วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์/ซีเอ็นเอ็น) -ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ อ้างว่า เขาไม่ได้ให้ไฟเขียวแก่ตุรกีโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ดทางเหนือของซีเรีย และย้ำว่า ทหารสหรัฐ ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายจากการโจมตีของทหารตุรกี ขณะที่สภาคองเกรสลงมติท่วมท้นประณามทรัมป์กรณีถอนทหารจากซีเรีย
ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักกรณีที่สั่งถอนทหารออกจากซีเรีย ได้ปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ให้ไฟเขียวแก่ตุรกีโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ด และกล่าวปกป้องการตัดสินใจของเขาว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดสำหรับสหรัฐเอง เพราะทหารสหรัฐได้ถอนกำลังออกมาแล้ว และเขาไม่เห็นเหตุผลที่ทหารสหรัฐต้องช่วยคุ้มครองพรมแดนของซีเรียที่อยู่ห่างจากสหรัฐออกไปถึง 7,000 ไมล์ หรือ 11,265 กิโลเมตร ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้หลังจากทหารตุรกีได้เข้าไปในซีเรีย จึงเป็นเรื่องระหว่างตุรกีกับซีเรีย ไม่ใช่ตุรกีกับสหรัฐ ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า กลุ่มกบฏชาวเคิร์ด หรือพีเคเค ซึ่งก่อความไม่สงบต่อต้านรัฐบาลตุรกีมานานหลายสิบปี อาจจะเป็นภัยคุกคามมากยิ่งกว่ากลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส เลยก็ได้
ท่าทีของทรัมป์มีขึ้นขณะที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงมติอย่างท่วมท้นด้วยคะแนนเสียง 354-60 เสียง ประณามการถอนทหารสหรัฐออกจากซีเรีย โดยมีสมาชิกสภาจากพรรครีพับลิกันของทรัมป์ร่วมโหวตกับ สส.พรรคเดโมแครต ถึง 129 คน ในมติดังกล่าว ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอานของตุรกี ยุติปฏิบัติการทหารต่อกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียโดยทันที
ขณะที่นายสตีเวน มนูชินรัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐกำลังเตรียมการกดดันทางเศรษฐกิจกับตุรกีเพิ่ม หากตุรกียังไม่ยอมหยุดการรุกสู่พื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย เพื่อกวาดล้างกองกำลังชาวเคิร์ดในพื้นที่ หลังจากในสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงของตุรกี พร้อมขึ้นภาษีนำเข้าจากตุรกี และขู่จะทำลายเศรษฐกิจของตุรกี หากตุรกียังไม่ยุติปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย
ด้านรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางไปพบประธานาธิบดีแอร์โดอาน ผู้นำตุรกีที่กรุงอังการา เพื่อกดดันให้ตุรกียุติการรุกพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย นักวิเคราะห์ชี้ว่า ทรัมป์กำลังปกป้องการตัดสินใจของตัวเองที่กำลังสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว แม้กระทั่งจากพรรครีพับลิกันด้วยกันเรื่องการหักหลังกองกำลังชาวเคิร์ดที่ช่วยทหารสหรัฐรบกับกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอสมาโดยตลอด และชี้ว่า ทรัมป์กำลังเน้นย้ำนโยบาย “อเมริกามาก่อน” ของเขา ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 17 ตุลาคม 2562 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า งบประมาณที่ตั้งมาผิดรัฐธรรมนูญ เพราะในนโยบายหาเสียงไม่มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และในการแถลงนโยบายรัฐบาลก็ไม่สอดรับ
"เดี๋ยวตนจะไปแจ้งความจับเลย งบที่จัดตั้งมาท่านยังไปซื้ออาวุธ แถมงบกลางยังมีกว่า 5 แสนล้าน น้ำท่วมแทบตายแต่กลับไม่มีเงินไปช่วย กลับเอาเงินไปซื้อรถถัง 2.8 พันล้านบาท ตนอายมาก ดูนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเกิดพายุน้ำท่วมเขาดูแลอย่างดี แต่บ้านเราเข้าไม่ถึงความเดือดร้อนประชาชน เศรษฐกิจวันนี้ตกต่ำ งบประมาณที่จะไปฟื้นเศรษฐกิจไม่มีเลย ตนอยากจะตัดงบกลางมาช่วยเศรษฐกิจมากกว่า"
