ข่าว
มี‘ความหวัง’แม้อะไรยังไม่แน่นอน! ชาว‘ซีเรีย’ฉลองปีใหม่ครั้งแรกหลังสิ้นยุคเผด็จการอัสซาด

1 ม.ค. 2568 นสพ. The National สื่อท้องถิ่นเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายงานข่าว 'We have hope': Syrians celebrate a new year and new era after fall of Assad regime ระบุว่า ที่กรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย มีชาวซีเรียจำนวนมากออกมาเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2567-ต้อนรับปีใหม่ 2568 อย่างสนุกสนาน ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองครั้งแรก หลังสงครามกลางเมืองที่ยาวนานถึง 13 ปีสิ้นสุดลง เมื่อกองกำลังฝ่ายค่อค้านได้ขับไล่อดีตประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar Al Assad) เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 ยุติการปกครองแบบเผด็จการที่ตระกูลอัสซาดผูกขาดอำนาจยาวนาน 50 ปี

แม้สถานการณ์หลังจากนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน แต่บรรยากาศสัมผัสได้ถึงความหวัง ถนนบาบตูมาในย่านเมืองเก่าของกรุงดามัสกัสเต็มไปด้วยผู้คน โดยหลายคนสวมธงสีเขียว ขาวและดำ พร้อมดาว 3 ดวง ซึ่งเป็นธงของฝ่ายต่อต้านอดีต ปธน.อัสซาด ถนน Bab Touma ในย่านเมืองเก่า สว่างไสวและประดับด้วยไฟระยิบระยับ ร้านค้าเล็กๆ ร้านอาหาร และบาร์ต่างเปิดให้บริการ และบางครั้งก็มองเห็นชายฉกรรจ์คลุมโม่งสีดำพร้อมอาวุธ ซึ่งน่าจะเป็นนักรบของฝ่ายต่อต้าน ยืนอยู่ในความมืด

ท่ามกลางการเฉลิมฉลอง ความโกรธแค้นของผู้คนยังคงอยู่ต่อการปกครองที่โหดร้ายของอัสซาด ซึ่งจับกุมคุมขังประชาชนหลายหมื่นคน อัสซาดนั้นต่อสู้เพื่อรักษาอำนาจของตนเองโดยมีรัสเซียและอิหร่านเป็นพันธมิตร ในขณะที่เศรษฐกิจของซีเรียตกต่ำ ขณะที่กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม HTS ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายต่อต้าน และมีประวัติเคยเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ ให้คำมั่นว่าซีเรียยุคใหม่จะคำนึงถึงคนทุกเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งยังไม่ได้ทำให้ความกลัวของกลุ่มชาติพันธุ์และชนกลุ่มน้อยทางศาสนาลดลง พวกเขายังคงกังวลว่าวิถีชีวิตอาจได้รับผลกระทบ

สัญญาณของรัฐใหม่เริ่มปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ในขณะที่ทันทีหลังจากการล่มสลายของระบอบการปกครองของอัสซาด พรมแดนระหว่างเลบานอนและซีเรียสามารถข้ามได้ภายในไม่กี่นาที ทางการใหม่ได้เริ่มดำเนินการตามขั้นตอนการเข้าเมืองอย่างเป็นทางการแล้ว ที่จุดสูงสุดบนทางด่วนจากเบรุตไปยังดามัสกัส ขณะที่ถนนเริ่มลาดลงสู่หุบเขาเบกา หิมะปกคลุมถนน ทั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของเลบานอนและซีเรียที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองมัสนา ซึ่งถูกอิสราเอลทิ้งระเบิดแต่ตอนนี้เปิดทำการแล้ว เต็มไปด้วยผู้คนที่มุ่งหน้าไปยังดามัสกัสและไกลออกไป

ป.ป.ช.ฟันอาญา-จริยธรรมร้ายแรง 'ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ'สส.ภท. รับเงินค่ารักษาพยาบาล

