ข่าว
‘ฝีดาษลิง’ ลาม 58 ประเทศ /ป่วยพุ่ง 6 พัน WHO ถกด่วน 18 ก.ค. ประเมินความเสี่ยงแพร่เชื้อ

วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2565: องค์การอนามัยโลก นัดประชุมฉุกเฉิน หลังฝีดาษลิงลามหนัก ยอดติดเชื้อทั่วโลกพุ่งกว่า 6,000 ราย ในพื้นที่ 58 ประเทศ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ยืนยันพบผู้ป่วยรายแรกในประเทศเป็นชายสัญชาติมาเลเซีย โดยจะมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมมาตรการรับมือการระบาดต่อไป

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ว่า จะนัดประชุมผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิงอีกครั้งเพื่อประเมินว่าการแพร่ระบาดของฝีดาษลิงนั้นเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขระดับโลกหรือไม่ ซึ่งนับเป็นคำเตือนการแพร่ระบาดในระดับสูงสุด ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 6,000 ราย ใน 58 ประเทศ

นายเทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ตนจะนัดประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินในเรื่องการแพร่ระบาดของฝีดาษลิงในสัปดาห์ของวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ หรืออาจจะเร็วกว่านั้นหากจำเป็น พร้อมระบุว่า ตนเป็นห่วงถึงขนาดและระดับการแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่การตรวจนั้นยังคงเป็นเรื่องท้าทาย และมีความเป็นไปได้สูงที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ยังไม่ได้ถูกบันทึกเข้าระบบ นอกจากนี้ยังระบุว่า ทีมองค์การอนามัยโลกจะจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อให้นักระบาดวิทยาประเมินการแพร่ระบาดและหามาตรการควบคุมมาบังคับใช้ต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า องค์การอนามัยโลกเคยจัดประชุมคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญฉุกเฉินซึ่งมีองค์คณะทั้งหมด 16 คนมาแล้วเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยในเวลานั้นผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่าสถานการณ์ยังคงไม่เข้าข่ายเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ หรือ PHEIC ที่นับเป็นคำเตือนระดับสุงสุดขององค์การอนามัยโลก โดยก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกเคยประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศมาแล้ว 6 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2009 ที่ผ่านมา โดยครั้งล่าสุดคือการประกาศกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า แผนขององค์การอนามัยโลกในเวลานี้คือการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อฝีดาษลิง เชื้อที่แพร่ระบาดในกลุ่มผู้ชายที่มีเพศสัมพันธุ์กับผู้ชายด้วยกัน ด้วยการสร้างการรับรู้ในกลุ่มประชากรที่ได้รับผลกระทบ สนับสนุนให้มีพฤติกรรมที่ปลอดภัยและมีมาตรการป้องกันที่ดีพอ นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกกำลังทำงานกับหลายๆ ประเทศ และบรรดาผู้ผลิตวัคซีนเพื่อประสานเกี่ยวกับการแบ่งปันวัคซีนที่เวลานี้ยังคงขาดแคลนและกำลังเป็นที่ต้องการในประชากรกลุ่มเสี่ยง

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุในแถลงการณ์ว่า ชายมาเลเซีย วัย 45 ปี ที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ มีผลตรวจหาเชื้อฝีดาษวานรเป็นบวกเมื่อวันพุธ ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยรายแรกในประเทศสิงคโปร์ ขณะนี้ ชายคนดังกล่าวเข้ารับการรักษาที่ศูนย์โรคติดเชื้อแห่งชาติและมีอาการคงที่ อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ไม่พบว่า ชายมาเลเซียมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรที่เดินทางจากต่างประเทศมายังสิงคโปร์ที่กระทรวงฯ เคยรายงานไว้เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน

ผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรรายนี้เริ่มปรากฏรอยโรคบนผิวหนังบริเวณท้องเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน รวมถึงมีอาการอ่อนเพลียและต่อมน้ำเหลืองบวมในวันที่ 2 กรกฎาคม จากนั้น เขาก็มีไข้สูงและเจ็บคอเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมจนต้องไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการ ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้มีผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับชายคนดังกล่าว 3 คนนับถึงวันพุธ โดยทั้งหมดได้แยกกักตัวเพื่อรอดูอาการเป็นเวลา 21 วันนับตั้งแต่ที่มีประวัติสัมผัสครั้งสุดท้ายกับผู้ป่วย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์จะยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ระบาดของโรคฝีดาษวานรอย่างใกล้ชิดและเตรียมมาตรการเพื่อรับมือกับการระบาดต่อไป

