ข่าว
หนุ่ม 'ไอ้จ้อน' ใหญ่สุดในโลก 13.5 นิ้ว ถูกกักตัวที่สนามบิน คิดว่าซุกซ่อนระเบิด

หนุ่มนิวยอร์กถูกกักตัวที่สนามบินซานฟรานซิสโก หลังเป้ากางเกงตุงผิดปกติ หวั่นพกพาระเบิดหรือวัตถุผิดกฎหมาย แต่สุดท้ายถึงกับเงิบ เพราะเป็นเจ้าของสถิติไอ้จ้อนใหญ่สุดในโลก...

เมื่อวันที่ 17 ก.ค โจนาห์ ฟัลคอน ชายวัย 41 ปี ชาวเมืองนิวยอร์ก ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความปลอดภัยด้านการขนส่งสหรัฐฯ (ทีเอสเอ) กักตัวที่ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก หลังตาไวมองเห็นเป้ากางเกงของเขานูนตุงกว่าปกติ เกรงซุกซ่อนของผิดกฎหมายไว้ภายใน ซึ่งอาจเป็นระเบิด หรือวัตถุอันตรายทางชีวภาพ

ทั้งนี้ ฟัลคอน เพิ่งปรากฏในรายการสารคดีทางสถานีโทรทัศน์ "เอชบีโอ" เกี่ยวกับขนาดอวัยวะเพศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ราว 9 นิ้ว และ 13.5 นิ้วเมื่อแข็งตัวเต็มที่ เขาระบุว่า "เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายหนึ่ง ถามผมว่ากระเป๋ากางเกงไม่มีอะไรใช่ไหม ผมตอบว่าใช่ นั่นมันไอ้หนูของผม เขาตรวจสอบให้แน่ใจด้วยการใช้เปล่ามือตบเบาๆ รอบๆ น้องชายของผม และโรยผงแป้งสีขาว เพื่อตรวจหาระเบิดด้วย ผมขำมาก" นอกจากนี้ ฟัลคอน ยังถูกพาไปเอ็กซเรย์ร่างกายด้วย

อนึ่ง ฟัลคอน กลายเป็นที่รู้จักในสหรัฐฯตั้งแต่ปี 1999 เนื่องจากมีขนาดอวัยวะเพศใหญ่พิเศษ ส่วนปัจจุบันเขามีอาชีพเป็นนักรีวิวเกมคอมพิวเตอร์ทั่วไป ขณะที่หน่วยงานทีเอสเอ ไม่ได้ติดต่อกลับมายังสนามบิน ถึงกรณีของฟัลคอนแต่อย่างใด.

หนุ่มมะกันจอมโหด ยิง 12 ศพในโรงหนัง

วันที่ 20 ก.ค. บีบีซีรายงานว่า เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นที่โรงภาพยนตร์เซนจูรีในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เมื่อชายคนหนึ่งสวมหน้ากากกันพิษพร้อมอาวุธปืนบุกเข้ามาในโรงภาพยนตร์ ขณะกำลังฉายภาพยนตร์แบ๊ทแมนภาคใหม่ แบ๊ตแมน: เดอะ ดาร์ก ไนต์ ไรเซส รอบเที่ยงคืน และเปิดฉากยิงใส่ผู้คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย บาดเจ็บอีกประมาณ 50 คน ในจำนวนผู้บาดเจ็บมีเด็กอายุ 6 ขวบรวมอยู่ด้วย โดยเหยื่อเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 10 ราย ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 4 ราย

ตำรวจเมืองเดนเวอร์ระบุว่าจับผู้ก่อเหตุได้ที่โรงจอดรถของภาพยนตร์พร้อมปืนไรเฟิลและปืนพกนอกจากนี้ คนร้ายยังบอกตำรวจว่ามีระเบิดจำนวนหนึ่งอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของตนด้วย ทำให้ตำรวจเร่งอพยพผู้คนจากอาคารหลังดังกล่าวและเข้าเคลียร์พื้นที่

พยานในที่เกิดเหตุกล่าวว่า คนร้ายสวมแต่งกายสีดำ สวมหน้ากากกันพิษของหน่วยปราบจลาจล ชุดเกราะกันกระสุน และมีอุปกรณ์ช่วยมองเห็นในความมืด โดยคนร้ายเดินเข้ามาที่ทางออกใกล้กับแถวหน้าสุด ก่อนโยนระเบิดควันหรือไม่ก็แก๊สน้ำตา เมื่อควันเริ่มออกมา มือปืนดังกล่าวก็กราดยิงใส่ผู้คนที่ชมภาพยนตร์อยู่ ส่วนพยานที่ชมภาพยนตร์อยู่ในโรงข้างๆ ระบุว่าได้ยินเสียงปืนและเห็นควันออกมาจากจุดเกิดเหตุ แต่ตอนแรกคิดว่าเป็นเทคนิคพิเศษของโรงภาพยนตร์ จนกระทั่งได้ยินเสียงผู้คนกรีดร้องจึงพากันหนีออกมาจากโรงภาพยนตร์

ด้านสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) ระบุว่าเหตุกราดยิงในโรงภาพยนตร์นี้ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และต่อมา เอฟบีไอเผยชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว คือนายเจมส์ โฮล์มส์ อายุ 24 ปี เคยเรียนระดับปริญญาเอก ด้านประสาทวิทยาศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด และอยู่ระหว่างการถอนตัวจากการเรียน ส่วนเพื่อนบ้านของกล่าวว่า โฮล์มส์ดูเป็นคนเงียบๆ ขี้อาย ยังหางานทำไม่ได้ หลังจากจบปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเปิดในรัฐแคลิฟอร์เนีย

'ยิ่งลักษณ์' เยือนฝรั่งเศส สานต่ออุตสาหกรรมแฟชั่น

นายกฯยิ่งลักษณ์ เยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ 19-21 ก.ค.นี้ พบประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลองด์ สานต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น พร้อมเชิญชวนนักธุรกิจน้ำหอมร่วมลงทุนในไทย...

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 19-21 ก.ค. ตามคำเชิญของนายฟรองซัวส์ ออลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส คณะทางการประกอบด้วยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้แทนภาคเอกชนไทย การเยือนในครั้งนี้เป็นการเยือนประเทศในยุโรปอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี และเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลก และเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคยุโรปและเวทีโลก วัตถุประสงค์ของการเยือนฝรั่งเศสในครั้งนี้ จึงเน้นการให้ความสำคัญต่อความเป็นหุ้นส่วนด้านยุทธศาสตร์ของไทยและฝรั่งเศส พร้อมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางการเมืองและความพร้อมของไทย ที่จะมีบทบาทอย่างแข็งขันในเวทีระหว่างประเทศ นอกจากนี้ การเยือนยังตอกย้ำศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยในฐานะศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการแสวงหาลู่ทางในการขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน

ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบหารือกับนายฟรองซัวส์ ออลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันนโยบายของไทยที่จะสานต่อความร่วมมือกับฝรั่งเศสในทุกมิติ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น พร้อมทั้งสนับสนุนการเดินหน้าแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปอย่างเต็มที่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสดังกล่าวชี้แจ้งและสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับ สถานการณ์ในไทย พร้อมเชิญชวนนักธุรกิจฝรั่งเศสร่วมลงทุนในไทย.