ข่าว
'สมรักษ์' คืนเวทีปีหน้า 5 ไฟต์ ลั่นต้องมีเดิมพันทุกครั้ง

สมรักษ์ คำสิงห์ กลับมาชกมวยไทยอีกครั้ง ใช้สีเสื้อค่ายใหม่ ส.เทพสุทิน แต่มีข้อแม้ ชกครั้งใดต้องมีเดิมพัน เซ็นสัญญาชกในสังกัด “เพชรยินดี” 5 ไฟต์ ในปี 2556 ประเดิมเป็นทางการ วันที่ 7 ธ.ค.นี้ ชกในรายการวันเกิดสนามมวยลุมพินี...

วันที่ 21 ต.ค. หลังจากอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกไทยคนแรก สมรักษ์ คำสิงห์ คว้าเดิมพันชนะ ทีเคโอ ยอดวันเผด็จ สุวรรณวิจิตร หลายล้านไป เมื่อเร็วๆ นี้แล้ว และมีข่าวจะกลับมาชกมวยไทยอีกครั้งและ ล่าสุด "กราวกีฬาไทยรัฐ" ได้รับการยืนยันจาก “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ เจ้าของรายการศึกเพชรยินดี ว่าได้เซ็นสัญญากับสมรักษ์เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ สมรักษ์จะชกในนามค่าย ส.เทพสุทิน มีโปรแกรมชก 5 ไฟต์ ในปี พ.ศ.2556 ซึ่งคู่ชกจะเป็นการเสาะหาเป็นครั้งๆ ไป โดยจะได้ค่าเหนื่อยไฟต์ละ 3 แสนบาท แต่มีข้อแม้ว่าในการชกแต่ละครั้ง จะต้องมีการเดิมพันด้วย “เสี่ยเน้า” กล่าวต่อไปว่า สมรักษ์ ส.เทพสุทิน จะชกครั้งแรก หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว ในศึกมวยวันเกิดสนามมวยเวทีลุมพินี วันที่ 7 ธ.ค.ปลายปีนี้

มะเร็งคร่าชีวิต“เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์”ในวัย63

วันที่ 20 ต.ค. นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด(มหาชน) หรือบีบีซี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารดังกล่าว แล้วถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 20 ปี จากนั้นได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดจนต้องมารักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 63 ปี ในตอนเช้า โดยกำหนดรดน้ำศพในช่วงเย็น และสวดอภิธรรม ที่ศาลาเจ้าจอม วัดธาตุทอง ถนนสุขุมวิท หลังจากนั้นจะเก็บศพไว้ 100 วัน

นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ มีชื่อเล่นว่า ตั้ว เป็นบุตรชายของนายนิธิพัฒน์ ชาลีจันทร์ กับนางอินทิรา ชาลีจันทร์ จบปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา เคยทำงานกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ภัทรธนกิจ ก่อนจะไปทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นเวลา 10 ปี ตำแหน่งสุดท้ายคือ หัวหน้าส่วนวิเคราะห์สถาบันการเงิน

ปี พ.ศ. 2529 นายเกริกเกียรติได้เข้ามาทำงานที่ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวฝ่ายมารดา ในตำแหน่งรอง กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายสาขา ก่อนจะรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ในเวลาต่อมา ภายใต้การบริหารงานธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ นายเกริกเกียรติ ได้ขยายกิจการธนาคาร โดยมุ่งเน้นไปที่สายงานวาณิชธนกิจ, บริหารเงิน และการต่างประเทศ โดยการดำเนินงานของนายราเกซ สักเสนา นักการเงินชาวอินเดีย ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่

จนวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2539 ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ายึดกิจการธนาคารกรุงเทพพาณิชการ และสั่งปิดกิจการ พร้อมกับฟ้องศาลดำเนินคดีกับนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ และนายราเกซ สักเสนา ว่ากระทำผิดตามกฎหมาย ธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 และ กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ในข้อกล่าวหา ฉ้อโกงและยักยอก รวมทั้งสิ้น 17 คดี มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นได้มีตัดสินเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2552 สั่งจำคุกนายเกริกเกียรติ 20 ปี และปรับเป็นเงิน 3.1 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โดยนายเกริกเกียรติได้ขอเลื่อนการพิจารณา โดยให้เหตุผลว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งถือว่าการเสียชีวิตของนายเกริกเกียรติ เป็นการปิดฉากตำนานแบงก์บีบีซี