นางสาวถิ่นไทยงาม 2565 มิ้ว สุจารี นักศึกษาจากม.เชียงใหม่ คว้ามงกุฏนางสาวถิ่นไทยงาม 2565

กองประกวดนางสาวถิ่นไทยงาม 2565 นำโดย สินีนารถ เองตระกูล ประธานกรรมการบริหารกองประกวดนางสาวถิ่นไทยงาม ได้จัดการประกวดรอบตัดสิน ณ ห้องเลคฮอลล์ โรงแรม เอส พาร์ค รังสิต โดยสาวงามที่ชนะใจคณะกรรมการ คือ หมายเลข 1 นางสาวสุจารี กาญจนกฤต (น้องมิ้ว) อายุ 22 ปี สาวงามจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คว้ามงกุฎพร้อมกับเงินสดและของรางวัล รวมกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งนางสาวถิ่นไทยงามจะได้เป็นตัวแทนไปประกวดนางงามระดับนานาชาติต่อไปในเวที Miss Tourism World 2022

เวที นางสาวถิ่นไทยงาม ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการนางงามไทยมาอย่างยาวนานถึง 72 ปี นับเป็นเวทีระดับประเทศเวทีแรกที่พร้อมนำเสนอและถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในยุค New Normal อย่างเต็มภาคภูมิ ภายใต้แนวคิด “พลังแห่งความงาม สะท้อนคุณค่าในตัวคุณ ทั่วถิ่นไทยงาม” (Power of Beauty) ด้วยรูปแบบการประกวดในปีนี้ที่เรียบหรู สง่างาม ทันสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์ความเป็นไทยไว้เช่นเดิม

การประกวดเริ่มด้วยการแสดงเปิดตัว 30 สาวงามในชุดว่ายน้ำย้อนยุคที่ตัดเย็บจากผ้าไหมไทย อย่างปราณีต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเวทีการประกวดนี้ จากนั้นจึงประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายซึ่งปรากฏโฉมในชุดว่ายน้ำสากลแบบทูพีซ ตามด้วยการประกวดในชุดธีม เสน่ห์ผ้าไทย โดยบริษัท ประชารัฐ รักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด

ทั้งนี้ ศิลปินชื่อดัง กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ได้ออกมาขับกล่อมบทเพลงก่อนการปรากฏตัวของสาวงามทั้ง 10 คนในชุดราตรีเพื่อให้สาวงามได้อวดโฉมอย่างสง่างามแก่คณะกรรมการอีกครั้ง จากนั้นเป็นการประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนก่อนเข้าสู่ช่วงตอบคำถามเป็นลำดับ และก่อนที่จะมีการประกาศรางวัลในปีนี้ก็มีการเปิดตัว น้องมิ้นท์ - ลพัฎร์ฐิดา คงกระพันธ์ นางสาวถิ่นไทยงามปี 2563 ที่มาอำลาตำแหน่งบนเวที

จากนั้นจึงเป็นการประกาศผลรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 2 (ได้รับตำแหน่งเท่ากันทั้ง 3 คน) ได้แก่ หมายเลข 2 นางสาวปฏิมาภรณ์ ขยันชม (น้องมีน) อายุ 24 ปี สาวงามจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี , หมายเลข 23 นางสาวโศภิษชา อภิชนสันทัด(น้องอาย) อายุ 24 ปี สาวงามจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ หมายเลข 25 นางสาวศรินธรณ์ แบรนสตัน (น้องลาร่า) อายุ 18 ปี สาวงามจาก NIST International School

สำหรับรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ หมายเลข 4 หมายเลข 17 นางสาวพริมา บุณยะเวศ (น้องพริ้ม) อายุ 19 ปี สาวงามจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และรางวัลชนะเลิศ นางสาวถิ่นไทยงาม 2565 ได้แก่ หมายเลข 1 นางสาวสุจารี กาญจนกฤต (น้องมิ้ว) อายุ 22 ปี สาวงามจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


ผู้นำโลกร่วมอาลัย ‘อาเบะ’ ชูเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่-ประณามเหตุลอบสังหาร

ผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างออกมาร่วมประณามเหตุคนร้ายลอบยิงนาย ชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจนเสียชีวิต และร่วมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและชาวญี่ปุ่น

