ข่าว
ตร.เดินหน้าฟ้อง”บอล-กฤษณะ” ไม่สนข่าวลือเคลียร์กัน 30 ล้าน

จากกรณี นายกฤษณะ หรือบอล อมิตรสูญ แฟนของดาราสาว “อุ้ม”ลักขณา โดนตำรวจเชียงใหม่ดำเนินคดีข้อหาทำร้าย “เจมส์ บอนด์” ลูกชายพล.ต. จนบาดเจ็บสาหัสจนเป็นข่าวโด่งดัง และคดีเข้าสู่ขั้นตอนของการดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวมรวบพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวนอยู่ในขณะนี้ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รรท.รองผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า ตอนนี้คดีอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และหลังวันที่ 9 ม.ค. 60 ตนจะได้เรียกสำนวนการสอบสวนทั้งหมดจากพนักงานสอบสวนมาตรวจสอบอีกครั้ง และตนได้กำหนดให้พนักงานสอบสวนทำการส่งฟ้องในพลัดที่ 5 คือให้ละเอียดรอบครอบและให้เร็วที่สุด คงไม่เกินปลายเดือนมกราคม 60 ช้าสุดอาจจะเป็นต้นเดือนกุมภาพันธ์

พล.ต.ต.พิทยา กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ว่าคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีการไปเคลียร์กันเรื่องค่าเสียหายค่าทำขวัญ 30 ล้าน หรือ 15 ล้านตามที่เป็นข่าวนั้นก็เป็นเรื่องของคู่กรณีทั้งสอง ไม่เกี่ยวกับสำนวนของการทำงานตามขั้นตอนของกฏหมาย ตำรวจก็ดำเนินการไปตามกฏหมาย ในคดี “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น” ก็ไปว่ากันในชั้นศาล

พล.ต.ต.พิทยา กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ทางตำรวจตรวจเส้นทางการเงินของ “บอล”กฤษณะ นั้น จากการตรวจสอบในเชิงลึกแล้วพบว่านายบอลถูกดำเนินคดีตามกฏหมายก็หนักพอสมควรแล้ว และทุกอย่างก็กระจ่างชัดเจนทำให้หลายคนได้รู้ว่าคืออะไร ทางตำรวจภาค 5 คงยุติการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายบอลแล้ว ก็ว่ากันไปตามคดีที่นายบอลถูกกล่าวหาทำร้ายร่างกายกันต่อไป

“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” พระราชทานพระราชดำรัส

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในวาระดิถีวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2560 ความว่า บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปราถนาดี เพื่ออำนวยพรแก่ท่านทั้งหลายทั่วกัน และขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก ที่มีไมตรีจิตสนับสนุนข้าพเจ้าในภารกิจทุกอย่างเสมอมา

ในปีที่แล้วบ้านเมืองของเรามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น คือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรได้เสด็จสวรรคตเมื่อเดือนตุลาคม กล่าวได้ว่านำความโศกเศร้าอาดูร นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของชาวไทยทั้งประเทศ ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันและประทับใจที่ได้เห็นประชาชนทุกเพศทุกวัยทั่วหน้า มีจิตจงรักภักดีได้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ พรั่งพร้อมกันมาถวายสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง

ขอขอบใจทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจช่วยงานพระบรมศพอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าคนไทยนั้นมีจิตใจดี มีความกตัญญูกตเวที มีความเอื้ออารีต่อกัน มีความรักชาติรักแผ่นดิน เป็นคุณสมบัติประจำชาติ และมีความรู้ความสามารถไม่แพ้ชนชาติอื่นใด ดังนั้น ไม่ว่าจะมีอุปสรรคปัญหาหรือเหตุไม่ปกติใดๆเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ก็เชื่อได้ว่าถ้าเราจะร่วมกันคิดอ่าน และช่วยกันปฏิบัติแก้ไข ทุกสิ่งทุกอย่างจะสามารถคลี่คลายลุล่วงไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน

ในปีใหม่นี้ ขอให้ชาวไทยทุกคนตั้งใจให้แน่วแน่ ที่จะรักษาคุณสมบัตินี้ให้เหนียวแน่น และทำความคิดจิตใจให้แจ่มใส ด้วยปัญญาที่กระจ่างพิจารณาทุกสิ่งที่เกิดมีขึ้นตามความเป็นจริง โดยปราศจากอคติ ให้มีความมุ่งมั่นมีกำลังใจในอันที่จะร่วมกันปฏิบัติสรรพกิจน้อยใหญ่ ในภาระหน้าที่ตามแนวพระบรมราโชบาย ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ให้งานทุกอย่างสำเร็จผล เป็นความดีความเจริญทั้งแก่ตนเอง แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

ในการนี้ข้าพเจ้าขอปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับประชาชนชาวไทยโดยเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานเช่นกัน ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวไทย อีกทั้งพระบารมีแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรเป็นอาทิ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคนให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ และประสบแก่สิ่งที่พึงปรารถนาตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน


นครฯนองน้ำตา จมน้ำทั้งจังหวัด

วันที่ 6 มกราคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 5 มกราคม 2560 พบว่า มวลน้ำจำนวนมากในลำคลองได้เพิ่มปริมาณเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำในลำคลองสายหลัก คลองท่าดี คลองคีรีวง คลองท่าหา คลองเขาธง ซึ่งมีต้นน้ำมาจากเทือกเขาหลวง ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ อ.ลานสกา พรหมคีรี เมือง ร่อนพิบูลย์ ทุ่งสง พระพรหม ช้างกลาง ฉวาง พิปูน ท่าศาลา สิชล ขนอม ส่งผลให้ระดับน้ำทุกพื้นที่สูง 1-2 เมตร ขณะที่ทั้งคืนที่ผ่านมาฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก

สำหรับในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชน้ำได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้น โดยเฉพาะถนนราชดำเนิน ถนนกะโรม ถนนพัฒนาการคูขวาง ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมืองนคร น้ำท่วมทั้งสาย โดยปริมาณน้ำสูง 20-50เซนติเมตร สำหรับถนนราชดำเนินซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ ไม่ว่าจะเป็นศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด โรงพยาบาลมหาราช และโรงเรียนต่างๆ รวมทั้งย่านการค้า ถือเป็นถนนสายเศรษฐกิจหัวใจของเมืองนครศรีธรรมราช ขณะที่ตามตรอกซอกซอยปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น สำหรับถนนกะโรม ซึ่งเป็นถนนขาเข้าขาออกเมืองนครพบว่า ปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น บรรดาพ่อค้าแม่ค้าย่านตลาดพืชผล ตลาดหัวอิฐซึ่งเป็นตลาดค้าส่งสินค้าทางการเกษตรได้นำสินค้ามาซื้อขายกันบนเกาะกลางถนน

ขณะที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ถนนราชดำเนิน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตรเจ้าหน้าที่ทำการป้องกันได้เพียงนำกระสอบทราย และผ้าเต็นท์มาขวางกันหน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาล เพื่อป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าภายในพร้อมติดตั้งเครื่องสูบ เร่งระบายน้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมบางส่วน อย่างไรก็ ตามโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ยังเปิดให้บริการตามปกติ

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จากการได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอชะอวด ถือว่าหนักมาก รวมทั้งพื้นที่อำเภออื่น ๆ ด้วย โดยที่ประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับจังหวัด หรือ ก.ช.ภ.จ. ได้มีมติเห็นชอบให้มีการขอขยายวงเงินไปยังกรมบัญชีกลางจำนวน 100 ล้านบาท เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนที่สุด โดยเฉพาะอาหารและถุงยังชีพ นอกจากนี้ได้ประสานจังหวัดภูเก็ตเพื่อนำเรือเจสกีจำนวน 4 ลำ มาเพื่อนำอาหาร ช่วงค่ำวันที่ 5 ม.ค.60 ได้มีการระดมนำเรือหางยาวพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อส. ทหาร และตำรวจ เข้าไปอพยพประชาชนที่อยู่ในย่านตลาดชะอวด ไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำยังสูงและไหลเชี่ยว ซึ่งไม่สามารถนำเรือท้องแบนเข้าไปในพื้นที่ได้ นอกจากนี้ได้ขอสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรือจำนวน 2 ลำ ไปติดตั้งเพื่อเร่งผลักดันน้ำที่ประตูระบายน้ำฉุกเฉิน

ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มีรายงานข่าวว่า ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำสูงขึ้นระดับชั้นสองของบ้านเรือนประชาชน ทางอำเภอชะอวดเร่งอพยพประชาชนในทุกพื้นที่เร่งด่วนพร้อมทำการตัดไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยทำให้อำเภอชะอวดถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันที ผู้แทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครศรีธรรมราชรายหนึ่ง ระบุว่า จำเป็นต้องตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอชะอวดที่น้ำท่วมสูง เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าดูด


130 ครัวเรือนในสุราษฎร์ฯ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

สุราษฎร์ธานี - สถานการณ์น้ำท่วมสุราษฎร์ธานีเริ่มคลี่คลาย หลายพื้นที่เริ่มสำรวจความเสียหาย ล่าสุด พบในพื้นที่กาญจนดิษฐ์ มีดินสไลด์ปิดเส้นทาง ชาวบ้านกว่า 130 ครัวเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลา 3 วัน ผู้ใหญ่บ้านต้องเดินเท้ากว่า 2 กม.ออกมาขอความช่วยเหลือ

คืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันนี้ (6 ม.ค.) สถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลายภาคส่วนเริ่มเข้าสำรวจความเสียหาย ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา นายสุจินต์ ส่งมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 บ้านม่วงลีบ ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ ได้เข้าพบ นายวิชวุทย์ จินโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะตรวจพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ตำบลคลองสระ เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 9 จำนวน 134 ครัวเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมาเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-6 มกราคม เนื่องจากมีดินจำนวนมากสไลด์ลงปิดเส้นทางเข้าออก ไฟฟ้าดับ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ทั้งเรื่องอาหาร และน้ำดื่ม ขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน ทางรองผู้ว่าฯ ได้สั่งการเตรียมนำเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลเข้าช่วยเหลือในเช้าวันพรุ่งนี้โดยในวันนี้ได้มอบถุงยังชีพไปจำนวนหนึ่งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

นอกจากนั้น ยังพบว่าไก่ในฟาร์มเลี้ยงของเกษตรกรกว่า 3 ราย ตายไปกว่า 100,000 ตัว กำลังเน่าส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวล ทางเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายวิภาวดีรังสิต เจ้าหน้าที่ อบจ. และอาสาสมัครจำนวนกว่า 50 นาย ต้องช่วยกันนำซากไก่ไปฝังกลบ และทำความสะอาดหวั่นเชื้อโรคระบาด ในขณะที่รองผู้ว่าฯ สรุปเหตุการณ์ว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 8 อำเภอ มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย


“บิ๊กตู่” เผยนครศรีฯ เตือนภัยเป็นระดับ 3

นายกฯเผยสถานการณ์อุทกภัย นครศรีฯ ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 3 แล้ว สั่ง มท.บูรณาการช่วยเหลือ แก้ปัญหา เมินพวกวิจารณ์รัฐบาล กล่าวหาไม่ปฎิรูป ประเทศแย่ลง ยันเดินหน้าทำงานต่อ ตอกคอลัมนิสต์ พวกเฒ่าแก่ๆ เขียนแบบเดิมทุกวัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า ดีใจที่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชน แม้ที่ผ่านมาไม้ได้ลงไปก็ทำงานช่วยเหลือตลอด อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ไม่ต้องการให้ลงไปแล้วเป็นภาระเจ้าหน้าที่ ตนเป็นรัฐบาลประชาชนภาคไหนเดือดร้อนก็ต้องไป อย่างไรก็ตามในหลายพื้นที่เฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช ได้ยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 3 แล้ว โดยให้ รมว.มหาดไทย ดูแลบูรณาการทั้งหมด ส่วนภาคเอกชนหากต้องการช่วยเหลือบริจาคสิ่งของ ทางกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ดูแล

