ข่าว
ระทึก!! ระเบิดน้ำแข็งแห้งที่ LAX

เหตุระเบิดน้ำแข็งแห้งในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองลอสแอนเจลีส(LAX) ทำให้เกิดการหยุดชะงักการดำเนินงานและทำให้เที่ยวบินล่าช้าไปเป็นเวลาหลายชั่วโมงที่อาคารผู้โดยสาร 2 ซึ่งเป็นที่มีสายการบินมากมายทั้งระหว่างประเทศและในประเทศ

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าพนักงานสนามบินได้ยินเสียงระเบิดในห้องสุขาชายที่อาคาร2 พร้อมไปตรวจสอบและค้นพบขวดพลาสติกขนาด 20 ออนซ์ที่ได้บรรจุน้ำแข็งแห้งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ยังพบระเบิดน้ำแข็งแห้งที่ยังไม่ระเบิดในบริเวณGate 148 อีก 2 ขวด แต่ไม่มีผู้ไดได้รับบาดเจ็บหรือเกิดความเสียหายใดๆ

เจ้าหน้าที่เชื่อว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย อย่างไรก็ตามเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีการจับกุม ดิคาโล เบนเน็ตต์ อายุ 28 ปี ผู้บังคับบัญชาของทางลาด พนักงานของ Servisair ถูกนำตัว เข้าห้องขัง ใน Paramount รับโทษสองข้อหา โทษความผิดทางอาญาในข้อหาครอบครองวัตถุระเบิดใกล้ท่าอากาศยานและการประกันตัวชุดแรก ที่ $1,000,000 และถ้าถูกตัดสินลงโทษในทั้งสองข้อหาเขาอาจได้รับโทษจำคุกถึงหกปี”อัยการเขตกล่าว

สาวไทยโดนแก๊งไทย-ลาวตุ๋น สูญเงิน2หมื่นแถมทองอีก15บาท

สาวไทยใน Kansas ถูกกลุ่มชายชาวไทย-ลาว ร่วมกันต้มตุ๋น ชวนเล่นการพนันสูญเงินไป 20,000 เหรียญ ทองอีก 15 บาท วิ่งโล่เข้าแจ้งตำรวจ แต่โดนปฏิเสธว่าร่วมมือกันเล่นการพนันเอาผิดใครไม่ได้

เมื่อวันพุธที่ 16 ตุลาคม 2556 หญิงไทยคนหนึ่ง อายุ 42 ปี “อารีย์ Procter” เจ้าของร้านอาหาร “บ้านไทย” เมือง Manhattan รัฐ Kansas ได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยนเพื่อนที่แอล.เอ. ถือโอกาสนี้นำเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองที่นั่นมาเตือนภัย เจ้าของร้านอาหารและกิจการต่างๆ ระวังนักต้มตุ๋นชาวไทยลาว

เธอเล่าว่า วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหาร ได้มีโทรศัพท์เข้ามาที่ร้านโดยอ้างว่า เป็นบริษัททัวร์ชาวลาวมาเสนอซื้ออาหารกล่องจากเธอ โดยบอกว่าจะมีทัวร์มาทุกๆ วันแต่จำนวนไม่แน่นอนราว 40 – 100 ต่อวัน และขอซื้ออาหารกล่องจากเธอในราคา 19.95 เหรียญซึ่งประกอบด้วย ข้าว อาหาร ผลไม้ และน้ำดื่ม ซึ่งเธอก็สนใจ โดยผู้ที่ติดต่ออ้างชื่อว่า “ธันวา” ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นลูกน้องของชายอีกคนชื่อ “ลี” เป็นนักธุรกิจชาวลาว โดยเขาบอกว่าจะมีคนมารับอาหารกล่องถึงที่ร้าน แต่ขอให้เงินกับผู้ที่ไปรับอาหาร โดยเป็นผู้หญิงชื่อ “วัล” กล่องละ 1 เหรียญเนื่องจากเธอจะไม่ได้รับเงินเดือนเพียงได้เงินจากส่วนแบ่งของอาหารที่ซื้อเท่านั้น ซึ่ง คุณอารีย์ ก็ตกลงเนื่องเห็นว่าได้ราคาดี