สำนักข่าว เอพี รายงานว่า เหตุลอบสังหารนาย ชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ก.ค. 2565 สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก และเรียกเสียงประณามจากผู้นำประเทศต่างๆ เช่น อิหร่าน ที่เรียกการโจมตีนี้เป็นการก่อการร้าย ขณะที่ผู้นำชาติยุโรประบุว่าเป็นการโจมตีอันชั่วร้าย

นายอาเบะวัย 67 ปี ถูกคนร้ายยิงจากด้านหลัง 2 ครั้งในระยะห่างไม่กี่เมตร ระหว่างการปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดนารา ทางตะวันตกของประเทศ โดยเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยเฮลิคอปเตอร์ทันที แต่บาดแผลสาหัสและในท้ายที่สุดแพทย์ก็ไม่อาจยื้อชีวิตเขาไว้ได้ ส่วนคนร้ายชาย ถูกจับในที่เกิดเหตุพร้อมอาวุธปืนคล้ายลูกซองแฝดที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเอง

เหล่าผู้นำโลกยังร่วมแสดงความอาลัยต่อครอบครัวของนายอาเบะและชาวญี่ปุ่น ซึ่งสูญเสียอดีตผู้นำที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนานที่สุด ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากอำนาจในปี 2563 เนื่องจากปัญหาสุขภาพ

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าเขารู้สึก ช็อก, โกรธ และเสียใจอย่างที่สุด และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายอาเบะ “ที่เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับชาวญี่ปุ่นและสำหรับทุกคนที่รู้จักเขา วิสัยทัศน์ของเขาเรื่องการเปิดเสรีอินโด-แปซิฟิกจะคงอยู่ต่อไป ที่สำคัญกว่านั้น เขาห่วงใยชาวญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งและอุทิศตนในการรับใช้ประชาชน”

ต่อมาผู้นำประเทศตั้งแต่ตุรกีไปจนถึงสิงคโปร์ ก็ออกมาประณามการโจมตีที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร กับกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส ระบุว่านี่เป็นการโจมตีอันชั่วร้าย ขณะที่นายกรัฐมนตรีสเปน เปโดร ซานเชซ กล่าวว่านี่เป็นการโจมตีที่ขี้ขลาด

ประธานาธิบดี โซโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนายอาเบะและชาวญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และไม่ควรมีข้ออ้างใดๆ เพื่อก่อพฤติกรรมชั่วร้ายนี้ ส่วนนายยูน ซุค ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประณามการโจมตีว่าเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจทานทน

ขณะที่อิหร่านชี้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายอาเบะ เป็นการก่อการร้าย “ในฐานะประเทศที่เป็นเหยื่อของการก่อการร้ายและเสียผู้นำผู้ยิ่งใหญ่มากมายให้แก่ผู้ก่อการร้ายเหมือนกัน เรากำลังติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดและด้วยความกังวล” โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านระบุในแถลงการณ์

ด้านสมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ทวีตข้อความว่า พระองค์รู้สึกช็ฮกและเสียพระทัยกับเหตุโจมตีนายอาเบะ “โลกสูญเสียผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ และจอร์แดนกับข้าพเจ้าก็ได้เสียมิตรแท้ไป”

นาง จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ระบุว่า นายอาเบะเป็นหนึ่งในผู้นำประเทศคนแรกๆ ที่เธอได้พบหลังรับตำแหน่ง และชื่นชมว่านายอาเบะเป็นผู้ที่มุ่งมั่นในบทบาทของตัวเอง, เอื้อเฟื้อ และมีเมตตา “ฉันจำตอนที่เขาถามเรื่องที่เราเพิ่งเสียสัตว์เลี้ยงของเราไปเมื่อไม่นานมานี้ในตอนที่ฉันพบกับเขาได้ นี่เป็นการแสดงออกเพียงเล็กน้อยแต่ทำให้บอกได้ว่า เขาเป็นคนมีน้ำใจเพียงใด” “เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เราสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ”

ผู้นำจากเยอรมนี, ปากีสถาน, สวีเดน และฟิลิปปินส์ ก็ออกมาร่วมแสดงความเสียใจด้วย และมีอีกหลายประเทศรวมถึงสเปนและฝรั่งเศสที่แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับญี่ปุ่น ขณะที่นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ประกาศให้วันเสาร์เป็นวันแห่งการไว้อาลัย 1 วัน และชื่นชมนายอาเบะว่า มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดันความสัมพันธ์อินเดียกับญี่ปุ่นไปสู่ระดับหุ้นส่วนโลกและยุทธศาสตร์พิเศษ

รัฐบาลไต้หวันออกแถลงการณ์ว่า นายอาเบะพยายามอย่างหนักในการผลักด้านความคืบหน้าเรื่องความสัมพันธ์ไต้หวัน-ญี่ปุ่น มานานหลายปี และเน้นย้ำถึงเรื่องที่รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ไต้หวันด้วย

ด้านนาย เรตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซีย ผู้เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจากชาติ จี20 ที่เกาะบาหลี กล่าวแสดงความเสียใจที่นายอาเบะต้องจากไปก่อนวัยอันควร และว่าเขาจะเป็นที่จดจำในฐานะแบบอย่างของทุกคนตลอดไป

นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ออกมาร่วมแสดงความเสียใจด้วย โดยระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า นายอาเบะเป็นชายที่รักและให้ความสำคัญกับประเทศของตัวเอง เขาจะเป็นที่คิดถึงอย่างยิ่งและจะไม่มีใครเหมือนเขาอีกแล้ว นายทรัมป์ยังขอให้คนร้ายได้รับบทลงโทษอย่างหนักและรวดเร็วด้วย


ลาฟรอฟ ลุกจากการประชุมจี 20 จังหวะที่ตะวันตกจวกรัสเซียปมยูเครน

เอเอฟพี รายงานว่า นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เดินออกจากการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี 20 — เวทีความร่วมมือระหว่างประเทศที่รับมือกับประเด็นปัญหาใหญ่เกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ประกอบด้วยสมาชิกชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 19 ประเทศและสหภาพยุโรป (อียู) — ในเมืองบาหลีของอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ขณะที่รัฐมนตรีมหาอำนาจตะวันตกวิจารณ์รัสเซียที่รุกรานยูเครน

สหรัฐฯ และพันธมิตรประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซียก่อนการประชุมกลุ่มจี 20 และก่อนนายลาฟรอฟจะเผชิญสิ่งที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุเป็นการวิจารณ์จากตะวันตกในการประชุม

นายบลิงเคนกล่าวในการประชุมว่า “สิ่งที่เราได้ยินวันนี้คือการประสานเสียงแข็งแกร่งจากทั่วโลกเกี่ยวกับความจำเป็นในการยุติการรุกราน”

นายบลิงเคนและนายลาฟรอฟเข้าร่วมกับรัฐมนตรีกลุ่มจี 20 เป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามในยูเครนเปิดฉาก โดยอินโดนีเซีย เจ้าภาพการประชุม บอกทันทีว่า ความขัดแย้งต้องยุติด้วยการเจรจา

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวนักการทูตระบุว่า นายลาฟรอฟเดินออกจากวาระการประชุมตอนเช้าขณะที่น.ส.อันนาเลนา แบร์บ็อค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี วิจารณ์รัสเซียที่รุกรานยูเครน และออกจากวาระการประชุมตอนบ่ายก่อนนายดมีโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี 20 ผ่านระบบเสมือนจริง และไม่ได้ปรากฏตัวขณะที่นายบลิงเคนประณามรัสเซีย สวนทางกับที่นายลาฟรอฟกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ตนจะไม่หันหลังแก่สหรัฐฯ ในการเจรจา และว่ารัสเซียไม่ได้ละทิ้งการติดต่อแต่เป็นสหรัฐฯ เอง

นายลาฟรอฟกล่าวด้านนอกโรงแรมมูเลีย สถานที่จัดการประชุมว่า พันธมิตรตะวันตกของเรากำลังพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาเศรษฐกิจโลก และวิจารณ์รัสเซียอย่างดุเดือดตั้งแต่เริ่มพูด

ขณะที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตะวันตกระบุว่า นายบลิงเคนหลีกเลี่ยงกับพบปะนายลาฟรอฟ และเรียกร้องให้รัสเซียเปิดทางส่งออกธัญพืชออกจากยูเครน แทนที่จะกล่าวหารัสเซียก่อวิกฤตอาหารโลก

“ถึงทีมงานชาวรัสเซีย ยูเครนไม่ใช่ประเทศของคุณ ธัญพืชไม่ใช่ของคุณ ทำไมคุณปิดท่าเรือ คุณควรเปิดทางให้ธัญพืชออกไป” นายบลิงเคนกล่าว

ก่อนหน้านั้น นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะเจ้าภาพการประชุม กล่าวถึงสงครามยูเครนโดยตรงโดยเรียกร้องการยุติสงครามและแก้ไขข้อขัดแย้งแตกต่างผ่านการเจรจา

“เป็นความรับผิดชอบของเราที่จะยุติสงครามโดยเร็วและแก้ไขความแตกต่างบนโต๊ะเจรจา ไม่ใช่สนามรบ” นางมาร์ซูดีกล่าวเปิดการประชุม และกล่าวในถ้อยแถลงปิดท้ายการประชุมว่า “ผู้เข้าร่วมในการประชุมแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผลกระทบมนุษยธรรมของสงคราม บางคนแสดงออกการประณามการรุกรานดังกล่าว” แต่ไม่ได้กล่าวถึงการเดินออกจากวาระการประชุมของนายลาฟรอฟ


เริ่มแล้ว เทศกาลวิ่งวัวกระทิงสุดโหดที่สเปน ประเดิมวันแรกบาดเจ็บส่ง รพ.6 ราย

เทศกาลวิ่งวัวกระทิง “ซาน เฟร์มิน” ที่สเปนได้เริ่มขึ้นแล้ว มีผู้เข้าร่วมหลายพันคน ผ่านไปวันแรกมีผู้บาดเจ็บ 6 ราย จากการวิ่งล้ม วิ่งชนกัน แต่ยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากการถูกวัวกระทิงขวิด

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า งานเทศกาลวิ่งวัวกระทิง “ซาน เฟร์มิน” ที่ในเมืองแปมโปลน่า ของสเปน ได้เริ่มขึ้นวันแรกเมื่อเช้าวันที่ 7 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีประชาชนเข้าร่วมวิ่งวัวกระทิงหลายพันคน โดยสำหรับในวันแรกได้มีการปล่อยวัวกระทิงดุ 6 ตัววิ่งไปตามท้องถนน แต่เป็นลักษณะการจัดให้มันวิ่งตามกลุ่มวัวตัวผู้ที่ถูกเลี้ยงไว้จนเชื่อง 6 ตัว เพื่อเป็นการช่วยป้องกันความปลอดภัยสำหรับผู้ร่วมงาน

ผู้จัดงานเปิดเผยว่า งานเทศกาลวิ่งวัวกระทิง จะจัดขึ้นเป็นเวลา 9 วัน การวิ่งวัวกระทิงก็จะมีขึ้นเฉพาะช่วงเช้าของแต่ละวัน จนถึงตอนนี้ผ่านไปวันแรกยังไม่มีใครถูกวัวกระทิงขวิด มีเพียง 6 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งล้ม หรือวิ่งชนกัน สถิติเมื่อปี 2562 มีคนถูกวัวกระทิงขวิดบาดเจ็บไป 8 ราย ก่อนที่จะยกเลิกจัดงานในปี 2563 และ 2564 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ก่อนหน้านี้เคยเกิดเรื่องน่าเศร้าที่สุดเมื่อปี 2453 มีคนถูกวิวกระทิงขวิดแทงเสียชีวิตไปถึง 16 ศพ

ด้านกลุ่มปกป้องสิทธิสัตว์ออกมาประท้วงต่อต้านเทศกาลนี้ เนื่องจากวัวกระทิงที่ถูกนำมาวิ่งไล่ต้อนเพื่อแลกกับความสนุกสนานและคึกคะนองของผู้คนในช่วงเช้า จะถูกฆ่าตายในสนามในช่วงบ่ายระหว่างการแสดงของนักสู้วัวกระทิงมืออาชีพ

ผู้ประท้วงกล่าวว่า ผู้จัดงานอ้างว่าเป็นการสืบทอดประเพณี ในขณะที่นักท่องเที่ยวเองก็ไม่เคยรู้ว่าวัวกระทิงเหล่านี้จะถูกพาลงสนามประลองแล้วถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ในขณะที่หลายเมืองเริ่มประกาศยกเลิกประเพณีวิ่งวัวกระทิงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเกาะคานารี คาตาลุญญา มาร์ญอร์กา และอิบิซ่า ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดพบว่า กว่า 90% ของชาวสเปนเองก็ตัดสินใจไม่เข้าร่วมงานประเพณีใดๆ ที่เกี่ยวกับวัวกระทิงระหว่างปี 2557-2558