ทั้งนี้ การแก้เศรษฐกิจวันนี้ต้องใช้ยาแรง เราต้องฉีดไปที่ฐานราก นโยบายเดิมที่ทำมาไม่ทันสมัย ต้องปฏิรูปโครงสร้างใหม่ อย่าเอาแต่ใช้เงิน แต่กลับใช้ไม่เป็น การจัดสรรงบต่างๆ วันนี้กลับเอื้อเจ้าสัวรายใหญ่ วันนี้มีอภิมหาโคตรโกง คือ โครงการอีอีซี ที่มีเจ้าสัวไปรวมกันว่าจะทำโครงการอะไรดี ไปกว้านซื้อที่ดิน แล้วทำพื้นที่สีเขียวเป็นสีม่วง ทำให้ราคาที่ดินขึ้นเป็น 10 เท่า
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายอย่างที่เอื้อ ทั้งการลดภาษีและสิทธิพิเศษต่างๆ โดยมาจากการอนุมัติโดยมาตรา 44 ในยุค คสช.นอกจากนี้ โครงการ "ชิม ช็อป ใช้" ก็ไม่ได้ผล เป็นขนมจีนที่ไร้น้ำยา การกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ เครื่องยนต์ 4 ตัว ดับสนิท คือ การนำเข้า-ส่งออก การลงทุนภาครัฐ ท่องเที่ยว และการลงทุนภาคเอกชน
วันที่ 17 ตุลาคม 2562 ความคืบหน้าคดี ลัลลาเบล ธิติมา พริตตี้สาวเสียชีวิต ว่า หลังการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ข้อยุติว่า บ่ายวันนี้พนักงานสอบสวนจะนำพยานหลักฐาน ไปขออนุมัติศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในบ้านปาร์ตี้บางบัวทองเพิ่ม นอกเหนือจาก นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือ น้ำอุ่น ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าล่าสุด ศาลอาญาธนบุรี อนุมัติออกหมายจับสมาชิกภายในบ้านที่มีการจัดปาร์ตี้ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย
1.นายชัยพล หรือคิว พรรณา อายุ 29 ปี
2.นายนที หรือตี๋ สถิตพงษ์สถาพร อายุ 33 ปี
3.พี่ชายนายคิว น.ส.พิกุลทอง หรือเฟิร์ส บุญตา อายุ 24 ปี แฟนสาวนายคิว
4.นายโกเมศ หรือปิงปอง ฤทธิ์นิธิฤกษ์ อายุ 35 ปี
5.นายกฤษฎา หรือโนบิตะ โลหิตดี อายุ 27 ปี
ในข้อหาขกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , ข้อหาพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร , ข้อหากระทำอนาจารผู้อื่น และข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิด
วันที่ 17 ตุลาคม 2562 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด หัวหน้าพรรคเกียน และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองดัง โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวสั้นๆ ว่า
"ทำไมการวิจารณ์รัฐบาล ผู้นำประเทศ ถึงกลายเป็นการด่าประเทศไปได้ ?"
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 17 ตุลาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ.2563 ว่า ตนไม่ต้องการโต้ตอบใคร และรับฟังทุกท่าน แต่กรณีที่ตนไปพูดที่ยูเอ็น มีการพูดถึงระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งเป็นการทำต่อจากนโยบายครั้งที่แล้ว แต่รัฐบาลไหนไม่รู้ที่ทำให้โรงพยาบาลประสบปัญหาขาดทุน ตนพูดเช่นนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องอัตราจ้าง อสม.ที่จะให้คนละ 10,000 บาท รัฐบาลกำลังพยายามทยอยให้ไปเรื่อยๆ แต่ต้องพัฒนา อสม.ด้วย อย่าเอาเรื่องนี้มาหาเสียง ตนไม่เห็นด้วย พูดออกไปแล้วใครจะรับผิดชอบงบประมาณตรงนี้ ในส่วนของอัตรากำลังของแพทย์ ก็พยายามแก้ไขด้วยการให้มีหมอชุมชน การพูดรวมๆ เช่นนี้ โดยไม่ลงรายละเอียด จะทำให้ประชาชนทางบ้านเข้าใจผิด
โตเกียว (รอยเตอร์/เอ็นเอชเค) - นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น ตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยไต้ฝุ่นฮากิบิสพัดกระหน่ำตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้ว และให้คำมั่นจัดสรรเงินเพื่อบรรเทาภัยพิบัติ 710 ล้านเยน (ราว 200 ล้านบาท)
