ข่าว
สรุปยอดตาย-บาดเจ็บ เหตุการณ์ขอพื้นที่คืนสะพานผ่านฟ้า

วันที่ 18 ก.พ. ศูนย์เอราวัณ รายงานเหตุขอคืนพื้นที่ แยกสะพานผ่านฟ้า ข้อมูล ณ เวลา 12.20 น. มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว 25 ราย นำส่ง รพ.กลาง 15 ราย หัวเฉียว 2 ราย รามา 2 ราย และวชิรพยาบาล 6 ราย

สำหรับรายชื่อตำรวจบาดเจ็บจากการปะทะรักษาตัวอยู่ที่รพ.สงฆ์กำลังย้ายมารักษาต่อที่รพ.ตำรวจ มีดังนี้

1.ด.ต.กัมปนาทพรสวัสดิ์ โดนสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา

2.ด.ต.วัฒนพงษ์พระสุรัตน์ โดนสะเก็ดระเบิดที่ต้นขาขวา

3.ด.ต.พรชัยรินทร์อายุ 42 ปีโดนสะเกิดระเบิดที่แขนซ้าย

4.ส.ต.ท.สุพลบุตรดี อายุ 35 ปี โดนสะเกิดระเบิดที่ต้นแขนขวาหัวไหล่ขวา ปลายหูขวา

5.ส.ต.ต.พงศกร แสงกลม ผบ.หมู่ฯ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะบาดเจ็บสาหัส

ขณะที่ บริเวณสะพานผ่านฟ้า ยังตึงเครียดโดยล่าสุดตำรวจต้องถอยร่นอลหม่านไม่เป็นขบวน และมีการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทาง และสกัดกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนพากันกรูกันเข้าใส่เพื่อทำร้าย เพราะโกรธแค้นที่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ตำรวจทั้งหมดถอยไปปักหลักที่สนามหลวงหมดแล้ว ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้วในเวลา 13.30 น.

ล่าสุด ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร(กทม.) รายงานว่า จากสถานการณ์การเข้าขอคืนพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศในช่วงเช้าวันนี้(18 ก.พ.57) มีผู้บาดเจ็บจากการปะทะจำนวน 64 คน เสียชีวิตจำนวน 4 คน รวมเป็น 68 คน โดยผู้บาดเจ็บได้นำส่งโรงพยาบาลต่างๆดังนี้ รพ.วชิระพยาบาลจำนวน 19 คน รพ.กลาง จำนวน 15 คน รพ.หัวเฉียว จำนวน 14 คน รพ.รามาธิบดีจำนวน 8 คน รพ.สงฆ์ จำนวน 4 คน รพ.ตำรวจ จำนวน1 คน รพ.จุฬาลงกรณ์1 คน รพ.พระมงกุฎฯ2คนส่วนผู้เสียชีวิตจำนวน 4 คน คือ 1.นายสุพจน์ บุญรุ่ง อายุ 52 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะ เสียชีวิตที่รพ.กลาง 2.ด.ต.เพียรชัย ภารวัตร อายุ45ปี มีบาดแผลที่หน้าอก เสียชีวิตที่รพ.กลาง 3. นายธนูศักดิ์ รัตนคช อายุ 29 ปี มีบาดแผลที่หน้าอกซ้าย เสียชีวิตที่รพ.วชิรพยาบาล และ 4. ชายไทย ไม่ทราบชื่อ มีบาดแผลใต้ราวนม เสียชีวิตที่รพ.วชิรพยาบาล

ทั้งนี้ยอดผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่เหตุที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2556 จนถึงขณะนี้ มีผู้บาดเจ็บแล้ว 682 คน ผู้เสียชีวิต จำนวน15 คน รวมเป็น 697 คน

ภาพชุด เอ็ม-79 ถล่มสะพานผ่านฟ้า

ภาพชุดตำรวจถูกเอ็ม 79 ยิงถล่ม ขณะเข้าขอคืนพื้นที่ "ผ่านฟ้า" เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บถึง 18 นาย ก่อนจะถอยร่นออกมาไม่เป็นขบวน ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปท.และกองทัพธรรมได้รับบาดเจ็บ 25 ราย ขณะที่ ศรส.ออกมาระบุว่า เอ็ม 79 ถูกยิงมาจากฝั่งกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ทางแกนนำผู้ชุมนุมออกมาปฏิเสธทันทีว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ "ซีเอ็นเอ็น" ได้นำเสนอคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าด้วย



