เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยถึงรูปที่ถ่ายคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนำมาติดไว้ภายในพื้นที่รับรองของห้องทำงาน ผบช.น. โดยเป็นภาพขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประดับยศ พล.ต.ท.ให้ว่า เรื่องภาพที่นำมาติดคิดว่าไม่มีความผิดอะไร เพราะเป็นภาพของคนที่รัก ที่เคารพ และยึดเป็นแบบในการทำงาน อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นความภูมิใจของนักเรียนนายร้อยตำรวจอีกด้วย เนื่องจากสามารถก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากความรู้ความสามารถ การนำภาพมาติดก็เพราะเกิดจากความเคารพนับถือ
"ที่ติดไว้ก็เพื่อให้เตือนตัวเองกับคำสอนต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยบอกผมไว้ ทั้งเรื่องที่ต้องทำงานให้ประชาชนรัก และทำงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเคารพ ส่วนใครจะมองอย่างไร หรือให้ความเห็นต่างๆ ว่าไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ผมไม่สนใจ และยืนยันว่าไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ติดรูปไว้เตือนใจถึงคำสอนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ย้ำ
ผบช.น. กล่าวอีกว่า ส่วนป้ายคำที่ติดไว้ระหว่างรูปว่า "มีวันนี้ เพราะพี่ให้" ไม่ได้หมายความว่าได้มานั่งตำแหน่งผบช.น.เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นวลีที่ชอบ และมาจากบทเพลงที่ร้องอยู่เป็นประจำคือเพลงพี่มีแต่ให้ แต่หากจะให้สอดคล้องก็คงเป็นเพราะคำสอนต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้มาเท่านั้น ไม่มีความหมายอื่นแอบแฝงแน่นอน
ย้ายด่วน! "คำรณวิทย์" สะบัดปากกาเซ็นย้าย พ.ต.ท.ปัณณ์ภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ เข้ากรุแบบไม่มีกำหนด หลังยัวะพยายามช่วยขาซิ่งนำตัวปลอมส่งพนักงานสอบสวน
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 3 ก.ย. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า เพิ่งเซ็นคำสั่งโยกย้าย พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านเลขที่ 9 ซอยสุขุมวิท 53 ของนายเฉลิม อยู่วิทยา บิดาของนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหา ให้เข้ามาช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แบบไม่มีกำหนด โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมพยายามช่วยเหลือผู้ต้องหาตัวจริงด้วยการนำชายที่มีหน้าที่ขับรถประจำบ้านหลังดังกล่าวมามอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ทั้งที่ในข้อเท็จจริงไม่ใช่ผู้ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ จนเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะจากการตรวจสอบสมุดบันทึกการเข้าออกของพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำประตูหน้า ปรากฏว่าผู้ขับรถคันเกิดเหตุคือนายวรยุทธ สำหรับคดีนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อความรัดกุมของสำนวน.
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (5 ก.ย.) นายเสน่ห์ จิตศรัทธา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 465/4 หมู่ 4 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยนายถวัลย์ แย้มพรายภิรมย์ อายุ 69 ปี อยู่เลขที่ 72 หมู่ 4 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พ่อตาซึ่งเป็นบิดาของนางทิพวรรณ จิตศรัทธา อายุ 36 ปี ภรรยานายเสน่ห์ เข้าพบ พ.ต.ท.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ พงส.(สบ2) กก.2 บก.ป.