'อิ๊งค์' ยัน รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ย้ำมีการประเมินสถานการณ์รอบด้าน
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวิตผ่านX ระบุว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา: รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ
ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน
เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ
หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไปค่ะ
ชาวศรีสะเกษมอบดอกไม้-สิ่งของเป็นกำลังใจทหารไทยท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด
วันที่ 3 มิถุนายน 2568 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ คณะคหบดี พ่อค้าแม่ค้า ชมรมต่างๆ และภาคเอกชน ได้รวมตัวกันนำสิ่งของจำเป็น อาทิ น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่มชูกำลัง ข้าวสาร และเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการอยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด
สถานการณ์การวางกำลังเผชิญหน้าระหว่างไทยและกัมพูชาตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ไปจนถึงสุรินทร์ ได้สร้างความห่วงใยให้กับประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวหลังเป็นอย่างมาก ด้วยตระหนักถึงความยากลำบากของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชนกลุ่มนี้จึงได้ร่วมใจกันรวบรวมสิ่งของจำเป็นมามอบให้ในวันนี้ นอกจากนี้ ยังได้นำดอกกุหลาบสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความห่วงใย มามอบให้กับทหารหาญด้วย
ในส่วนของการท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร บริเวณผามออีแดง ได้มีการประกาศระงับการท่องเที่ยวชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศตามหมู่บ้านชายแดนในอำเภอกันทรลักษ์ยังคงเป็นปกติ ชาวบ้านยังคงติดตามข่าวสารและข้อมูลจากผู้นำชุมชนและหน่วยงานราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
'กัมพูชา'เมินเจรจาทวิภาคีกับไทย ลุยปม4พื้นที่พิพาทขึ้นสู่ศาลโลก
5 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ 'เดอะพนมเปญโพสต์' ได้รายงานข่าวว่า "พื้นที่พิพาทไม่สามารถเจรจาทวิภาคีกับไทยได้ รัฐบาลกัมพูชาได้ตั้งข้อสังเกตว่า เนื่องจากกัมพูชาตั้งใจที่จะนำประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่พิพาท 4 แห่ง ได้แก่ ตาเมือนธม , ตาเมือนโต๊ด , ตากระเบย์ และพื้นที่มุมบายน ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ : International Court of Justice (ICJ) จึงจะไม่นำประเด็นเหล่านี้ไปหารือในการเจรจาทวิภาคีกับไทยในวันที่ 14 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ในแถลงการณ์เดียวกันซึ่งเผยแพร่เมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนแสดงความยับยั้งชั่งใจและหลีกเลี่ยงความรู้สึกชาตินิยมที่เปิดเผย
วิกฤตประชากรญี่ปุ่น ยอดการเกิดใหม่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์
4 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเผยจำนวนอัตราการเกิดในญี่ปุ่นปี 2024 ซึ่งลดลงต่ำกว่า 700,000 คนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยจำนวนทารกที่เกิดใหม่ในญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วมีทั้งหมด 686,061 คน ลดลงจากปี 2023 ถึง 41,227 คน นับเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 1899
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประชากรสูงวัยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากโมนาโก ตามข้อมูลจากธนาคารโลก
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ได้เรียกสถานการณ์นี้ว่าเป็น "ภาวะฉุกเฉินที่เงียบงัน" และได้ประกาศมาตรการที่ส่งเสริมครอบครัว เช่น การปรับเวลาทำงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อพยายามพลิกสถานการณ์นี้
โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขที่เผยแพร่เมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่า อัตราการเกิดของประชากรในญี่ปุ่นลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 1.6 ล้านคนในปี 2024 ซึ่งการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1.9% จากปีที่แล้ว
นายกรัฐมนตรีอิชิบะ ได้เรียกร้องให้มีการฟื้นฟูภูมิภาคชนบท ซึ่งหมู่บ้านที่มีประชากรสูงอายุกำลังเผชิญกับการโดดเดี่ยวเพิ่มขึ้น
