28 มี.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ศาลอาญาสูงสุดของประเทศจีนตัดสินประหารชีวิต นายจาง จงเซิง (Zhang Zhongsheng) อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองหลู่เหลียง มณฑลซานซี ฐานกระทำการทุจริตรับสินบนเงินจำนวนกว่า 1,040 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 5,170 ล้านบาท ระหว่างปี 1997-2013 และให้ยึดทรัพย์ทั้งหมดเป็นของแผ่นดิน มูลค่ากว่า 1,500 ล้านหยวน
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า นายจางได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการช่วยเหลืออนุมัติโครงการและการเข้าถึงแหล่งถ่านหิน เพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตนจนสร้างความเสียหายมหาศาลต่อประเทศและประชาชน โกงเวลาราชการ ใช้วาจาข่มขู่ข้าราชการชั้นผู้น้อย และรับสินบนจากกลุ่มอิทธิพลแก๊งยาเสพติด แก๊งค้าอาวุธ
29 มี.ค.61 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ โพสตืข้อความผ่านเฟซบุ๊d Piyabutr Saengkanokkul ระบุว่า “วันนี้ ผมไปกินอาหารมื้อกลางวันและสนทนากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสถานทูตฝรั่งเศส ครั้งนี้ เปลี่ยนบทบาทไปจากเดิม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสพบปะสนทนากับพวกเขาบ่อยๆ ในฐานะนักวิชาการ แต่มาครั้งนี้ เปลี่ยนบทบาทไป เราสนทนากันเรื่องการก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ วัตถุประสงค์ของการทำพรรคการเมืองแนวใหม่ และแนวทางการดำเนินการต่อไป และพูดคุยถึงวิธีการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยในหลายโมเดล จากตัวอย่างของหลายประเทศ
เราสนทนากันนานเกือบสามชั่วโมง จนร้านปิด จนเหลือเราเป็นโต๊ะสุดท้าย จนได้เวลาที่ผมต้องกลับมาบรรยายที่คณะ ถึงแยกกัน
ตลอดสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้า พวกเรามีโปรแกรมพบกับเอกอัครราชทูตและตัวแทนจากสถานทูตอีกหลายประเทศ นับรวมโดยประมาณ อยู่ที่ 20 ประเทศ
ดังที่ผมเคยกล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า การทำพรรคการเมืองแนวใหม่ของพวกเรา สิ่งที่ขาดเสียมิได้ คือ การสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ทั้งการพบปะพูดคุยในระดับการทูต และทั้งการแลกเปลี่ยนสนทนา แลกเปลี่ยนความรู้กับองค์กรเอกชนและมูลนิธิที่สนับสนุนประชาธิปไตย
หากพรรคก่อตั้งขึ้นโดยสมบูรณ์ เราจะเดินหน้าเรื่องนี้เต็มที่
หลังจากนี้ ผมจะเริ่มคุยกับองค์กรเอกชนและมูลนิธิจากต่างประเทศให้มากขึ้น
ในอนาคต เมื่อพรรคเกิดขึ้น เราจะเชิญนักวิชาการ ปัญญาชน นักกิจกรรม ผู้เชี่ยวชาญในประเด็นต่างๆ ผู้มีชื่อเสียง จากหลากหลายประเทศ (ผมลิสต์รายชื่อและเริ่มดำเนินการติดต่อทาบทามบ้างแล้ว) มาพูดในเวทีเสวนาที่ทางพรรคจัดขึ้น”
29 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จะมีการประชุมในวันที่ 29 มี.ค.นี้ โดยคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีการครอบครองนาฬิกาหรูและแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งไม่มีการแจ้งในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการต่อป.ป.ช. จะรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นต่อที่ประชุมกรรมการชุดใหญ่ พร้อมนำเสนอแนวทางในกระบวนการตรวจสอบต่อไป
นอกจากนี้คณะทำงานยังจะขอมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ด้วยว่าหากยังเห็นว่าข้อมูลไม่สมบูรณ์เพียงพอ แล้วจำเป็นจะเชิญตัวพล.อ.ประวิตรมาให้ถ้อยคำเพื่อชี้แจงที่มาการครอบครองทรัพย์สินด้วยตัวเอง หรือไม่ หรือ หากผลการตรวจสอบ ของคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงมีความสมบูรณ์เพียงพอก็จะพิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวจะยุติ หรือจะต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นไต่สวน ข้อเท็จจริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยืนยันว่า ในการพิจารณาวาระเรื่องดังกล่าวจะถอนตัวจากที่ประชุม โดยไม่เข้าร่วมพิจารณา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ป้องกันข้อกังขากรณีมีส่วนได้เสียกับเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้หากพล.ต.อ.วัชรพล ถอนตัว จากที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.เมื่อเหลือกรรมการ 8 คน จะต้องมีการ เสนอชื่อผู้ใดผู้หนึ่งขึ้นมาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมแทน
ด้านคนใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้วิตกหรือกังวลใจกับการประชุมของปปช. ในวันนี้เพื่อพิจารณาว่าจะให้ พล.อ.ประวิตร มาชี้แจงกรณีแหวนเพชร นาฬิกาหรูด้วยตัวเองหรือไม่ เพราะไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น เพราะพล.อ.ประวิตรเคยพูดชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ไม่ได้พูดคุยกับเรื่องนี้กับใคร เพราะทุกอย่างมั่นใจในความบริสุทธิ์ถึงที่มาของแหวนเพชร และนาฬิกาหรูที่นำมาสวมใส่อยู่นั้น โดยเฉพาะนาฬิกาหรู ที่ พล.อ.ประวิตร เคยชี้แจงผ่านเอกสารไปถึง ปปช. ว่าเป็นนาฬิกาที่มีการยืมกันใส่ของเหล่าบรรดาเพื่อนๆ ที่สนิทสนมกัน
29 มี.ค.61 รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันอาทิตย์ที่ 1 เม.ย.61 นี้ นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ ได้นัดอดีต ส.ส.ในกลุ่มบ้านริมน้ำ และอดีตนักการเมืองในกลุ่ม 16 บางคน มารับประทานอาหารกลางวันที่บ้านริมน้ำ ย่านนนทบุรี ของนายสุชาติ ที่มักใช้เป็นสถานที่นัดพบสมาชิก และอดีตนักการเมืองกลุ่ม 16 อยู่เป็นประจำ เพื่อพูดคุยสถานการณ์ทางการเมือง
เบื้องต้น มีอดีต ส.ส.ในกลุ่มของนายสุชาติ หลายคนเดินทางมาร่วมด้วย อาทิ นายพิกิฏ ศรีชนะ และนายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน และยังมีข่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีความสนิทสนมกับนายสุชาติ และมีการคาดหมายว่าจะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางมารับประทานอาหารในครั้งนี้ด้วย
ข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านหลังพรรคพลังประชารัฐจดจองชื่อพรรคพลังประชารัฐกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แล้ว ปรากฏว่า มีระดับผู้ใหญ่ในรัฐบาลได้มีการสอบถามมายังผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐเป็นระยะๆว่า การก่อตั้งพรรค และรวบรวมอดีต ส.ส.มีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวว่า จะมีการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ ในเดือน มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ มีอดีต ส.ส.กระจายอยู่ในภาคกลางและภาคอีสาน อาทิ นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ และนายณัชพล ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายพิกิฏ ศรีชนะ นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร
นอกจากนี้ ในอดีตยังมีนักการเมืองชื่อดังอยู่ในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะตระกูลสะสมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นนายไชยา สะสมทรัพย์ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ และนายไชยยศ สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.นครปฐม รวมไปถึงนายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต รมช.มหาดไทย ขณะที่อดีตนักการเมืองกลุ่ม 16 ปัจจุบันกระจายตัวกันอยู่หลายพรรค แต่ยังไปมาหาสู่และรับประทานอาหารที่บ้านริมน้ำของนายสุชาติอยู่เป็นประจำ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รายละเอียดของการเยือน ซึ่งรวมถึงเป้าหมายและกำหนดการเดินทางครั้งนี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ในขณะที่สื่อญี่ปุ่นรายงานเมื่อวานนี้ว่า พบเห็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเกาหลีเหนือเดินทางโดยรถไฟมายังกรุงปักกิ่งของจีน ภาพข่าวจากนิปปอน นิวส์ เน็ตเวิร์ค ของนิปปอน ทีวี แสดงให้เห็นภาพตู้รถไฟสีเขียวที่มีสีเหลืองคาดเป็นลายทางยาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนรถไฟ 21 ตู้ ซึ่งเป็นตู้รถไฟลักษณะเดียวกับที่นายคิม จอง อิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือผู้เป็นบิดาของนายคิม จอง อึน เคยใช้เมื่อครั้งเดินทางมาเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2554 อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีฝ่ายใดยืนยันอย่างเป็นทางการในเรื่องการเยือนในครั้งนี้
