13 ต.ค.65 จากกรณี #เดี่ยว13 ของ “โน้ต อุดม” ซึ่งมีการนำมาเผยแพร่บน Netflix และมีการพูดถึงการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนกลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเซี่ยล ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในไทยเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดมีกระแสเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างดุเดือดตามมาทันที

ล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆว่า" โน้ส เดี่ยว13 ให้ท้ายม็อบก้าวล่วงหรืออย่างไร? พูดเอามัน เอาฮา ไร้เหตุผล และให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณชน..เดี๋ยวเจอกัน..!!"

ขณะเดียวกันในซีกของกองเชียร์ลุงตู่ ปรากฏว่าออกมาคอมเมนต์ในกลุ่ม“เรารักลุงตู่” แบบเดือดทะลุจอเช่นกัน โดยเฉพาะมีการแชร์ข้อความที่ระบุว่า "ซีดีโน๊ตอุดมที่ผมสะสมไว้หลายสิบแผ่นได้ลงถังขยะเป็นที่เรียบร้อยวันนี้ #เลิกสนับสนุนโน๊ตอุดม" ขณะที่อีกฝ่ายเข้าไปแซะกลับในทำนองว่า พี่โน๊ตเก่งมากครับพูดให้คนส่วนมากมีความสุขส่วนคนส่วนน้อยดิ้นจนใกล้ตาย ,สลิ่มเขารับความจริงไม่ได้หรอครับ, เป็นต้น ส่วนบางรายก็ระบุว่า สำหรับโน๊ต อุดมแซะมาตั้งแต่ทักษิณ ยันอภิสิทธ์ ยันยิ่งลักษณ์ ก็ไม่เห็นใครมันจะเป็นจะตาย

13 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรถนนบรมราชชนนีว่า ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นผิวการจราจรทั้ง 2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ และขาออก จ.นครปฐมประมาณ 25-30 เซ็นติเมตร รถขนาดเล็กจอดเสียหลายคันช่วงขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน จึงทำให้การจราจรติดขัดยาวกว่า 20 กิโลเมตร และวันนี้น้ำสูงกว่าทุกวันที่ผ่านมาทำให้ตำรวจต้องปิดการจราจรแยกเข้าถนนบรมราชชนนีให้ไปไช้เส้นทางเพชรเกษมแทน

ส่วนในตัวอำเภอนครชัยศรี ถนนเส้นทางเข้าอำเภอแยกท่านาน้ำท่วมสูงเกือบตลอดเส้นทางทั้งเข้าและออกและตามชุมชนต่างๆ มวลน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่หลายตำบลของอำเภอนครชัยศรีแล้วทั้งที่อยู่ติดริมแม่น้ำและส่วนชุมชนที่ไม่ได้อยู่ติดริมแม่น้ำๆ ก็จะเอ่อล้นเข้ามาตามท่อระบายน้ำเช่นกัน และจังหวัดนครปฐมตอนนี้น้ำท่วมทั้งหมด 7 อำเภอแล้ว ผลมาจากมวลน้ำตอนบนที่ปล่อยลงมาบวกกับน้ำทะเลหนุนสูงจึงทำให้จังหวัดนครปฐมน้ำท่วมทุกอำเภอ

วันนี้ (13 ต.ค.65) เวลา 15.30 น.ที่บ้านหนองโก ต.บุ่งแก้ว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี น.ส.วาสนา เคนหล้า,นายอิสระ มิรัตนไพร,,นายศิริฐาโรจน์ จินดา แดง DM ,และนายประมวล แสงวงษา คนเสื้อแดงที่จ.อุดรธานี ได้ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนกรณีผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย เขต 7 คือ อ.กุมภวาปี,อ.โนนสะอาด,อ.หนองแสง ได้ออกมาแถลงว่า อยากจะสื่อไปถึงพรรคเพื่อไทยทบทวนผู้ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทยในเขตนี้ เพราะเขาเคยไปอยู่พรรคอื่น แล้วกลับมาหาที่อยู่ใหม่

น.ส.วาสนา กล่าวยืนยันว่า ตามที่กล่าวอ้างว่าพวกเราเป็นไม่ใช่แดงเทียม มันไม่ใช่ ทุกคนอยู่ทีนี้คือแดงแท้ทั้งนั้น อย่างตนได้เข้าร่วมการต่อสู้ในฐานะคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ปี 2553 อยู่ในเหตุการณ์ทางการเมืองในแทบๆ ทุกเหตุการณ์ พวกเราไม่เคยเปลี่ยนสีเสื้อไปสังกัดพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการแม้แต่คนเดียว การที่ออกมาชี้แจงครั้งนี้อย่างจะสื่อไปถึงคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย พวกเรามิได้มีเจตนาจะให้ร้ายต่อใคร ไม่ได้บอกว่าพวกเราเป็นคนเสื้อแดงที่มีเลือดเข้มข้นกว่าคนอื่น แต่เราเป็น “แดงที่ใจ ไม่เคยเปลี่ยนอุดมการณ์”

"อย่างพ่อประมวล แสงวงษา คนเสื้อแดงตัวจริงท่านนี้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยที่ไม่หวังผลการเมือง เป็นชาวบ้านมาด้วยใจ ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน ฐานปิดถนนหน้าที่ว่าการอำเภอโนนสะอาด และคนเสื้อแดงหลายท่านที่มาวันนี้ พวกเราอยากให้พรรคเพื่อไทยทบทวนผู้ลงสมัครในนามพรรคฯ ในเขตนี้อีกที อยากจะฝากถึงพรรคเพื่อไทย หากทางพรรคฯ ยังหวังแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้ง ก็ได้ขอโปรดทบทวนพิจารณาส่งผู้จะลงสมัคร ส.ส.ให้รอบคอบ เพราะเขตนี้มีผู้สนใจลงสมัครไม่ต่ำกว่า 6 คน พวกเรายืนยันต้องการคนรุ่นใหม่ จริงใจ ใส่ใจประชาชน มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มั่นคง และพร้อมสนับสนุนหากพรรคส่งคนที่ “ใช่” มาลงสมัคร โดยวันที่ 15 ต.ค.65 พวกเราคนเสื้อแดงจะรวมตัวกันที่สวนลิง อ.กุมภวาปีอีกครั้งเพื่อดูท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อไป" น.ส.วาสนากล่าวตอนท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายธีระชัย แสนแก้ว หรืออีโต้อีสาน ได้ออกมาระบุว่า ถูกกลุ่มคนอ้างเป็นคนเสื้อแดงปลุกม็อบสร้างกระแสต่อต้านตนลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย พร้อมชี้ว่ากลุ่มคนดังกล่าวไม่ใช่คนเสื้อแดงตัวจริง แต่เป็นคนสีส้มหวังดิสเครดิตทางการเมือง แต่สำหรับพวกตนคือแดงแท้ ไม่ใช่แดงเทียม และไม่ใช่คนเนรคุณพรรคเพื่อไทย

วันที่ 13 ตุลาคม 2565 เวลา 15 .00 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านโนนหอม ตำบลโนนหอม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ว่า มีโจรใจบาป ขโมยเงินในโหล่กระดูกผู้ตาย เหตุเกิดที่วัดป่าบ้านโนนหอม ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงวัดป่าบ้านโนนหอม พบชาวบ้านกำลังเก็บกวาดกระดูกบรรพบาของตน บางคนถึงกับร้องให้ หลายคนยกมือใส่หัวพร้อมกับสาปแช่งโจรใจบาปให้มีอันเป็นไป ที่บังอาจมาล่วงเกินธาตุกระดูกบรรพบุรุษที่ตายไปแล้ว เพียงเพราะเงินที่อยู่ในโหลกระดูก 32 บาท ที่ทางญาติใส่ไว้ในโหลกระดูกเพื่อเป็นอุบายว่า ให้ผู้ตายน้ำไปใช้ และหากได้เกิดใหม่ชาติต่อไปให้เกิดมาพร้อมอาการ 32 ประการ

นายชาญชัย เกษมสานต์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนหอม หมู่ 1 กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบธาตุใส่กระดูก พร้อมโหล่ใส่กระดูกถูกโจรทุบเสียหายกว่า 100 โหล พบโหลกระดูกตกแตก เศษกระดูกบรรพบุรุษของชาวบ้านกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นดิน เป็นที่น่าเศร้าใจยิ่งนัก ชุมชนภูไทโนนหอมแห่งนี้ เป็นชนเผ่าภูไทที่นับถือผีบรรพบุรุษ ทุกๆเทศกาลงานบุญ ญาติพี่น้อง ลูกหลานจะลงมาทำบุญ ปัดกวาด ทำความสะอาดบริเวณธาตุบรรจุกระดูกตลอดมา เพื่อความเป้นศิริมงคลแก่วงศ์ตระกูล ตั้งแต่ตั้งหมู่บ้านแห่งนี้มา เหตุการณ์แบบนี้พึ่งเกิดเป็นครั้งแรก

ด้านนาย วีระเพชร ไขประพาย ผู้ใหญ่บ้านโนนหอม หมู่ 2 กล่าวว่า ถือว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้พี่น้องประชาชน เผ่าภูไทโนนหอมเสียใจยิ่งนัก เพราะมีหลายโหลกระดูกถูกทุบทำลาย ถือเป็นการรบกวนคนตาย บรรพบุรุษที่จากไปแล้วควรที่จะได้อยู่อย่างสงบ ต่อจากนี้จะมีการประชุมชาวบ้าน คงจะต้องมีการทำบุญหมู่บ้านครั้งใหญ่ ในส่วนของการสืบหาโจรรายนี้ ทางหมู่บ้านได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าจะได้ตัวผุ้ก่อเหตุในไม่ช้า

วันที่ 13 ต.ค.65 นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าที่ร้อยตรีภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน และนายภาณุเดช ชัยสกุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมให้การต้อนรับคณะนักเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ของสายการบินนกแอร์ ซึ่งเปิดให้บริการเที่ยวบินเส้นทางเชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน - เชียงใหม่เป็นวันแรก ภายหลังจากสายการบินบางกอก แอร์เวย์ เคยทำการบินและยกเลิกเที่ยวบินในช่วงโควิด โดยเที่ยวบินของนกแอร์ เส้นทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ให้บริการทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดีและวันเสาร์ โดยในช่วงนี้มีโปรโมชั่นตั๋วราคา 1,000 บาท (6 ที่นั่ง) ทุกเที่ยวบิน

นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวว่า การให้บริการทางอากาศยานโดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน เส้นทางเชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน – เชียงใหม่ จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง และนักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาพักผ่อนในจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

13 ต.ค. 65 นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 เปิดเผยความคืบหน้าการดูแลสุขภาพของลูกช้างป่าพลัดหลงว่า จากผลการตรวจตัวอย่างเลือดของลูกช้างป่าจากห้องปฏิบัติการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ผลการตรวจยืนยันโรคเฮอร์ปีส์ไวรัส ให้ผลสงสัย (suspect) ต่อเชื้อ EEHV type 1 โดยในระหว่างนี้ สัตวแพทย์จะดำเนินการให้ยาเพื่อใช้ต้านไวรัสเฮอร์ปีส์ไวรัส และจัดหาซื้อยาต้านไวรัสเพื่อให้เกิดความเพียงพอและความต่อเนื่องกับการรักษา รวมทั้งให้ยาเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันกับลูกช้างป่า นอกจากนี้เพื่อลดความเครียดที่จะเกิดขึ้นกับลูกช้างป่า 100% จะงดการเข้าเยี่ยมชมจากบุคคลภายนอก

โดยตั้งแต่วานนี้ (12 ต.ค.65) เวลา 12.00 น. จนถึงวันนี้ เวลา 6.00 น. ลูกช้างกินนมทั้งหมด 11 ครั้ง จำนวน 6.9 ลิตร นอนหลับเฉลี่ยต่อครั้งประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง การขับถ่าย ปกติ เป็นเนื้อครีมเหลว อุณหภูมิร่างกายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 37.0 องศาเซลเซียส สุขภาพทั่วไปร่าเริง เริ่มป่ายปีนคอก เจ้าหน้าที่จึงพาออกเดินกำลังกายในตอนเช้า ให้ยาต้านไวรัสผสมกับนมให้กิน เสริมวิตามิน ซีกับนมให้กินนม ในช่วงคืนที่ผ่านมาได้ห่มผ้าและจุดไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นตลอดทั้งคืน ส่วนบาดแผลตามร่างกายแห้งสนิทดีและในระหว่างนี้จะมีสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ดูแลลูกช้างป่าอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง