เหยื่อดินสไลด์เชียงใหม่เพิ่มเป็น 6 ศพ ผู้ว่าฯขอทหารเดินเท้าเข้าไปช่วยชาวแม่อาย
วันที่ 11 ก.ย. 67 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นไปยังจุดเกิดเหตุดินสไลด์บ้านดอยแหลม หมู่ที่ 13 ตำบลดอยแหลม อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งล่าสุดมีชาวบ้านเสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว จำนวน 6 ราย บาดเจ็บ 3 ราย และสถานการณ์เมื่อเวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างผู้สูญหายได้แล้วทั้งหมด โดยร่างสุดท้ายที่พบคือ นายธีรยุท สิริวรรณสถิต เป็นผู้ใหญ่บ้านดอยแหลม หมู่ที่ 13 ตำบลดอยแหลม อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไกลถึง 10 กิโลเมตร
นายเจตกรวีร์ จิรารัชต์พงศ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านดอยแหลม หมู่ที่ 13 ตำบลดอยแหลม อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เล่าว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนและผู้ใหญ่บ้านมาดูสถานการณ์ที่จุดเกิดเหตุเพื่อเคลียร์ดินที่สไลด์ลงมาออก และเปิดทางให้น้ำไหลผ่านได้ จังหวะนั้นได้ยินเสียงคนตะโกนบอกว่าดินถล่ม ทำให้ทุกคนต่างพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง โดยตนกับผู้ใหญ่บ้านวิ่งหนีไปคนละทาง กระทั่งภายหลังน้องผู้หญิงที่วิ่งหนีไปทางเดียวกับผู้ใหญ่บ้านที่รอดชีวิตมาบเล่าว่า ผู้ใหญ่บ้านได้ผลักให้เธอออกไปให้พ้นแนวดินที่ถล่มลงมาทำให้ครั้งนี้เธอรอดชีวิตมาได้ ส่วนผู้ใหญ่บ้านที่วิ่งหนีไม่ทันถูกโคลนที่ถล่มลงมาจากภูเขาพัดร่างไหลลงไปกับโคลน
ด้าน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการเร่งด่วนให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์พายุยางิ โดยเฉพาะในด้านความเป็นอยู่ประชาชน ซึ่งได้การสั่งการให้ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยสังคมทุกหน่วย ตั้งครัวสนามเคลื่อนที่ พร้อมกับจัดรถส่งอาหารเข้าสนับสนุนพื้นที่อำเภอแม่อาย และอำเภอฝาง ทันที โดยเฉพาะที่บ้านดอยแหลม อำเภอแม่อาย ที่ดินสไลด์มาปิดถนน ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ข้างในขาดแคลนน้ำและอาหาร โดยผู้ว่าฯ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ทหารออกเดินเท้าแบกน้ำและอาหารข้ามไปส่งให้ชาวบ้านที่ติดอยู่ข้างในหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีอาหารกินทุกมื้อ
‘หม่ำชัยภูมิ’สุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งภัณฑ์ไทย เตรียมโกอินเตอร์สู่ประเทศจีน
11 กันยายน 2567 น.ส.อรอาภา โล่วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ประธานนำจัดการการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2567 ของ จ.ชัยภูมิ ที่ห้องประชุมลีลาวดี โรงแรมสยามริเวอร์รีสอร์ท ในเมืองชัยภูมิ
นายโดมทอง ดิเรกศิลป์ พัฒนาการจังหวัดชัยภูมิ นำคณะกรรมการการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย จากทุกอำเภอมาแล้ว มีผู้ลงทะเบียนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 2,018 ราย และลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ จำนวน 3,518 ผลิตภัตภัณฑ์ ในวันนี้ เป็นการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ระดับจังหวัด มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วมการคัดสรร จำนวน 370 ราย/ ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ประเภทอาหาร จำนวน 74 ผลิตภัณฑ์ ประเภทเครื่องดื่ม จำนวน 13 ผลิตภัณฑ์ ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย 206 ผลิตภัณฑ์ ประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก จำนวน 66 ผลิตภัณฑ์ ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 10 ผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ ตามนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดความเลื่อมล้ำ ทางสังคม ด้วยการสร้างโอกาส การเข้าถึงบริการของรัฐ สร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคง เพื่อแก้ปัญญาความเดือดร้อนของประชาชน จนสามารถใช้เป็นแหล่งสร้างรายได้ และความเข้มแข็งให้กับชุมชน น.ส.อรอาภา โล่วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ บอกว่าสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2567 ของ จ.ชัยภูมิ มีอยู่มากมายกระจายอยู่ในทุกอำเภอ จ.ชัยภูมิ โดยเฉพาะในปีนี้ จ.ชัยภูมิได้มีการขับเคลื่อนส่งเสริมหม่ำ ให้เป็นสินค้าโอทอประดับโลก มีการจัดงานเทศกาลหม่ำเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผลการตอบรับจากทั่วทั้งประเทศเป็นอย่างดี
ขณะนี้ได้มีการส่งเสริมขับเคลื่อนสู่โกอินเตอร์ โดยจะมีการลงนาม MOU กับประเทศจีน ให้เป็นสินค้าส่งออกสู่ประเทศจีนแล้ว นำขายใน Modern Trade ได้ต่อไป นอกจากนั้น จ.ชัยภูมิ ยังมีสินค้าประเภทผ้า มีชื่ออยู่หลากหลายประเภท ทั้งผ้าไหม โดยจะมีการจดทะเบียนรับรองมาตรฐาน GI ด้วย
ตำรวจรวบเจ้าแม่ขน'ยานรก'ชายแดน ยึดยาบ้า 4 แสนเม็ด
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.รัฐวิกาล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พร้อมยาบ้า จำนวน 400,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีขาว ทะเบียน อุบลราชธานี ที่บริเวณทางแยกบ้านโชคชัย ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ระหว่างตั้งด่านจุดตรวจสกัดยาเสพติด เวลา 10.00 น.วันที่ 11 ก.ย.67 พบรถต้องสงสัย ขับมาก่อนจะถึงด่านตรวจ จากนั้นหักพวงมาลัยรถเลี้ยวกลับเพื่อหลบหนี กระทั่งชนกับรถชาวบ้านที่วิ่งสวนมา จนรถตกข้างทางหยุดนิ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบ พบหญิงสาว ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.รัฐวิกาล นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ มีอาการตกใจ และมีพิรุธ จึงทำการตรวจภายในรถ พบยาบ้า จำนวน 400,000 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง ส่วนคนขับรถเป็นชาย วิ่งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
น.ส.รัฐวิกาล ให้การว่า เครือข่ายได้นำยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งที่บริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านแก้งเกลี้ยง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี จากนั้น ให้นำไปส่งพื้นที่ตอนใน เพื่อส่งให้กับพ่อค้ารายย่อย โดยกำหนดจุดวางตามสัญลักษณ์ที่เห็นเด่นชัดในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียง ขณะขับรถมาตามถนนอรุณประเสริฐ สายหลัก เขมราฐ - อำนาจเจริญ โดยนั่งรถคู่มากับคนขับ คือ นายเอ กระทั่งเห็นด่านตรวจ จุดสกัดอยู่ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเขมราฐ จึงตกใจ นายเอ คนขับรถหักหลบเลี้ยวกลับเฉี่ยวชนรถชาวบ้านตกข้างถนน และถูกจับกุม ส่วนนายเอ คนขับรถ วิ่งหลบหนีไปได้ จึงควบคุมตัว น.ส.รัฐวิกาล ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนคนขับรถที่หลบหนีไปได้ จะติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตร.ทลายเครือข่าย แทงหวยออนไลน์ เงินสะพัด 180 ล้าน
เมื่อวันที่ 10 กันยายน พล.ต.ท.วรวัฒน์วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.หรือตำรวจไซเบอร์ สั่งการให้ พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 นำกำลังเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายหวยออนไลน์รายใหญ่ โดยตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 จุดและ กทม.1 จุด สำหรับจุดแรก ได้นำหมายค้นศาลจังวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมนายพลพิสิษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เจ้ามือหวยออนไลน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ส่วนจุดที่ 2 เข้าตรวจค้นบ้านพักที่บริเวณถนนมหาราช ต.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าจับกุมน.ส.ลลิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ซึ่งทำหน้าที่แอดมินกลุ่มหวยออนไลน์ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา
จุดที่ 3เจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลอาญา เข้าค้นบ้านพักในหมู่บ้านย่านวัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.จับกุมตัวนางวิภาวี (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้ามือหวยออนไลน์ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา และติดตามจับกุมนายบัณฑิต (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า ที่ใช้ในการกระทำผิด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา จับกุมได้ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ปฏิบัติการทลายเครือข่ายหวยออนไลน์ครั้งนี้ เนื่องจากชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.2 ตรวจพบเครือข่ายหวยออนไลน์ ชื่อ “ร้าน เปา เปา” จัดให้มีการเล่นพนันหวยต่างประเทศออนไลน์ โดยใช้กลุ่มไลน์ ชื่อบัญชี @168dudtj มีลักษณะเปิดเป็น บัญชี LINE Official Account ไว้สำหรับให้ลูกค้าเข้ามาเล่นการพนันออนไลน์ในรูปแบบหวยออนไลน์ ประเภทต่างๆเช่น หวยฮานอย หวยไทยและหวยลาว ซึ่งเครือข่ายกลุ่มนี้ มีการสร้างกลุ่มไลน์10 กลุ่ม ในแต่ละกลุ่มจะมีลูกค้าประมาณ 100 คน โดยพบว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เข้ามาเล่นหวยฮานอย หรือสลากกินแบ่งประเทศเวียดนาม ซึ่งจะมีการออกหวยวันละ 3 ครั้ง เริ่มรอบแรกเวลา 17.15น.รอบที่2 เวลา 18.15น. และรอบสุดท้ายในเวลา 19.00 น.ของทุกวัน มีอัตราการจ่ายเงินให้ลูกค้าที่แทงถูกในราคา 90-100ต่อ 1 บาท ซึ่งมีนายพลพิสิษฐ์และนางวิภาวี ร่วมกันเป็นหุ้นส่วนเจ้ามือหวยออนไลน์รายใหญ่ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำมานานกว่า 3 ปี มีเงินหมุนเวียนในระบบเฉลี่ยปีละกว่า 180 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนจะขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายพนันดังกล่าว รวม 6 ราย โดยเข้าจับกุมตัวไว้ได้แล้ว 4 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุมอีก 2 ราย
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ด ทองรูปพรรณ โฉนดที่ดิน นาฬิกาแบรนด์เนม กระเป๋าแบรนด์เนม คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือและเครื่องประดับอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 20ล้านบาท โดยพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันให้มีการเล่นการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงินนำส่งพนักงานสอบสวนบช.สอท.รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป
สื่อเวียดนามจับตาไทย ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ400บาทเริ่ม1ตุลานี้
วันที่ 11 กันยายน 2567 สำนักข่าว VnExpress International ของเวียดนาม รายงานข่าว Thailand to increase minimum wage to nearly $12 a day starting next month ระบุว่า ประเทศไทยกำลังจะปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นไปอยู่ที่ 400 บาท (หรือ 11.7 เหรียญสหรัฐ) ต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป แม้จะมีข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยอ้างการเปิดเผยของ พิพัฒน์ รัชกิจประการ (Phiphat Ratchakitprakarn) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของไทย ที่ยืนยันว่า นโยบายดังกล่าวผ่านการหารือกับผู้ประกอบการ และศึกษาโดยคณะอนุกรรมการที่กระทรวงแรงงานตั้งขึ้น
โดยผลการศึกษาที่กระทรวงแรงงานทำร่วมกับสำนักงานประกันสังคม พบว่า เมื่อกระทรวงแรงงานประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ควรมีการปรับขึ้นค่าจ้างกับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป ขณะที่สำนักงานประกันสังคมจะออกมาตรการชดเชยให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป โดยให้ส่วนลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมร้อยละ 1 ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2567 – ก.ย. 2568
รมว.แรงงานของไทย ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนสถานประกอบการขนาดกลางหรือขนาดย่อม (SME) ที่มีลูกจ้างไม่ถึง 200 คน ไม่ต้องขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่จ้างแรงงานกว่าร้อยละ 90 ของประเทศ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว ซึ่งมีความเป็นไปได้ในการขอความร่วมมือสถาบันการเงินให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่สถานประกอบการเพื่อช่วยรักษาสภาพคล่องและกระแสเงินสดของธุรกิจ หลังการปรับขึ้นค่าจ้างมีผลบังคับใช้ และจะมีมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทที่ให้การอบรมเพิ่มทักษะอาชีพแก่พนักงาน