คุณอารีย์ได้นัดนายธันวาที่ร้านของเธออีกแห่งหนึ่งที่ใกล้กับตัวเมือง เนื่องจากเห็นว่าร้านที่เธอปัจจุบันค่อนข้างไกลกับที่อยู่ของลูกค้า ซึ่งเธอต้องขับรถราว 2 ชั่วโมง เมื่อถึงวันนัดหมายนายธันวาขอให้เธอไปพบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้กับแคนซัสซิตี้เนื่องจากไม่สะดวกที่จะมาที่ร้าน เมื่อเธอขับรถไปถึงที่หมาย ก็เห็นนายธันวาจอดรถอยู่ที่ลานจอดรถรออยู่แล้ว หลังจากนั้นนายธันวา จึงบอกให้ผู้หญิงที่ชื่อวัลไปเบิกเงินของบริษัทจากธนาคาร 90,000 เหรียญ เพื่อจะเอาเป็นค่ามัดจำอาหาร พร้อมกับขึ้นไปรอที่โรงแรม

ระหว่างที่นายธันวา อยู่ด้วยกันกับคุณอารีย์เพียง 2 คน ระหว่างรอผู้หญิงที่ชื่อวัลไปเบิกเงินมานั้น เค้าก็เล่าให้เธอฟังว่า เมื่อคืนนายของเค้าไปเล่นการพนันที่บ่อน เสียเงินไป 250,000 เหรียญ เกมส์ที่เล่นเธอเรียกมันว่าเกมส์เศรษฐี มีลักษณะการเล่นคล้ายการพนันกำถั่วในบ้านเรา โดยอาจจะใช้เหรียญ pennies หรืออะไรก็ได้ที่มีขนาดเล็กเอามาหนึ่งกำมือ แล้วนับออกทีละ 6 โดยแทงจำนวนที่เหลือเศษจากการจับครั้งนั้นๆ นายธันวาถามว่าคุณอารีย์คิดว่า นายของเค้าโดนโกงไหม ซึ่งเธอบอกว่าการพนันทุกชนิดโกงกันได้ทั้งนั้น แต่ว่าเธอบอกไม่ได้ว่าโกงหรือไม่ เพราะเธอเล่นการพนันไม่เป็น จากนั้นมีชายไทยอีกคนเข้ามาร่วมวงด้วยโดยอ้างชื่อว่า “เจมส์” ซึ่งชายดังกล่าวแสดงตัวว่ารู้จักเล่ห์เหลี่ยมในการเล่นการพนันชนิดนี้ดี จึงบอกกับนายธันวาว่า เจ้านายของเค้าถูกโกงแน่นอน แต่ว่าถ้าหากเราร่วมมือกันเธอสามารถที่จะเอาคืนได้ นายเจมส์ถามต่อว่า คนที่เจ้านายไปเล่นการพนันด้วยแล้วเสียคือใคร นายธันวาบอกว่าเป็นเจ้าของร้านทองในเมืองแคนซัสซิตี้คนหนึ่ง ซึ่งนายเจมบอกว่าเค้ารู้จักผู้ชายคนนี้ แต่ว่าเขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เนื่องจากเป็นคนรู้จักกัน

ต่อมาผู้หญิงชื่อวัล ก็หอบถุงกระดาษใบหนึ่งเข้ามาโดยอ้างว่าจะเอามาเป็นค่ามัดจำอาหารโดยที่ยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะมัดจำไว้เท่าไหร่ จากนั้นนายธันวาบอกว่าเดี๋ยวเจ้านายของเขาจะมาหา เมื่อเจ้านายของเค้ามาถึง เค้าได้นำกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ติดตัวมาด้วย และพูดคุยกับคุณอารีย์เล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องราคาข้าวกล่อง พร้อมกับบอกว่าพี่สะใภ้ของเขาจะเป็นคนติดต่อให้รอสักครู่ แล้วเขาก็เปิดกระเป๋าให้คุณอารีย์ดู ซึ่งเป็นเงินแบงค์ร้อยดอลลาร์เรียงไว้อย่างเรียบร้อย โดยอ้างว่ามีเงินในนั้นทั้งหมด 500,000 ดอลลาร์ ซึ่งเค้าบอกว่าจะเอาไปแก้มืออีกครั้ง พร้อมกับกล่าวว่าเมื่อคืนผมโกรธนายธันวามาก เพราะทำให้เค้าต้องเสียเงินจำนวน 250,000 ไปกับการพนันทั้งๆ ที่น่าจะได้กำไร เมื่อเวลาผ่านไปสักพักนายลี แกล้งทำเป็นโทรศัพท์แล้วบอกว่าพี่สะใภ้มาไม่ได้แล้ว เนื่องจากคุณแม่ล้มในห้องน้ำและตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล

นายธันวาพูดขึ้นมา ถ้าไปเล่นการพนันอีกก็ต้องไปเสียอีกแน่ๆ เพราะถูกโกง เจ้านายของเค้าบอกว่ายังไงก็จะต้องไปแก้มือให้ได้ พร้อมพูดดูถูกทุกคนในวงว่า ยังไงก็ไม่มีทางหาเงินมาเล่นกับเค้าได้หรอก เพื่อยั่วให้เหยื่อหลวมตัวเนื่องจากการดูถูกดูแคลนว่าเป็นพวกไม่มีเงิน นายธันวาออกความเห็นว่าจะเอาเงิน 90,000 ที่มีอยู่ในมือมาเล่นการพนันกับเขา โดยบอกว่ายังไงก็ไม่เสียหรอก พร้อมกับยุยงให้คุณอารีย์ไปเบิกเงินมาเล่นการพนันด้วย ซึ่งเธอก็ได้ขับรถออกไปเพื่อเบิกเงินเป็นจำนวน 20,000 เหรียญ และยังมีสร้อยคอทองคำอีก น้ำหนัก 15 บาท มาเล่นการพนันครั้งนี้ด้วย ซึ่งผู้จัดการธนาคารที่เธอไปพบกล่าวว่าเงินที่สาขานี้มีเงินสดไม่พอให้เบิกจึงต้องไปอีกสาขาหนึ่ง ซึ่งผู้จัดการก็ติดตามไปด้วย ซึ่งอาจเพราะเป็นห่วงเนื่องจากไม่ไว้วางใจนายธันวาซึ่งติดตามไปด้วย กลัวว่านายธันวาอาจจะขโมยเงินแล้วหนีไป

การพนันครั้งนี้มีผู้เล่นทั้งหมด 4 คน ได้แก่ คุณอารีย์ นำเงินสดจากธนาคาร 20,000 เหรียญ พร้อมสร้อยคอทองคำ 15 บาท นายเจม 60,000 เหรียญ นางวัล 90,000 เหรียญ และนายลี 500,000 เหรียญ พอคุณอารีย์กลับมาจากการเบิกเงิน วงการพนันก็ได้เริ่มขึ้น ใช้เหรียญ Pennies และกล่องเป็นอุปกรณ์การเล่น โดยเขาให้คุณอารีย์เป็นเจ้ามือในการเล่นการพนันครั้งนี้ โดยสัญญากันว่าจะต้องเล่นทั้งหมด 2 เซต เซตละ 10 ตาจนจบ ในการเล่นพนันเซตแรกๆ ตอนต้นๆ นายลี ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ และกิจจารอีกหลายอย่าง เล่นเสีย และได้เพิ่มจำนวนเงินเดิมพันมากขึ้นมากขึ้นในตาท้ายๆ ของเซตแรก จนจบเซตแรก ทำให้คุณอารีย์ติดหนี้ทั้งหมดราว 1 ล้านดอลลาร์ พอเริ่มในเซตที่ 2 นายลีใช้วิธีแทงแต่ละตาจำนวนน้อยๆ จนจบตาสุดท้าย คุณอารีย์ติดหนี้ทั้งหมดรวมแล้วราว 200,000 เหรียญ โดยสุดท้ายนายลี บอกว่าถ้าอยากแก้มือก็ให้หาเงิน 200,000 มาแก้มือได้ เมื่อการพนันจบลง เธอจึงรู้ตัวว่าเธอต้องโดนกลุ่มคนพวกนี้หลอกแน่ๆ เมื่อเธอกลับถึงบ้านก็ยังมีการติดต่อจากนายธันวา เกี่ยวกับเรื่องหนี้สินที่เธอติดไว้ แต่เธอก็ปฏิเสธไปว่าไม่สามารถหาได้แล้วเนื่องจากบัญชีธนาคารที่ใช้ถูกปิดเพราะสามีของเธอรู้เรื่องเข้า หลังจากนั้นนายธันวาก็ขาดการติดต่อกับเธอ ซึ่งก่อนหน้านั้นนายธันวาบอกไปว่าจะไปหยิบยืมเงินจากเพื่อนที่แอล.เอ. เพราะว่ามีเพื่อนอยู่ที่นั่นมาแก้มือใหม่