วันที่ 2 มกราคม 2568 นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่าที่ประชุมป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย กรณีถูกกล่าวหารับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากบุคคล เนื่องจากยอมให้บุคคลอื่นชำระค่ารักษาพยาบาลแทนให้แก่ตนเอง

โดยมีข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่านายณัฏฐ์ชนน เข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน 2562 และวันที่ 23 กันยายน -วันที่ 18 ตุลาคม 2562 มีค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งสิ้น 1,449,223 บาท โดยได้ยอมให้บุคคลอื่นชำระค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลแทนตนเองรวมเป็นเงิน 1,335,778 บาท และได้นำใบเสร็จรับเงินค่ารักษาไปเบิกค่ารักษาพยาบาลจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 495,409.50 บาท มีส่วนที่เกินไม่สามารถเบิกจ่ายได้เป็นเงินจำนวน 953,813.50 บาท

ซึ่งต่อมานายณัฏฐ์ชนน ได้เสนอแต่งตั้ง 1 ใน 3 ราย ที่ชำระค่ารักษาพยาบาลแทนตนเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวตามคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ 2455/2563 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ซึ่งการกระทำของนายณัฏฐ์ชนน จึงเป็นการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้อื่นนอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเห็นว่า การกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 และมีความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตร ฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27 โดยส่งรายงานจำนวนการไต่สวนเอกสารพยานหลักฐานและความเห็นพร้อมสำเนาอิเล็กทรอ นิกส์ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและให้เสนอเรื่องกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป


สาวขับเก๋งชน จยย.ยายวัย 67 เสียชีวิตสังเวย 10 วันอันตรายศพแรกของสัตหีบ

เมื่อเวลา 09.10 น.วันที่ 2 ม.ค.68 พ.ต.ต.รัชวุฒิ ทรัพย์ศิริ สารวัตรสอบสวน สภ.พลูตาหลวง ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งชนรถ จยย.มีผู้ได้รับบาดเจ็บบนถนนสุขุมวิท ขาเข้าสัตหีบ ตรงข้ามสนามกีฬาราชนาวีสัตหีบ กม.5 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ชีพ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ

ที่เกิดเหตุ จนท.กำลังปั้มหัวใจฟื้นคืนชีพนางสุนิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ในสภาพนอนจมกองเลือดอยู่กลางถนน แต่ทนผิดบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังขี่รถ จยย.ฮอนด้า สกู้ปปี้ สีน้ำเงิน ชลบุรี ในสภาพมีร่องรอยเฉี่ยวชน ห่างไปพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีเทา ทะเบียน กทม ในสภาพด้านหน้าฝั่งคนขับมีร่องรอยเฉี่ยวชนพังเสียหาย โดยมีนางสาวจารุนันท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เป็นคนขับนั่งร้องไห้ด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สอบถามคนขับรถเก๋ง กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขณะขับรถมาทางตรงตามปกติ พอมาถึงแยกไฟแดงทางตนเป็นสัญญานไฟเขียว ขณะนั้นผู้เสียชีวิตได้ขี่รถ จยย.ข้ามแยกออกมาจากริมถนนลักษณะย้อนศรข้ามแยกไฟแดงตัดหน้า ทำให้ตนเบรคไม่ทันจนทำให้พุ่งชนอย่างแรงจนเสียชีวิต เบื้องต้น จนท.ได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ ก่อนจะสอบสวนคนขับรถยนต์เก๋งและพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


เกิดอะไรขึ้น! รถไซเบอร์ทรัคของเทสลาระเบิดที่โรงแรมทรัมป์ในลาสเวกัส ดับ 1 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รถบรรทุกไฟฟ้า “ไซเบอร์ทรัค” ที่ผลิตโดยบริษัทเทสลา เกิดระเบิดและไฟลุกท่วมที่บริเวณด้านนอกของโรงแรมทรัมป์ โฮเต็ล ในเมืองลาสเวกัส ของสหรัฐฯ ในวันพุธ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 7 คน ในขณะสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ เข้าร่วมในการสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

คลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ได้โดยผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ภายในและด้านนอกของโรงแรมแสดงให้เห็นภาพรถไซเบอร์ทรัคระเบิดและเกิดไฟลุกท่วมทั้งคัน ในขณะที่รถจอดอยู่ด้านนอกของโรงแรม เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากชายคนหนึ่งขับรถบรรทุกพุ่งเข้าชนกลุ่มคนที่กำลังสนุกสนานในกิจกรรมขึ้นปีใหม่ในเมืองนิวออร์ลีนส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจของนครลาสเวกัสแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ยังต้องสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างละเอียดเนื่องจากเกี่ยวข้องกับรถไซเบอร์ทรัคของบริษัทเทสลา ที่มีนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกเป็นผู้บริหารและโรงแรมทรัมป์

ในขณะที่นายมัสก์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวผ่านทางแอปพลิเคชั่นเอ็กซ์ของเขาว่า เหตุระเบิดไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับไซเบอร์ทรัค เพราะได้รับการยืนยันแล้วว่า ระเบิดเกิดขึ้นจากพลุและดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ หรือระเบิดที่อยู่ภายในรถบรรทุกไซเบอร์ทรัคคันนี้ที่มีการเช่ามาและไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวรถแต่อย่างใด

โรงแรมทรัมป์อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ล ในเมืองลาสเวกัส เป็นส่วนหนึ่งของทรัมป์ ออแกนไนเซชั่น ซึ่งเป็นบริษัทของนายทรัมป์ ซึ่งจะกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งในวันที่ 20 มกราคมนี้ นายมัสก์ เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของนายทรัมป์ในการหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับนายทรัมป์ด้วย


คนร้ายขับรถไล่ชนคนที่นิวออร์ลีนส์ถูกวิสามัญฯ เจ้าหน้าที่เผยพบธงกลุ่ม‘ไอซิส’

2 ม.ค. 2568 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ รายงานข่าว At least 15 killed in New Orleans truck attack linked to ISIL ระบุว่า ความคืบหน้าเหตุคนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งเข้าใส่ฝูงชน บริเวณถนนคาแนลและบูร์บง (Canal and Bourbon Street) ในย่านเฟรนซ์ ควอเตอร์ (French Quarter) เมืองนิวออร์ลีนส์ มลรัฐหลุยเซียนา สหรัฐอมริกา เมื่อเวลา 03.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 1 ม.ค. 2568 ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตคาดว่ามีอย่างน้อย 15 ราย

โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในวันที่ 1 ม.ค. 2568 ขณะพักผ่อนที่แคมป์ เดวิด หลังได้รับรายงานจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ว่า ผู้ต้องสงสัยได้โพสต์วิดีโอลงในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มติดอาวุธที่ตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง ทั้งนี้ FBI ไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุ ซึ่งระบุตัวตนได้ว่าคือ ชัมสุด-ดิน แจ็บบาร์ (Shamsud-Din Jabbar) ชายวัย 42 ปี อดีตทหารผ่านศึกในกองทัพสหรัฐฯ จะลงมือเพียงคนเดียว โดยเจ้าหน้าที่พบธงของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอซิส (ISIS) บริเวณข้อต่อพ่วงรถบรรทุกของผู้ก่อเหตุด้วย

อเลเธีย ดันแคน (Alethea Duncan) ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พิเศษประจำเอฟบีไอประจำนิวออร์ลีนส์ กล่าวว่า FBI กำลังดำเนินการตรวจสอบความเกี่ยวข้องและความเกี่ยวพันที่อาจเกิดขึ้นของบุคคลนี้กับองค์กรก่อการร้าย นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบอุปกรณ์สำหรับประกอบระเบิดแสวงเครื่องในบริเวณย่านเฟรนซ์ ควอเตอร์ แต่ได้เก็บกู้เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่สำนักงานตำรวจเมืองนิวออร์ลินส์ เปิดเผยว่า แจ็บบาร์ถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังพยายามใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าระงับเหตุ