นายกรัฐมนตรีอาเบะลงพื้นที่จังหวัดฟุกุชิมะและจังหวัดมิยางิ เป็นสองจังหวัดที่ได้รับความเสียหายหนักจากไต้ฝุ่นฮากิบิสพัดถล่มเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา และยังมีผู้ประสบภัยอีกจำนวนมากต้องอาศัยอยู่ในศูนย์ผู้อพยพ เนื่องจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียหาย ท่ามกลางความเป็นห่วงของหลายฝ่ายเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ประสบภัยตามศูนย์อพยพเพราะจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว บางคนไม่มีอะไรติดตัวเลยนอกจากเสื้อผ้าที่สวมอยู่ นายกรัฐมนตรีอาเบะย้ำว่า รัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนกลับไปมีชีวิตตามปกติ โดยได้จัดเงินเพื่อการบรรเทาภัยพิบัติไว้ 710 ล้านเยน (ราว 200 ล้านบาท) ก่อนหน้านี้นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังเผยว่า รัฐบาลมีงบสำรองสำหรับการฟื้นฟูภัยพิบัติ 500,000 ล้านเยน (ราว 139,440 ล้านบาท) และจะพิจารณางบเพิ่มเติมหากจำเป็น ด้านกระทรวงที่ดินและการคมนาคมเตือนวันนี้ว่า ทำนบกั้นน้ำพังเสียหายกว่า 100 แห่ง และอาจมีฝนตกหนักช่วงสุดสัปดาห์นี้ เสี่ยงเกิดน้ำท่วมเพิ่มเติมอีก
สำหรับจังหวัดฟุกุชิมะและจังหวัดมิยางิ นอกจากได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นฮากิบิสมากที่สุดแล้ว ยังเป็นสองจังหวัดที่ได้รับความเสียหายหนักจากแผ่นดินไหวใหญ่และสึนามิปี 2554 เฉพาะจังหวัดฟุกุชิมะมีผู้เสียชีวิตเพราะฮากิบิสแล้ว 28 ศพ จากผู้เสียชีวิตทั้งหมด77 ศพ สูญหาย 9 คน และบาดเจ็บ 346 คนเพราะไต้ฝุ่นทำให้ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลันเพราะน้ำล้นตลิ่ง จนถึงขณะนี้กว่า 105,000 หลังคาเรือน ยังไม่มีน้ำประปา และอีกนับพันหลังคาเรือนยังไม่มีไฟฟ้า ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเตือนว่า พื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันออกของญี่ปุ่นจะมีฝนตกอีกในวันศุกร์และวันเสาร์ พร้อมเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเฝ้าระวัง เพราะแม้จะมีฝนตกเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดน้ำท่วมหรือดินถล่มได้ เนื่องจากระดับน้ำเดิมยังคงสูงและดินยังชุ่มน้ำ
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค รายงานว่าการจัดริ้วขบวนฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ จะเลื่อนจากวันที่ 22 ตุลาคมไปเป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน เพราะต้องดำเนินการฟื้นฟูความเสียหายหลังจากไต้ฝุ่นฮากิบิสพัดกระหน่ำทางตอนกลางและตะวันออกของประเทศเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่วนงานอื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม ซึ่งรวมถึงพระราชพิธีทางศาสนาและงานเลี้ยงของสำนักพระราชวังจะเป็นไปตามกำหนดเดิม
วันที่ 17 ตุลาคม 2562 พระครูโฆษิต บุญโญปถัมภ์ เจ้าอาวาสวัดถ้ำระฆัง และเจ้าคณะตำบลนาขุนไกร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย และผู้ใหญ่บ้าน, องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขึนไกร พร้อมคณะศิษย์ได้ร่วมกันขนข้าวสาร อาหารแห้ง ขนม นม น้ำส้ม จำนวนกว่า 3 ตันที่ได้จากงานบุญครั้งใหญ่ฉลองบันได 649 ขั้นและประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ พระสงฆ์ 108 รูปเดินลงจากยอดเขาถ้ำระฆัง รับบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือคนจน คนป่วยติดเตียงในพื้นที่ 12 หมู่บ้าน ต.นาขุนไกร
พระครูโฆษิต เจ้าอาวาสวัดถ้ำระฆัง กล่าวว่า ข้าวสารอาหารแห้งทั้งหมดนี้ ถ้าเอาไว้ที่วัดก็ไม่เกิดประโยชน์มากนัก เพราะพระกินไม่ทันฉันไม่หมด จะเสียของไปเปล่าๆ จึงได้นำมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ยากจนขัดสน รวมทั้งให้ครอบครัวผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง โดยมีข้าวสารประมาณ 2 ตัน อาหารแห้งกับเครื่องดื่มอีก 1 ตัน แจกให้ญาติโยมครอบครัวละ 4 กระสอบปุ๋ย หรือประมาณ 3,000 กว่าบาท
"ถ้าทางวัดสะสมเอาไว้ก็จะบูดจะเสีย เมื่อโยมมาทำบุญกับพระได้บุญแล้ว ก็จะได้บุญอีกต่อจากการให้ทานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถ้าเขากินไม่หมด อาหารก็ตกเป็นของสุนัข ไก่ นก รวมไปถึงไส้เดือนที่อยู่ในดิน เป็นทานอย่างสูง และปีต่อๆไปก็จะทำบุญทำทานเช่นนี้อีก เริ่มจากให้ในหมู่บ้าน ก่อนไปยังตำบลและอำเภอข้างเคียงต่อ เพื่อให้สิ่งของที่ญาติโยมทำบุญมานั้นเกิดประโยชน์สูงสุด" พระครูโฆษิต กล่าว
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012