4 ม.ค.66 เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เปิดเผยผลสำรวจ 10 ประเทศที่น่าพำนักอยู่ภายหลังเกษียณ (10 Cheapest Places To Live Afer Retiring) ประจำปี 2023 ซึ่งจัดทำโดย Annual Global Retirement Index ซึ่งระบุว่า ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับคนหลังเกษียณเท่านั้น แต่ยังรวมอยู่เป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตไม่แพง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และอาจอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องทำงานหรือใช้เงินจำนวนมาก โดยประมวลข้อมูลจากทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต สภาพอากาศ วีซ่า ค่าอาหาร ที่พัก และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ
โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับ 9 จากทั้งโลก (เท่ากับอิตาลี) และอันดับ 1 ในเอเชีย โดยอธิบายว่าถึงประเทศไทยว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก แม้ว่าการท่องเที่ยวจะมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ แต่ประเทศไทยเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตทั้งผ่อนคลายและเต็มไปด้วยการผจญภัย ประเทศไทยเป็นดินแดนที่สวยงามทั้งภูมิประเทศและขนบธรรมเนียมประเพณี ส่วนหนึ่งมาจากการที่ไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก ทำให้ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี
Annual Global Retirement Index ยังแนะให้ผู้สนใจเลือกที่จะใช้ชีวิตทั้งในกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงสีแลตึกใหญ่ หรือเลือกอยู่ในจังหวัดทางภาคเหนือทีอากาศเย็นสบาย ขณะที่ค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่อาศัยก็ไม่แพง สามารถเลือกซื้อคอนโดมิเนียมขนาด 2 ห้องนอนได้ในราคาไม่ถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเลือกเช่าได้ในราคาเพียงเดือนละ 180 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับประเทศที่ติดอันดับเมืองที่น่าอยู่และค่าใช้จ่ายถูกที่สุดในโลก 10 อันดับแรก คือ
1. โปรตุเกส 2. เม็กซิโก 3. ปานามา 4. เอกวาดอร์ 5. คอสตาริกา 6. สเปน 7. กรีซ 8. ฝรั่งเศส 9. (อันดับเท่ากัน) อิตาลี และ ไทย
วันที่ 4 ม.ค.2566 เมื่อเวลา 15.30 น. ที่วัดศรีวโนภาสสถิตย์พร ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง พลเรือโทสุทิน หลายเจริญ ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เดินทางเป็นประธาน พิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.จ.อ.คุณากร จริยศ หรือ หมอแชมป์ โดยมี ว่าที่ร้อยตรีพิรุณ เหมะรักษ์ รอง ผวจ.ระยอง นายเรืองฤทธิ์ ประกอบธรรม นายอำเภอเมือง ระยอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่และหน่วยงูดิน อันเป็นสมญานามและสัญลักษณ์ของหน่วยพยาบาลทหารเรือชาย ซึ่งเป็นสังกัดที่ หมอแชมป์ นายทหารชั้นผู้ใหญ่จากกองทัพเรือ ตลอดจนพลทหารกองทัพเรือจากหน่วยต่างๆเข้าร่วมในพิธี โดยมี นาวาตรี อาวุธ จริยศ อายุ 71 ปี และนางเอื้อมพร จริยศ อายุ 69 ปี บิดาและมารดาของ หมอแชมป์ และ ญาติ ให้การต้อนรับ โดยมีผู้เข้าร่วมในพิธีจนเต็มศาลาร่วม 2 พันคน
กองทัพเรือ จัดทหารกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติ โดยมีการอ่านคำสดุดีต่อความเสียสละของ หมอแชมป์ ที่ยอมสละแม้ชีวิต เพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วย นับเป็นความกล้าหาญที่ยากจะหาใดเทียม การกระทำดังกล่าว จะเป็นเกียรติประวัติของกองทัพเรือที่จะจารึกไปอีกนานแสนนานเเละหมายพระราชพิธีจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตัวแทน ครอบครัวของนายทหารผู้กล้าอ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
