ข่าว
เสร็จแล้ว! กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของจีนพร้อมใช้ค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก

เว็บไซต์เดอะการ์เดียนรายงานเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระบุว่าจีนได้ติดตั้งชิ้นส่วนชิ้นสุดท้ายลงบนกล้องโทรทรรศน์ที่ใช้สัญญาณวิทยุซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมใช้สำรวจอวกาศอันไกลโพ้นและค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก

กล้องโทรทรรศน์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 500 เมตร หรือฟาสต์ มีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล 30 สนาม ติดตั้งลงบนหุบเข้าที่ถูกตัดออกในมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ขณะที่นักวิทยาศาสตร์จากสำนักงานสำรวจอวกาศแห่งชาติจีนระบุว่ากล้องโทรทรรศน์จะสามารถใช้ในการสำรวจวัตถุในอวกาศ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับต้นกำเนิดของจักรวาล และการค้นหาชีวิตนอกโลกด้วย

ทั้งนี้กล้องโทรทรรศน์ที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 5 ปีจะต้องเข้าสู่การทดสอบและเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้

ฮือฮา ทั่วแผ่นดินเขมร“นวรัตน์”น้อง“เฉลิม”แต่งดารากัมพูชา

ฮือฮา ทั่วแผ่นดินกัมพูชา"นวรัตน์ อยู่บำรุง” อดีตสก.หนองแขม น้องชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่งงานกับ“ทอน ดารา”ดาราและพิธีกรชื่อดังเขมร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ในแวดวงสังคมและแวดวงบันเทิงกัมพูชา เป็นข่าว“ทอน ดารา”ดารานักแสดงและพิธีกรรายการทีวีที่โด่งดัง เข้าพิธีวิวาห์กับนักการเมืองไทย ชื่อ“นวรัตน์ อยู่บำรุง”อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตหนองแขม ซึ่งเป็นน้องชายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นักการเมืองชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ในงานวิวาห์ของ “นวรัตน์ อยู่บำรุง” มีเพียง “วัน อยู่บำรุง” ลูกชายคนที่ 2 ของ ร.ต.อ.เฉลิม คนเดียวเท่านั้นที่เป็นตัวแทนญาติมิตรจากบางบอน บินไปร่วมงานแต่งดังกล่าวที่ประเทศกัมพูชา สำหรับแขกเหรื่อทางฝ่ายเจ้าสาวนั้น มากมายไปด้วย “เซเลบเขมร” และเพื่อนดาราที่มีชื่อเสียงในแวดวงบันเทิงของกัมพูชา โดยเฉพาะแขกคนสำคัญของงานนี้ คือ “ฮุนมาเน็ต” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา N อนึ่ง “นวรัตน์ อยู่บำรุง” ผ่านการแต่งงานแล้ว แต่ไม่มีข่าวว่าเขาหย่าร้างกับภรรยาคนไทยหรือไม่


องอาจเตือนผู้นำประเทศ เลี่ยงปะทะคารมตอบโต้คนในสังคม

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ยังมีการออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ ท้าทายกันจากทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายเห็นต่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินให้เปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น ทางที่ดีที่สุดวันนี้คือ หากมีใครทำผิดกฎหมาย ผู้มีอำนาจรักษากฎหมายต้องทำตามครรลองมากกว่าตอบโต้ ท้าทายไปมา โดยเฉพาะผู้นำประเทศ ถ้าหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าซึ่งกันและกันกับกลุ่มคนในสังคมได้ น่าจะดี เป็นโยชน์ต่อประเทศมากกว่า


ครึ่งปีแรกลงทุนแค่ 2.24แสนล. ยอดขอใบอนุญาตเปิดโรงงาน-ขยายกิจการวูบ

กรมโรงงานเผยครึ่งปีแรกยอดขอใบอนุญาต รง.4และขยายกิจการรวมมูลค่ากว่า 2.24 แสนล้านบาทลดลง 7.7 % แต่ยังมั่นใจทั้งปีโตไม่น้อยกว่า 5% จากแรงหนุนมาตรการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมของรัฐ รวมทั้งการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ ช่วยเพิ่มความมั่นใจนักลงทุน

นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า การขอใบอนุญาต รง.4 และขยายกิจการช่วง 6 เดือนแรกปี 2559 (มกราคม-มิถุนายน) มีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 2,407 โรงงาน ลดลงช่วงเดียวกันในปี 2558 ที่มีอยู่ที่ 2,468 โรงงาน หรือลดลง 2.47% ขณะที่มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 2.24 แสนล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่อยู่ที่ 2.42 แสนล้านบาท หรือ ลดลงประมาณ 7.7%

โดยแบ่งเป็นการเปิดกิจการใหม่จำนวน 2,052 โรงงานลดลง 0.67% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ 2,066 โรงงาน ขณะที่มูลค่าการลงทุน 1.39 แสนล้านบาท ลดลง 22.69% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 1.79 แสนล้านบาท ส่วนการขยายกิจการมีจำนวน 355 โรงงานลดลง 11.69% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ 402 โรงงาน ขณะที่มูลค่าการลงทุน 8.49 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 6.28 หมื่นล้านบาท

สำหรับอุตสาหกรรมที่มีจำนวนเปิดกิจการใหม่และขยายกิจการที่มีมูลค่ามากที่สุดในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2559 ได้แก่ การผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ มูลค่าการลงทุน 4.4 หมื่นล้านบาท อุตสาหกรรมอาหาร 2.2 หมื่นล้านบาท ผลิตภัณฑ์จากพืช 1.1 หมื่นล้านบาท ผลิตภัณฑ์โลหะ 1.04 หมื่นล้านบาท ผลิตภัณฑ์อโลหะ 9.4 พันล้านบาท ตามลำดับ

“ยอดขอ รง.4 และขยายกิจการในช่วง 6 เดือนแรกลดลงไม่มากนักเมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะมาเร่งเมื่อเข้าสู่ครึ่งปีหลัง ซึ่งก็จะมีการขอ รง.4ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี และเชื่อว่าในปีนี้ยอดการขอใบ รง.4 อาจจะสูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการออกมาช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐมีนโยบายและมาตรการกระตุ้นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเช่นนโยบายการพัฒนาคลัสเตอร์ภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต, ไทยแลนด์ 4.0,อินดัสเทรียล 4.0 เป็นต้น รวมทั้งเม็ดเงินลงทุนต่างๆ ที่รัฐบาลได้อัดฉีดไปในโครงการต่างๆ เริ่มเห็นผลมากขึ้นทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจและเริ่มมีการลงทุนและขยายกิจการมากขึ้น ทำให้คาดว่าในปีนี้การขอ รง.4 และขยายกิจการน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาหรือโตขึ้นประมาณ 5%” นายพสุ กล่าว

สำหรับการแจ้งประกอบและเริ่มส่วนขยายโรงงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี พบว่า มีจำนวน 2,020 โรงงาน ลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามี 2,500 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 2.30 แสนล้านบาท ลดลง 52% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 4.89 แสนล้านบาท มีการจ้างงาน 9,820 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา14.4% ขณะที่ในเดือนมิถุนายนมีจำนวน 336 โรงงาน ลดลง 24.49% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 454 โรงงาน

โดยอุตสาหกรรมที่มีการแจ้งประกอบและเริ่มส่วนขยายโรงงานที่มีมูลค่ามากที่สุดในช่วง 6 เดือนแรก ได้แก่ การผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ มูลค่าการลงทุน 2.74 หมื่นล้านบาท อุตสาหกรรมอาหาร 1.88 หมื่นล้านบาท ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ 1.33 หมื่นล้านบาท ผลิตภัณฑ์จากพืช 1.1 หมื่นล้านบาทผลิตภัณฑ์อโลหะ 1.21 หมื่นล้านบาท เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี 1.2 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนจังหวัดที่มีมูลค่าการลงทุนมากสุดที่เข้ามาแจ้งประกอบและเริ่มขยายโรงงงานมากที่สุด ได้แก่ ชลบุรี 3.14 หมื่นล้านบาท ปราจีนบุรี 2.55 หมื่นล้านบาท ปทุมธานี 2.48 หมื่นล้านบาท สระบุรี 1.48 หมื่นล้านบาท สมุทรปราการ 1.13 หมื่นล้านบาทตามลำดับ