ด้านผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เห็นขบวนรถออกจากบ้านพักรับรองเตียวหยูไถ่ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งมักใช้เป็นสถานที่พำนักของบรรดาผู้นำต่างชาติระหว่างเยือนกรุงปักกิ่ง และมุ่งหน้าไปทางตอนเหนือในเช้าวานนี้ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าขบวนรถมุ่งหน้าไปยังที่ใด ขณะที่นักท่องเที่ยวถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในพื้นที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน อย่างไรก็ตาม อีกกระแสข่าวระบุว่า อาจเป็นนางคิม โย จอง น้องสาวของนายคิมจอง อึน ซึ่งเคยมาเยือนเกาหลีใต้ช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือในกรุงปักกิ่งว่า นางคิม โย จอง และนายคิม ยอง นัม ผู้นำพิธีการของเกาหลีเหนือเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง ทั้งสองคนเคยพบปะกับผู้นำเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุด มีรายงานว่าขบวนรถไฟที่เชื่อกันว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือโดยสารมาด้วยเดินทางออกจากสถานีในกรุงปักกิ่งแล้ว แต่ไม่ชัดเจนว่ามีนายคิม จอง อึนอยู่บนขบวนรถไฟด้วยหรือไม่
นางหัว ชุน อิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในแถลงข่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจะเปิดเผยข้อมูลเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมอย่างไรก็ตาม จีนยังคงร่วมมือกับเกาหลีเหนือในการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากนิวเคลียร์
สำนักข่าวเกียวโด ของญี่ปุ่นอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดในเรื่องนี้ว่าเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเดินทางมากรุงปักกิ่งเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับจีนที่เกิดหมางเมิน หลังจากที่เกาหลีเหนือเดินทางพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และจีนสนับสนุนการใช้มาตรการลงโทษเกาหลีเหนือรุนแรงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
มอสโก (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) -กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซียแจ้งว่า เหตุไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าในเมืองเคเมโรโว ภูมิภาคไซบีเรียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 64 คนแล้ว
กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซียระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ตั้งแต่บ่ายวันอาทิตย์ได้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถขึ้นไปยังชั้นบนๆ ได้ เพราะเพดานห้างพังถล่ม ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 64 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กจำนวนมาก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 43 คน ขณะที่อีกกว่า 100 คน ได้รับความช่วยเหลือออกจากห้างสรรพสินค้าในขณะเกิดเพลิงไหม้ได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า ยังมีผู้สูญหายอีก 69 คนโดยเป็นเด็กถึง 41 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินถึง 660 คนระดมกำลังกันในการกู้ภัยซึ่งยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง แต่บางแหล่งข่าวระบุว่าอาจไม่มีโอกาสพบ ผู้รอดชีวิตเพิ่มหลายคนโพสต์ภาพญาติมิตรและคนรู้จักในสื่อสังคมออนไลน์เพราะยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ทางการได้ตั้งศูนย์ชั่วคราวที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นจุดประสานงานและติดต่อสอบถาม
28 มี.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ได้ประกาศเนรเทศเจ้าหน้าการทูตรัสเซีย 7 ราย ที่ปฏิบัติงานอยู่ในสำนักงานของรัสเซียประจำนาโต ปฏิเสธการรับรองเจ้าหน้าที่การทูตชุดใหม่จากกรุงมอสโกอีก 3 คน และลดจำนวนเจ้าหน้าที่ลงจาก 30 เหลือ 20 คน
โดยท่าทีดังกล่าวของนาโต มีขึ้นเพื่อตอบโต้กรณี นายเซอร์เก สกรีพาล วัย 66 ปี อดีตสายลับสองหน้าชาวรัสเซีย และยูเลีย วัย 33 ปี ลูกสาวของเขา ถูกวางยาด้วยสารพิษทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ในโครงการ "โนวิช็อก" จนอาการโคม่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอังกฤษชี้มีความเป็นไปได้สูงที่รัสเซียจะอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้มี 27 ประเทศ รวมถึงอังกฤษและสหรัฐ ได้ประกาศขับนักการทูตรัสเซียออกจากประเทศแล้ว 144 คน
"นี่คือการส่งสารที่ชัดเจนถึงรัสเซีย ว่าต้องมีค่าชดใช้และผลลัพธ์ที่ตามมาเสมอ ต่อรูปแบบพฤติกรรมที่อันตรายและไม่เป็นที่ยอมรับของพวกเขา" นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ระบุ
ขณะที่ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะไม่อดทนต่อความน่าสะอิดสะเอียน ที่อังกฤษ สหรัฐ และอีกหลายประเทศ ที่กล่าวหาพวกเราโดยไม่มีหลักฐาน เราจะตอบโต้ ไม่มีใครที่จะอยู่เฉยกับพฤติกรรมอันหยาบกระด้างเช่นนี้ได้ และเราก็จะไม่ทน
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012