ซึ่งเธอได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งให้กับทางตำรวจทราบ แต่ทางตำรวจกล่าวว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากมองว่าเป็นการสมยอมที่จะเล่นพนันกัน และเธอก็ได้ทราบภายหลังอีกว่า มีผู้ชายรายหนึ่งถูกหลอกในลักษณะเดียวกันก่อนหน้าเธอ 3 วัน สูญเงินไป 48,000 เหรียญ

สุดท้ายเธอฝากไว้ว่า ที่เธอให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไทยแอล.เอ. บางคนอาจมองว่าเธอโง่ที่ถูกหลอกในลักษณะนี้ แต่เธอเองบอกว่าเธอยินดีที่จะเอาเรื่องนี้มาเผยแพร่ให้ผู้อื่นทราบ เพื่อป้องกันการหลอกลวงในลักษณะเช่นนี้ และหากมีใครที่ติดต่อทำธุรกิจใดๆ ก็ควรติดต่อที่ร้านของตัวเองจะเป็นการปลอดภัยที่สุด ซึ่งทางบ้านของเธอเองก็เข้าใจเธอและไม่ได้ต่อว่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

รัฐสภาสหรัฐเห็นชอบร่างกฎหมาย เปิดหน่วยงานรัฐ-ขยายเพดานหนี้

รัฐสภาสหรัฐ ลงมติผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ และเปิดหน่วยงานรัฐตามปกติ โดยโอบามาได้ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายทันทีในเช้าวันนี้ ปิดฉากวิกฤติงบประมาณ หลุดพ้นจากหายนะผิดนัดชำระหนี้ได้หวุดหวิด

วอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. รัฐสภาสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายเปิดหน่วยงานรัฐบาลอีกครั้งและเพิ่มเพดานหนี้ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนประเทศเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ โดยสมาชิกทั้งสองพรรคการเมืองในวุฒิสภา ซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรคเดโมแครต สามารถประนีประนอมกันได้ และผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายสำคัญดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 81-18 เสียง จากนั้น สภาผู้แทนราษฎร ที่ครองเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกัน ก็ผ่านความเห็นชอบสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียง 285-144 เสียง

การรอมชอมกันครั้งนี้ เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง ก่อนกำหนดเส้นตายเพิ่มเพดานหนี้ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าว กระชากสหรัฐขึ้นจากขอบเหวงบประมาณได้หวุดหวิด โดยได้ขยายอำนาจการกู้ยืมของกระทรวงการคลังไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าว ยังจะทำให้รัฐบาลมีเงินใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 15 มกราคมนี้ พร้อมเปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่ถูกปิดไป 3 สัปดาห์ และทำให้พนักงานของรัฐหลายแสนคนที่พักงานชั่วคราว จะกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติ

ส่วนประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ได้ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายในช่วงเช้าวันนี้ทันที

ศาลสั่งจำคุก10ปีดร.สุเนตร ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

ผ่านมาแล้ว 1 ปีเต็ม กับคดีช็อคความรู้สึกของคนไทยในแอล.เอ. กับ คดี ดร.สุเนตร โตกะหุต ในกรณีล่วงละเมิดทางเพศเด็กต่ำกว่า 18 ปี รวม 10 กระธง ศาลตั้งเงินประกันเอาไว้สูงถึง 2.5 ล้านเหรียญ ยึดพาสปอร์ตเพื่อกันการหลบหนี สุดท้ายศาลตัดสินจำคุก 10 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ตุลาคมปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจแอล.เอ. พีท เพิ่มแสงงามได้แถลงข่าว ถึงการจับกุม ดร.สุเนตร โตกะหุต ศาสนาจารย์ นักแปลเอกสารและล่ามไทย-อังกฤษ เจ้าของศูนย์บริการด้านกฎหมายชื่อดังของเมืองแอล.เอ. ผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในสังคมไทยในแอล.เอ. ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หลังจากที่มารดาของเด็กชายคู่กรณีแจ้งจับ

โดย ดร.สุเนตร ถูกจับเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2555 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่บ้านพัก พร้อมตั้งข้อหารวม 8 กระทง และวงเงินประกันตัว 7 แสนเหรียญ ในวันถัดมาได้ทำการยื่นฟ้องต่อศาล เพิ่มข้อหาอีก 3 กระทง รวมทั้งหมดเป็น 10 กระทง และเพิ่มวงเงินประกันตัวเป็น 2.5 ล้านเหรียญ และทำการยึดพาสปอร์ตของ ดร.สุเนตรเอาไว้

โดยคดีสั่นสะเทือนสังคมไทยในแอล.เอ. คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แต่เพิ่งถูกเปิดเผยจากมารดาของเหยื่อ สาเหตุจากมารดาของเหยื่อได้รับการติดต่อจากโรงเรียนของลูกชายว่าเค้ามีอาการคุ้มคลั่ง โดยไร้สาเหตุ เมื่อเธอได้สอบถามความจริงจากลูกชายจึงได้ทราบสาเหตุว่า ภาวะจิตไม่ปรกตินั้นเกิดจากการกระทำชำเราทางเพศโดย ดร.สุเนตร ซึ่งเธอได้ฝากลูกชายไว้กับ ดร.สุเนตร ขณะที่เธอต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ตั้งแต่เขามีอายุเพียง 7-8 ขวบ ซึ่งปัจจุบันเด็กชายคนดังกล่าวได้อยู่ภายใต้การดูแลจาก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ดร.มาริสา จากโรงพยาบาลทางจิตที่เมืองพาสซาดีน่า

และในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแอล.เอ. พีท เพิ่มแสงงาม ได้แจ้งถึงความคืบหน้าของคดี ว่าศาลได้ตัดสินคดีนี้แล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากความไม่สะดวกบางประการจึงแจ้งข่าวความคืบหน้าในคดีนี้ล่าช้า เขากล่าวว่า "ผมไม่อยากให้คนไทยเข้าใจผิดว่า ผู้ต้องหาไม่มีความผิดและได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว ศาลได้ตัดสินจำคุกคุณสุเนตร เป็นเวลา 10 ปีครับ" เขากล่าวในตอนจบ

'วราภรณ์'ฝากเตือน ผู้มีรายได้น้อย ป่วยรักษาก่อน ค่อยปลดหนี้ทีหลัง

นายกสมาคมไทยฯ "วราภรณ์ เกษมศิลป์" แสดงความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของคนมีรายได้น้อย ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล เธอกล่าวว่า ผู้ที่มีรายได้น้อยรวมถึงโรบินฮูดที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล มีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับเงินค่ารักษา"

การที่เกิดภาวะเจ็บป่วย มีเหตุจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งรัฐ และเอกชน ผู้ที่มีรายได้น้อย สามารถเข้ารับการรักษาตัวได้ทันที ซึ่งหากมีความจำเป็น ทางโรงพยาบาลไม่มีสิทธิในการปฏิเสธการรักษา แต่สิ่งที่ผู้ที่มีรายได้น้อยเป็นห่วงคือ จำนวนเงินที่จะต้องจ่ายหลังจากการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูง ซึ่งผู้ไม่มีประกันสุขภาพไม่สามารถชำระเงินได้ภายในครั้งเดียว จึงตกลงกับฝ่ายการเงินในเรื่องการผ่อนชำระ ซึ่งจะต้องชำระเงินเต็มจำนวนค่ารักษา

แต่ถ้าหากว่าเมื่อได้รับบิลค่ารักษาเรียบร้อยแล้ว เราสามารถติดต่อกับทางโรงพยาบาลโดยสอบถามถึงแผนกโซเชี่ยลเวิร์คเกอร์ และแจ้งความคำนงค์กับแผนกโซเชี่ยลเวิร์คเกอร์ว่าท่านไม่สามารถจ่ายค่ารักษาดังกล่าวได้ โดยจะต้องเขียนเป็นจดหมายร้องเรียน อธิบายถึงรายได้ และค่าใช้จ่ายหลัก ในแต่ละเดือน แนบหลักฐานต่างๆ (ถ้ามี) ให้แผนกดังกล่าว เพื่อพิจารณา ซึ่งไม่รับประกันว่าจะได้รับการยกเว้นค่ารักษาทุกเคส แต่อย่างน้อยก็ต้องได้ส่วนลด ซึ่งยังดีกว่าที่จะผ่อนจ่ายในราคาเต็มอย่างแน่นอน

สำหรับในกรณีที่เป็นโรบินฮูด กลัวไม่กล้าไปโรงพยาบาลเพราะกลัวไม่มีเงินจ่ายแล้วทางโรงพยาบาลจะไม่ยอมปล่อยตัว กลัวเขาจะกักตัวไว้ แจ้งอิมมิเกรชั่นมาจับ ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่เป็นความจริงเลย

ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวเกิดจากความไม่รู้ของคนไทย ซึ่ง นางวราภรณ์ รู้สึกเป็นห่วงเกี่ยวกับกรณีนี้ สุดท้ายเธอได้ฝากข่าวเกี่ยวกับผู้ที่สนใจตรวจและรักษามะเร็ง หรือผู้ที่ประสบปัญหาบิลค่ารักษาพยาบาล รวมถึงต้องการคำแนะนำอื่นๆ ที่เกี่ยวกับด้านสุขภาพ สามารถติดต่อได้ที่ 818-427-1103 (กรณีที่ไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ กรุณาอย่าฝากข้อความ Voice Mail ให้พิมพ์ข้อความฝากทางระบบ Massage แทน)

1พ.ย.จัดงานระดมทุน ช่วยวัดพระบาทน้ำพุ

ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ที่ห้องอาหารไทยคิทเช่น มีการจัดรายการการกุศลร้องเพลง เต้นรำ เพื่อนำรายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย ไปมอบให้วัดพระบาทน้ำพุ

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2556 นาง พอลลีน แมคมอยเลอร์ นายธรรมรัตน์ สุวรรณมงคล "โต้ง คนด่านเกวียน" และคณะ ได้เปิดเผยว่าตนเป็นตัวแทนของกลุ่มคนไทยกลุ่มหนึ่งในนครลอสแอนเจลิสแห่งนี้ ที่ตระหนักถึงภาระหน้าที่ ที่วัดพระบาทน้ำพุ หรือวัดพระพุทธบาทประทานพร บนเชิงเขาน้ำพุ ต.สามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี ซึ่งมีพระอาจารย์อุดมประชาทร หรือพระอาจารย์อลงกต ติกฺขปญฺโญ เป็นเจ้าอาวาส ที่ได้ปรับปรุงพื้นที่เปลี่ยนเป็นที่รักษาฟื้นฟูผู้ที่ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์ และเป็นที่ตั้งของมูลนิธิธรรมรักษ์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่รักษาตัวผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก

โดยวัดเริ่มรักการรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยมาตั้งแต่ปี 2535 และดำเนินการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยปัจจุบันมีผู้ที่เข้ารับการรักษาราว 2,000 คน เป็นเด็กประมาณ 1,300 คน ซึ่งในแต่ละเดือนทางวัดมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ทั้งค่าอาหาร ยารักษาโรค ค่าบริหารจัดการภายในวัด และค่าเผาศพ ฯลฯ

นางพอลลีนกล่าวว่า สิ่งที่พระอาจารย์อลงกต ซึ่งอดีตเป็นมหาบัณฑิตด้านวิศวกรรมศาสตร์จากต่างประเทศ ได้สละตนเอง มาช่วยเหลือมวลมนุษย์ เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ สำหรับพวกเรา คนไทยในลอสแอนเจลิส แม้จะทำมาหากิน และมีฐานะธรรมดา แต่ก็ไม่อาจทนเห็น "พระ" ต้องแบกภาระตามลำพังได้ จึงคิดว่า จะรวมกันเป็นพลังเล็กๆ เป็นหนึ่งในจำนวนกองทัพมด ปลวก รวมพลังเข้ากับกองทัพใหญ่ เพื่อทำกุศลในครั้งนี้

โดยจะมีการจัดระดมทุน ในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ที่ห้องอาหารไทยคิทเช่น และเพื่อเป็นการสานต่อความคิดของ "พี่" สรรชัย โกรานนท์ อดีตนักร้อง และนักจัดรายการ และอดีตหุ้นส่วนห้องอาหารผู้ล่วงลับ ซึ่งเคยทำกิจกรรมนี้มาก่อน

โดยจะมีรายการร้องเพลงบริจาค เต้นรำการกุศล ซึ่งรายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย นางพอลลีน จะไปมอบให้ที่วัดด้วยตนเอง และสำหรับงานนี้ ได้รับอนุญาต จากมูลนิธิของวัด ผ่านนายเธียรี่ เมฆวัฒนา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือประสงค์จะบริจาค ติดต่อเธอได้ที่ 323-559-9850