เพื่อขอให้ตำรวจติดตามคดีที่นางทิพวรรณ หายตัวไปจากบ้านพัก โดยเชื่อว่าตกบ่อฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนำภาพถ่ายนางทิพวรรณ พร้อมกับสำเนาบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้ประกอบการสืบสวนสอบสวน นายเสน่ห์ให้การว่า ช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ตนได้พานางทิพวรรณภรรยา ไปพบแพทย์ที่คลีนิกใกล้กับบ้านพัก จากนั้นภรรยาได้ขอไปกินก๋วยเตี๋ยว กระทั่งช่วงประมาณ 11.00 น. ภรรยาได้ไปเที่ยวต่อที่ฟาร์มจระเข้ดังกล่าว ส่วนตนเลยไปทำงาน จนในช่วงค่ำหลังจากตนกลับจากที่ทำงานแล้วยังไม่พบภรรยา จึงเห็นผิดสังเกตุ และได้ออกตามหา ก่อนจะแจ้งกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิให้ช่วยกันออกตามหาแต่ไม่พบตัว กระทั่งตนได้ยินคนในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งทำงานอยู่ที่ฟาร์มจระเข้ พูดว่า “เห็นมีคนตกลงไปในบ่อจระเข้” เมื่อได้สอบถามรูปพรรณ สัณฐาน ก็ตรงกับภรรยาตน เพราะเขาบอกว่าเห็นนิ้วชี้มีผ้าพันแผลพันไว้ เหมือนชูมือขึ้นเพื่อขอความช่วยเหลือ นายเสน่ห์ กล่าวต่อว่า เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าว ในวันรุ่งขึ้นตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้พาตนไปที่ฟาร์มจระเข้ดังกล่าว เพื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลฟาร์มแห่งนี้ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างปฏิเสธ ว่าไม่รู้ไม่เห็นว่ามีคนตกบ่อฟาร์มจรเข้ จากนั้นทางตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าก่อนเกิดเหตุภรรยาตนใส่เสื้อสีเขียว กางเกงขาสั้น รองเท้าสีขาว เดินเข้าไปในฟาร์มดังกล่าวในวันเกิดเหตุ ต่อมาทางเจ้าของฟาร์มจระเข้ ได้ส่งคนมาเจรจาเพื่อขอเคลียร์กับตนว่า จะเรียกร้องเงินในกรณีที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งตนไม่อยากได้แต่ต้องการรู้ข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าภรรยา เสียชีวิตโดยตกบ่อจระเข้จริง เพื่อจะทำพิธีเชิญวิญญาณกลับบ้าน ตนถามพนักงานของฟาร์มจระเข้ที่สนิทกัน รู้ว่าภรรยาได้ปีนรั้วกั้นบ่อจระเข้ แล้วกระโดดลงไปให้จระเข้กิน โดยก่อนหน้านี้ภรรยามีอาการซึมเศร้า และต้องรับยาจากโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ก่อนเกิดเหตุยังได้นำทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์ ไปฝากกับร้านขายของชำ กระทั่งมาทราบว่ากระโดดบ่อดังกล่าว นอกจากนี้ทางญาติยังฝันเห็นวิญญาณของภรรยา มายืนร้องไห้ด้วย ซึ่งตนไม่อยากเรียกร้องอะไร ขอเพียงให้ได้เชิญวิญญาณภรรยาตนมาทำพิธีเท่านั้น ไม่ได้คิดฟ้องร้องเอาเรื่องกับเจ้าของฟาร์มแต่อย่างใด
หลังจากมีรถเก๋งสปอร์ตหรูซิ่งชนจยย.สายตรวจสน.ทองหล่อ จนทำให้ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งาน (ป.) สน.ทองหล่อ เสียชีวิตคาเครื่องแบบ ก่อนที่รถเก๋งคันดังกล่าวจะวิ่งหนีเข้าไปในคฤหาสน์เลขที่ 9 ซอยท่องหล่อ 53 ซึ่งเป็นบ้านของ "เฉลียว อยู่วิทยา" เจ้าพ่อกระทิงแดง ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้นำกองกำลังตำรวจ 2 กองร้อยหรือราวประมาณ 300 นายมาปิดล้อมคฤหาสน์หลังดังกล่าว พร้อมกับประกาศลั่นถ้าจับคนขับรถไม่ได้จะขอลาออกทันที พร้อมกับเตรียมให้พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ สำหรับรถเก๋งคันก่อเหตุเป็นรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ รุ่นพินอินฟาริน่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ญญ 1111 กรุงเทพมหานคร (ซึ่งถูกถอดออกหลังเกิดเหตุ) โดยมีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ลูกชายคนสุดท้องของนายเฉลิม-ดารณี อยู่วิทยา เป็นหนุ่มนักเรียนนอกจบการศึกษาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากเซนต์มาร์ติน ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางทนายความประจำตระกูลได้รีบเดินทางมาที่คฤหาสน์ของเจ้าพ่อกระทิงแดงทันที จากนั้นเวลา 10.00 น. ทนายความได้แนะนำให้นายวรยุทธออกมามอบตัวกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก่อนที่จะเดินทางนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.ทองหล่อ โดยปิดห้องสอบไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012