“การแจ้งประกอบและเริ่มส่วนขยายโรงงานนั้น ขณะนี้มีการเปิดกิจการจริงแล้วประมาณ 80-90%ของยอดขอ รง.4 ทั้งหมด โดยจะเห็นว่าในเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) เริ่มมีขยายตัวมากขึ้นหลังรัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนในเรื่องนโยบาย ทั้งนี้ในแต่ละปีจะมีโรงงานที่เปิดและขยายกิจการจริงแจ้งเข้ามาประมาณ 5 พันโรงงาน มูลค่าการลงทุนประมาณ 5 หมื่นล้านบาท” นายพสุกล่าว

อนึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ เปิดเผยว่า แนวโน้มปี 2559 การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 45,0000 ล้านบาทจากที่ครึ่งปีแรกประเมินว่าจะมีการยื่นคำขอ 300,000 ล้านบาท ส่วนเม็ดเงินลงทุนจริงปีนี้จากโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วก่อนหน้าคาดว่าจะมีวงเงิน 600,000-700,000 ล้านบาท จากไตรมาสแรกปี 2559 มียอดลงทุนจริงแล้ว 100,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2558 อุตสาหกรรมที่นักลงทุนสนใจจะเข้ามาลงทุนในไทย จะอยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และภาคบริการ ได้แก่ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีสูง อาหารเพื่อสุขภาพ ชิ้นส่วนโทรคมนาคมอย่างออฟติกไฟเบอร์ และเครื่องมือแพทย์ เป็นต้น


ภรรยาผู้ว่าการรัฐเมน รับจ๊อบเป็น’สาวเสิร์ฟ’ หารายได้เสริมช่วยครอบครัว

เป็นถึง “ภรรยาผู้ว่าการรัฐเมน” แต่ แอน เลอเพจ ไม่อายเลยที่จะต้องมาเดินเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าที่เข้ามานั่งรับประทานอาหารที่ร้านแมคซีกัล”ส (McSeagull”s) ใน เมืองบูธเบย์ ฮาร์เบอร์ รัฐเมน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ บ้านเธอและ “พอล เลอเพจ” สามีซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเมนคนปัจจุบัน

จากข่าวเล่าว่า แอนเพิ่งเริ่มงานที่ร้านอาหารแมคซีกัล”ส เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากแม่ของเธอซึ่งป่วยด้วยโรคหนังแข็ง (scleroderma) มานานเพิ่งเสียชีวิตไป ทำให้เธอ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีหน้าที่คอยดูแลแม่เริ่มมีเวลาว่าง เธอจึงอยากออกมาหางานทำเพื่อช่วยผ่อนแรงสามีอีกแรงหนึ่ง

จากที่เริ่มทำงานแบบเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร แต่แล้วเรื่องก็มาแตกเมื่อสามีเธอได้พูดที่ศาลาว่าการเรื่องที่เธอไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟให้ผู้คนได้รู้ว่า ภรรยาของเขาได้ออกมาทำงานเพื่อช่วยครอบครัวหาเงินอีกแรงหนึ่ง นอกเหนือจากเงินเดือนในตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเมนของเขาที่มีรายได้ 70,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 2,485,000 บาท) ซึ่งเป็นเงินเดือนผู้ว่าการรัฐที่น้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา เมื่อเทียบกับผู้ว่าการรัฐทั้ง 50 รัฐทั่วประเทศ

ทั้งนี้ จากข้อมูลเงินเดือนผู้ว่าการรัฐทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2558 ระบุว่า ผู้ว่าการรัฐส่วนใหญ่มีเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 135,000 ดอลลาร์ (ราว 4,792,500 บาท) โดยมีผู้ว่าการรัฐบางรัฐอาจมีเงินเดือนสูงกว่านี้ แต่ไม่มีผู้ว่าการรัฐคนใดที่มีเงินเดือนต่ำกว่าผู้ว่าการรัฐเมนอีกแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ พอล เลอเพจ เคยพยายามเรียกร้องขอเพิ่มเงินเดือนผู้ว่าการรัฐเมนให้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 150,000 ดอลลาร์ (ราว 5,325,000 บาท) แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