ข้อมูลจากกระทรวงกิจการภายในเผยว่าในชุมชนกว่า 20,000 แห่งในญี่ปุ่น ประชากรส่วนใหญ่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
ประเทศที่มีประชากร 123 ล้านคนนี้ยังเผชิญกับการขาดแคลนแรงงานที่ทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากการเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งไม่ได้รับการแก้ไขด้วยกฎการเข้าเมืองที่ค่อนข้างเข้มงวด
ในประเทศเกาหลีใต้ที่อยู่ใกล้เคียง อัตราการเกิดในปี 2024 ยังต่ำกว่าของญี่ปุ่นที่ 0.75 ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในอัตราที่ต่ำที่สุดในโลก แต่ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้วเนื่องจากมีการแต่งงานเพิ่มขึ้น
ญี่ปุ่นสยอง! พบซากแมวเกือบ 100 ตัว ในบ้านสมาชิกองค์กรพิทักษ์สัตว์
4 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พบศพแมวประมาณ 100 ตัว ที่บ้านของหญิงสาวในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สัตว์
โดยกลุ่ม Animal Assist Senju ได้ออกมาขอโทษผ่านโซเชียลมีเดีย โดยโพสต์ภาพบ้านที่เต็มไปด้วยขยะและกล่าวว่าบ้านเต็มไปด้วยอุจจาระและปัสสาวะ
บ้านหลังนี้เป็นของหนึ่งในพนักงานของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งกลุ่มกล่าวว่า พนักงานคนนี้ได้ทำการรับแมวจำนวนมากไปเลี้ยงโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากองค์กร
โดยกลุ่มดังกล่าวระบุในโพสต์ผ่านอินสตาแกรมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แมวตัวหนึ่งถูกพบในสภาพที่จำไม่ได้ โดยมีผิวหนังบางส่วนหลุดลอกและอุ้งเท้าเต็มไปด้วยอุจจาระและปัสสาวะ พร้อมทั้งกล่าวว่า “สมาชิกทุกคนของกลุ่มเราให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างจริงจังและเราสามารถจินตนาการได้ว่าแมวเหล่านั้นต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากก่อนที่พวกมันจะตาย”
ศูนย์ป้องกันสัตว์เมืองคุมะโมโตะกล่าวกับ AFP เมื่อวันพุธว่าแมวที่ตายทั้งหมดมีจำนวนประมาณ 100 ตัว อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่าจำนวนจริงอาจสูงกว่านี้
ด่วน! 'ทรัมป์'ลงนามคำสั่งห้ามพลเมืองจาก12ประเทศเดินทางเข้า'สหรัฐ' 2ชาติอาเซียนโดนด้วย
5 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า 'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งห้ามพลเมืองจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย โดย12 ประเทศดังกล่าวที่พลเมืองถูกห้ามเข้าสหรัฐฯ ได้แก่ อัฟกานิสถาน ,เมียนมา ,ชาด ,สาธารณรัฐคองโก ,อิเควทอเรียลกินี ,เอริเทรีย ,เฮติ ,อิหร่าน ,ลิเบีย ,โซมาเลีย ,ซูดาน และเยเมน
นอกจากนี้ยังมีพลเมืองจากอีก 7 ประเทศที่จะถูกจำกัดการเข้าเมืองบางส่วน ได้แก่ บุรุนดี ,คิวบา ,ลาว ,เซียร์ราลีโอน ,โตโก ,เติร์กเมนิสถาน และเวเนซุเอลา ประกาศดังกล่าวจะมีข้อยกเว้นสำหรับผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกกฎหมาย ผู้ถือวีซ่าปัจจุบัน วีซ่าบางประเภท และบุคคลที่การเดินทางเข้าประเทศเพื่อผลประโยชน์ของชาติสหรัฐฯ
'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจลงนามในประกาศนี้หลังจากการโจมตีต่อต้านชาวยิวในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า 'ปธน.ทรัมป์'ได้พิจารณาเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว แต่การโจมตีเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ทำให้มีผลบังคับใช้เร็วขึ้น โดยทำเนียบขาวยกย่องคำสั่งห้ามเดินทางของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าเป็น "การทำตามสัญญา" ที่จะ "ปกป้องชาวอเมริกันจากผู้กระทำผิดชาวต่างชาติที่เป็นอันตรายที่ต้องการเข้ามาในประเทศของเราและทำร้ายเรา"
ต่อมา 'แอบิเกล แจ็กสัน' รองโฆษกทำเนียบขาว ได้ออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำตามสัญญาที่จะปกป้องชาวอเมริกันจากผู้กระทำผิดชาวต่างชาติที่เป็นอันตรายที่ต้องการเข้ามาในประเทศของเราและทำร้ายเรา ข้อจำกัดตามสามัญสำนึกเหล่านี้มีความเฉพาะเจาะจงในแต่ละประเทศและรวมถึงสถานที่ที่ขาดการตรวจสอบอย่างเหมาะสม มีอัตราการอยู่เกินวีซ่าสูง หรือล้มเหลวในการแบ่งปันข้อมูลประจำตัวและภัยคุกคาม
ก่อนหน้านี้ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์เคยห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ แต่นโยบายดังกล่าวถูกยกเลิกโดยอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในปี 2021
