ข่าว
ห่วง “นาคี” ทำภาพลักษณ์นักศึกษา “โบราณคดี” เสียหาย

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. เวลาประมาณ 20.30 น. ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา กาญจนาคม อดีตหัวหน้าภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวถึงกรณีละครเรื่อง “นาคี” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งกำลังเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ โดยมีตัวละครจำนวนหนึ่งในเรื่องเป็นนักศึกษาคณะโบราณคดี ซึ่งเป็นคณะเดียวในประเทศไทยที่มีการขุดค้นทางโบราณคดี ศ.ปรีชา กล่าวว่า ตนได้ติดตามละครเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่เริ่มฉาย เนื่องจากที่บ้านชื่นชอบละครเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่ตนรู้สึกไม่สบายใจ คือพฤติกรรมของตัวละครซึ่งเป็นนักศึกษาคณะโบราณคดีที่มีปัญหากับชาวบ้าน อีกทั้งยังมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมอีกหลายอย่าง ตนจึงอยากขอชี้แจงว่า ในความเป็นจริง ตั้งแต่พานักศึกษาออกฝึกภาคสนามโดยทำการขุดค้นในพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา ขอยืนยันว่า ไม่เคยมีเรื่องราวตามที่ปรากฏในละครแต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อเดินทางไปถึง จะติดต่อพูดคุยและแนะนำตัวกับหน่วยงานราชการของจังหวัด โดยพานักศึกษาไปด้วย รวมทั้งมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านเป็นอย่างดี ไม่เคยมีการทะเลาะเบาะแว้ง จึงอยากขอฝากถึงผู้จัดทำละครให้มีการศึกษาข้อเท็จจริงก่อนนำเสนอ มิเช่นนั้น จะทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดได้ ซึ่งประเด็นนี้ ตนเพิ่งกล่าวในงาน “โบราณคดีเหมือนพี่เหมือนน้อง” ซึ่งเป็นงานรวมศิษย์เก่าที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมาหนึ่งครั้งแล้ว แต่ยังรู้สึกไม่สบายใจ จึงอยากขอชี้แจงผ่านสื่ออีกครั้ง

‘จตุพร’นอนคุก ศาลถอนประกัน’วีระ-เต้น-เหวง-นิสิต’ได้เฮ ! ยกคำร้อง

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลไต่สวนคำร้องของพนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว นายวีระหรือนายวีรกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ และนายนิสิต สินธุไพร 5 แกนนำ นปช.จำเลยร่วมในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้ายรวม ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ในศาลอาญา ปรากฏว่าศาลได้เพิกถอนประกันนายจตุพร เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าคำพูดนายจตุพรที่ออกอากาศมีเนื้อหาดูหมิ่น พาดพิงผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย อันเป็นการผิดเงื่อนไขที่เคยทำไว้กับศาล ส่วนจำเลยคนอื่นศาลได้ยกร้อง โดยเห็นว่าติชมโดยสุจริต วิพากษ์วิจารณ์ตามสิทธิที่พึงกระทำได้ ให้ยกคำร้อง


‘ทักษิณ’ เดตสาวรวดเดียว 18 คน ‘อุ๊งอิ๊ง’ โพสต์สนุกมาก

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก “Ing Shinnawat” ของ แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เผยแพร่ภาพสาวๆ ที่รายล้อม พร้อมข้อความระบุว่า วันนี้พาพ่อมาเดทกับสาวอีก18คน ขอบคุณคุณพ่อนะคะ ที่มาด้วยกันสนุกสนานมากๆ อิ่มมากด้วย @thaksinlive นอกจากนี้ ก่อนหน้านั้นได้โพสต์รูปภาพคู่ระหว่างตนกับบิดาและข้อความว่า Lunch date with my twin มาเดทค่าาาา


‘ดวงฤทธิ์’ ถาม’ทางเลียบเจ้าพระยา’ทำจากจุดยืนของอะไร?

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 ตุลาคม ที่สวนสันติชัยปราการ ถนนพระสุเมรุ เขตพระนคร มีการจัดงาน “โอบกอดเจ้าพระยาด้วยความรัก Hug The River” โดยกลุ่มสมัชชาแม่น้ำ บรรยากาศคึกคัก มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านจากลุ่มน้ำต่างๆ เช่น บางปะกง ท่าจีน แม่กลอง ประชาคมหลายแห่ง เช่น บางลำพู และกลุ่มอนุรักษ์ เช่น กลุ่มรักษ์บางประทุน รวมถึงนักวิชาการ นักอนุรักษ์ และประชาชนทั่วไป นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดัง กล่าวในระหว่างการร่วมกิจกรรมว่า รัฐบาลต้องตอบให้ได้ว่า จะทำสิ่งที่ประชาชนไม่ต้องการอย่างทางเลียบเจ้าพระยาไปทำไม การคิดว่าภาครัฐถูกฝ่ายเดียวเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และยืนยันว่าจะส่งเสียงถึงรัฐบาลต่อไป แม้รัฐจะอุดหู ก็ไม่ได้หมายความว่าตนจะหยุดพูด “การทำทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา มาจากจุดยืนของอะไร เวลาเป็นรัฐบาล แล้วทำบางสิ่งบางอย่างที่ประชาชนไม่อยากได้ ถามว่าจะทำไปทำไม นี่คือสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องตอบให้ได้ การที่รัฐมองว่า คิดถูกผู้เดียวนั้น ไม่ถูกต้อง รัฐอยู่ได้ด้วยภาษีของเราทุกคน ไม่ว่าตัวเล็ก ตัวใหญ่ ก็จ่ายภาษีทั้งนั้น เงินที่เอาไปใช้ทุกบาททุกสตางค์ก็เงินพวกเรา เพราะนั้นรัฐบาลจะพูด คิด หรือทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้มาจากจุดยืนของประชาชนไม่ได้ การที่มารวมตัววันนี้เป็นทางออกอย่างหนึ่งของเราในภาวะที่ถูกจำกัดในการแสดงออกความคิดเห็น สิ่งที่ทำวันนี้พยายามจะส่งเสียงไปถึงรัฐบาลซึ่งพยายามอุดหู ไม่อยากฟัง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะหยุดพูด” นายดวงฤทธิ์กล่าว


นวดกดจุด-รีเฟรชสมองถึงตายได้ เหตุเลือดไม่ไปเลี้ยง

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวกรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นภาพชายอ้างตัวเป็นหมอนวดกำลังนวดกดเส้นบริเวณลำคอ ทำให้ผู้ที่ถูกนวดมีอาการกระตุก และบางรายไม่ได้สติ โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวอ้างว่าเป็นการละเมอและล้างขยะสมอง ว่าการนวดกดจุดบริเวณท้ายทอยถือเป็นจุดที่อันตรายสูงสุด เพราะบริเวณท้ายทอยจะมีเส้นเลือดใหญ่อยู่ 4 เส้น เป็นคู่หน้า 2 เส้น และคู่หลัง 2 เส้น หากถูกกดไว้จะทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงก้านสมองได้เพียงพอ และทำให้สมองส่วนการรับจอภาพเกิดการมืดลงและมองไม่เห็น “อีกทั้งหากคนที่มีความผิดปกติของเส้นเลือดหรือมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอาจทำให้เกิดภาวะตาบอดชั่วคราวหรือถาวรได้ ดังนั้นการนวดกดจุดดังกล่าวจะเป็นการฆ่าคนได้อีกอย่างหนึ่ง จึงเป็นการนวดที่ห้ามทำโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้” ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.เศรษฐณันฐ์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี กล่าวว่าหลังมีคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่จึงได้ตรวจสอบก็พบว่าร้านดังกล่าวชื่อร้าน 99 หมอขวัญนวดจับเส้น (แก้อาการ) ตั้งอยู่เลขที่ 90 หมู่ 3 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งร้านนวดจับเส้นดังกล่าวผิดกฎหมายและการนวดนั้นเป็นอันตรายกับผู้ถูกนวด จึงได้สั่งการให้พ.ต.ท.ปรากฏ นาคใหญ่ สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เข้าตรวจสอบพร้อมทั้งจับกุมนายวิสุทธิชัย วรรณดี อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาเดิมบ้านเลขที่ 101 หมู่ 1 ต.ศรีสำราญ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เจ้าของร้านผู้ให้บริการและผู้ดูแลสถานที่ร้านนวดดังกล่าว


ประหลาด "นางงามสองมงกุฎ"!

คืนวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม ที่โรงแรมแลนด์มาร์ก แม่โขง ริเวอร์ไซด์ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มีการประกวด "นางสาวลาว 2016" รอบ 20 คนสุดท้าย โดยศูนย์กลางชาวหนุ่มปฏิวัติลาว ได้มอบให้บริษัทคมปัญญาเป็นผู้ดำเนินการงานประกวดครั้งนี้ การประกวดสาวงามผ่านรอบ 5 คน และเหลือ 2 คนสุดท้ายคือ หมายเลข 19"บุดสะบา แสงปัน" กับหมายเลข M 20 "คิดสะไหม บุนติวอละวง" ปรากฏว่า ด้านหลังเวทีมีความวุ่นวาย เมื่อ "มงกุฎเพชร" มูลค่า 35 ล้านกีบ ที่เจ้าหน้าที่บริษัทคมปัญญา เก็บไว้ในตู้เซฟที่สำนักงาน เกิดหลงลืม ไม่ได้นำมงกุฎเพชรมาเตรียมการไว้ แต่พิธีกรรมบนเวทีหยุดไม่ได้ เพราะถ่ายทอดสดทางช่องทีวีลาว คณะกรรมการจัดการประกวดจึงเปลี่ยนแผน เข้าเจรจากับ "สุติลัก อินทะวง" นางสาวลาวปีที่แล้ว ที่ต้องขึ้นเวทีไปสวมมงกุฎนางสาวลาวคนใหม่ ให้เสียสละ โดยไม่ต้องขึ้นเวที และส่งมอบมงกุฎนางสาวลาว 2015 ให้กรรมการ เพื่อนำไปสวมศีรษะนางสาวลาวคนใหม่เป็นการชั่วคราว เมื่อพิธีกรประกาศว่า หมายเลข M 19 คือนางสาวลาวคนใหม่ คณะกรรมการจึงนำเอามงกุฎเพชรของนางสาวลาวปีที่แล้วมาสวมให้ "บุดสะบา แสงปัน" ผู้ชนะใจกรรมการและคนลาวทั้งประเทศ


พาณิชย์ดันส่งออกสินค้า จัดแมตชิ่งสินค้าออร์แกนิค ฮิสแปนิก และเรือนจำสหรัฐ

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้เดินหน้าผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการตามยุทธศาสตร์ตลาดเฉพาะกลุ่ม (นิชมาร์เก็ต) โดยจัดกิจกรรมเปิดเวทีเจรจาการค้าระหว่างผู้นำเข้ารายใหญ่จากสหรัฐอเมริกาและผู้ประกอบการไทย เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีผู้นำเข้ารายใหญ่จากสหรัฐเข้าร่วม 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท Lucky’s Farmers Market ซุปเปอร์มาร์เก็ตสินค้าออร์แกนิคและสินค้าจากธรรมชาติ บริษัท Grocers Specialty Co. ร้านขายส่งสินค้าอาหารคุณภาพและสินค้าสำหรับกลุ่มชาวฮิสแปนิก และกลุ่มชนชาติต่างๆ ที่จำหน่ายและกระจายสินค้าทั่วสหรัฐ และบริษัท Mid-States Services Inc. ผู้ให้บริการจัดหาสินค้าแก่หน่วยงานราชทัณฑ์ทั่วสหรัฐ ส่วนไทยมี 30 บริษัทเข้าร่วม เช่น สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน คาดว่าจะมีการสั่งซื้อภายใน 1 ปี มูลค่าไม่ต่ำกว่า 420 ล้านบาท กิจกรรมนี้นับเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันสินค้าออร์แกนิค สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันจากไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐได้เพิ่มมากขึ้น

ซัมซุงโน้ต 7 ล็อตใหม่ไหม้ซ้ำอีกในสหรัฐ

บีบีซีรายงานวันที่ 9 ต.ค. ว่า พบกรณีเครื่องซัมซุง โน้ต 7 ล็อตใหม่แทนชุดเดิมที่บริษัทเรียกเก็บคืนไป อีกครั้งใหม่ในสหรัฐอเมริกา ครั้งนี้เป็นผู้ใช้ในรัฐเคนตักกี เผยว่าตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อตื่นขึ้นมาเห็นควันโขมงในห้องนอนตัวเอง เป็นกรณีต่อเนื่องจากการพบเครื่องโน้ต 7 ล็อตใหม่เกิดประกายไฟบนเครื่องบินเซาท์เวสต์แอร์ไลนส์ นายไมเคิล เคลริง ชาวเมืองนิโคลัสวิลล์ รัฐเคนตักกี ผู้ประสบเหตุดังกล่าวให้สัมภาษณ์สถานี WKYT ของสหรัฐ พร้อมโชว์เครื่องโน้ต 7 ที่ไหม้เมื่อวันอังคารที่ 4 ต.ค. ให้ดู พร้อมยืนยันว่า เครื่องลุกไหม้ทั้งๆ ที่ตนไม่ได้ชาร์จแบตฯ ไว้ แค่วางไว้เฉยๆ “เครื่องนี้มันน่าจะเป็นเครื่องที่เปลี่ยนมาให้ผมแล้ว ดังนั้นก็น่าจะปลอดภัย แต่ตอนตี 4 ที่ผมนอนอยู่บนเตียง ภรรยาผมมาปลุก เพราะควันตลบห้องไปหมด ผมเห็นเลยว่าโทรศัพท์ไหม้อยู่ จากนั้นผมก็ไปโรงพยาบาล เพราะสูดเอาควันเข้าไปจนสำลัก ผมทิ้งเครื่องนั่นไว้นอกบ้านเลย ด้วยความกลัว ไม่กล้าเอากลับเข้าบ้านอีก” นายเคลริงกล่าว