ข่าว
'สี จิ้นผิง'อวดศักยภาพ นำ'เรือบรรทุกเครื่องบิน'ต่อเองลำแรกเข้าประจำการ

18 ธันวาคม 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธานในพิธีนำเรือบรรทุกเครื่องบินที่จีนต่อสร้างขึ้นเองทั้งลำเป็นลำแรก เข้าประจำการอย่างเป็นทางการยังฐานทัพเรือที่เมืองซานย่า บนเกาะไหหลำ นอกชายฝั่งทางใต้สุดของประเทศ

เรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ ซึ่งมีชื่อว่า ซานตง ได้ต้นแบบที่พัฒนามาจากเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีนที่ชื่อ “เหลียวหนิง” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินมือ 2 ที่จีนซื้อมาจากยูเครนเมื่อปี 1998 แล้วนำมายกเครื่องปรับปรุงใหม่ในประเทศจีน และนำออกประจำการเมื่อปี 2012 โดยซานตงสามารถบรรทุกเครื่องบินขับไล่รุ่นเจ-15 มีระวางขับน้ำประมาณ 50,000 ตัน

ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งยืนยันว่าเรือบรรทุกเครื่องบินซานตงเดินทางผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อเดือนที่แล้ว แม้ยืนยันเป็นการใช้เส้นทางตามปกติ เพื่อเดินทางต่อไปร่วมการฝึกซ้อมรบร่วมกับเรือลำอื่นของพีแอลเอ ในเขตน่านน้ำสากลของทะเลจีนใต้ แต่แน่นอนว่ารัฐบาลไทเปไม่พอใจอย่างหนัก

นี่คือความจริง! 'หมอพรทิพย์'เล่าเรื่องจากห้องกรรมาธิการ กับบทเรียน'สมคิด พุ่มพวง'

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Porntip Rojanasunan "ในหัวข้อ #เรื่องเล่าจากห้องประชุมกรรมาธิการ# โดยมีเนื้อหาระบุว่า

วันนี้มีประชุมติดตามการปฏิรูปประเทศที่มีการเรียกร้องหลังจากเกิดความวุ่นวายทางการเมืองที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. รวบรวมประเด็นแยกตามหัวข้อการปฏิรูป จากนั้นรัฐบาลก็ตั้งสภาปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ประเด็นการปฏิรูปถูกปรับตามที่สมาชิก สปท.สนใจ ปรับตามนโบายรัฐบาลที่ไม่ให้เสนอประเด็นใหม่ แต่ให้เอาประเด็นเดิมมาเลือก หลังจาก สปท.หมดวาระ ก็มีการตั้งกรรมการปฏิรูป ซึ่งรัฐบาลสั่งให้เอา Quick win ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นง่าย ๆ แทนประเด็นที่สำคัญ ประเด็นจำเป็น

หลังเลือกตั้งรัฐธรรมนูญกำหนดบทบาทให้ ส.ว. ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบเร่งรัดการปฏิรูป ซึ่งรัฐบาลมอบสภาพัฒน์ดูแล ทุกครั้งที่สภาพัฒน์มารายงานต่อสภา ก็จะมีข้อมูลว่า”กำลังดำเนินการ” ซึ่งความจริงคือยังไม่ได้ทำอะไร หรือยังไม่มีอะไรคืบหน้าจากหน่วยงาน

มาวันนี้นโยบายรัฐบาลเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อต้นเดือนธันวาคม มองไปมองมาเหมือนการซื้อเวลา หน่วยงานรัฐส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ นายไม่สั่งก็ไม่ขับเคลื่อน ไม่มีงบไม่ให้งบก็ไม่ต้องทำอะไร บางหน่วยเสนอโครงการแผนงานตามแนวทางการปฏิรูปก็ถูกลดและตัดงบประมาณโดย ส.ส. สภาพการเมืองที่มีแต่การประลองกำลัง เพลี้ยงพล้ำไปมา ประชาชนจึงไม่ได้รับประโยชน์จากเรื่องราวดี ๆ เช่นนี้

วันนี้ ได้เล่มใหม่มา รีบเปิดดูด้านกระบวนการยุติธรรมไม่พบสาระสำคัญดี ๆ แต่อย่างใด บทเรียนกรณีฆาตกรต่อเนื่อง สมคิด พุ่มพวง ที่สะท้อนปัญหาทั้งเรื่องกระบวนการยุติธรรม เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด และปัญหาสังคมจะไม่สามารถปฏิรูปใด ๆ ได้เลย

น่าสนใจว่า การดำเนินคดีที่ผ่านมาใช้หลักฐานอะไร ทำไมการรับสารภาพจึงเป็นประโยชน์ส่งผลให้ลดโทษ ทำอย่างไรภารกิจของราชทัณฑ์จะมีโอกาสวินิจฉัย รักษา บำบัด ฟื้นฟู วิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาทางควบคุมและป้องกันการกลับมากระทำผิดซ้ำ ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถทำอะไรได้เลย นักโทษยาเสพติดล้นคุกจนทำได้เพียงการระบายนักโทษออกจากเรื่อนจำ การขาดระบบฐานข้อมูลกลางที่ไม่ได้ขาดข้อมูลแต่เป็นเพราะการหวงข้อมูล การไม่ยอมบูรณาการกัน นำไปสู่ความผิดพลาดในการลดโทษ รวมถึงการปล่อยตัว เล่ามาก็ด้วยความรู้สึกห่วงไย ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้หรือไม่


สั่งพักงาน! บริษัทต้นสังกัดเด็ดขาด เชือดคนขับรถทัวร์มักง่ายทำรถติดยาว

19 ธันวาคม 2562 เฟชบุ๊ก JS100 Radio ได้รายงานความคืบหน้าว่าตามที่ผู้ใช้ทางถ่ายภาพการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักบน ถ.งามวงศ์วาน ช่วงเย็นของวันที่ 18 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุคือกลุ่มรถทัวร์ที่ขับตามกันมาในช่องทางขวา และปาดออกเส้นทึบคอสะพานข้ามแยกพงษ์เพชร เพื่อกลับรถ แต่เนื่องจากการจราจรติดขัดอย่างหนัก รถทัวร์ทั้ง 3 คัน จึงไปต่อไม่ได้ และขวางทางรถทุกคันที่จะขึ้นสะพานข้ามแยก

ต่อมาชาวโซเชียลต่างช่วงกันตามหาบริษัทรถทัวร์คันดังกล่าว จนทราบว่าเป็นของบริษัท แมจิค รูทส์ จำกัด ล่าสุด JS100 จึงสอบถามไปที่ นายสุทธิชัย จงเลิศงาม กรรมการบริษัท แมจิค รูทส์ จำกัด ชี้แจงว่า ได้เรียกพนักงานขับรถทัวร์ทั้ง 5 คัน มาสอบถาม บอกว่า ใช้เส้นทางลงทางด่วนงามวงศ์วาน และต้องการจะกลับรถที่แยกพงษ์เพชร เพื่อมุ่งหน้าไปทางรัตนาธิเบศร์ แต่คนขับได้มาช่องทางขวา ประกอบสภาพการจราจรติดขัดมากทำให้ไม่สามารถเข้าซ้ายได้ บริษัทได้สั่งพักงานคนขับทั้ง 5 คนชั่วคราว หลังจากนี้จะเรียกตัวมาตักเตือนและอบรมการขับรถให้มีมารยาทถูกต้องตามกฎจราจรต่อไป ขออภัยผู้ใช้เส้นทางมา ณ โอกาสนี้

ขณะเดียวกัน 18:00 น. JS100 สอบถามไปยัง สภ.รัตนาธิเบศร์ ถึงเรื่องการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่แจ้งว่ายังไม่ทราบเรื่อง และยังไม่เห็นภาพ หากเห็นภาพแล้วถึงจะดูความผิดที่เกี่ยวข้อง ก่อนออกหมายเรียกต่อไป


ฮากร๊าก!! ตั้งเวทีหมอลำ แก้ปัญหาวัยรุ่นตีกันหน้าเวที ไอเดียนี้เจ๋ง

19 ธันวาคม 2562 กลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่หาย กรณีที่ในหลายพื้นที่มีการจัดงานแล้วต้องว่าจ้างวงดนตรีลูกทุ่ง หมอลำ รถแห่ มาทำการแสดง ก็ไม่พ้นปัญหาวัยรุ่นคึกคะนองยกพวกตีกัน ล่าสุด ทวิตเตอร์ของคุณ กิตติ สิงหาปัด นักข่าวจากรายการข่าว 3 มิติ ได้ออกมาโพสต์แชร์ภาพ วิธีแก้ปัญหาวัยรุ่นตีกัน โดยระบุว่า 'ลองตั้งเวทีแบบนี้เด้อครับ ขั่นบ่อยากให่พวกวัยรุ่นตีกั่นหน่าฮ่าน'


เมียนมาจ่อส่งออก'ข้าวโพด'มา'ไทย' ชี้หากทำสำเร็จชาวไร่ได้กำไรเพิ่ม

19 ธันวาคม 2562 เว็บไซต์ นสพ.Myanmar Times ของเมียนมา เสนอข่าว “Myanmar hopes to export corn to Thailand” อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ อู มิน เค็ง (U Min Khaing) ประธานสมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดแห่งเมียนมา ระบุว่า ผู้ค้าข้าวโพดในเมียนมากำลังหารือถึงความพยายามในการส่งออกข้าวโพดกว่า 1 ล้านตันไปยังประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างทำสัญญากับองค์การคลังสินค้าของไทย

อย่างไรก็ตาม ราคาส่งออกจะเป็นเท่าใดก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด โดยคาดว่าไทยจะนำข้าวโพดไปใช้สำหรับทำอาหารสัตว์และในอุตสาหกรรม หากทำสำเร็จจะเป็นโอกาสของชาวไร่ข้าวโพดในเมียนมา แทนที่การลักลอบส่งออกข้าวโพดอย่างผิดกฎหมายไปยังประเทศจีน ขณะที่ เต็ท มู (Thet Mhu) ประธานสมาคมอาหารสัตว์น้ำแห่งเมียนมา กล่าวว่า ในเมียนมามีการปลูกข้าวโพดจำนวนมากและไม่มีปัญหาขาดแคลน ข้าวโพดนั้นเป็นส่วนประกอบของอาหารสัตว์ หากสามารถส่งออกไปยังไทยได้ชาวไร่ข้าวโพดเมียนมาก็จะมีกำไรมากขึ้น


'กสม.'เสียใจ! ชาวบ้านถูกทหารยิงดับ เหตุเข้าใจผิดว่าเป็นโจรใต้

19 ธ.ค. 2562 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์กรณีการเสียชีวิตของประชาชน 3 ราย จากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ในสังกัดกองทัพภาคที่ 4 บนเทือกเขาตะเว จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2562 ซึ่งต่อมาในวันที่ 17 ธ.ค. 2562 พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ออกมายอมรับความผิดพลาดในเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยระบุว่า เกิดจากการสำคัญผิดของเจ้าหน้าที่ในแผนปฏิบัติการกดดันบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ป่าภูเขา พร้อมให้คำมั่นในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และมอบหมายให้คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 4 ประกอบด้วย ผู้แทนภาครัฐและภาคประชาชนในพื้นที่ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานไปด้วย

กสม. ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้สูญเสียชีวิตจากการปฏิบัติการซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด อันถือเป็นเหตุเศร้าสลดที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่งและสนับสนุนแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ได้ให้คณะกรรมการต่างๆ เข้าตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือและเยียวยาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมเปิดเผยรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบโดยเร็ว

รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้ความระมัดระวังและควรรอบคอบในการปฏิบัติการในทุกพื้นที่และทุกกรณีที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนให้มากขึ้น และพึงอาศัยความร่วมมือและความเชื่อมั่นจากประชาชนอย่างแท้จริงเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อนึ่ง กสม. มีความห่วงใยและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด

ซึ่งเมื่อวันที่ 25 พ.ยง 2562 ที่ผ่านมา ได้หยิบยกเหตุการณ์ยิงโจมตีป้อมยามจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จ.ยะลา ขึ้นมาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กสม. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆ จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว จะนำมาจัดทำรายงานข้อเสนอแนะแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

'สภาผู้แทนราษฎร'ลงมติถอดถอน'ทรัมป์' คนที่ 3 ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

19 ธันวาคม 2562 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติรับรองบทบัญญัติ 2 ข้อในญัตติว่าด้วยการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ

โดยญัตติแรกที่ชี้ว่าทรัมป์ใช้อำนาจในทางที่ผิด กรณีถูกกล่าวหาว่ากดดันยูเครนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัวของเขา ได้รับเสียงสนับสนุน 230 เสียง คัดค้าน 197 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง ส่วนอีกฉบับกล่าวหาว่าทรัมป์ขัดขวางกระบวนการตรวจสอบการกระทำผิดของตน อีกทั้งยังปิดกั้นสิทธิ์ของคณะกรรมาธิการในการเข้าถึงเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องได้รับเสียงสนับสนุน 229 เสียง คัดค้าน 198 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง

ซึ่งการอภิปรายครั้งนี้ทำให้ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐที่เข้าสู่กระบวนการถอดถอน ต่อจากอดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน เมื่อ 21 ปีก่อน และอดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์จอห์นสัน เมื่อ 151 ปีก่อน

หลังจากนี้นี้กระบวนการถอดถอนเข้าสู่ขั้นตอนของวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในช่วงกลางเดือน ม.ค.นี้ ซึ่งการลงมติของวุฒิสภาต้องอาศัยเสียงข้างมากไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ขณะที่นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภายืนกรานว่า เขาต้องการให้เรื่องนี้ยุติเร็วที่สุด และโอกาสเป็นศูนย์ที่ทรัมป์จะพ้นจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ ชนวนเหตุให้เกิดกระบวนการไต่สวนและลงมติเพื่อถอดถอนทรัมป์มาจากเรื่องที่ทรัมป์ ขอให้ประธานาธิบดียูเครนตรวจสอบคู่แข่งทางการเมืองของเขา คือ อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และบุตรชาย ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทพลังงานในยูเครน แลกกับความช่วยเหลือด้านการทหารกับยูเครนเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