แอนน์ เคิร์คแพทริค (Anne Kirkpatrick) ผู้บังคับการตำรวจเมืองนิวออร์ลินส์ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีความพยายามจะไล่ชนคนให้ได้มากที่สุด และมีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ อาการคงที่ ทั้งนี้ ในช่วงค่ำของวันที่ 1 ม.ค. 2568 มีรายงานเพิ่มเติมว่า FBI ได้ขยายการสืบสวนไปยังเมืองฮูสตัน มลรัฐเท็กซัส ซึ่งผู้ต้องสงสัยมีความเกี่ยวพันทางครอบครัว

เร่งสืบสวน! 'เกาหลีใต้'ทยอยมอบศพเหยื่อเจจู แอร์ให้ครอบครัว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาหลีใต้เริ่มมอบศพเหยื่อเครื่องบินตกให้ญาติและครอบครัวไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว หลังเสร็จสิ้นกระบวนการชันสูตรและระบุอัตลักษณ์บุคคลแล้วหลายสิบศพ ส่วนการสืบสวนหาสาเหตุเครื่องบินตกก็ยังคงดำเนินต่อไป

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เริ่มทยอยมอบศพเหยื่อเครื่องบินตกให้ครอบครัวแล้ว พัก ซัง-วู รัฐมนตรีคมนาคมของเกาหลีใต้ กล่าวที่สนามบินเมืองมู่อันเมื่อวานนี้ว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิต 179 ราย สามารถส่งมอบศพให้ครอบครัวไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว 4 ราย และอีก 28 ราย ซึ่งยืนยันอัตลักษณ์บุคคลและชันสูตรเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เริ่มพิธีศพได้ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น โดยต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัวของเหยื่อ

ขณะที่คณะสอบสวนเร่งหาสาเหตุของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เที่ยวบิน 2216 สายการบินเจจู แอร์ ประสบอุบัติเหตุขณะลงจอดและระเบิดไฟลุกท่วม โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนของสหรัฐ ซึ่งรวมทั้งจากบริษัทโบอิ้งด้วย เดินทางไปยังที่เกิดเหตุในเมืองมู่อัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ เริ่มประเมินกล่องดำสองกล่องที่กู้มาได้จากซากเครื่องบินที่ถูกไฟไหม้

เครื่องบินลำดังกล่าว พร้อมผู้โดยสาร 181 คน เดินทางจากประเทศไทยไปยังเกาหลีใต้ และลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองมู่อัน ก่อนจะพุ่งชนกำแพงระเบิดไฟลุกท่วม ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 179 ราย มีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรอดชีวิตเพียง 2 คน รัฐบาลเกาหลีใต้จัดพิธีไว้อาลัย 7 วัน โดยมีการลดธงลงครึ่งเสา ส่งผลให้เมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เมื่อคืนที่ผ่านมา บรรยากาศในเกาหลีใต้เงียบเหงา ไม่มีการเฉลิมฉลองจุดพลุรับปีใหม่ยิ่งใหญ่เมื่อหลายประเทศในเอเชีย มีเพียงการออกไปทำบุญที่วัดของผู้คนเท่านั้น

ด้าน ชอย ซัง-ม็อก รักษาการประธานาธิบดี ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ยกเครื่องระบบความปลอดภัยทางอากาศทั้งหมด ตรวจสอบระบบปฏิบัติการเครื่องบินโดยรวมอีกครั้งอย่างละเอียดถี่ถ้วน และดำเนินการแก้ไขการปรับปรุงที่จำเป็นทันที พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไตร่ตรองถึงปีที่ผ่านมาและเตรียมพร้อมสำหรับปีใหม่