ย้าย′ด.ต.′ ฮีโร่เตะระเบิดช่วยเพื่อนตร. ส่งรักษารพ.ตำรวจแล้ว

จากกรณี ระหว่างเหตุปะทะ ที่แยกผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่ง ด.ต.ธีระเดช เล็กภู่ อายุ 44 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี พยายามจะใช้เท้าเตะระเบิดเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนตำรวจด้วยกัน จนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาทั้งสองข้าง ซึ่งในสังคมออนไลน์ ได้มีการเผยแพร่คลิด ตามคลิปวิดีโอ ขณะเกิดเหตุดังกล่าวนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการของ ด.ต.ธีระเดช เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ว่า ยังคงรักษาตัวอยู่ที่หอพักผู้ป่วยศัลยกรรมชาย ชั้น 10 โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยมีนางจีรภา เล็กภู่ อายุ 48 ปี และ น.ส.วรพิชชา เล็กภู่ อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้นปวช.ปีที่ 2 แผนกการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี ซึ่งเป็นภรรยาและลูกสาวเฝ้าดูอาการอยู่อย่างใกล้ชิด

นางจีรภา เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวก็รีบมาเยี่ยมสามีทันที ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับสามีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามภาพข่าวก็ทราบว่า หลังจากสามีเรียกเพื่อนรุ่นน้องให้มานั่งข้างๆ ตัวเองแล้ว ตำรวจรุ่นน้องคนดังกล่าวไม่เห็นระเบิดที่ถูกปามากระทบโล่ วินาทีนั้นสามีก็ตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อจะเตะระเบิดออกไป เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนร่วมงานตรงจุดนั้น แต่ก็เกิดระเบิดขึ้นเสียก่อน ทั้งนี้ตนคิดว่า หากสามีถูกทำร้ายยังดีกว่าที่จะมาโดนระเบิดจนขาทั้ง 2 ข้างต้องเป็นแบบนี้

ด้าน น.ส.วรพิชชา กล่าวว่า ช่วง 11.00 น.วานนี้ (18 ก.พ.) แม่เห็นข่าวทางโทรทัศน์ก็โทรศัพท์มาหาตน พร้อมบอกว่าเป็นห่วงพ่อ ตนก็บอกแม่ไปว่า พ่อไม่เป็นอะไรหรอก จนกระทั่งช่วงบ่ายพี่ชายโทรศัพท์มาบอกว่าพ่อขาหัก ให้รีบมากทม. ตนกับแม่จึงรีบเดินทางมาดูพ่อทันที ซึ่งตนยังไม่ได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะพ่อไม่ค่อยมีแรงพูด ส่วนเรื่องที่มีคนชื่นชมพ่อของตนที่ลุกขึ้นมาเตะระเบิดเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนนั้น ก็รู้สึกดีแต่ไม่อยากให้พ่อต้องเจ็บแบบนี้เพราะดูแล้วมันทรมานมาก

ขณะที่ นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี กล่าวว่า กระดูกขาทั้ง 2 ข้างของผู้ป่วยนั้นหักหลายท่อน แพทย์ต้องใช้เหล็กดามไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลารักษาตัวนานหลายเดือน นอกจากนี้ยังมีบาดแผลที่แขนซ้ายเป็นรูอีกด้วย ขณะนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น สามารถพูดคุยได้

ต่อมาเวลา 14.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้เคลื่อนย้าย ด.ต.ธีระเดช ออกจากโรงพยาบาลวชิรพยาบาลไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ

จากนั้น เวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลตำรวจ รถศูนย์ส่งกลับ รพ.ตำรวจ ได้ย้ายด.ต.ธีรเดช และด.ต.ธรรมนูญ ทัสสี ผบ.หมู่สภ.สอยดาว จ.จันทบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการปะทะแยกผ่านฟ้าเช่นเกียวกัน จากโรงพยาบาลวชิระพยาบาล มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ

นางจีระภา เล็กภู่ อายุ 48 ปี ภรรยาด.ต.ธีรเดช กล่าวว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาการของสามีตอนนี้ขาทั้งสองข้างอาการยังหนักอยู่และต้องระวังเรื่องแผลติดเชื้อ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสามีเล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุได้เรียกเพื่อนเข้ามานั่งข้างๆเอาโล่มาวาง แต่พอเห็นระเบิดลอดมาตรงระหว่างโล่ จึงตัดสินใจเตะออกไป เหตุที่สามีตัดสินใจทำอย่างนั้น เพราะเป็นคนรักเพื่อนมาก อยู่กันมานานตนเองรู้ว่าสามีเป็นคนอย่างไร รักเพื่อนมากแค่ไหน แต่หากเลือกได้ไม่อยากให้สามีเป็นฮีโร่ อยากให้ขากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมเท่านั้น

ด้านพล.ต.ต.นพ.ณรงค์ศักดิ์ เสาวคนธ์ รองนายแพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ กล่าวว่า อาการของด.ต.ธีรเดช มาด้วยอาการกระดูกขาทั้งสองข้างแตกเบื้องต้นทางรพ.วชิระได้ทำการยึดกระดูกทั้งสองข้างรวมทั้งหัวแม่เท้าแตกละเอียดมาอย่างดี การดูแลในขั้นตอนต่อไปต้องระวังเรื่องการติดเชื้อ ส่วนจะกลับมาเดินได้ตามปกติหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อของกระดูกซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ ส่วนอาการของด.ต.ธรรมนูญ อาการกระดูกด้านนอกขาหัก โหนกแก้มขวาแตกจากแรงระเบิดอาการสาหัส การรักษาจะใช้วิธีการดามกระดูกโหนกแก้ม ส่วนส.ต.ต.ศราวุฒิ ชัยปัญหา ผบ.หมู่ป.สภ.บางละมุง จว.ชลบุรีตอนนี้อาการหนักที่สุดโดนยิงที่ศีรษะทะลุท้ายทอย ตอนนี้อยู่ห้องไอซียูอาการยังน่าเป็นห่วง ไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองอยู่ได้ด้วยยากระตุ้นหัวใจและความดันต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ผ่านฟ้าระอุ ตร.จับ “สมเกียรติ” กลางดงปืน-ระเบิด

เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น. วันที่ 18 ก.พ. หลังกำลังตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ขอคืนความสงบสุบให้กรุงเทพฯ พยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม กปท. และกองทัพธรรม ที่ตรึงกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ในที่สะพานผ่านฟ้า ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยตำรวจทำตามลำดับขั้นตอนการปฏิบัติครบถ้วน แต่การเจรจากับกลุ่มแกนนำไม่เป็นผล โดยกลุ่มผู้ชุมตั้งแถวเป็นกำแพงมนุษย์ และส่วนใหญ่นั่งสวดมนต์ เผชิญหน้ากับกำลังตำรวจ กระทั่งสุดท้ายตัดสินใจรุกคืบเข้ารื้อถอนสิ่งกีดขวางจนเกิดเหตุชุลมุน ตำรวจตัดสินยิงแก๊สน้ำตาเพื่อให้ผู้ชุมนุมโดยเฉพาะที่เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ จนสามารถจับกุมผู้ชุมนุมได้จำนวนมาก และมีรายงานว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส.ถูกจับกุมตัวด้วย คาดว่าจะถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 จ.ปทุมธานี

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น และมีเสียงปืนดังขึ้น โดยมีรายงานว่ามีตำรวจถูกยิงและถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บหลายราย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน โดยทั้งหมดถูกลำเลียงส่งรพ.เรียบร้อยแล้ว แต่ความวุ่นวายในบริเวณนี้ยังมีอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ยังคงตรึงเครียด ทั้งนี้หลังมีเสียงระเบิด ตำรวจต้องถอยร่นกลับมาตั้งแนวใหม่

ต่อมา เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์ แกนนำ กองทัพธรรม ระบุว่า มีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้น เป็นระยะแต่ไม่ได้มาจากฝั่งผู้ชุมนุม มาจากใครไม่ทราบ ทำให้ตำรวจและผู้ชุมนุมบาดเจ็บหลายราย สถานการณ์ยังตรึงเครียด พร้อมกันนี้ ยังกล่าวหาว่า ตำรวจเข้ารื้อค้นขอคืนพื้นที่แบบไม่ถูกต้อง เหยียบย่ำประชาชนที่ชุมนุมกันโดยสงบ