อ.หนู - พระใบฎีกา ต่างยันมีหลักฐานชัด คดีเงินบริจาค 100 ล้าน

วันที่ 20 ต.ค. ที่สำนักสักยันต์ชื่อดัง อ.หนูกันภัย เลขที่ 95/5หมู่ 1 หมู่บ้านพูลศรี ถนนปทุมธานีสายใน ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์ที่สำนักสักยันต์ดังกล่าว หลังจากที่ได้มีเหตุการณ์ที่พระใบฎีกาเทียนชัย สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ต.ทาเหนือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ได้ยื่นหนังสือให้กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)เพื่อให้ตรวจสอบกรณีเงินรับบริจาคของประชาชนร่วมทำบุญเพื่อนำเงินไปทำการสร้างพระหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

วันนี้ที่สำนักสักยันของยังคงเปิดสักยันต์ให้กับลูกศิษย์ตามปกติ ซึ่งบรรยากาศทั่วไปอาจจะเงียบเหงาไปบ้าง โดยอาจารย์หนู เปิดเผยว่า ไม่อยากจะให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องว่ากันไป สำหรับเรื่องเงินที่ทางเจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ จ.เชียงใหม่ ได้ทำเรื่องร้องเรียนกับดีเอสไอนั้น ทางอาจารย์มีหลักฐานการจ่ายเงิน เพื่อนำไปสร้างหลวงปู่ทวดอยู่แล้ว 70 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมค่าสักยันที่มอบให้อีกกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งอาจารย์ก็ได้เดินทางไปที่วัดแม่ตะไคร้และสักยันต์ให้กับลูกศิษย์ที่นั่นประมาณ 30 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งนั้น จะได้เงินครั้งละนับล้านบาท ซึ่งทางวัดจะเป็นคนดำเนินการเรื่องเงินตรงนี้ทั้งหมดโดยที่อาจารย์เองไม่เคยได้จัดการกับเงินตรงนี้เลย

ด้าน พระใบฎีกาเทียนชัย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตามที่อาจารย์หนู กันภัย ได้โชว์หลักฐานว่าได้จ่ายเงินให้ทางวัดมาครั้งละ10 – 20 ล้านนั้น อาตมายืนยันว่าไม่เป็นความจริงและไม่มีทางเป็นไปได้เพราะตั้งแต่เริ่มสร้างหลวงปู่ทวดมาตั้งแต่ปี 2551 อาตมาจะได้เงินมาแต่ละครั้งแค่หลักแสนเท่านั้น และในส่วนของใบอนุโมทนาบัตร อาตมาจำได้เมื่อครั้งที่เททองหล่อชิ้นส่วนหลวงปู่ทวดที่หน้าสำนักสักยันต์ อ.จารย์หนู เมื่อปี พ.ศ.2551 อาตมาได้ทิ้งใบอนุโมทนาบัตรไว้ประมาณ 3 เล่ม เล่มละ 100 ใบ ที่อาตมาเซ็นชื่อไว้และใช้ไปมีประมาณ 100 ใบ เท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นถ้ามีการเอามาใช้ เพื่อเป็นพยานหลักฐาน จะต้องมีการตรวจสอบลายเซ็นว่าของอาตมาหรือไม่


"บัวขาว"สอยนักชกอิตาลีร่วงยก3-ทะลุเข้ารอบรองศึกไทยไฟต์2012

การแข่งขันชกมวยไทยโลก หรือ ไทยไฟต์ กลับมาอีกครั้ง ในวันที่ 23 ตุลาคม เป็นการชกรอบแรก ที่ชาญชัย อะเคเดียม ภายใน ม.กรุงเทพธนบุรี ในวันนี้มีชกทั้งหมด 8 คู่ แบ่งเป็นรุ่นเวลเตอร์เวท (67 กก.) และรุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท(70 กก.) อย่างละ 4 คู่ โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานอำนวยการ การจัดการแข่งขันไทยไฟต์เป็นประธานกล่าวเปิดการแข่งขัน ท่ามกลางผู้ชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มาจนเต็มความจุ

