ข่าว
'สหรัฐฯ'เผย'รัสเซีย'เสียทหารกว่า 20,000 นาย ในศึกบัคมุตที่ยูเครน

2 พ.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ของการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในสมรภูมิภาคตะวันออก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวรัสเซียมากกว่า 100,000 ราย จากจำนวนดังกล่าวเป็นทหารราว 20,000 นาย ซึ่งเสียชีวิตจากการสู้รบภาคสนาม และประมาณครึ่งหนึ่งเป็นสมาชิกของกองกำลังทหารรับจ้าง “วากเนอร์”

รัสเซียพยายามเข้ายึดเมืองบักห์มุตตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากการต่อสู้เพื่อแย่งชิงเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งมีพลเรือนเหลืออยู่เพียงไม่กี่พันคน มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์อย่างมากสำหรับทั้งสองฝ่าย เจ้าหน้าที่ยูเครนยังกล่าวด้วยว่า พวกเขากำลังใช้การสู้รบเพื่อสังหารกองทหารรัสเซียให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และทำลายกำลังสำรอง อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยูเครนสามารถควบคุมเมืองเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น

ขณะเดียวกัน เคอร์บีย์กล่าวด้วยว่า กองทัพรัสเซียกำลังขาดแคลนทั้งกำลังพลและสรรพาวุธ ส่วนเหตุผลของการไม่เปิดเผยสถิติความสูญเสียของยูเครนนั้น โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า “ยูเครนคือเหยื่อ รัสเซียคือผู้รุกราน”

‘ทนายตั้ม’เคลียร์ทุกประเด็นปมชีวิตหรูหรา ยันบินฝรั่งเศสไปทำงาน-ไม่เอี่ยวเว็บพนัน

วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง เปิดแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่ถูกกล่าวหา ที่สำนักงาน Sittra Law Firm โดย นายษิทรา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีข้อสงสัยการใช้ชีวิตที่ดูหรูหราของตนในขณะที่งบการเงินของสำนักงานดูเหมือนจะขาดทุนหรือมีกำไรไม่มากนัก ซึ่งตนยืนยันยังชี้แจงเหมือนครั้งก่อนๆ ว่าตนเปิดบริษัท Sittra Law Firm ในปี 2565 แต่ก่อนหน้านั้น ตนเคยเปิดบริษัทชื่อ Wisdom Law Firm และทำเหมือนทนายความทั่วไปคนหนึ่ง รายได้เข้าบริษัทบ้าง เข้าตนเองบ้าง แต่รับคดีไม่มีค่าใช้จ่ายก็เยอะ

กระทั่งตนมทำคดีลุงพล จึงได้มาเปิดบริษัท Sittra Law Firm โดยหนังสือของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุชัดว่าบริษัท Sittra Law Firm เดิมชื่อ Wisdom Law Firm กระทั่งเปลี่ยนชื่อในวันที่ 25 ม.ค. 2565 จากนั้นจึงเริ่มทำธุรกิจจริงๆ ในเดือน เม.ย. 2565 ดังนั้นอย่าไปดูงบการเงินปีเก่าๆ เพราะตอนนั้นไม่ค่อยมีรายได้ โดยสามารถไปขุดภาพเก่าๆ จากอินสตาแกรมของตนได้ ตนเพิ่งจะมามีรายได้มากในปี 2565 นี่เอง

“งบการเงินของ Sittra Law Firm ปี 2565 ที่ผ่านมา ผมมีรายได้ทั้งหมด 22 ล้าน เป็นรายได้ของบริษัท แต่ตอนนี้งบเขายังทำไม่เสร็จ ผมก็เลยยังไม่รู้ว่าจะต้องเสียภาษีเท่าไร แต่ผมเสียภาษีทุกเดือนเยอะอยู่แล้ว เพราะมีทั้งภาษี VAT ภาษีอะไร 2-3 ตัวที่ผมจะต้องโอนจ่ายอยู่ทุกเดือน แล้วของ Sittra Law Firm เรามีผู้ตรวจบัญชีแล้วก็ส่งสรรพากร อันนี้เราก็ยินดีให้ตรวจสอบได้” นายษิทรา กล่าว

นายษิทรา กล่าวต่อไปว่า ตนทำธุรกิจด้านกฎหมาย เป็นที่ปรึกษาให้หลายบริษัท รวมถึงรับว่าความ ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมา ตนยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปประมาณ 1 ล้านบาท ยังไม่รวมกับทางบริษัท Sittra Law Firm ดังนั้นรายได้ทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามาตนยื่นภาษีถูกต้อง นี่จึงเป็นเหตุที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไม่รับคดีของตนแต่ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรตรวจสอบตามกระบวนการ ใครจะไปร้องเรียนอะไรตนไม่กังวล เพียงแต่ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ออกมาตอบโต้เพราะรอบุคคลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ส่วนประเด็นการทำคดีลุงพลในเวลานั้น ยอมรับว่าเคยเจอกระทั่งรอ 6 เดือนกว่าเงินจะเข้า เพราะเมื่อไปทำคดีลุงพล ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นจึงไม่มีใครจ้างตน เวลานั้นจึงใช้เงินเก่าไปก่อนในช่วงที่ไม่มีงาน ส่วนการเปิดมูลนิธิทนายประชาชน ก่อนหน้านี้ที่มีบุคคลอ้างว่ามีการโอนเงินให้ตนหลักหมื่นถึงหลักล้าน บอกได้เลยว่าไม่เป็นความจริง เรื่องนี้ค้นหาข่าวเก่าๆ ได้ ตนก็เคยตอบไปแล้วว่าแฟนคลับลุงพลชอบสร้างเรื่อง

โดยสามารถตรวจสอบจากเอกสารเส้นทางเงินเข้า-ออกบัญชี หรือสเตทเมนท์ของมูลนิธิ ช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. 2564 ที่ตนรับทำคดีลุงพลได้ ยอดโอนเข้ามามีเพียงหลักสิบ หลักร้อย อย่างมากก็หลักพันบาท และล่าสุดที่เพิ่งปรับสมุดบัญชีมา เพราะสเตทเมนท์ยังไม่ออก พบมูลนิธิมีเงินเหลือประมาณ 2 แสนบาท ส่วนประเด็นคำถามว่าเหตุใดตนต้องเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสบ่อยครั้ง เรื่องนี้ด้านหนึ่งคือการไปเที่ยว แต่อีกด้านก็ไปทำงานด้วย เพราะตนก็มีลูกความเป็นเศรษฐีชาวไทยที่ไปอยู่กับสามีที่ฝรั่งเศส

จากนั้น นายษิทรา ได้เชิญลูกความคนดังกล่าวมาร่วมแถลงข่าวด้วย โดยขอไม่เปิดเผยชื่อ-นามสกุลจริง เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว โดยขอเรียกว่า “พี่อ้อย” ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ได้อยากมาออกสื่อ แม้ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จะเคยสมทบทุน 20 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อวัคซีน แต่ที่ผ่านมามีการนำคลิปวีดีโอไปเผยแพร่แล้วทำให้ได้รับความเสียหาย ส่วนอีกคนที่มาด้วยกันคือ “พี่น้อย” เป็นเลขาของพี่อ้อย ซึ่งเหตุที่บินกลับมาเมืองไทย เพราะวันที่ 5 พ.ค. 2566 ต้องไปทำพิธีส่งมอบอาคารเรียนที่ ร.ร.วัดขนงพระเหนือ ที่บริจาคเงิน 84 ล้านบาทเพื่อก่อสร้าง

โดย อ้อย เล่าว่า คลิปที่มีตำรวจยกกระเป๋า วันนั้นนายษิทราไปส่งตนที่สนามบิน แล้วมีตำรวจ 2 นาย เห็นตนยกกระเป๋าอยู่ และเห็นนายษิทรา ด้วยความที่รู้จักกับนายษิทราจึงเข้ามาทักทายสอบถามว่าจะไปไหน นายษิทราก็ตอบไปว่ามาส่งตนไปต่างประเทศ ตำรวจ 2 นายนั้นก็เข้ามาช่วยยกกระเป๋า แต่ตนก็ไม่ทราบว่าทั้ง 2 นายเป็นใคร ส่วนตอนไปเช็คอินแล้วมีพนักงานยกมือไหว้ อันนี้เป็น Service Mind ของพนักงานอยู่แล้ว ก็ต้องไปถามสายการบิน

ขณะที่ นายษิทรา อธิบายเพิ่มเติมว่า พี่อ้อยนั้นใช้บริการสายการบิน KLM เป็นประจำ และการเปิดเคาน์เตอร์เป็นครั้งแรกจะมีพนักงานมายืนยกมือสวัสดี เป็นเรื่องปกติของสายการบินอยู่แล้ว อีกทั้งยังมักเดินทางด้วยตั๋วชั้นบิสเนส จึงไม่จำเป็นต้องให้ตำรวจช่วยทำให้เร็วขึ้นเพราะมีช่องพิเศษแยกต่างหากอยู่แล้ว อีกทั้งวันนั้นคณะของตนยังเป็นผู้โดยสารกลุ่มแรก ไม่ได้ไปลัดคิวใคร อีกทั้งเมื่อถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยวก็เข้าไปไมได้อยู่แล้ว