ทุกวันนี้ผู้ว่าการรัฐเมน และภรรยาอาศัยอยู่ในบ้านพักผู้ว่าฯกับเจ้าวีโต้ สุนัขพันธุ์แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย และทั้งสองได้ซื้อบ้านราคา 215,000 ดอลลาร์ (ราว 7,632,500 บาท) ไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะที่แอนก็ซื้อรถโตโยต้าซึ่งยังต้องผ่อนอยู่

แอนเล่าว่า เธอสนใจอยากทำงานเป็นสาวเสิร์ฟมานาน อีกทั้งลอว์เรน ลูกสาวเธอก็เคยทำงานพาร์ตไทม์เป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านแมคซีกัล”ส ได้ค่าแรงชั่วโมงละ 28 ดอลลาร์ (ราว 994 บาท) ดังนั้น พอมีโอกาส เธอจึงได้ทำตามฝัน โดยทำงานสัปดาห์ละ 3 วัน แต่เธอกำลังขอเพิ่มวันทำงานให้มากขึ้นกว่านี้

“เพราะด้วยสถานภาพของฉัน และคนที่ฉันแต่งงานด้วย ฉันจึงตั้งใจทำงานอย่างมาก เพื่อต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ฉันสามารถทำงานนี้ได้”

แอนเล่าว่า เธอไม่เคยบอกให้ใครรู้ว่าเธอเป็นใคร หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน ยกเว้นแต่ว่าจะมีใครถาม แต่ถึงกระนั้น นีน่า สตอดดาร์ด ก็ว่า “แต่ฉันรู้ และนั่นก็คือเหตุผลว่า ทำไมฉันจึงจ้องมองเธอ เพราะฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอต้องมาทำงานเพื่อหาเงินจริงๆ หรือ?”

ขณะที่ ลอว์รี่ กรีน เพื่อนของนีน่า บอกว่า เธอรู้สึกชื่นชมแอน “ฉันเกลียดพวกนักการเมืองที่ร่ำรวย มีเงินทอง แต่พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่า พวกชาวบ้านส่วนใหญ่เขาทำอะไรกัน เขาเป็นยังไงกัน”

สตรีทั้งสองยังบอกด้วยว่า แอนน่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเมน เพราะ “เธอคือคนเหมาะที่สุดที่จะเป็นตัวแทนของพวกเรา คนที่ยืนด้วยสองขาของตัวเอง และเท้าติดดิน”

ยูเออีเตือนพลเรือนอย่าใส่ชุดประจำชาติในต่างแดน

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ประกาศเตือนพลเรือนของตนให้ระมัดระวังการแต่งกายด้วยชุดประจำชาติขณะเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ นอกภูมิภาค ทั้งนี้คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากชายชาวยูเออีรายหนึ่งถูกควบคุมตัวในสหรัฐอเมริกาเพราะแต่งกายในชุดประจำชาติในโรงแรมที่รัฐโอไฮโอ ลูกจ้างของโรงแรมเกิดความหวาดกลัวว่านักธุรกิจชายชาวยูเออีรายนี้อาจประกาศความจงรักภักดีต่อกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส หลังจากเห็นชายผู้นี้แต่งกายด้วยชุดประจำชาติของชาวอาหรับอยู่ภายในโรงแรมจึงแจ้งตำรวจให้มาจับกุมแถลงการณ์ของกระทรวงกิจการภายในของยูเออีได้ร้องขอให้คนในชาติใช้ความระมัดระวังในการแต่งกายเมื่ออยู่ในต่างแดน โดยชาวยูเออีควรจะหลีกเลี่ยงการแต่งชุดประจำชาติเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ดีแถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีการอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่รัฐโอไฮโอแต่อย่างใด ภาพจากกล้องบอดี้แคมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าตำรวจพร้อมอาวุธครบมือได้บุกประชิดตัวนายอาเหม็ด อัล-เมนฮาลี นักธุรกิจยูเออีรายนี้ที่ด้านนอกโรงแรม และบังคับให้นอนลงกับพื้นก่อนจะทำการค้นตัว โดยนายกเทศมนตรีและตำรวจเมืองเอวอนได้ขอโทษนายเมนฮาลีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระหว่างที่เขาพักรักษาตัวในรัฐโอไฮโอหลังเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน