ข่าว
รัสเซียยืนยันยูเครนโจมตีท่าเรือในไครเมีย

มอสโก/เคียฟ (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์)- รัสเซียยอมรับ ยูเครนโจมตีท่าเรือฟีโอโดเซียในคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกมาไว้เป็นดินแดนของตน ทำให้เรือยกพลขึ้นบกได้รับความเสียหายและมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ ขณะเดียวกัน รัสเซียยังอ้างว่า สามารถควบคุมเมืองมารินกา เมืองหน้าด่านทางพรมแดนตะวันออกของยูเครนได้

สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ยูเครนใช้ขีปนาวุธยิงจากอากาศในการโจมตีเมืองท่าฟีโอโดเซีย และเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ที่ชื่อ โนโวเชอร์คาสก์ได้รับความเสียหายจากการจู่โจมครั้งนี้ สำหรับเรือโนโวเชอร์คาสก์ ต่อในโปแลนด์และเข้าประจำการในกองเรือของรัสเซียในช่วงปลายทศวรรษหลังปี 1980 เรือถูกออกแบบมาเพื่อขนส่งยานสะเทินน้ำสะเทินบกและยกพลขึ้นบกสามารถบรรทุกยานหุ้มเกราะได้หลายประเภทรวมถึงรถถัง

ขณะที่คลิปภาพที่เผยแพร่ทางสื่อรัสเซียหลายสำนักแสดงให้เห็นภาพบริเวณท่าเรือที่มีการระเบิดรุนแรงและไฟลุกไหม้ เซอร์เก อาสก์โยนอฟ ผู้ว่าการไครเมียที่รัสเซียเป็นผู้แต่งตั้งกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และบาดเจ็บ 2 ราย นอกจากนั้น มีประชาชนกว่าสิบคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

ก่อนหน้านั้น ไมโคลา โอเลชชุก ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครนกล่าวผ่านทางแพลตฟอร์มเทเลแกรม แอปพลิเคชั่นส่งข้อความว่า กองเรือของรัสเซียกำลังมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ เนื่องจากนักบินของกองทัพอากาศยูเครนและทุกคนที่เกี่ยวข้องในการทำงานครั้งนี้ ต่อมา กองทัพอากาศของยูเครนออกแถลงการณ์อีกฉบับระบุโดยไม่มีหลักฐานว่า นักบินยูเครนโจมตีเมืองท่าฟิโอโดเซียเมื่อเวลา 02.30 น. ของวันอังคาร ด้วยการใช้ขีปนาวุธร่อน ทำลายเรือโนโวเชอร์คาสก์ ซึ่งเป็นเรือในกองเรือทะเลดำของรัสเซีย

ขณะเดียวกัน เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซีย เข้ารายงานความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบในยูเครน ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กว่า กองกำลังของรัสเซียรุกคืบเข้าควบคุมเมืองมารินกา ทางตะวันออกของยูเครน อยู่ห่างเมืองโดเนตส์กไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 5 กิโลเมตร ได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว โดยรัสเซียจัดทำประชามติในเมืองโดเนตส์กพร้อมกับเมืองลูฮันส์กในภูมิภาคเดียวกัน และอีก 2 เมือง ทางภาคใต้ คือ เคอร์ซันและ ซาโปริซเซีย ไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา การเข้าควบคุมเมืองมารินกา เป็นหนึ่งในชัยชนะครั้งสำคัญที่สุดของฝ่ายรัสเซียตั้งแต่เข้าควบคุมเมืองบัคห์มุตได้เมื่อเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า การควบคุมเมืองมารินกาซึ่งเคยมีประชากรอาศัยอยู่ 10,000 คน จะทำให้กองกำลังของรัสเซียเคลื่อนพลเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการได้มากขึ้น นอกเหนือไปจากเมืองโดเนตส์ก

การที่รัสเซียโจมตีเข้าควบคุมเมืองบัคห์มุตห่อนหน้านี้ ทำให้ฝ่ายยูเครนต้องเปิดปฏิบัติการตอบโต้รุกกลับเมื่อเดือนมิถุนายน เพื่อพยายามแย่งชิงดินแดนทางใต้และตะวันออกคืนมาจากรัสเซีย แต่ปฏิบัติการโจมตีรุกกลับของยูเครนคืบหน้าเพียงเล็กน้อยเพราะฝ่ายรัสเซียตั้งรับอย่างมั่นคง พร้อมกับโหมการโจมตีทั้งทางบกและอากาศในเมืองอัฟดีฟกา ที่อยู่ติดกับเมืองบัคห์มุต มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม และกลายเป็นจุดโฟกัสของการเคลื่อนพลรบอย่างช้าๆ ผ่านภูมิภาคดอนบาส ด้านตะวันออกของยูเครน ในปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินมานานกว่า 22 เดือน

แชร์ประสบการณ์!‘หมอมนูญ’เล่า‘โควิด’ยังอยู่กับเรา หลีกเลี่ยงติดเชื้อยาก

27 ธันวาคม 2566 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ระบุว่า...

“เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2566 ผมไปร่วมสังสรรค์กับเพื่อนที่จบโรงเรียนเดียวกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกทม. มีคนมาร่วมกินอาหารเที่ยงทั้งหมด 41 คน อายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป งานเริ่มตั้งแต่ 11.00-15.00 น

ห้องอาหารเป็นพื้นที่ปิด ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ขนาดค่อนข้างเล็ก ตั้งโต๊ะกลมได้ทั้งหมด 6 โต๊ะ โต๊ะติดๆกัน ไม่มีคนนอก มีแต่พนักงานเสิร์ฟอาหารใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

คนที่มาร่วมงานทุกคนแข็งแรงดี ไม่มีใครมีอาการชัดเจนของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มีการพูดคุย ร้องเพลงคาราโอเกะ กิน ดื่ม ไม่มีใครสวมใส่หน้ากากอนามัย

เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ ปรากฏว่ามีคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด 11 คน คิดเป็นอัตราส่วน 26% ของคนที่มาร่วมสังสรรค์ติดเชื้อไวรัสโควิด ทุกคนเคยฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว บางคนติดเชื้อครั้งแรก บางคนครั้งที่ 2 ถึงแม้จะอายุ 75 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว ส่วนใหญ่มีอาการไม่มากเหมือนเป็นหวัดธรรมดา ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ได้ยาต้านไวรัส อาการดีขึ้นเร็ว ไม่มีใครมีปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโควิด คนที่ติดเชื้อทั้งหมดไม่ได้ขึ้นไปร้องเพลงคาราโอเกะ คงติดเชื้อจากการพูดคุยใกล้ชิดโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัยมากกว่า ผมโชคดีที่ไม่ติดพร้อมกับเพื่อนครั้งนี้

เราต้องยอมรับความจริง ไวรัสโควิดยังอยู่กับเรา หลีกเลี่ยงการติดเชื้อได้ยาก ช่วงปีใหม่คงจะมีการติดเชื้อไวรัสโควิดกันมากขึ้น ถึงติดเชื้อก็อย่าวิตกกังวล โรคนี้รักษาได้

ชีวิตต้องดำเนินต่อไป อย่าให้ไวรัสโควิด-19 มาสกัดกั้นหยุดชะงักกิจกรรมต่างๆที่เราวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วครับ”


ทบ.ส่งกำลังพลช่วยอพยพประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังประสบภัยน้ำท่วมหนัก

27 ธ.ค.2566 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประสบกับอุทกภัย ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งได้เข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่เกิดเหตุโดยหน่วยในพื้นที่ได้เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุแล้วโดยไม่ต้องรอสั่งการ เพื่อเร่งเคลื่อนย้ายประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย พร้อมเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง

ส่วนการให้บริการอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งทหารได้มีศูนย์บรรเทาสาธารณภัยร่วมทำงานทุกภาคส่วน ส่งกำลังพลของกองทัพบกปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทำให้เห็นว่ากองทัพบกทำหน้าที่เต็มที่ตามความสามารถและตามหน้าที่ของกองทัพบก

เมื่อถามว่า จะมีการจัดส่งรถครัวสนามลงในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมในขณะนี้หรือไม่นั้น พลเอก เจริญชัย ระบุว่า นายสุทิน คลังแสงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีแนวคิด ให้ปรับลดครัวสนาม ไปติดตั้งในเรือของกองทัพบกเพื่อเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยสะดวกมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบภัย เพราะกองทัพบกมีเรือที่สามารถปรับเปลี่ยนใช้งานตามภารกิจ เพราะ กองทัพบกมีเรือที่สามารถปรับรองรับครัวสนามได้เช่นกัน

นอกจากนี้พลเอก เจริญชัย ยังกล่าวถึงการเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในการ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ทางภาคเหนือว่า ได้เห็นถึงความเข้มแข็งของกำลังพลที่ทำงานร่วมกับหน่วยงาน ทุกภาคส่วน ซึ่งจังหวัดที่ประสบ ปัญหาไฟป่าได้มีการประเมิน เรื่องความเสี่ยง ในข้างต้นที่พบปัญหาเรื่องไฟป่าในพื้นที่รอยต่ออำเภอแม่สอดจังหวัดตากขึ้นไป ก็ต้องพยายามใช้เครื่องมือ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการตรวจจุดความร้อนซึ่งทุกฝ่ายก็ดำเนินการควบคู่กันไปในการแก้ไขปัญหา ส่วนข้อกังวลในกรณีเพื่อนบ้านมีการเผาและควันไฟลอยมาในประเทศไทยนั้น

ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า เป็นหน้าที่ของทหารในการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในทุกมิติ ซึ่งจะมีการปฏิบัติกันโดยใกล้ชิด โดยใช้กลไกของคณะกรรมการชายแดน ซึ่งมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นของ PM 2.5 ที่มีหารือการแก้ไขปัญหาร่วมกัน


'กรุงเทพฯ'ติดอันดับ 1 เมืองที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากสุดปี 2023

มาสเตอร์การ์ดได้อัพเดทผลการจัดทำอันดับ 1 ใน 20 เมืองฮิตที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลกปี 2023 หรือ The Most Visited Cities in the World โดยจัดอันดับตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจากต่างประเทศและได้มีการใช้จ่ายข้ามประเทศ

โดย กรุงเทพฯ ติดอันดับ 1 เมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก ปี 2023 โดยมีนักท่องเที่ยวมาถึง 22.78 ล้านคน แซงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีอีก 2 เมืองของไทย คือพัทยาและภูเก็ต ที่ติดอันดับ 1 ใน 20 เช่นกัน

สำหรับ 20 เมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลกในปี 2023 ประกอบด้วย

อันดับ 1 กรุงเทพฯ ประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยว 22.78 ล้านคน

อันดับ 2 ปารีส ประเทศฝรั่งเศสจำนวนนักท่องเที่ยว 19.10 ล้านคน

อันดับ 3 ลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร จำนวนนักท่องเที่ยว 19.09 ล้านคน

อันดับ 4 ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จำนวนนักท่องเที่ยว 15.93 ล้านคน

อันดับ 5 สิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์จำนวนนักท่องเที่ยว 14.67 ล้านคน

อันดับ 6 กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียจำนวนนักท่องเที่ยว 13.79 ล้านคน

อันดับ 7 นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวนนักท่องเที่ยว 13.60 ล้านคน

อันดับ 8 เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย จำนวนนักท่องเที่ยว 13.40 ล้านคน

อันดับ 9 โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จำนวนนักท่องเที่ยว 12.93 ล้านคน

อันดับ 10 เมืองอันตัลยา ประเทศตุรกี จำนวนนักท่องเที่ยว 12.41 ล้านคน

อันดับ 11 กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ จำนวนนักท่องเที่ยว 11.25 ล้านคน

อันดับ 12 โอซากา ประเทศญี่ปุ่น จำนวนนักท่องเที่ยว 10.14 ล้านคน

อันดับ 13 เมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวนนักท่องเที่ยว 10 ล้านคน

อันดับ 14 ภูเก็ต ประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยว 9.89 ล้านคน

อันดับ 15 พัทยา ประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยว 9.44 ล้านคน

อันดับ 16 มิลาน ประเทศอิตาลี จำนวนนักท่องเที่ยว 9.10 ล้านคน

อันดับ 17 บาร์เซโลนา ประเทศสเปน จำนวนนักท่องเที่ยว 9.09 ล้านคน

อันดับ 18 ปาลมาส (มาจอร์กา) ประเทศสเปน จำนวนนักท่องเที่ยว 8.96 ล้านคน

อันดับ 19 บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย จำนวนนักท่องเที่ยว 8.26 ล้านคน

อันดับ 20 ฮ่องกง จำนวนนักท่องเที่ยว 8.23 ล้านคน


เหยื่อโรงงานนิกเกิลระเบิดใน'อินโดนีเซีย' พุ่งเป็น 18 ศพ

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโรงงานนิกเกิลระเบิดในจังหวัดสุลาเวสีกลาง ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย เพิ่มเป็น 18 ราย

ตำรวจอินโดนีเซียระบุจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุโรงงานนิกเกิลในนิคมอุตสาหกรรมโมโรวาลี จังหวัดสุลาเวสีกลาง ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ซึ่งเกิดระเบิดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 18 ราย โดย 8 ราย เป็นชาวต่างชาติ และอีก 10 ราย เป็นชาวอินโดนีเซีย ขณะที่อีกหลายสิบคนยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

โรงงานที่เกิดเหตุเป็นของ ซิงชาน บริษัทผู้ผลิตนิกเกิลรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีบริษัทผลิตสแตนเลสรายใหญ่ของจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กระทรวงต่างประเทศจีนได้ขอให้สถานทูตจีนในกรุงจาการ์ตาร่วมสอบสวนกับทางการอินโดนีเซีย เพื่อหาสาเหตุของการระเบิด และยืนยันด้วยว่า เหตุการณ์นี้มีคนงานชาวจีนเสียชีวิต 4 ราย

หนีภัยยากจน! ขบวนผู้อพยพในเม็กซิโกเดินเท้ามุ่งสู่สหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้อพยพกว่า 5,000 คน จากหลายประเทศในลาตินอเมริกา เดินเท้าจากเมืองทางตอนใต้ของเม็กซิโก มุ่งหน้าขึ้นเหนือ หวังไปเริ่มชีวิตใหม่ในสหรัฐ

แม้ว่าเป็นช่วงฉลองคริสต์มาส แต่ผู้อพยพกว่า 5,000 คน จากหลายประเทศในลาตินอเมริกา ได้ออกเดินทางจากเมืองทาปาชูลา ทางตอนใต้ของเม็กซิโก เพื่อมุ่งหน้าขึ้นเหนือ หวังเข้าไปเริ่มชีวิตใหม่ในสหรัฐ โดยมีผู้นำขบวนถือไม้กางเขน ธงชาติเม็กซิโก พร้อมกับป้ายข้อความว่า “อพยพหนีภัยยากจน” ชาวฮอนดูรัสคนหนึ่งบอกว่า เขาจำต้องอพยพออกจากประเทศบ้านเกิด เนื่องจากถูกคุกคามจากแก๊งอาชญากร

สหประชาชาติ ระบุสาเหตุที่ทำให้ผู้อพยพจำนวนมากมุ่งหน้าไปยังสหรัฐ คือ ความรุนแรง ความยากจน รวมถึงผลกระทบจากโลกร้อน ทำให้ในปีนี้จำนวนผู้อพยพดั้นด้นจากภูมิภาคอเมริกาใต้ เข้าไปยังอเมริกากลาง เพื่อจุดหมายปลายทางที่สหรัฐ กว่า 5 แสนคน เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากปีที่แล้ว