ส่วนเรื่องบ้านหรูที่ฝรั่งเศส อ้อย ชี้แจงว่า เป็นบ้านที่ตนซื้อไว้รับรองลูกของทนายตั้ม เตรียมการไว้ในอนาคตที่จะส่งไปเรียนที่นั่น ซึ่งตนเห็นทนายตั้มเหมือนคนในครอบครัวเพราะทำทุกอย่างให้ครอบครัวของตนในประเทศไทย โดย น้อย กล่าวเสริมว่า ทนายตั้มเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ทำงานประสานกับล่ามที่ฝรั่งเศส เพราะที่นั่นมีทั้งนายทะเบียนและทนายความ โดยสามารถตัดสินใจแทนได้เลยว่าอย่างไหนสมควรทำหรือไม่ ซึ่งสามารถขอตรวจสอบกับทางรัฐบาลฝรั่งเศสได้ รวมถึงขอเชิญสื่อมวลชนที่ ร.ร.วัดขนงพระเหนือ เวลา 5 โมงเย็น ในพิธีส่งมอบอาคารเรียนด้วย

ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายษิทรา ยังชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันเฮงเกม หรือสารวัตรซัว ว่า ชื่อเว็บเฮงเกมตนไม่เคยได้ยินมาก่อน และพร้อมให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยตนอาจเป็นประชาชนคนธรรมดาคนแรกที่ต้องมาแจงบัญชีทรัพย์สินทั้งที่ไม่ใช่ข้าราชการหรือนักการเมือง แต่ความที่เป็นบุคคลสาธารณะ เพื่อให้ทุกคนหายข้องใจตนเลยต้องออกมาพูดในวันนี้ ตนไม่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บพนนัน และตนก็ไม่เล่นการพนันด้วย


ปปป.แจ้ง 2 ข้อหา'นายกคลองหลวง-ผอ.กองช่าง' เรียกรับสินบนค่าถมดิน 3 ล้าน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 พ.ค.66 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก.2 บก.ปปป., นายกฤษณ์ กระแสเวส รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายสถิต ฉ่ำแฉล้ม อายุ 50 ปี ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองคลองหลวง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 10/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค.2566 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” พร้อมกับเชิญตัว นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี อดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง และปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง มาทำการแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดเดียวกัน จากกรณีร่วมกันทุจริตเรียกรับเงินสินบนแลกใบอนุญาตถมดิน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายรายหนึ่งได้ไปติดต่อขออนุญาตถมดิน กับทางเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่กลับถูกนายเอกพจน์ กับ นายสถิต เรียกเก็บเงินจากผู้เสียหายเพิ่มเติม โดยคิดลูกบาศก์เมตรละ 50 บาท จากดินที่จะใช้ถมจำนวน 60,000 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงิน 3,000,000 บาท ทั้งที่ปกติแล้วผู้ยื่นขออนุญาตจะเสียค่าธรรมเนียมทั่วไปเพียงแค่ 500 บาทเท่านั้น แต่ด้วยความจำยอมเพราะเกรงว่าหากไม่จ่ายเงินจะไม่สามารถเข้าไปถมดินในพื้นที่ได้ ส่งผลกระทบต่องานที่รับไว้ จึงยอมจ่ายเงินให้ตามข้อเรียกร้อง

เริ่มจ่ายงวดแรกเมื่อวันที่ 4 เม.ย.เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท โดยมี นายสถิต เป็นผู้รับเงิน ซึ่งหลังจากได้รับเงินงวดแรก นายสถิต ก็ได้ส่งไฟล์รูปภาพใบอนุญาต มาให้กับผู้เสียหาย พร้อมระบุข้อความว่า นายเอกพจน์ ได้เซ็นใบอนุญาต เหลือเพียงการลงวันที่ออกใบอนุญาตให้เท่านั้น ซึ่งต้องรอให้จ่ายเงินส่วนที่เหลือครบก่อนจึงจะออกให้ได้ โดยมีกำหนดจ่ายงวดต่อไปในวันที่ 3 พ.ค.อีกจำนวน 500,000 บาท ด้วยความที่ผู้เสียหายเริ่มแบกรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ไหว เพราะต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อหาเงินมาจ่าย จึงนำเรื่องเข้าร้องทุกข์กับทางสำนักงาน ป.ป.ท.ก่อนมีการส่งเรื่องมายัง ตำรวจ บก.ปปป. สืบสวนดำเนินคดีจนนำมาสู่การตามจับกุมตัวนายสถิต พร้อมกับเชิญตัว นายเอกพจน์ มาแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดเดียวกันดังกล่าว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองยังคงให้การปฏิเสธและไม่ขอให้รายละเอียดในชั้นสอบสวน ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็มั่นใจในพยานหลักฐาน และ จะเร่งดำเนินการรวบรวมส่งสำนวนต่อให้กับทาง ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป

ข่าวแจ้งว่า หลังการจับกุมตัว นายสถิต ได้ยื่นขอประกันตัวออกโดยวางเงินสดจำนวน 4 แสนบาท ซึ่งทางพนักงานสอบสวนเห็นว่าเจ้าตัวมีอาชีพเป็นข้าราช มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงอนุญาตให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วน นายเอกพจน์ หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวเสร็จสิ้นทางพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการปล่อยตัวกลับไป โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบอีกครั้งในภายหลัง


นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวลาว ถูกยิงดับคาคาเฟ่ใจกลางกรุงเวียงจันทน์

3 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการลาวโพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิด ภาพมือปืนสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลและหมวกสีดำเดินตรวจสอบเป้าหมายว่าอยู่ในคาเฟ่ ก่อนชักปืนพกสั้นที่เอวออกมาและกลับเข้าไปในร้านจ่อยิงระยะเผาขน 2 นัด เป้าหมายคือนายอนุสา หลวงสุพรม หรือ แจ็ค วัย 25 ปี ล้มลงบนพื้น ขณะที่มือปืนฉวยโอกาสหลบหนีไป คลิปจากกล้องวงจรปิดเห็นมือปืนใช้ผ้าเช็ดหน้าเปิดและปิดประตูร้านอย่างระมัดระวัง คาดว่าไม่ต้องการทิ้งลายนิ้วมือไว้ในที่เกิดเหตุ ตำรวจกำลังสอบสวนและตามหาผู้ต้องสงสัย

กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์และองค์การนิรโทษกรรมสากลประณามการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ทางการลาวดำเนินการสอบสวนอย่างเหมาะสม องค์การนิรโทษกรรมสากลยังได้อ้างเพื่อนของแจ็คว่า การตายของเขาทำให้คนอื่นๆ ตกใจกลัวและไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว แจ็คเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ขับเคลื่อนด้วยคีย์บอร์ด” ที่มักวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลลาวและได้รับความนิยม คนในโลกออนไลน์เข้าไปโพสต์ไว้อาลัยและเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยการติดแฮชแท็กจัสทิสฟอร์แจ็ค #JusticeForJack

พายุฝุ่นถล่ม'สหรัฐฯ' ทำรถชนกันเกือบร้อยคันดับ 6 ศพ

2 พ.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจสหรัฐกล่าวว่า เกิดพายุฝุ่นรุนแรงบนถนนหลวงในสหรัฐเมื่อวานนี้ ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัย คนขับมองทางไม่เห็น ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับรถเกือบ 100 คัน และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย

ตำรวจของรัฐอิลลินอยส์กล่าวในแถลงการณ์ว่า รถยนต์ประมาณ 40-60 คัน และพาหนะเพื่อการขนส่งทางการค้าอีก 30 คัน ชนกันบนทางหลวงในรัฐอิลลินอยส์ เนื่องจากมีกระแสลมแรงทำให้ฝุ่นจากทุ่งในฟาร์มต่างๆ ปลิวเข้ามาปกคลุมบริเวณถนนหลวง รถกึ่งรถบรรทุก 2 คัน เกิดไฟลุกไหม้หลังจากชนกันเมื่อตอนสาของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ ทำให้รถติดบนถนนระหว่างรัฐสายที่ 55 ติดยาวเป็นระยะทาง 3.22 กิโลเมตร ทางหลวงสายนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างหลายเมือง รวมถึงนครชิคาโก และเซนต์หลุยส์ ประชาชนมากกว่า 30 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บ ตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงบาดเจ็บสาหัสที่อาจจะถึงแก่ชีวิตได้ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีอายุตั้งแต่ 2 ขวบ ถึง 80 ปี