สำหรับคู่เอกประจำวันนี้ อยู่ในคู่ที่ 6 เป็นการแข่งในรุ่น 70 กก. นักชกขวัญใจชาวไทย และเจ้าของแชมป์ไทยไฟต์เมื่อปีที่แล้ว "ดำดอทคอม" บัวขาว ป.ประมุข ขึ้นสังเวียนรอบแรกพบกับ เมาโร เซียร์น่า นักชกจากอิตาลี

ยกแรกทั้ง 2 ฝ่ายต่างหาจังหวะรุกเข้าหากัน โดยบัวขาวให้ทางเมาโรเข้าหา แล้วรอเตะสวนกลับ ท้ายยกแรก บัวขาวได้จังหวะปล่อยหมัดชุดรัวใส่เมาโรไม่ยั้ง เรียกเสียงเฮจากผู้ชมก่อนหมดยกแรก

ยกที่สอง นักชกจากแดนมักกะโรนีเดินหน้าใส่ไม่ยั้ง แต่บัวขาวก็ตั้งรับ แล้วใช้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยทั้งศอก และเข่า จนเมาโรทำอะไรไม่ถนัด

พอมาถึงยกสุดท้าย บัวขาวใส่เกียร์เดินหน้าต่อยไม่ยั้ง ก่อนจะใช้ศอกขวาส่งเมาโรลงไปนั่งบนเวทีให้กรรมการนับ ทำให้บัวขาวเป็นฝ่ายชนะเมาโร เซียร์น่าไปท่ามกลางสะใจของแฟนๆ ที่เข้ามาชม

ขณะที่นักมวยชาวไทยอีกคน สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ ขึ้นชกในรุ่น 67 กก. กับ แวทนิคัต แวลดริม นักมวยจากเบลเยียมผลปรากฎว่า ผ่านเข้าสู่รอบรองฯ ตามบัวขาวไปอีกคน

สำหรับไทยไฟต์รอบรองชนะเลิศ จะแข่งกันในวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่อาคารอินดอร์สเตเดี้ยม สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 จ.นครราชสีมา

แห่ทาเล็บแดงแขวนปลัดขิกป้องกันผีแม่ม่าย

ข่าวลือเรื่องผีแม่ม่ายอาละวาดคร่าชีวิตผู้ชายในพื้นที่หมู่บ้านหัวหนอง หมู่ 2 และหมู่ 17 บ้านรัตนวารี อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น สร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านอย่างมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าวันนี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าชายในหมู่บ้านแทบทุกคนต่างแห่ทาเล็บสีแดง ทั้งยังนำไม้มาแกะสลักเป็นรูปอวัยวะเพศชาย (ปลัดขิก) แขวนไว้ตามหน้าบ้าน บางรายถึงกับนำมาห้อยคอ เพื่อความอุ่นใจ นางพรม เผ่ามณี อายุ 69 ปี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ชาวบ้านเชื่อว่ามีจริงและมีอยู่ 3 ตน โดยมีการเล่าผ่านกันปากต่อปากว่าชาวบ้านบางคนเกิดฝันประหลาดเห็นผีแม่ม่ายมาบอกว่าต้องการคนงานไปทำงานในเมืองผี โดยจะเอาเฉพาะผู้ชายเท่านั้น และจากนั้นบรรดาผู้ชายในหมู่บ้านต่างทยอยล้มหายตายจากไปอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุมีทั้งนอนใหลตาย อุบัติเหตุ บางรายเกิดจากการผูกคอตายเอง ด้านนายสวัสดิ์ กะลาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 17 กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้จะจัดงานทำบุญสะเดาะเคราะห์ เพื่อความเป็นศิริมงคลและความสบายใจ โดยจะนิมนต์พระเก้ารูปมาร่วมกันสวด ส่วนเรื่องผีแม่ม่ายจะมีจริงหรือไม่คงไม่ขอออกความคิดเห็นใด ๆ