ทั้งนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด เพื่อระบายน้ำสู่ทะเล ซึ่งยอมรับว่าการทำงานไม่ต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้ให้มีการขุดลอกคูคลองเพิ่มเติม และก่อนหน้านี้ได้ทำพนังกั้นน้ำที่สุไหงโกลก ประมาณ 7 ก.ม.

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราชนั้น คงต้องดูก่อนเพราะไม่อย่างสร้างภาระให้เจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาระยะยาวเราต้องมีมาตรการรับมือไม่ให้น้ำท่วมซ้ำซาก ไม่ว่าถนนที่กั้นน้ำ หรือมาตรการอื่นๆ รวมทั้งท่อระบายน้ำที่จะต้องทำรอดถนนเพชรเกษมด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลทำงานทุกอย่าง โดยเฉพาะการปฏิรูป เราทำทุกด้านฉะนั้นอย่าบอกว่ารัฐบาลไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย ทุกอย่างมีการคิดใหม่ ไม่ให้ปัญหาเดิมเกิดขึ้นอีก อย่ามานั่งถามว่าปฏิรูปคืออะไร ถึงวันนี้ยังไม่รู้กันอีกหรือ ปฏิรูปกฎหมายมา 2-3 ร้อยฉบับที่ผ่านมาไม่เคยทำแบบนี้ แต่ต้องยอมรับว่าบางเรื่องต้องใช้เวลา ขอร้องว่าอย่าใจร้อน อย่าไปฟังมากมายกับใครบางคนนัก ที่ออกมาพูดเรื่องของการปฏิรูปหรือไม่ปฏิรูป

“เดี๋ยวก็คงต้องมีการเดือดร้อนกันบ้างเพราะมีคนได้รับผลกระทบไม่ว่าจราจร รถตู้ ไม่เช่นนั้นก็กลับมาที่เก่า แล้วก็มาบอกว่าผมไม่ได้ปฏิรูป แต่ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร สื่อจะไปฟังใครหรือไม่ ผมก็ทำงานของผม ซึ่งผมเป็นรัฐบาลแบบนี้ห่วงประชาชนทุกคน พร้อมทำงานให้คนทุกภาค แต่ต้องจัดลำดับความเร่งด่วนให้ทั่วถึงเป็นธรรมใช้งบประมาณอย่างทั่วถึง ไม่ใช่เลือกให้ วันนี้รัฐบาลทำงานแต่ไม่รู้ทำไมมีคนบางประเภทไปพูดว่ามันแย่ลง ถามว่าแย่ลงตรงไหน รอบบ้านบางที่แย่กว่าเราเยอะแยะ ขอร้องว่าอย่าไปฟังพวกที่ออกมาพูดเรื่อยเปื่อย แล้วไปขยายความกัน แล้วกลับมาดูถูกรัฐบาลว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ จะไม่ให้กำลังใจกันเลยหรืออย่างไร หรืออยากจะอยู่กันแบบเดิม ดักดานกันแบบเก่าที่ทำกันมา วันนี้ขอพูดบ้าง เพราะผมโดนว่าตลอด เหนื่อย แต่ต้องทำ เพราะชาวบ้านยังลำบาก คนอื่นพยายามใช้ประโยชน์จากชาวบ้าน แต่ผมไม่ต้องการ วันนี้ต้องหัดคิดใหม่ทำใหม่ อย่ามาดิสเครดิตผม ไม่สนใจ ใครจะเขียนว่าก็ให้เป็นเต่าต่อไป เป็นพวกเต่าแก่ๆ เขียนแบบเดิมทุกวัน”


“ชูวิทย์” ลั่น “ไอ้ต้อม” ควรได้รับโทษประหาร

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้ไลฟ์สตีมผ่านเฟซบุ๊ก “ชูวิทย์ทีวี” กรณี “ไอ้ต้อม” หรือ นายกิตติกร วิกาหะ อายุ 26 ปี ชาวจ.สระแก้ว ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ นายวศิน เหลืองแจ่ม อายุ 26 ปี ที่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจแทงเฉี่ยวๆนั้น ว่า เป็นแค่ข้ออ้าง เพราะคนนี้รู้เรื่องคดีการลงโทษอย่างดี เพราะติดคุกมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเมื่อดูคลิปแล้วก็ชัดเจนว่า เป็นการตั้งใจลักษณะแบบนี้ประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน ซึ่งยังมีการทำแบบนั้นอีกกับคนอื่น คนอย่างนี้ ต้องเข้าคุกไม่มีวันออก การทำผิดซ้ำซากก็ไม่ควรได้รับการลดโทษเพราะเป็นนักโทษชั้นเลวมาก

“การอยู่ในคุกมันก็สบาย มีน้ำ มีไฟ รู้ช่องทางก็หากินในคุกได้อีก รับจ้างซักผ้า ซื้อของ ก็ได้เงินขึ้นอีก คนดีที่ติดคุกได้ออกมาควรได้รับการอภัยก็มี แต่คนอย่างไอ้ต้อม ควรต้องได้รับการประหารชีวิตหรือไม่ เพราะเอาหนุ่มอนาคตไกลถึงชีวิตเพียงเพราะต้องการไอโฟนเครื่องเดียว หรือก็ต้องติดคุกไม่มีวันออก ติดไปตลอดชีวิต อย่างน้อยก็ต้องติด 15 ปี ”

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่สังคมกังวลว่าคนแบบนี้เข้าไปแล้วก็จะออกมาอีก ก็ไม่ต้องกังวล เพราะกรณีนี้ถือเป็นนักโทษชั้นเลวมาก เข้าไปแล้วจะถูกเจ้าหน้าที่ติดตามสอดส่อง ไม่ได้รับการอภัยโทษอย่างแน่นอน การประทุษร้ายถึงชีวิต เตรียมมีดไป เตรียมยานพาหนะไป ต้องได้รับโทษสูงสุดอย่างแน่นอน ส่วนเพื่อนที่ไปด้วยกัน โทษอาจจะเบากว่า แต่ก็แน่นอนว่าต้องรู้กันอย่างแน่นอน ทั้งนี้ การลงโทษก็ต้องแบ่งชั้นความผิด เช่น กรณีไอ้ต้อม ถือว่าเป็นคนร้ายในกลมสันดาน วนเวียนแต่ในคุก ก็ต้องให้นอนอยู่ในคุกตลอดชีวิต ดูได้จากแทงคนตายไปแล้ว ยังไปกระชากกระเป๋าต่อได้อีก ส่วนคนทำผิดครั้งแรก ก็ต้องให้โอกาสกลับตัว

กราดยิงที่สนามบินในฟลอริดา ตาย 5 เจ็บ 13 คุมมือปืนสอบ

เกิดเหตุกราดยิงที่สนามบินนานาชาติฟอร์ท ลอเดอร์เดล ในฟลอริดา สหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เจ็บอีก 13 มือปืนเป็นผู้โดยสารคนหนึ่ง จนท.คุมตัวได้ อยู่ระหว่างสอบแรงจูงใจ ...

เกิดเหตุคนร้าย 1 ราย กราดยิงที่ท่าอากาศยานนานาชาติฟอร์ท ลอเดอร์เดล ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อเวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น บริเวณอาคารที่ 2 ของสนามบิน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และ 13 รายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแล้ว

ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นผู้โดยสาร ที่ลงเครื่องจากแคนาดา จากนั้นล้วงปืนจากกระเป๋าสัมภาระออกมายิงผู้คน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหาแรงจูงใจ.