ข่าว
เพิ่มข้อหา วีระ วีระ สมความคิด ลายจุด บก.ลายจุด ตร.จัดหนัก ปลุกปั่น ยุยง ม็อบจ่านิว หมายเรียก

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความผู้ชุมนุมที่ถูกออกหมายเรียกเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ชุมนุม 33 คน จากทั้งหมด 39 คน ได้เดินทางไปรับข้อหาที่ สน.ปทุมวัน ตามหมายเรียก เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ทีมทนายความได้ขอสิทธิการต่อสู้ทางคดีให้ผู้ถูกออกหมายเรียก เพราะพนักงานสอบสวนแจ้งว่า จะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังทันที และให้ยื่นประกันที่ศาล จึงเกรงว่าผู้ถูกออกหมายเรียกจะเตรียมหลักทรัพย์ไม่ทันรวมทั้งติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อาจทำให้ผู้ชุมนุมต้องอยู่ในเรือนจำ 2 วัน ทีมทนายและผู้ชุมนุมทั้งหมดจึงมีมติเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปวันที่ 8 กุมภาพันธ์

ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม แกนนำในการชุมนุม ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "วันนี้ผมคงไม่ได้ไป สน. ปทุมวันครับ เนื่องจากว่าไม่สะดวกในวันนี้ ด้วยเหตุที่ระยะเวลาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำหนดมากระชั้นมาก ผมเลยตั้งใจว่าจะเลื่อนการพบพนักสอบสวนเป็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น."

เช่นกันกับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำอีกรายที่ได้ประกาศตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า จะขอเลื่อนเข้ามอบตัวออกไปก่อน เนื่องจากติดธุระส่วนตัว

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เปิดเผยภายหลังเดินทางไปตรวจสำนวนการสอบสวนคดีการชุมนุมดังกล่าวที่ สน.ปทุมวัน ว่า จะไม่มีการเลื่อนนัดรับทราบข้อกล่าวหาอย่างเด็ดขาด และได้สั่งการให้อออกหมายเรียกครังที่ 2 ทันที โดยให้มาพบภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำเนาผู้ชุมนุมที่ถูกออกหมายเรียก หากไม่มาก็จะดำเนินการขั้นต่อไปตามกฎหมายทันที

พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบผู้ชุมนุมอีก 66 คน เป็นใคร อยู่ที่ไหน เพื่อรวบรวมหลักฐานก่อนออกหมายเรียกเพิ่ม กรณีผู้ชุมนุมระบุว่าออกหมายเรียกกระชั้นชิดเกินไป ตนมองว่าไม่ได้เร่งรัดแต่เป็นตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนสาเหตี่เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ชุมนุมไปฝากขังหลังรับทราบข้อกล่าวหา เป็นดุลพินิจตนในการสั่งการ กรณีผู้ชุมนุมอ้างว่าถูกผลักดันให้เข้าไปอยู่ในรัศมี 150 เมตร เขตพระราชฐาน ได้รับการยืนยันจาก ผอ.เขตปทุมวันว่า มีการตรวจสอบแล้วว่าอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจริง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ออกหมายเรียกเพิ่มเติมกับ นายวีระ สมความคิด และ บก.ลายจุด หรือ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ในความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ยุงยง ปลุกปั่น เนื่องจากมีพฤติกรรมชัดเจน ทั้งภาพถ่าย และการสอบพยานในการขึ้นปราศรัย วันที่ 27 มกราคม ส่วนการดำเนินคดีกลุ่มที่สนับสนุนให้กำลังใจพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯก็ให้ดำเนินคดีเช่นกัน โดยมีการพิสูจน์ทราบชื่อผู้ร่วมชุมนุมแล้ว 2 คน ขอยืนยัน ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

แบ่งแล้วรอบแรก! เงิน‘ก้าวคนละก้าว’ 1.3 พันล้าน 11 โรงพยาบาลได้เท่าไหร่

คณะทำงาน “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาล” ได้ประชุมหารือร่วมกับพล.ต.นพ.นิมิตร์ สะโมทาน ผอ.รพ.พระมงกุฏเกล้า ในฐานะประธานมูลนิธิรพ.พระมงกุฏเกล้า และผอ.โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อีก 10 แห่ง ประกอบด้วย รพ.ยะลา รพ.สุราษฎร์ธานี รพ.ราชบุรี รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี รพ.สระบุรี รพ.ขอนแก่น รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และรพ.น่าน เพื่อจัดสรรเงินบริจาค 1,300 ล้านบาท จากโครงการก้าวคนละก้าวฯ รอบแรก ที่นักร้องหนุ่ม ‘ตูน บอดี้สแลม’ วิ่งระดมเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์


เบื้องต้นได้จัดสรรเงินบริจาคโครงการก้าวคนละก้าว ดังนี้

1. รพ.ยะลา 91 ล้านบาท

2. รพ.สุราษฎร์ธานี 136.5 ล้านบาท

3. รพ.ราชบุรี 130 ล้านบาท

4. รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี 91 ล้านบาท

5. รพ.สระบุรี 104 ล้านบาท

6. รพ.ขอนแก่น 143 ล้านบาท

7. รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี 91 ล้านบาท

8. รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ 91 ล้านบาท

9. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 110.5 ล้านบาท

10. รพ.น่าน 91 ล้านบาท

11. รพ.พระมงกุฎเกล้า 221 ล้านบาท


พล.ต.นพ.พีระพล ปกป้อง เลขาธิการมูลนิธิ รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า การจัดสรรเงินในครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่โครงการยังคงมีอยู่และรับบริจาคถึง 31 พ.ค.นี้ ซึ่งจะดำเนินการตัดยอดและจัดสรรเงินอีกครั้ง ซึ่งการจัดสรรเงินครั้งสุดท้ายก็จะให้แก่ทั้ง 11 โรงพยาบาลนี้ ไม่มีโรงพยาบาลอื่น


เด็กหญิง ม.2 ให้การมัด 'ผอ.-แฟนหนุ่ม' ชำเรา

ความคืบหน้ากรณี นายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผอ.รร.บ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง ม.2 อายุ 14 ปี กระทั่งถูกดำเนินคดีฐานพรากผู้เยาว์ โดย นายณฐาภพ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 31 มกราคม พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอให้การในชั้นศาล

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.บัวใหญ่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ได้เดินทางไปสอบปากคำเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 วัย 14 ปี ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครราชสีมา โดยเบื้องต้นทราบว่า เด็กนักเรียนหญิงได้ให้การยืนยันว่าถูก นายณฐาภพ กระทำชำเราหลายครั้งในหลายสถานที่ ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รวมทั้งก็ถูกเด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 ซึ่งเป็นแฟนเก่ากระทำชำเราในช่วงก่อนที่ นายณฐาภพ จะย้ายมารับตำแหน่ง ผอ.โรงเรียน

โดยหลังจากสอบปากคำเด็กนักเรียนหญิงดังกล่าวแล้ว มารดาของเด็กนักเรียนหญิงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายณฐาภพ และเด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 ซึ่งเป็นแฟนเก่าของลูกสาว ในข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และข้อหากระทำชำเราแล้ว

พ.ต.อ.คารม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เด็กหญิงและมารดา ยังคงอยู่ในความดูแลและพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครราชสีมา เพื่อฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจต่อไป ซึ่งขณะนี้ถือว่าสภาพจิตใจของเด็กหญิงดีขึ้นมาก ขณะที่เพื่อนเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนเดียวกันอีก 2 คน ที่ถูก นายณฐาภพ ผอ.โรงเรียนกระทำอนาจาร ขณะนี้สภาพจิตใจเป็นปกติดีแล้ว และได้เดินทางกลับไปยังบ้านพักแล้วทั้งสองคน


39 ม็อบสกายวอล์ก เลื่อน พบ ตร.“ศรีวราห์” ตั้งธงค้านประกันตัว

วันนี้ (2 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีกลุ่มเคลื่อนไหวสกายวอล์ก 39 คน ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ว่า พนักงานสอบสวนจะต้องพิจารณาเหตุผลในการขอเลื่อน การอ้างว่าติดภารกิจนั้น ต้องไปดูว่าเป็นภารกิจอะไร สำคัญแค่ไหน กรณีนี้จะต้องมีการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 หากยังไม่มารายงานตัว พนักงานสอบสวนจะต้องมีการขอศาลอนุมัติหมายจับ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

เมื่อถามว่าพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวทั้ง 39 ราย และส่งตัวฝากขังที่ศาลแขวงปทุมวัน ถ้าไม่คัดค้านหากหลบหนีใครจะรับผิดชอบ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยง หรือ กลุ่มผู้สนับสนุน เป็นเรื่องอยู่ในสำนวน เบื้องต้น ได้ประสานให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบ และส่งข้อมูลให้พนักงานสอบสวน ส่วนจะเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการจับตาความเลื่อนไหวบนโลกโซเชียล ว่า มีการโพสต์เชิญเชิญหรือเข้าข่ายปลุกระดมหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบว่ามีการติดต่อกับกลุ่มการเมืองด้วยหรือเปล่า แต่เบื้องต้นยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่เป็นนัยสำคัญ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีมวลออกมาเคลื่อนไหวให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่บริเวณหน้ากระทรวงกลาโหมเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ใกล้กับเขตพระราชฐาน นั้น ถือว่ามีความผิดเข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง เนื่องจากการให้กำลังใจหรือการเดินทางมารวมตัวกัน ในทางกฎหมาย บัญญัติไว้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง จะต้องดำเนินการแบบเดียวกันกับกลุ่มผู้เคลื่อนไหวบริเวณสกายวอล์ก เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นจะแจ้งข้อหากับกลุ่มดังกล่าว 40 คน ในข้อหาผิด พ.ร.บ. ชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ มีการชุมนุมในรัศมีเขตพระราชฐาน 150 เมตร ชุมนุมเกิน 5 คน เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร กำชับใด้ดำนินการตามกฎหมาย ไม่ให้มีสองมาตรฐาน


รณรงค์อยากให้ “บิ๊กป้อม”ลาออก ล่าสุดคนลงชื่อทะลุกว่า 50,000 แล้ว

จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวบนเวทีระหว่างงานเลี้ยงสานสัมพันธ์สื่อสายทหาร ที่ห้องพินิจประชานาถ กระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับกระแสกดดันของสังคมเกี่ยวกับปัญหานาฬิกาฉาว โดยช่วงหนึ่งระบุว่าตนทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และมุ่งมั่นพัฒนาเรื่องความมั่นคง ได้รับการสนับสนุนจากสื่อมวลชนมาตลอดใน 4 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้บ้านเมืองคลี่คลายปัญหา จากนั้นกล่าวด้วยว่า

“ผมรับราชการมาตั้งแต่ปี 2511 ถึงวันนี้ก็ 50 ปีได้ รับราชการมาโดยตลอด ก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรต่าง ๆ ก็ดูเอาแล้วกันว่าผมได้ทำอะไรที่เสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมือง บ้าง ผมเข้ามาเพื่อต้องการทำงานให้บ้านเมืองถ้าประชาชนไม่ต้องการผมก็พร้อมที่จะ ไปจากตำแหน่งนี้” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ระบุ

ต่อมาได้มีผู้สร้างแคมเปญรณรงค์บนเว็บไซต์ CHANGE.ORG ระบุหัวข้อว่า “อยากให้รอง นายกประวิตรฯ ลาออก ตามที่ท่านได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 61 ที่กระทรวงกลาโหม” โดย ทิชา ณ นคร พร้อมระบุเหตุผลว่า เพื่อให้สถานการณ์ที่ อึมครึมทางการเมือง คลี่คลายไป ในทางที่ดี ทั้งนี้ผลของการณรงค์นี้จะถูกส่งต่อไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ภายในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง มีผู้เข้าไปลงชื่อ ในการรณรงค์ดัง กล่าวร่วมกับ นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก และเยาวชน อดีตสมาชิกสภาขับ เคลื่อนการปฎิรูป ประเทศ (สปท.) ผู้สร้างแคมเปญแล้วมากกว่า 50,000 คน

ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก DRAMA-ADDICT ซึ่งดำเนินการโดย นพ.วิทวัส ศิริประชัย หรือจ่าพิชิต ขจัดพาลชน ก็ทำโพลสอบถามความเห็นขึ้นในแฟนเพจที่มีผู้ติดตามากกว่า 1.8 ล้านคน ระบุว่า “สืบเนื่องจากข่าวนี้ ลุงป้อมกล่าวว่า ผมเข้ามาเพราะ อยากจะช่วยเหลือบ้าน เมือง อยากทำงานในบ้านเมือง ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้ ดังนั้น จ่าขออนุญาตสอบถามความเห็นประชาชนให้ลุงเขานะครับ เชิญโหวตกันตามอัธยาศัย” โดยให้แฟนเพจเลือก ระหว่าง อยากให้ท่านอยู่ต่ออีกนานๆ หรือ อยากให้ท่านไปพักผ่อน

ผลปรากฏว่า ในเวลาเพียง 18 ชั่วโมง จากจำนวนผู้เข้าโหวตราว 66,900 คน มีผู้ลงคะแนน ว่าอยากให้ “ลุงป้อม” ไปพักผ่อนมากถึงร้อยละ 95 ขณะที่มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่ลงคะแนน ว่าอยากให้ท่านอยู่ต่ออีกนานๆ ล่าสุดยอดคนลงชื่อทะลุไปกว่า 20,562 คนแล้ว

'ทนายยิ่งลักษณ์' ซัด 'วิษณุ' ทำร้ายจิตใจ!!

นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุถึงกรณีการยึดบ้านของน.ส.ยิ่งลักษณ์แล้วให้นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี และนายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย ต้องจ่ายค่าเช่าด้วยว่า ในฐานะทนายความได้ฟังคำให้สัมภาษณ์แล้วรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจอดีตนายกฯ เป็นอย่างยิ่ง บ้านก็ถูกยึดทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และสามีกับลูกยังต้องมาจ่ายค่าเช่าในการอยู่บ้านของตัวเองอีก ซึ่งตนได้ดูข้อกฎหมายและแนวคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วพบว่า กรณีถ้ามีการยึดบ้านของลูกหนี้ตามคำพิพากษา และเจ้าหนี้จะได้ค่าเช่านั้น จะต้องเป็นกรณีในขณะหรือภายหลังที่มีการยึดบ้านนั้น ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ได้นำบ้านออกให้บุคคลอื่นเช่า เจ้าหนี้สามารถเรียกร้องค่าเช่านั้นได้ ซึ่งในทางกฎหมายเรียกว่า ดอกผลของทรัพย์ที่ถูกยึด แต่กรณีนี้การยึดบ้านของท่านอดีตนายกฯ เป็นการยึดทรัพย์โดยอาศัยคำสั่งทางปกครองก่อนที่จะศาลจะมีคำพิพากษา และข้อเท็จจริงเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า บ้านดังกล่าวอดีตนายกฯ ได้ร่วมพักอาศัยเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก แม่บ้าน โดยไม่ได้นำออกให้เช่าแต่อย่างใด

นายนรวิชญ์ กล่าวว่า การที่นายอนุสรณ์อยู่อาศัยก็อยู่อาศัยในฐานะสามี และเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และการที่น้องไปป์อยู่อาศัยก็อยู่ในฐานะบุตร ไม่ใช่ผู้เช่า จึงไม่เป็นเหตุที่บุคคลทั้งสองจะต้องจ่ายค่าเช่าให้กับกระทรวงการคลังตามที่นายวิษณุให้สัมภาษณ์ จากคำให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุที่ไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมายและแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เป็นการทำร้ายจิตใจของอดีตนายกฯ นายอนุสรณ์ และน้องไปร์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากบ้านที่เคยอยู่อาศัยก็ต้องถูกยึด การอยู่ในบ้านของตัวเองก็ต้องมาเสียค่าเช่าอีก น่าสะเทือนใจยิ่งนัก ตนในฐานะทนายความของอดีตนายกฯ แม้จะไม่ได้ดูแลในส่วนคดีของศาลปกครอง แต่ขอให้กำลังใจอดีตนายกฯ นายอนุสรณ์และน้องไปป์ว่า คำสัมภาษณ์ของนายวิษณุไม่เป็นที่สุด ในกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมายยังมีขั้นตอนที่ต้องต่อสู้กันอีกหลายขั้นตอน