษาที่สูงกว่า การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนทหารผ่านศึกพิการ

มูลนิธิเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร ก่อตั้งขึ้นในปี 1979 สนับสนุนนักเรียนที่ด้อยโอกาสในโรงเรียน วิทยาลัยอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัย

พระองค์ยังทรงงานในนามของ องค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงองค์การอนามัยโลกคณะกรรมการสุขภาพ ที่ปรึกษาของบลูมเบิร์ก โรงเรียนสาธารณสุขที่ จอห์นส์ ฮอปกินส์ ยูนิเวอร์ซิตี้ สภาผู้ลี้ภัยการศึกษายูเนสโก และโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ

ในบรรดารางวัลระดับนานาชาติที่พระองค์ได้รับ เป็นรางวัลรามอน แม็กไซไซ ด้านบริการสาธารณะ และรางวัลอินธิรา คานธี เพื่อสันติภาพ การลดอาวุธและการพัฒนา

สมเด็จพระเทพฯ ได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเหรียญทองในสาขาวิชาประวัติศาสตร์ ปริญญาโท ด้านการการศึกษาและการถอดความหมายของตัวหนังสือโบราณในศิลาจารึกของประเทศทางตะวันออกในทวีปเอเชีย จากมหาวิทยาลัยศิลปากร, ภาษาบาลีสันสกฤตจาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาเอกในด้านพัฒนาการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

โพโมนา คอลเลจ ก่อตั้งขึ้นในปี 1887 เป็นวิทยาลัยชั้นนำด้านศิลปศาสตร์ของประเทศ

เป็นที่รู้จักในความเป็นเลิศทางวิชาการ และมีความใกล้ชิดระหว่างคณาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัย มีความมุ่งมั่นอันยาวนานในการศึกษาของต่างประเทศ ที่มีหลักสูตรการศึกษาอย่างเข็มงวดในสาขาต่างๆ เช่นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เอเชียศึกษา ละตินอเมริกันศึกษา และการศึกษามิดเดิลอีสท์ โอลเดนเบิร์ก เซนเตอร์ ศูนย์ภาษาสมัยใหม่ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ฯลฯ


สำนักงบประมาณฯ คาด "โอบาม่าแคร์" ทำพิษสูญ 2.3 ล้านงานใน 10 ปี

สำนักงบประมาณรัฐสภา เผยรายงาน "โอบาม่าแคร์" จะนำไปสู่การสูญเสียเกือบ 2.3 ล้านงานในสหรัฐฯ ใน 10 ปี ข้างหน้า

ผลกระทบระยะยาวของ "โอบาม่าแคร์" กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาเคร่งขรึมอีกครั้งในวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อสำนักงานประมาณรัฐสภาออกประมาณการแก้ไขว่าเกือบ 2.3 ล้านคนในอเมริกันจะหายไปจากแรงงานของประเทศในอีก 10 ปีข้างหน้า

จากผลข้างต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านงบประมาณกล่าวว่า การยกเครื่องการดูแลสุขภาพของประธานาธิบดีโอบาม่า จะนำไปสู่การลดลงของงานกว่า 2.3 ล้านงาน ผู้คนจะละทิ้งงานเพราะพวกเขาสามารถได้รับประกันสุขภาพจากภายนอกสถานที่ทำงาน

หลังจากรายงานฉบับนี้ออกมา นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่ารายงานแสดงให้เห็นว่า "กลุ่มชนชั้นกลางกำลังบีบภาคเศรษฐกิจนี้"

รายงานดึงปฏิกิริยาจากฝ่ายนิติบัญญัติ GOP ได้ทันที รวมถึงนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่บอกว่ารายงานแจ้งว่า โอบาม่าแคร์ คือ สิ่งเดียวที่ทำให้กลุ่มชนชั้นกลางสหรัฐฯ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมากยิ่งขึ้นในภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้าย

เช่นเดียวกับตัวแทนท่านอื่น พอล ไรอัน ส.ส. จากวิสคอนซิน ให้น้ำหนักว่า

"โอบาม่าแคร์เป็นเพียงการกระทำสิ่งที่เลวร้าย" ไรอันกล่าวในคำแถลงการณ์ "การลงทุนในกฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงแต่ผลักดันให้รัฐบาลมีค่าใช้จ่ายสูงชิ้นใหม่ แต่จะกระทบกับการคุ้มครองและละทิ้งดุลการค้าของชาวอเมริกันหลายล้านคน"

สำนักงบประมาณกล่าวว่า เช่นเดียวกับงานที่จะหายไปเพราะว่านายจ้างอาจจะเลือกจ้างคนงานประจำน้อยลงหรือลดชั่วโมงของพนักงานของตน

ในปี 2010 CEO คาดการณ์ไว้ว่า โอบาม่าแคร์ จะนำไปสู่ผลกระทบกับจำนวนงานเล็กน้อยประมาณ 650,000 งาน แต่วันอังคารที่ผ่านมาประมาณการสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 2.3 ล้านงาน

รายงานรัฐระบุด้วยว่านอกจากนี้โอบาม่าแคร์ยังจะนำไปสู่การลดลงของยอดรวมสุทธิของจำนวนชั่วโมงการทำงาน โดยมากกว่าร้อยละ 2 ในช่วงตั้งแต่ปี 2017-2024 ในส่วนสหรัฐฯ อัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ จะเห็นการลดครั้งใหญ่ที่สุดในจำนวนชั่วโมงทำงาน


กปปส.ต่างแดน กดดัน"ปู" ผ่าน Change.org

กลุ่ม กปปส. ยูเอสเอ และเครือข่ายคนไทยในต่างแดน (NTO) ร่วมกันจัดทำ Pettition ผ่าน Change.org เพื่อกดดันรัฐบาลยิ่งลักษณ์บนเวทีโลก โดยเริ่มจัดทำตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่าหมื่นรายจากทั่วโลก ทั้งนี้ Petition ดังกล่าวจะถูกส่งไปยัง US President Barack Obama, The UN Secretary General บัน คีมูน และ Congressman Michael Turner ซึ่งเป็นบุคคลที่เขียนจดหมายถึง โอบาม่า โดยอ้างอิงหนังสือพิมพ์ New York Times กล่าวหาว่าการประท้วงเป็นการต่อต้านประชาธิปไตย Petition นี้ได้เรียกร้องไปยังบุคคลทั้ง 3 มีใจความดังต่อไปนี้

1. ขอให้ตระหนักว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาลเถื่อนและเป็นรัฐบาลที่ล้มเหลว

2. ขอให้เรียกร้องให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคารพสิทธิมนุษยชนและยุติการกระทำรุนแรงต่อผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล

3. ขอให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ สั่งการให้ตำรวจปกป้องประชาชน โดยไม่กระทำการ 2 มาตราฐาน จับหาผู้ฆ่า และผู้กระทำการรุนแรงต่อผู้ชุมนุมมาลงโทษในทันที

4. ขอให้เรียกร้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลาออก เพื่อป้องกันความรุนแรงและความสูญเสียชีวิตที่อาจจะเกิดมากขึ้นและให้เปิดทางให้ประชาชนร่วมกันปฏิรูปประเทศ

5. ขอให้ท่านเคารพสิทธิของประชาชนชาวไทย ในการจัดการปฏิรูปประเทศของเราเอง ก่อนจะจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ยอมรับว่าการเลือกตั้งที่เอานักการเมืองโกงกิน กลับมาปกครองประเทศอีกนั้นย่อมไม่ใช่วิธีที่ฉลาด และจะนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ล้มเหลวในที่สุด

ทั้งนี้ประชาชนไทยและต่างชาติ ที่สนใจจะร่วมลงนามใน Petition นี้ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.change.org/petitions/reformthailand โดยชื่อของท่านจะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น นอกจากการเรียกร้องตามคำร้องนี้เท่านั้น ทุกครั้งที่มีคนลงชื่อ ทาง Change.org จะส่ง Petition ทางอีเมล์ไปยัง Obama, บัน คีมูน และ Congressman Michael Turner โดยจะปรากฎเพียง ชื่อบุคคล เมือง และประเทศเท่านั้น โดยไม่มีรายละเอียด อีเมล์แอดเดรส หรือบ้านเลขที่

อนึ่งผู้ที่สนใจสามารถชมวิดีโอลิ้งค์ 1:20 นาที อธิบายการเชิญชวนทำคำร้องได้ที่ www.youtube.com/thaioverseas


CVS เลิกขายบุหรี่ 1 ตุลาคมนี้

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ซีวีเอส แคร์มาร์ค คอร์ป บริษัทผู้ค้าปลีกและร้านขายยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเลิกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบในร้านค้าของบริษัททั้งหมด 7,600 สาขาทั่วสหรัฐฯ ตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

เพื่อมุ่งเน้นการให้บริการเพื่อสุขภาพมากขึ้น นับเป็นเชนร้านขายยายักษ์ใหญ่ระดับประเทศเจ้าแรกในสหรัฐฯ ที่เลิกขายยาสูบรวมถึงบุหรี่

การตัดสินใจของบริษัทร้านขายยายักษ์ใหญ่ลำดับ 2 ในสหรัฐฯ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขว่าเป็นก้าวที่สามารถกดดันผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ ให้เจริญรอยตาม เนื่องจากร้านขายยามีบทบาทใหญ่มากในระบบการดูแลสุขภาพของสหรัฐฯ โดยมีทั้งคลินิคภายในและบริการ เช่น การวางแผนจัดการสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจึงเห็นว่า ร้านขายยาไม่ควรขายผลิตภัณฑ์ทำลายสุขภาพอย่างยาสูบอีกต่อไป

ด้านประธานาธิบดีบารัคโอบาม่า ผู้เคยนิยมสูบบุหรี่มาก่อนก็ออกมาชื่นชมซีวีเอสเช่นกันว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยขยายความพยายามในการลดอัตราการเสียชีวิตอันมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับยาสูบ โรคมะเร็งและโรคหัวใจ และช่วยลดปัญหาด้านสุขภาพ

อนึ่งผู้เชี่ยวชาญของซีวีเอสระบุว่า การเลิกขายบุหรี่จะกระทบกับกำไรในเบื้องต้น รวมถึงรายได้ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากยอดขายประจำปี แต่ซีวีเอสหวังจะแทนที่ยอดขายบางส่วนด้วยการเสนอให้ลูกค้าเข้าโปรแกรมเลิกบุหรี่

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเพียง 18% เท่านั้นที่สูบบุหรี่ลดลงจาก 43% เมื่อปี 1965 โดยหลายเมืองรวมถึงบอสตันและซานฟรานซิสโก ออกคำสั่งห้ามขายยาสูบในร้านขายยาแล้ว อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการติดบุหรี่ยังทำให้มีชาวอเมริกันเสียชีวิตถึงปีละ 480,000 ราย เป็นอันดับต้นๆ ของสถิติสาเหตุการเสียชีวิตจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ในสหรัฐฯ