ขณะที่ สมณะโพธิรักษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเสียงระเบิดเสียงปืนมาจากฝั่งไหน แต่ทันทีที่มีเสียงระเบิดขึ้นก็เห็นตำรวจถอยร่นและบาดเจ็บ ผู้ชุมนุมเองก็บาดเจ็บ เป็นไปได้ว่า มีผู้หวังดีมาช่วยผู้ชุมนุม หรือเป็นฝีมือของตำรวจอีกชุดเอง แต่เรื่องนี้ทำให้เห็นความรุนแรง จึงอยากให้เสนอข่าวให้ทั่วโลกทราบความจริงว่าเมืองไทยมีความรุนแรงแล้ว พร้อมตั้งคำถามว่า จะมายึดผ่านฟ้าคืนทำไม จะมายึดทำเนียบคืนทำไม


รองโฆษกตำรวจเชื่อ เอ็ม 79 ถล่มตำรวจเพื่อชิงตัว “สมเกียรติ”

เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 18 ก.พ. ที่ศูนย์รักษาความสงบแห่งชาติ (ศรส.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 1 รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังร่วมประชุมหารือกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ทำหน้าที่ผอ.สรส. ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขตำรวจที่เสียชีวิต และบาคเจ็บจากการปะทะกันที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เพราะผู้บาคเจ็บถูกกระจายไปยังโรงพยาบาลหลายแห่ง จึงยากต่อการตรวจสอบ แต่คาดว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากบุคคลที่ 3 ซึ่งสื่อต่างประเทศทั้ง ซีเอ็นเอ็น และ รอยเตอร์ รายงานว่าวิถีกระสุนอาวุธสงครามเอ็ม 79 เล็งจากตึกสูงฝั่งอาคารการบินไทย ยิงใส่ฝ่ายตำรวจ ดูแล้วน่าจะเป็นมืออาชีพ เป็นผลให้ พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ. 2 สั่งถอนกำลังโดยด่วน และในจังหวะชุลมุนนั้น ได้มีชายลึกลับมาช่วยชิงตัว นาย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำ กปปส.ที่ตำรวจรวบตัวได้ก่อนหน้านั้นจึงตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน

พ.ต.อ.กฤษระกล่าวต่อไปว่า ขอย้ำว่าการปฏิบัตจิการในครั้งนี้ ไม่ใช่การขอคืนพื้นที่หรือสลายการชุมนุม เพราะตำรวจยึดหลักเจรจาก่อน จับกุมผู้ต้องหา โดยใช้หลักยุทธวิธี การแสดงกำลังความพร้อมของตำรวจ เพื่อให้ผู้ชุมนุมล่าถอยหรือ สามารถต้อนจับกุมได้ง่าย อย่างกรณี การดำเนินการที่กระทรวงพลังงาน โดยจำนวนผู้ชุมนุมมีประมาณ150 คน จึงได้ส่งกำลังตำรวจไปไว้ 300 นาย เพื่อโชว์ให้เห็นถึงกำลังที่มากกว่าและยอมให้จับกุมได้โดยง่ายไม่ต้องใช้กำลัง และในวันที่ 19 ก.พ. จะมีการฟังคำตัดสินของศาลแพ่งในเรื่องเพิกถอนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยจากการเกิดเหตุการณ์ปะทะกันในวันนี้อาจมีการส่งผลในคำตัดสิน แต่ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร ก็พร้อมยอมรับ ส่วนแผนปฏิบัติการ"ภารกิจคืนความสงบ กทม."ต้องรอการประชุม ศรส.ว่าจะกำหนดทิศทางในการปฏิบัติการอย่างไรต่อไป ส่วนกำลังตำรวจที่กระจาย ใน 4 จุดที่เหลือนั้นได้แก่ ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กระทรวงมหาดไทย ยังคงมีการตึงกำลังตำรวจอยู่ บางส่วนแต่ส่วนมากถอนกำลังออกมาแล้ว.