ข่าว
ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง กรณีแกนนำฝ่ายค้านขึ้นเวทีเสวนาที่ปัตตานี

ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง กรณี ส.ส.พลังประชารัฐ เข้าชื่อกับเพื่อน ส.ส. ขอให้วินิจฉัยความเป็น ส.ส. ของแกนนำฝ่ายค้าน หลังขึ้นเวทีเสวนาที่ปัตตานี

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่คำสั่งศาลไม่รับคำร้องของประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ส่งคำร้องของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.รวม 61 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกสภาพความเป็น ส.ส. ของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่

ในขณะนั้น นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(7) ประกอบมาตรา 185 (1) กรณีใช้สถานะ ตำแหน่ง การเป็น ส.ส. กระทำการก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการ ในหน้าที่ประจำของข้าราชการ หน่วยราชการ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง

จากเหตุ 5 ส.ส. ยกเว้น นายปิยบุตร ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2562 และเห็นชอบกับการที่ นางชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์มหาลัยเกษตรศาสตร์ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 1 โดยมิได้คัดค้าน หรือชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยก ซึ่งต่อมา พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักพระธรรมนูญทหารบก และผู้อำนวยการสำนักงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีกับ 5 ส.ส. ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ ส.ส.ทั้ง 5 คน มีการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.บุรินทร์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 มาตรา 172 มาตรา 174 มาตรา 326 และมาตรา 328

ส่วน นายปิยบุตร ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2562 ว่า มีการร้องเรียนกรณีเจ้าหน้าที่ของ คสช. แจ้งความดำเนินคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 หากมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ก็จะเชิญ พล.ต.บุรินทร์ มาชี้แจง

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการที่ ส.ส.ทั้ง 5 คน ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีอาญาต่อแม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.บุรินทร์ ถือเป็นการใช้สิทธิ์ตามปกติของกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ส่วนการกระทำของนายปิยบุตร เป็นเพียงการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการกฎหมายและการยุติธรรมฯ เท่านั้น ยังไม่ได้มีการดำเนินการอื่นที่เป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่ง ส.ส. กระทำการใดซึ่งมีลักษณะเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตน ผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ในการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานประจำของข้าราชการ อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.ต้องสิ้นสุดลง.

'ในหลวง'พระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ.2563 แก่ปวงชนชาวไทย

วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เวลา 20.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสอำนวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2563 แก่ประชาชนชาวไทย ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า เนื่องในวาระขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2563 ข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้ อำนวยพร ความสุข และความปรารถนาดีแก่ทุกๆ ท่าน ขอให้มีกำลังกาย กำลังใจ และสุขภาพที่แข็งแรง สติปัญญาผ่องใส มีศรัทธาและความสำนึกในการประพฤติและดำรงตนในกรอบของความดีงาม ถูกต้อง และพอเหมาะพอควร มุ่งมั่นที่จะร่วมกันสร้างประโยชน์ ให้แก่ประเทศชาติ และส่วนรวม

ในการทำงานใดๆ ก็ดี ย่อมต้องมีความผิดพลาด ความบกพร่องเกิดขึ้น เป็นเรื่องธรรมดา หากความบกพร่องนั้น นำไปสู่การเรียนรู้ที่จะแก้ไข ปรับปรุง ข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องที่ผ่านมา ให้กลายเป็นบทเรียนแก่ตนเอง ผู้อื่น และส่วนรวม สิ่งนั้นจึงจะเรียกว่า เกิดการเรียนรู้ หรือเกิดบทเรียน ทั้งนี้ประสบการณ์และสติปัญญา ตลอดจนความรู้ความสามารถ ที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องกำกับตนเอง ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องซ้ำอีก อันจะอำนวยให้บังเกิดผลในอนาคตที่เหมาะสม เหมาะควรนั้น คือการบังเกิดขึ้นของความเจริญ และความเป็นมงคลอย่างแท้จริง

ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ พร้อมด้วยพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จงปกป้อง คุ้มครองให้ทุกท่านประสบแต่ความสุข ความเจริญ และความเป็นมงคล ตลอดพุทธศักราช 2563 นี้และตลอดกาลทุกเมื่อไป


ไทยตอนบนยังหนาวตอนเช้า ภาคเหนือเริ่มมีฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

วันนี้ประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศหนาวในตอนเช้า ขณะที่ลมตะวันตกเริ่มปกคลุมภาคเหนือตอนบนของไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง

วันที่ 3 ม.ค. 2563 กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า บริเวณพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส ยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย

สำหรับอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 ม.ค. 63 ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 63 บริเวณภาคเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงได้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศที่แปรปรวนไว้ด้วย

เมื่อเวลา 04.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างมีกำลังแรง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 63 จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเมียนมาและภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบน มีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ ตอนบนพื้นราบ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส ตอนล่างพื้นราบ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาสูง มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณพื้นราบ อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


ออสซี่สั่งหนีไฟป่า-ใช้ภาวะฉุกเฉิน

3 ม.ค. 2563 08:00 น.สถานการณ์ไฟป่าออสเตรเลียยังคงอันตราย โดยนางแกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งถูกไฟป่าเผาผลาญมาตั้งแต่เดือน ก.ย. ได้ประกาศคำสั่งภาวะฉุกเฉินในรัฐเป็นเวลา 7 วัน เริ่มตั้งแต่เช้าวันที่ 3 ม.ค.เป็นต้นไป เพื่อให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ในการบังคับอพยพหรือปิดถนน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียคาดการณ์ว่า เหตุไฟป่าจะเลวร้ายลง ด้วยสภาพลมแรงและคลื่นความร้อน จะทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 40 องศาเซลเซียส

นางแกลดิสกล่าวว่า คำสั่งเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากในช่วงขึ้นปีใหม่ได้มีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 8 ศพ ยังคงสูญหายราว 5 คน ขณะที่หน่วยดับเพลิงนิวเซาท์เวลส์ ยังประกาศให้ตลอดพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของรัฐจดไปถึงรัฐวิกตอเรีย รวมระยะทางกว่า 260 กิโลเมตร เป็นเขตปลอดนักท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวอพยพอย่างเร่งด่วนภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ คำสั่งอพยพยังส่งผลให้รถติดหนักตลอดเส้นทางนครซิดนีย์-กรุงแคนเบอร์รา

ทั้งนี้ นับตั้งแต่สถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลียเริ่มเมื่อเดือน ก.ย. 2562 ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 คน พื้นที่เสียหายกว่า 33.55 ล้านไร่ ขนาดใหญ่กว่าประเทศเดนมาร์กหรือเนเธอร์แลนด์ จนทำให้เกิดการประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้รัฐบาลสายอนุรักษนิยมเร่งแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนทันที.

ไฟป่าออสเตรเลียคุมไม่อยู่ วิกตอเรียอ่วม ไฟไหม้ป่าหลายสิบจุด ‘สายเกินหนี’

เมื่อ 30 ธ.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลียยากเกินควบคุม ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดกว่า 40 องศาเซลเซียส ล่าสุด ทางการรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ได้เรียกร้องให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขต อีสต์ กิปส์แลนด์ และนักท่องเที่ยวรวมแล้วราว 30,000 คน รีบอพยพออกมาจากอีสต์ กิปป์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เนื่องจากขณะนี้เกิดไฟป่ารุนแรงหลายจุดในภูมิภาคอีสต์ กิปป์แลนด์ ในวันจันทร์ที่ 30 ธ.ค. ทว่าการอพยพของประชาชนเพื่อหนีไฟป่าต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากไฟได้ลุกลามมาถึงถนนสำคัญหลายสาย ทำให้ ‘สายเกินไปที่จะหนีแล้ว’ จึงขอให้ประชาชนควรหาที่หลบภัยภายในอาคารทันที

ไฟป่าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังแรงไม่หยุด

จากสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส กระแสลมแรง และเกิดฟ้าผ่า ขณะที่ไม่มีฝนตก ทำให้เกิดไฟป่าบริเวณใหม่ขึ้นอย่างน้อย 70 จุด ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาในรัฐวิกตอเรีย ประกอบกับสภาพป่าแห้งแล้ง ยิ่งทำให้สถานการณ์ไฟป่าอันตรายมากขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ธ.ค. โดยเจ้าหน้าที่ชี้ว่ากระแสลมแรงได้ขับเคลื่อนให้เปลวไฟลุกลามเร็วขึ้นเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้

ด้านนายแอนดรูว์ คริสปิน หัวหน้าฝ่ายจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินรัฐวิกตอเรีย กล่าวด้วยความหวั่นวิตกว่า พวกเรากำลังเผชิญกับวันที่ท้าทายในวิกตอเรีย เพราะเปลวไฟมหึมาที่ลุกโชนได้ทำให้เกิดระบบอากาศของมันเอง จากควันไฟที่พวยพุ่งเป็นลำขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสูงนับ 14 กิโลเมตร ซึ่งทำให้เกิดฟ้าผ่าบริเวณด้านนอกลำควันไฟเหล่านี้ ซึ่งคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดฟ้าผ่าตรงไหน โดยตอนนี้สถานการณ์อันตรายอย่างมาก โดยจากสถานการณ์ไฟป่าในรัฐวิกตอเรีย ทำให้ต้องยกเลิกการจัดงานใหญ่ เทศกาลดนตรี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพราะไฟป่าอันตรายเกินไป

เว็บไซต์ abc ในออสเตรเลียรายงานด้วยว่า เกิดเหตุสะเทือนใจ อาสาสมัครดับไฟป่านายหนึ่งได้เสียชีวิต และมีอาสาสมัครดับเพลิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน เนื่องจากรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ ขณะพยายามควบคุมไฟป่าที่บริเวณใกล้เขตแดนระหว่างรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเผชิญไฟป่ามาตั้งแต่ ก.ย.กับรัฐวิกตอเรีย ขณะที่ตอนนี้มีคำเตือนฉุกเฉินสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่ ในรัฐวิกตอเรีย นิวเซาท์เวลส์ และแทสมาเนีย


“แควนตัส” แชมป์สายการบินปลอดภัยที่สุดในปี 2020

เว็บไซต์ AirlineRatings.com เผยผลการจัดอันดับสายการบินที่ปลอดภัยที่สุดในโลกประจำปี 2020 ออกมาแล้ว โดยสายการบินที่คว้าตำแหน่งนี้ไปครองคือ แควนตัส ของออสเตรเลีย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เว็บไซต์วิจารณ์ความปลอดภัยของสายการบิน AirlineRatings.com ซึ่งจัดอันดับสายการบินที่ปลอดภัยที่สุดเป็นประจำทุกปี เผยแพร่ผลการจัดอันดับ 20 สายการบินสำหรับปี 2020 ออกมาแล้ว โดยคัดเลือกจากสายการบินกว่า 405 บริษัททั่วโลก ซึ่งสายการบิน แควนตัส ของออสเตรเลีย ได้รับเลือกให้เป็นที่ 1 ประจำปีนี้

จอฟฟรีย์ โธมัส บรรณาธิการใหญ่ของ AirlineRatings.com บอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า พวกเขาคัดเลือกสายการบินที่ปลอดภัยที่สุดจากหลายปัจจัย รวมทั้งรายงานจากหน่วยงานด้านการบินและรัฐบาล, ประวัติการตกและอุบัติเหตุร้ายแรง, อายุของเครื่องบิน, สถานะทางการเงิน, การฝึกนักบิน และวัฒนธรรมองค์กร

นายโธมัสยกแควนตัสเป็นผู้นำในการพัฒนาความปลอดภัยใหญ่ๆ เกือบทุกด้าน และชื่นชมในด้านการพัฒนานวัตกรรมของแควนตัส จากการที่พวกเขาประสบความสำเร็จในการทดสอบบินตรงเส้นทางไกลพิเศษ เพิร์ธ-ลอนดอน ,ลอนดอน-ซิดนีย์ และ นิวยอร์ก-ซิดนีย์

ส่วนสายการบินที่ได้อันดับรองลงมาคือ แอร์ นิวซีแลนด์ ได้อันดับ 2 ตามด้วย อีวีเอแอร์ ของไต้หวัน, เอติฮัด ของอาบูดาบี ขณะที่สายการบินอย่าง บริติช แอร์เวย์ส, ออล นิปปอน แอร์เวย์, อเมริกัน แอร์ไลน์ส และยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ซึ่งติดท็อป 20 เมื่อปีก่อน หลุดโผในปีนี้

โธมัสให้เหตุผลว่า กรณีของบริติช แอร์เวย์ส เครื่องบินมีอายุเฉลี่ยที่ 13.8 ปี ซึ่งเก่าเกินไป ส่วนที่สายการบินเหลือล้วนมีข่าวอื้อฉาวเรื่องนักบินเมาแล้วขับหรือพยายามขับเครื่องบินทั้งสิ้น

10 อันดับ สายการบินที่ปลอดภัยที่สุดในโลกสำหรับปี 2020 ของ AirlineRatings.com

1. แควนตัส

2. แอร์ นิวซีแลนด์

3. อีวีเอแอร์

4. เอติฮัด แอร์เวย์ส

5. กาตาร์ แอร์เวย์ส

6. สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส

7. เอมิเรตส์

8. อะแลสกา แอร์ไลน์ส

9. คาเธย์ แปซิฟิก

10. เวอร์จิน ออสเตรเลีย

3 แม่ลูกเยอรมันเข้ามอบตัว ปล่อยโคมลอยปีใหม่ทำไฟไหม้สวนสัตว์ลิงตายอื้อ

3 แม่ลูกชาวเยอรมันเข้ามอบตัวกับตำรวจ เนื่องจากพวกเธอปล่อยโคมลอยในวันปีใหม่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้สวนสัตว์จนสัตว์ตายไปหลายสิบตัว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หญิงวัย 60 ปีชาวเยอรมนีกับลูกสาววัยประมาณ 30 ปีอีก 2 คน เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจเมืองเครเฟลด์แล้ว หลังพวกเธอปล่อยโคมลอยฉลองปีใหม่ ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ที่กรงเพาะเลี้ยงของสวนสัตว์เครเฟลด์ จนสัตว์ตายไปกว่า 30 ตัว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 ม.ค. 2563)

เจ้าหน้าที่ แกร์ด ฮ็อปป์มันน์ หัวหน้าตำรวจสืบสวนคดีอาชญากรรมของเมืองเครเฟลด์ จัดงานแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีระบุว่า หญิงทั้ง 3 คนกำลังถูกสอบสวนเรื่องการปล่อยโคมลอยฉลองปีใหม่ ทั้งที่ทางการสั่งห้ามไม่ให้ทำ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 5 ปี อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ฮ็อปป์มันน์ชื่นชมแม่ลูก 3 คนนี้ว่า ยังมีความรับผิดชอบและกล้าหาญที่ออกมามอบตัว พวกเธอยังมีท่าทีเสียใจจริงๆ ด้วย

ทั้งนี้ เหตุไฟไหม้ดังกล่าวทำให้ลิงอุรังอุตังตายไป 5 ตัว, ชิมแปนซี 1 ตัว, กอริลลาภูเขาตะวันตก 2 ตัว และลิงสายพันธุ์อื่นๆ อีกจำนวนมาก โดยตำรวจพบหลักฐานเป็นเศษซากโคมลอย 4 ชิ้นตกอยู่ใกล้กับกรงเพาะเลี้ยงด้วย โดยตำรวจทำการเปรียบเทียบลายมือของ 3 แม่ลูกกับตัวหนังสือที่พบบนซากโคมลอยแล้วแต่ยังไม่ยืนยันว่าตรงกันหรือไม่