ข่าว
'อินเดีย'คืบหน้า จ่อทดลอง‘วัคซีนโควิด-19’ในมนุษย์ ก.ค.นี้

30 มิถุนายน 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติอินเดียได้รับอนุมัติให้เริ่มดำเนินการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 และ 2 ในมนุษย์ หลังส่งมอบข้อมูลการวิจัยขั้นพรีคลินิก หรือการทดลองก่อนการทดสอบในมนุษย์ สำหรับพัฒนาวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ตัวแรก เมื่อวันจันทร์ (29 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

บริษัทภารตะ ไบโอเทค (Bharat Biotech) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองไฮเดอราบัดทางตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดีย ห่างจากเมืองเบงกาลูรูไปทางตะวันออก 569 กิโลเมตร ได้พัฒนาวัคซีนตัวนี้ด้วยความร่วมมือกับสถาบันภาครัฐ 2 แห่ง อันได้แก่ สภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) และสถาบันไวรัสวิทยาแห่งชาติ (NIV) โดยการทดลองทางคลินิกในมนุษย์มีกำหนดเริ่มทดลองในเดือนกรกฎาคมนี้

แถลงการณ์ระบุว่าประวัติผลงานของภารตะ ไบโอเทคในการพัฒนาเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเพาะเลี้ยงเซลล์วีโร (Vero cell) ได้รับการพิสูจน์ในวัคซีนหลายชนิดสำหรับโรคโปลิโอ โรคพิษสุนัขบ้า ไวรัสโรตา โรคไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น โรคชิคุนกุนยา และวัคซีนเชื่อมผนึกสำหรับโรคไข้ไทฟอยด์และโรคไข้ซิกา โดยการวิจัยขั้นพรีคลินิกของวัคซีนโควิด-19 แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยที่ครอบคลุม และการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันอย่างมีประสิทธิภาพ

“การสนับสนุนและคำแนะนำเชิงรุกจากองค์การควบคุมมาตรฐานยาส่วนกลาง (CDSCO) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับผลิตภัณฑ์ยาและอุปกรณ์การแพทย์ของอินเดีย ช่วยให้โครงการนี้ได้รับการอนุมัติ โดยทีมวิจัยและพัฒนาของเราร่วมกันทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อนำเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของเราไปใช้ในแพลตฟอร์มนี้” กฤษณะ เอลลา (Krishna Ella) ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทภารตะ ไบโอเทค กล่าว

ทั้งนี้ อินเดียตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยยังเหลือผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาตัว 210,120 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 16,475 ราย

สถานบันเทิงภูเก็ตสุดคึกคัก นทท.แห่เที่ยวหลังผ่อนคลายมาตรการระยะ 5

2 กรกฎาคม 2563 เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาที่ซอยบางลาหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ย่านสถานบันเทิงชื่อดังของภูเก็ต เริ่มมีผับ บาร์ ร้านนวด และสถานประกอบการอื่นๆ รวมประมาณ 30 แห่งเปิดให้บริการเป็นวันแรก หลังจากที่ศบค.มีมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 ให้สามารถเปิดได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป ภายใต้มาตรการเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงค่ำเริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวบางส่วนออกมาเดินชมบรรยากาศภายในซอยและใช้บริการสถานบันเทิง ถึงแม้จะมีไม่มาก แต่ก็พอสร้างบรรยากาศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยผู้ที่เข้าไปในซอยบางลาทั้งหมดจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และผ่านการฆ่าเชื้อในตู้พ่นละอองฆ่าเชื้อ ที่จุดบริการทั้งปากซอยแล้วท้ายซอย ก่อนเข้าไปใช้บริการ


เปิดถ้ำหลวงวันแรก!! คนคึกคักเกินคาด เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มโควิด

1 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการปิดเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการเปิดเข้าเที่ยวชมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดระบบป้องกันตามมาตรการหลายจุด ตั้งแต่จุดทางเข้าอุทยานที่มีรถรางรองรับ โดยมีการตรวจวัดไข้ บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และให้สวมหน้ากากอนามัย ก่อนที่รถรางจะนำนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร ส่วนภายในมีการจัดเต๊นท์บริการให้คำแนะนำและมีป้ายบอกเส้นทางไปยังจุดต่างๆ ตั้งแต่จุดสูบน้ำบาดาลบริเวณหน้าถ้ำที่เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่มีการสูบน้ำเพื่อลดปริมาณน้ำในถ้ำช่วงที่ช่วยเหลือทีมเยาวชนหมูป่าที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงเมื่อปี 2561

จากนั้นมีการทำทางเดินและราวกั้นทางขึ้นสู่หน้าถ้ำหลวงและติดป้าย ภาพ และข้อมูลต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกในการชมปากถ้ำหลวงและภายในถ้ำหลวงตรงโถงที่ 1 ซึ่งมีการใส่ไฟส่องสว่างเพื่อให้สามารถมองเห็นภายในได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมยังสามารถเดินอ้อมไปชมศาลาอนุสรณ์สถานและอนุสาวรีย์จ่าแซม หรือนาวาตรีสมาน กุนัน ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ที่สร้างโดยศิลปินชาวเชียงราย นำโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ รวมทั้งสถานที่อื่นๆ เช่น ถ้ำพระ ฯลฯ รวมทั้งสามารถเดินทางต่อไปยังสระมรกตหรือขุนน้ำนางนอนที่เป็นสถานที่ที่ต่อเนื่องกันไปและห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตรได้อีกด้วย

ทั้งนี้พบว่ามีนักท่องเที่ยวนั่งรถรางเข้าไปชมถ้ำหลวงอย่างประปรายแต่ก็มีความต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่วนใหญ่เป็นคนไทย ขณะที่ด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ยังคงปิดโดยทางฝ่ายทหาร ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมืองยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการจัดวางรั้วลวดหนามตามจุดชายต่างๆ อย่างเข้มงวดอีกด้วย


วัดแทบแตก!! ชาวบ้านเมืองคอนแห่เช่า‘แหวนหัวนะโมรุ่น2’ ปัดเป่าโควิด-19

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวัดเขาพระทอง หมู่ 1 ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีการประกอบพิธีมหาพุทธา-เทวาภิเษก หัวนะโม และแหวนหัวนะโม “รุ่นพิเศษสร้างโบสถ์ วัดเขาพระทอง” และรุ่น “พระบรมธาตุมรดกโลก” หลังมีความเชื่อว่าแหวนหัวนะโม-หัวนะโม ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย คุณไสย มนต์ดำ และป้องกันโรคร้ายไวรัสโควิด-19 เหมือนเช่นอดีตที่หัวนะโมถูกนำมาใช้ปัดเป่าโรคห่า โรคอหิวา คุ้มครองให้ประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้รอดพ้นปลอดภัย โดยมีนายวรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์ หรือ “โกหว่าส่าน” คหบดีใหญ่ใจบุญอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และประชาชนเป็นจำนวนมากร่วมประกอบพิธีเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ล่าสุด บรรยากาศตลอดทั้งวันที่วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด หลังจากพิธีปลุกเสกแหวนหัวนะโม แล้วเสร็จ มีชาวบ้านทั่วสารทิศ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด แห่เดินทางมาเช่าบูชาแหวนหัวนะโม และหัวนะโม เพื่อปัดเป่าโควิด – 19 ที่วัดจัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นที่ 2 “รุ่นพิเศษสร้างโบสถ์ วัดเขาพระทอง” และรุ่น “พระบรมธาตุมรดกโลก” ส่วนแหวนหัวนะโม-หัวนะโม รุ่นแรกที่วัดจัดสร้างขึ้นถูกเช่าบูชาจนหมดเกลี้ยงตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่าแหวนหัวนะโม สามารถปัดเป่าไวรัสโควิด-19 ได้ ทำให้แหวนหัวนะโม-หัวนะโม รุ่นที่ 2 “รุ่นพิเศษสร้างโบสถ์ วัดเขาพระทอง” และรุ่น “ พระบรมธาตุมรดกโลก” ได้รับความสนใจจากชาวบ้านเช่นกัน จึงแห่กันมาเช่าบูชากันคึกคักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เพราะเกรงว่าแหวนหัวนะโม-หัวนะโม รุ่น 2 จะหมดเหมือนแหวนหัวนะโม-หัวนะโม รุ่น 1

สำหรับ ประวัติ “หัวนะโม” ถือเป็นเครื่องรางของขลังที่ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช รู้จักกันดี และมีความเชื่อมายาวนานนับกว่า 700 ปีแล้ว โดยมีการเล่ากันว่า ราวก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 หัวนะโมคือเม็ดโลหะที่เป็นเบี้ยใช้แทนเงินตราไว้แลกเปลี่ยนสินค้าในอาณาจักรตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราชในปัจจุบัน) และที่เรียกว่า หัวนะโม เนื่องจากมีลักษณะเป็นเม็ดกลม และมีอักษรปัลลวะหรืออักษรอินเดียโบราณจารึกไว้ ในอดีตอาณาจักรตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราชในปัจจุบัน) เกิดโรคห่าหรืออหิวาตกโรค ระบาด พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช กษัตริย์แห่งอาณาจักตามพรลิงค์จึงทรงทำพิธีปลุกเสกหัวนะโมขึ้นด้วยพิธีกรรมแบบพราหมณ์ โดยอัญเชิญเทพเจ้าทั้งสามคือ พระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม มาสถิตในหัวนะโม เป็นอักขระแทนองค์เทพเจ้าทั้งสามองค์ แล้วนำหัวนะโมไปหว่านไว้รอบเมือง และหว่านสถานที่เกิดโรคระบาด ปรากฏว่าโรคห่าได้หายไปจากอาณาจักรนครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ในรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เกิดโรคห่าระบาดขึ้นในเมืองนครศรีธรรมราช พระองค์จึงมีรับสั่งให้สร้างหัวนะโมขึ้น แล้วประจุผงพระพุทธคุณอันวิเศษที่สำเร็จขึ้นจากพระอาจารย์ผู้มีกฤตยาคมสูงลงในหัวนะโมนั้น แล้วทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำหัวนะโมไปหว่านโปรยรอบเมืองนครศรีธรรมชาติ ต่อมาโรคห่าก็หาย ทำให้ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เชื่อกันว่า “หัวนะโม” คือของมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ที่รู้จักและมีไว้เป็นมงคลประจำตัว เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อกันว่า หัวนะโม มีพุทธคุณครอบจักรวาล คือ ด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และป้องกันภัยแคล้วคลาด และนิยมติดตัวไว้ ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนหัวนะโม เป็นแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู เพื่อง่ายในการสวมใส่


ลุ้นข่าวดี! 'มหิดล-ออกซ์ฟอร์ด'ตรียมทดลองยาต้านมาลาเรียว่าป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่

30 มิ.ย.63 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยวิจัยโรคเขตร้อน"มหิดล-ออกซ์ฟอร์ด" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลของไทยและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ จะเริ่มการทดลองในระดับโลกเพื่อดูประสิทธิภาพของยาต้านมาลาเรียในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังได้รับอนุมัติจากทางการอังกฤษ

สำหรับหน่วยวิจัยดังกล่าวตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ จะเป็นแกนนำการทดลองยาไฮดรอกซีคลอโรควินและคลอโรควินอีกครั้ง ด้วยวิธีการสุ่มและควบคุมยาหลอก ตั้งเป้ารับอาสาสมัคร 40,000 คน ที่เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงทั่วโลก ตามที่สำนักงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ยาและดูแลสุขภาพของอังกฤษอนุมัติให้เริ่มการศึกษาที่เรียกว่า COPCOV อีกครั้ง หลังจากผลการทดลองอีกแห่งหนึ่งในอังกฤษพบว่า ยาไฮดรอกซีคลอโรควินไม่สามารถรักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้ว ทำให้การศึกษา COPCOV ถูกระงับไป

ทั้งนี้ แกนนำการศึกษาออกตัวว่า การศึกษาเรื่องยาป้องกันโรคโควิด-19 ยังไม่ได้คำตอบที่ชี้ชัด ยาไฮดรอกซีคลอโรควินยังคงใช้ป้องกันการติดเชื้อได้ แต่จะต้องทดลองแบบสุ่มและควบคุมเพื่อให้รู้ผลว่าสามารถป้องกันการติดโควิด-19 ได้หรือไม่ จะเริ่มรับอาสาสมัครเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในอังกฤษอีกครั้งในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะรับในไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และอเมริกาใต้ คาดว่าจะทราบผลได้ภายในสิ้นปีนี้


จีนพบ'ไวรัสตัวใหม่'ในหมู เสี่ยงกลายพันธุ์ระบาดติดต่อจากคนสู่คน

30 มิถุนายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สำนักงานวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่าทีมนักวิจัยชาวจีน ซึ่งได้จับตาดูไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่พบในสุกรตั้งแต่ปี 2554 ถึงปี 2561 ได้พบสายพันธุ์ "G4" บนไวรัส H1N1 ที่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นไวรัสที่จะทำให้เกิดการระบาดได้ และจากการติดตามก็พบว่า คนงานในฟาร์มหมูมีระดับของไวรัสในเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้เขียนระบุว่า จำเป็นต้องมีการออกมาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าติดตามกลุ่มคนงานในฟาร์มหมูอย่างใกล้ชิด

การศึกษาได้เน้นให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ไวรัสอาจติดต่อข้ามสายพันธุ์จากหมูมาสู่มนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในประเทศจีนที่มีคนนับล้านอาศัยอยู่ใกล้กับฟาร์ม แหล่งเพาะพันธุ์ โรงฆ่าสัตว์ และตลาดสด ซึ่งอาจคล้ายกับไวรัสโคโรนา 2019 ที่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากค้างคาวเกือกม้า ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และอาจติดต่อสู่มนุษย์ โดยผ่านตลาดอาหารทะเล ในเมืองอู่ฮั่น

อย่างไรก็ตาม นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันชี้ว่า แม้ไวรัส H1N1 ที่พบสายพันธุ์ G4 จะสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในมนุษย์ได้ก็จริง แต่ภัยคุกคามจากความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระบาดใหญ่ได้นั้นยังอยู่อีกไกล แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาควรเริ่มวางมาตรการควบคุมไวรัสในสุกรและเฝ้าระวังการติดเชื้อในกลุ่มคนงานในอุตสาหกรรมสุกร

'เลสเตอร์'ผวาผู้ป่วยโควิดเพิ่มไม่หยุด สั่งล็อกดาวน์เมืองอีกครั้ง

30 มิถุนายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐบาลอังกฤษกลับมาใช้มาตรการปิดเมืองกับเมืองเลสเตอร์อีกครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในเมืองเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 135 คนต่อประชากร 100,000 คนในรอบ 7 วันที่ผ่านมา คิดเป็น 10% ของผู้ป่วยใหม่ทั่วประเทศในรอบสัปดาห์ล่าสุด

ด้วยเหตุนี้เมืองเลสเตอร์จึงยังไม่สามารถเข้าสู่การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ขั้นต่อไป ซึ่งรัฐบาลกำหนดไว้ในวันที่ 4 ก.ค. นี้ได้ และต้องกลับมาอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดอีกครั้ง โดยนับตั้งแต่วันอังคารที่ 30 มิ.ย. นี้เป็นต้นไปตามเวลาท้องถิ่น กิจการไม่จำเป็นทุกแห่งต้องปิดให้บริการ ขณะที่โรงเรียนทุกแห่งในเมืองให้ระงับการเรียนการสอนในชั้นเรียนตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. นี้ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่อังกฤษกลับมาใช้มาตรการจำกัดในพื้นที่ที่เฉพาะเจาะจงอีกครั้ง

อังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว มากกว่า 43,000 คน สูงกว่าทุกประเทศในยุโรป