13 มิ.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "ชูวิทย์ I'm No.5" ถึงกรณี นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง เสียชีวิตที่เป็นข่าวครึกโครมในหัวข้อ บัญญัติ 12 ประการ ที่ทำให้ไม่ถูกอุ้ม ว่า คนเราไม่รู้วันตาย คุณเอกยุทธ มีเงินเป็นพันล้าน กินไวน์ "เปตรุซ" ขวดเป็นแสน ยังไปตายในป่าที่เทือกเขาจิงโจ้ จ.พัทลุง ส่วนผม หวิดไปหลายที แคล้วคลาดมาได้ เพราะ "รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง" ผมมันเด็กวัดเก่า เติบโตแถวเยาวราช ของพวกนี้ภาษานักเลงเขามองตาก็รู้แล้ว
เอาเป็นว่าไม่โอ้อวด เมืองไทยเขาบอกเป็นเมืองพุทธ ผมขอเติมให้ด้วยว่าเป็นเมือง "นักเลง" คนมันฆ่าแกงกันง่ายๆ มีทั้งวางแผนสลับซับซ้อน หน้าฉากกับหลังฉากมันคนละเรื่องกัน ข้อแนะนำที่จะไม่ทำให้ถูกอุ้ม มีดังนี้
1. อย่าเดินทางโดยใช้เส้นทางเดิมๆเป็นประจำ ต้องเปลี่ยนเส้นทาง ขึ้นทางด่วนบ้าง วิ่งทางธรรมดาบ้าง อ้อมนิดอ้อมหน่อย สลับไปสลับมา
2. อย่าบอกกำหนดการเดินทางล่วงหน้า เช่น เย็นนี้จะไปกินข้าว หรือมีนัดกินเลี้ยงที่ไหน ถึงเวลาไปแล้วไปเลย
3. อย่าพูดธุระสำคัญภายในรถ หัดใช้ Whatsapp Line หรือ sms ส่งข้อความแทน เพราะถ้าพูดในรถ คนขับรถ คนติดตาม มันได้ยินหมด
4. อย่าใช้รถคันเดียว หากคุณซื้อรถเบนซ์ได้ ย่อมต้องซื้อรถญี่ปุ่นได้สัก 4-5 คัน หัดเปลี่ยนรถสลับไปสลับมา อย่าใช้รถแค่เพียงคันเดียวเท่านั้น
5. อย่านั่งอยู่ตำแหน่งเดิมตลอด สลับตำแหน่ง นั่งหลังบ้าง นั่งหน้าบ้าง นั่งซ้ายบ้าง นั่งขวาบ้าง หรือในช่วงคับขัน ลองให้คนขับมาลองนั่งข้างหลัง แล้วเราไปขับแทน
6. อย่ามีบ้านหลังเดียว นอนที่เดิมตลอด มีเมียเดียวก็จริง แต่ต้องมีหลายบ้าน คอนโดบ้าง โดยเฉพาะตอนเปิดประตูรถเป็นช่วงสำคัญที่สุด
7. อย่าคิดว่าพกปืนแล้วจะรอด พวกที่ถูกอุ้มหรือตายไป มีปืนกันทั้งนั้น
8. อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน คนขับรถ คนติดตาม หรือคนใกล้ชิด อาจถูกบังคับขู่เข็ญเพื่อสอบถามว่าเราอยู่ที่ไหน กำลังไปไหน หรือขู่เข็ญครอบครัวของบุคคลเหล่านี้ เพื่อเค้นคำตอบ ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติดังนี้
8.1 ต้องรู้ประวัติของทุกคน เมียอยู่ที่ไหน ทำงานอะไร ครอบครัวพ่อแม่อยู่ที่ไหน หากไปที่บ้านเดิมได้ ต้องไป อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเสียเวลา
8.2 ต้องสอบประวัติอาชญากรรม พิมพ์นิ้วมือ ดูว่าเคยมีประวัติอะไรมาก่อน
8.3 ต้องตรวจสอบสารเสพติด เพราะพฤติกรรมเสพยาเป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาด
8.4 ต้องอบรมบุคคลเหล่านี้ไม่ให้ไปบอกใคร ว่าเจ้านายอยู่ที่ไหน เพราะโดยมากคนจะไม่สอบถามเราโดยตรง แต่จะไปถามคนขับรถ คนติดตาม หรือคนใกล้ชิด ดังนั้น ต้องอบรมสั่งสอนให้พูดอยู่แค่ 3 คำเท่านั้น "ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ" ต้องท่องให้ขึ้นใจ
9. อย่าคุยโม้โอ้อวดเรื่องเงินเรื่องทอง หรือไปโชว์ให้เห็นว่ามีเงินอยู่กับตัวครั้งละมากๆ มันล่อตาล่อใจ แล้วทำให้คิดมาก คนไม่เคยคิดก็จะคิด หรืออาจจะนำไปพูดให้คนอื่นเกิดความคิด
10. อย่าอยู่ที่ไหนนานเกินไป เช่น ไปนั่งทานอาหารอยู่ที่ไหนนานๆ หรืออยู่ในงานเลี้ยงนานเกินไป เวลานั่งให้หันหน้าเข้าหาประตู เพื่อจะได้เห็นคนที่เดินเข้าออก
11. อย่ายอมขึ้นรถคนอื่นเป็นอันขาด วิ่งได้ต้องวิ่ง ยิงได้ต้องยิงกันตรงนั้น สู้ตรงนี้ดีกว่า เพราะถ้ายอมไปกับเขาแล้ว อย่าหวังว่าจะได้กลับมา
12. อย่าใช้โทรศัพท์เบอร์เดียวซ้ำๆ ควรจะมีซิมประเภทเติมเงินหลายๆอัน ใช้แล้วหักทิ้ง เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันทันสมัย แล้วมันไม่ได้เป็น "โจรนอกเครื่องแบบ"
ทั้ง 12 ข้อนี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะปลอดภัยจากการถูกอุ้ม แต่อย่างน้อยมันเหมือนกับชาวบ้านที่ต้องรู้ "กฎหมายเบื้องต้น" อาจจะผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง
ท้ายที่สุดแล้ว มันขึ้นอยู่กับ "เวรทำ กรรมแต่ง" ของแต่ละคน ผมมันกรรมเยอะ ยมบาลเขาคงยังไม่อยากได้ เลยต้องมาใช้เวรใช้กรรมต่อไป จึงมาถ่ายทอดให้ฟัง
จากประสบการณ์จริงของคนเคยถูกอุ้ม...แล้วรอด
14 มิ.ย.56 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล ตร.กล่าวถึงกรณีที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นถึงคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง โดยระบุเป็นการฆาตกรรมอำพรางว่า น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และวางแผนเป็นอย่างดีว่า เรื่องนี้ทาง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายของนายเอกยุทธ และทนายมือ 1 ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธปิไตย (พธม.) ออกมาพูดให้ความเห็นว่าคดีนี้ยังมีปัญหา และยังมีข้อเท็จจริงอีกมากมาย ส่วนนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาให้ความเห็นใกล้เคียงกับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ และนายสุวัตร ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็พูดในมุมกว้างๆ ฉะนั้นเรื่องนี้ตนได้คุยกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ให้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึงทั้ง 4 คน เพื่อเชิญเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า เพื่อให้การนำเสนอเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส ซึ่งจะเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์เลย ที่จะให้ทางพนักงานสอบสวนบันทึกถ้อยคำการเข้าให้ข้อมูลของบุคคลทั้ง 4 คน หรืออนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการเข้าให้ข้อมูลได้ เพื่อนำไปเสนอเป็นข่าว ซึ่งจะทำให้เกิดความโปร่งใสและความชัดเจน แต่หากยังไม่มีความชัดเจนอีก ตนก็จะยื่นเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเชิญบุคคลทั้ง 4 คน รวมถึงตนเข้าให้ข้อมูลกับกรรมธิการ แต่ตนเชื่อว่า คดีนี้ทาง ผบ.ตร.และ ผบช.น.ทำงานมาถูกต้องและมีความสมบูรณ์แล้ว ทั้งข้อเท็จจริง พยานวัตถุ พยานแวดล้อม พบทั้งผู้ก่อเหตุและเงินของกลาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเรียนเชิญบุคคลดังกล่าวมาในฐานะอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนเหล่านี้พูดว่า นายเอกยุทธ ไม่ได้ตายแบบนั้นแบบนี้ ลักษณะการตายมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และมีการวางแผน บอกว่าไม่ได้ตายเพราะฆ่าชิงทรัพย์บ้าง รวมถึงมีการกล่าวถึง เสธ.คนหนึ่ง ฉะนั้นถ้ามีหลักฐานเพิ่มเติมทางตำรวจก็ต้องรับฟัง แต่ตนกลัวอย่างเดียวว่า บุคคลทั้ง 4 คน จะอ้างว่าติดงาน จึงมาไม่ได้
"วันนี้ตำรวจทำงานโปร่งใส จะได้พิสูจน์ทราบกัน เราไม่ได้ห้ามพวกท่าน แต่ใครจะมาพูดลอยๆ ไม่ได้ ซึ่งการทำงานของตำรวจยุค พล.ต.อ.อดุลย์ จะต้องตรงไปตรงมา" รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สน.วังทองหลาง ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือในการแจ้งข้อมูล ลงวันที่ 14 มิ.ย. โดยเรียนเชิญ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ และนายสุวัตร เข้ามาให้ข้อมูลในคดีการตายของนายเอกยุทธ์ กับพนักงานสอบสวน ที่ศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวที่ สน.วังทองหลาง เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความยุติธรรม และการสืบสวนสอบสวน หากไม่สะดวกจะมาพบในสถานที่ดังกล่าว พนักงานสอบสวนยินดีที่จะไปทำการสอบสวนตามสถานที่ที่ท่านได้นัดหมายให้ไปพบ
"หมอพรทิพย์"ปฏิเสธร่วมวงตรวจศพ"เอกยุทธ" ตัดพ้อถูกโยกพ้นนิติวิทยาศาสตร์แล้ว
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยกรณีที่มีการระบุว่า พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ทำหนังสือขอความร่วมมือให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ ว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าวและไม่ทราบว่าจะมีการขอความร่วมมือจากตำรวจ แต่เบื้องต้นคงไม่สามารถไปร่วมให้ข้อมูลในคดีดังกล่าวได้ เพราะขณะนี้ตนเองถูกโยกย้ายออกจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แล้ว คงไม่เหมาะสมและไม่น่าที่จะให้ความเห็นได้ และเห็นว่า หากจะมีการขอความร่วมมือควรขอไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์โดยตรง ซึ่งตนเองก็ต้องการทราบเช่นกันว่า การที่ตำรวจขอความร่วมมือมานั้นจะให้ไปทำอะไร เพราะขณะนี้ตนเองไม่มีหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว และไม่มีทีมงานที่จะไปทำงานให้ได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำดังกล่าวไม่น่าใช่การแก้ปัญหา
“หมอไม่เข้าใจเจตนาว่าเมื่อไม่ต้องการหมอแล้ว กระทรวงย้ายหมอไปจนพ้นจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แล้ว จะให้หมอไปทำอะไร หรือหากให้ไปทำงาน หมอก็ไม่มีทีมงาน ไม่มีเครื่องมือ หากต้องการขอความร่วมมือควรติดต่อไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะเหมาะสมกว่า มองว่าน่าจะเป็นการเล่นเกมกับหมอ”พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเห็นชอบให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ไปทำงานร่วมกับตำรวจ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า เบื้องต้นขอยืนยันว่า คงไม่สามารถไปทำงานให้ได้แต่ขอรอดูหนังสือที่ส่งถึงอย่างเป็นทางการก่อนจึงจะตอบได้ชัดเจน
"รมว.ยธ."ปัดสั่งหมอพรทิพย์พิสูจน์ศพ"เอกยุทธ"อ้างไม่ใช่ผู้บังคับบัญชา
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนไม่มีนโยบายพิเศษที่จะมอบหมายหรือสั่งการให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ไปร่วมกับตำรวจนครบาลเพื่อคลี่คลายคดีอุ้มฆ่าชิงทรัพย์นายเอกยุทธ เนื่องจากพญ.คุญหญิงพรทิพย์ไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตน แต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม หากสถานีตำรจนครบาลวังทองหลาง ต้องการส่งหนังสือขอตัวพญ.คุณหญิงพรทิพย์ไปร่วมการตรวจสอบคดีดังกล่าว ควรทำหนังสือส่งถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมโดยตรง
ผบช.น.แถลงข่าวจับกุม "เบิ้ม" ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม "เอกยุทธ" ซัดกลับ "บอล" เป็นคนบีบคอเอกยุทธจนแน่นิ่งก่อนใช้ให้เอาเชือกรองเท้ารัดคอให้ตายชัวร์ นำตัว"บอล"พร้อมพวกไปขออำนาจฝากขังที่ศาลอาญาและนำตัว "ไอ้เบิ้ม"ไปชี้จุดฝังที่พัทลุงอีกครั้ง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. แถลงข่าวจับกุมนายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม พิมพิสาร 1 ใน 4 ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจที่ถูกอุ้มฆ่า โดยระหว่างการแถลงข่าวตำรวจได้ให้นายสุทธิพงศ์ แสดงท่าทางเหตุการณ์ขณะใช้เชือกผูกรองเท้าลงมือรัดคอนายเอกยุทธด้วย ซึ่งนายสุทธิพงศ์ อ้างว่านายเอกยุทธ เสียชีวิตก่อนแล้ว โดยนายบอล ที่เป็นคนบีบคอนายเอกยุทธ จนแน่นิ่งและสั่งให้ตนใช้เชือกรองเท้าผูกคอซ้ำเพื่อความแน่ใจ
ภายหลังการแถลงข่าว ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสุทธิพงศ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับคนล่าสุด พร้อมกับจะนำตัวนายสันติภาพ หรือบอล เพ็งด้วง คนขับรถนายเอกยุทธที่ไปขออำนาจศาลฝากขังก่อนจะนำตัว นายสุทธิพงศ์ ขึ้นเครื่องบินตำรวจ พาไปชี้จุดบริเวณที่ฝังศพนายเอกยุทธ ในจ.พัทลุง ขณะที่นายสันติภาพ เพ็งด้วง นายชวลิต หรือเชา วุ่นชุม และนายทิวากร หรือทิว เกื้อทอง ที่มีส่วนร่วมนำศพไปฝังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.หัวหมาก พนักงานสอบสวนได้ส่งไปฝากขังที่ศาลอาญา เบื้องต้นคัดค้านการประกันตัว
ส่วนความคืบหน้าที่สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้นำตัวนายชวลิต วุ่นชุม นายทิวากร เกื้อทอง และนายสันติภาพ เพ็งด้วง ผู้ต้องหาคดีฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร ตรวจร่างกายและเก็บรายละเอียดตามเล็บ เพื่อนำไปตรวจสอบดีเอ็น จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสันติภาพไปทำแผนเพิ่มเติมเล็กน้อยตรงจุดวางปืนของนายเอกยุทธ ซึ่งนายสันติภาพชี้ว่า ปกตินายเอกยุทธ วางปืนประจำกายเอาไว้ตรงด้านซ้ายของที่นั่งเบาะหลังคนขับ ซึ่งตนได้ขโมยมาเก็บไว้ ก่อนจะนำออกมาจ่อข่มขู่นายเอกยุทธ ภายหลัง จากนั้นพ.ต.ท.กฤทตินาท ตุลยารักษ์ รอง ผกก.สน.วังทองหลาง พ.ต.ท.ณัฐนิติ หล๊ดหล๊ะ สวป.สน.วังทองหลาง พร้อมด้วยกำลังตำรวจ 12 นาย และพนักงานสอบสวน ควบคุมตัวนายสันติภาพไปที่ บช.น.เพื่อสอบปากคำร่วมกับนายสุทธิพงศ์ พิมพ์พิสาร ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกนายสันติภาพ ให้การว่าเป็นคนใช้เชือกรัดคอนายเอกยุทธจนเสียชีวิต จากนั้นค่อยนำตัวส่งฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ส่วนนายชวลิตและนายทิวากร พนักงานสอบสวนได้นำตัวฝากขังศาลอาญารัชดาไปก่อนโดยไม่ได้นำตัวไปที่บช.น
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012