หลังจากนั้น พลเรือโทสุทิน หลายเจริญ ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้มอบธงไตรรงค์ เพื่อเกียรติสูงสุดเเก่ครอบครัว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจากกองทัพเรือ
ต่อมา เจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดระยอง จุดไฟเทียนชนวนพระราชทาน โดยพลเรือโทสุทิน หลายเจริญ ผบ.ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นประธานวางดอกไม้จันทน์ ตามด้วย ว่าที่ร้อยตรี พิรุณ เหมะรักษ์ รองผวจ.ระยอง ข้าราชการทหาร และ ข้าราชการในจ.ระยอง และตามด้วย เพื่อทหาร ลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วย ประชาชน ร่วมสองพันคน เป็นแถวยาวร่วมวางดอกไม้จันทน์ เพื่อส่ง หมอแชมป์เป็นครั้งสุดท้าย ต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง จึงจะวางดอกไม้จันทน์กันครบทุกคน
พลเรือโท สุทิน กล่าวว่า เสียใจที่กองทัพเรือต้องสูญเสียบุคลากรอันทรงคุณค่าไป แต่ก็รู้สึกภูมิใจต่อความเสียสละของ หมอแชมป์ นับเป็นเกียรติประวัติของกองทัพเรือ ส่วนความช่วยเหลือ กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพื่อช่วยเหลือตามเกณฑ์ที่กำหนด
ด้าน นางเอื้อมพร จริยศ มารดาหมอแชมป์ ที่กำลังอยู่ในอาการเศร้าโศก นั่งกอดธงชาติที่คลุมศพลูกชายไว้แน่น พร้อมกล่าวด้วยน้ำตาคลอว่า ภูมิใจลูกชายมากกับความเสียสละ แต่ก็ทำใจไม่ได้ ยังคงคิดถึงหมอแชมป์ ที่ต้องจากพ่อแม่ไปก่อนวัยอันควร อยากบอกลูกว่า ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อแม่ อีกไม่นานเราก็คงได้เจอกัน
บรรดาผู้ที่เข้ามาร่วมงานต่างก็ภูมิใจในเกียรติประวัติของหมอแชมป์ เสียดายที่คนดีมีความรู้ต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร ทั้งที่ยังสามารถทำงานให้กับกองทัพเรือได้อีกมากมาย ขอให้ความดีที่หมอแชมป์สั่งสมทำมา นำพาไปสู่ภพภูมิที่ดี
4 ม.ค.66 ความคืบหน้ากรณีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี เข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการประพฤติผิดมิชอบ หรือ บก. ปปป. เพื่อให้ปากคำกรณีที่เป็นคนยื่นข้อมูลหลักฐานให้ บก. ปปป.ตรวจสอบ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ที่เรียกรับเงิน และมีความผิดในฐาน ตามมาตรา 149 "เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ" และ 157 “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” โดยการตรวจห้องห้องทำงาน พบเงินสด ประมาณ 4 ล้าน 9 แสนบาท ซึ่งนายรัชฎา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงินสดจำนวน 4 แสนบาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า นายชัยวัฒน์ มาให้การเพิ่มเติมกับ ปปป. ส่วนสำนวนคดีขอให้เป็นเรื่องของคดี วันนี้นายชัยวัฒน์ ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พนักงานสอบสวนจะส่งหมายเรียกประมาณ 13 หมายเรียก ไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคำให้การ และผู้ที่ปรากฏชื่อ หน้าซองเงิน โดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เจ้าของซองสามารถมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อมาให้การได้ก่อน ถือว่าไม่มีความผิด เพราะการจับกุมใครสักคนต้องแสวงหาความร่วมมือ ผมสั่งไปแล้วให้ติดต่อรอบนอกด้วย และเร่งสอบให้เสร็จ และจะส่ง ป.ป.ช.โดยเร็ว ทั้งนี้ หมายเรียกพยานจะทยอยส่ง วันนั้นที่เราเข้าไปยืนยันว่าดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เมื่อให้ความร่วมมือ พยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ ยืนยันมีพยานหลักฐานสามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐได้
เมื่อถามถึงประเด็นการไม่ขยายผลไปค้นบ้านพัก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ปปป.จะทำงานทุกมิติให้ได้ข้อเท็จจริง โดยจะทำงานอย่างเต็มที่ ปปป.และ ป.ป.ท.จะทำอะไรทุกอย่างจะต้องมีหลักฐานรัดกุมให้มากกว่านี้ เล่นกับพายุใหญ่ก็ต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ไม่ขยายผล เราขยายผล แต่เราใช้วิธีการของเราในการขยาย ทำไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคลที่กระทำการไม่กระทำการ ถ้าเขาปฏิบัติตัวดีเรื่องก็ไม่เกิด ตนเชื่อว่ากรมอุทยานฯ อยู่มานานปัญหาไม่มี เมื่อบุคคลไปสร้างปัญหา ก็เป็นเรื่องของบุคคลก็ต้องว่ากันไป
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำเพิ่ม ส่วนเงินจะส่งต่อให้ใครอีกบ้าง ชุดสืบสวนทำงานอยู่ ฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับซองให้มาให้ปากคำ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมให้ความเป็นธรรม ยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้ง ส่วนเรื่องคลิปขอแก้ข่าวว่าตำรวจกับ ป.ป.ช. ไม่ได้ปล่อยคลิป ผมจะทำทุกมิติให้กระจ่างให้ได้ว่าเป็นอย่างไร ยืนยันว่าจะทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีบิดเบี้ยวว่ากันด้วยพยานหลักฐาน อะไรที่เป็นของใครก็ต้องชี้แจงให้ได้ ชี้แจงไม่ได้ก็อาจจะตกเป็นจำเลยก็ได้ ส่วนหน้าซองสีน้ำตาลส่วนใหญ่ชื่อหน้าซองเป็นชื่อหน่วยงาน และมีชื่อบุคคลก็มีปะปนกันไป
เมื่อวันที่ 4 มค.2566 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายเจษฎา วีระพัฒ หรือ หนุ่ย ผู้เสียหายว่า โดนโจรเข้ามาขโมยของที่วางเอาไว้ที่หน้าบ้าน จนต้องปิดประกาศ ในข้อความว่าอย่ามาขโมยของปืนจะลั่นเตือนแล้วนะเอาไว้ที่หน้าบ้าน ที่ซ.สามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เป็นอาคารพานิชย์สูงห้าชั้น ซึ่งด้านหน้าติดป้ายข้อความอย่ามาขโมยของปืนจะลั่นเตือนแล้วนะเอาไว้ที่หน้าบ้าน
นายหนุ่ย เล่าว่า ตนเปิดร้านเจษฎาการช่างทำเกี่ยวกับรับผลิตออกแบบติดตั้งประตูสแตนเลส ประตูเหล็ก กันสาด เหล็กดัด รางน้ำ มุ้งลวด โครงหลังคาต่างๆ ตนย้ายร้านไปอีกที่ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันและตนได้เก็บของเอามาวางเอาใว้ที่หน้าบ้านซึ่งเป็นจำพวกหลังคาหรือเหล็กต่างๆ พอจะมาขนอีกทีของหายไปหมดแล้ว ซึ่งในซอยดังกล่าวของจะหายบ่อยมากยอมรับว่าโจรขโมยเยอะซึ่งเพื่อนบ้านก็โดนหลายหลังคาเรือนที่วางของเอาใว้หน้าบ้านแล้วของหายแบบตน ซึ่งในบางวันจะมีรถกระบะเก่าๆคันหนึ่งขับตระเวนดูตามซอยและก็ลงมายกของที่ชาวบ้านวางเอาใว้ที่หน้าบ้านขึ้นรถไปในเวลาที่เจ้าของบ้านเผลอ ซึ่งตนก็อยากให้หยุดทำแบบนี้เพราะทุกวันนี้แต่ละคนก็ลำบากกันทั้งนั้นเศรษฐกิจก็ตกต่ำย่ำแย่ประชาชนลำบากกันทั่วหน้า
"วอนโจรอย่ามาขโมยของซ้ำเติมกันอีกเลย ให้ทำมาหากินแบบอื่นถ้ามาขโมยกันแบบนี้มาขอกันดีกว่าถ้าไม่มีงานทำตนก็รับรับทำงานที่ร้านของตนถ้าทำแบบนี้ตลอดเวลาเจ้าของบ้านจับได้ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"นายหนุ่ย กล่าว
ทางด้านนายเดี่ยว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านเล่าว่า บ้านของตนก็โดนโจรเข้ามาขโมยหลายครั้งเอาจำพวกเครื่องมือทำมาหากินไป บางครั้งนำหมวกกันน๊อควางเอาไว้ที่หน้าบ้านเผลอแปบเดียวหายไปแล้วซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตร.ก็ทำอะไรไม่ได้ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ ตร.ในพื้นที่ขับรถออกตรวจตามซอยต่างๆเพื่อให้โจรขโมยพวกนี้กลัวบ้าง
เปียงยาง/โซล (รอยเตอร์ส/ยอนฮัพ)-เกาหลีเหนือสั่งปลดนายพล ปัก จอง ชอน นายทหารทรงอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของกองทัพเกาหลีเหนือรองจากนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้และสหรัฐฯกำลังหารือเกี่ยวกับการวางแผนร่วมและการซ้อมรบร่วมโดยมีทรัพยากรด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เกี่ยวข้องด้วย เพื่อตอบโต้กับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง
สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายพลปัก จอง ชอน นายทหารทรงอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของกองทัพเกาหลีเหนือรองจากนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ถูกปลดจากตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการกลางด้านการทหารของพรรคแรงงาน และเลขาธิการของคณะกรรมการกลางของพรรคแรงงาน โดยมีนายพล รี ยอง กิล ได้รับแต่งตั้งเข้ามาแทนในการประชุมประจำปีของคณะกรรมการกลางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพลรี เป็นนายทหารระดับสูงที่ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ หลายตำแหน่ง รวมถึงหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารบกและรัฐมนตรีกลาโหม เคซีเอ็นเอ ไม่ได้ระบุถึงเหตุผลที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยรัฐบาลเกาหลีเหนือมักจะปรับตำแหน่งผู้นำอยู่เสมอๆ และการประชุมพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในช่วงสิ้นปีมักจะใช้ในการประกาศการปรับตำแหน่งบุคลากรและการตัดสินใจในเรื่องนโยบายสำคัญๆ
โทรทัศน์ของทางการเกาหลีเหนือแพร่ภาพนายพลปัก นั่งอยู่แถวหน้าในระหว่างการประชุมพรรคแรงงานโดยเขาก้มศีรษะลงในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ยกมือ
ลงคะแนนเสียงในประเด็นต่างๆ หลังจากนั้น ที่นั่งของเขาก็กลับว่างลง เขายังไม่ได้ปรากฏตัวในภาพถ่ายที่เคซีเอ็นเอเผยแพร่ในวันนี้ ซึ่งเป็นภาพนายคิมเดินทางไปยังพระราชวังสุริยะคึมซูซันในวันขึ้นปีใหม่ สถานที่แห่งนี้เป็นที่เก็บร่างของปู่และบิดาของนายคิม ในเดือนตุลาคม นายพลปัก ยังร่วมอยู่ในขณะของนายคิมไปยังพระราชวังสุริยะในวาระครบรอบก่อตั้งพรรคแรงงาน
นายพลปัก ได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วจากนายพล 1 ดาว ในปี 2015 เป็นนายพล 4 ดาวในปี 2020 จากการผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในเทคโนโลยีขีปนาวุธพิสัยใกล้ในช่วงปลายปี 2020 นายพลปัก ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสมาชิกหนึ่งในคณะกรมการเมืองและได้รับยศเป็นจอมพล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกองทัพเป็นรองแค่นายคิมเท่านั้น
ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กำลังหารือเกี่ยวกับการวางแผนร่วมและการซ้อมรบร่วมโดยมีทรัพยากรด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เกี่ยวข้องด้วย เพื่อตอบโต้กับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง เนื่องจากสิ่งที่เรียกว่าร่มคุ้มกันนิวเคลียร์และมาตรการป้องปรามที่ขยายขอบเขตของสหรัฐฯ ไม่เพียงพอที่จะให้การรับประกันความปลอดภัยให้กับชาวเกาหลีใต้อีกต่อไปแล้ว นายยุน กล่าวเรื่องนี้เพียง 1 วัน หลังจากที่สื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ สั่งให้เพิ่มคลังอาวุธนิวเคลียร์แบบทวีคูณและพัฒนาขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป หรือ ไอซีบีเอ็ม รุ่นใหม่ๆ เพื่อรับมือกับสิ่งที่เขาเรียกว่า ความเป็นปรปักษ์ของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ในปี 2022 เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธเกือบทุกเดือน รวมถึงการทดสอบยิงไอซีบีเอ็มที่มีความทันสมัยก้าวหน้าอย่างที่สุดด้วย
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012