ข่าว
จรวด “Space X” ระเบิดกลางอากาศระหว่างการทดสอบ ท่ามกลางคนดูนับพัน

21 เม.ย. 2566: จรวดบริษัท “สเปซเอกซ์” ของนายอีลอน มัสก์ เกิดระเบิดกลางอากาศเพียงไม่กี่นาทีหลังถูกปล่อยขึ้นจากฐานปล่อยจรวดรัฐเท็กซัส ขณะที่ทีมงานยืนยันความสำเร็จ

บีบีซี รายงานว่า จรวด “สตาร์ชิพ” (Starship) ของบริษัท “สเปซเอกซ์” ทำการทดสอบการส่งจรวดขนาดยักษ์ “ซูเปอร์ เฮฟวี” เกิดการระเบิดกลางอากาศเพียงไม่กี่นาทีหลังถูกปล่อยขึ้นจากฐานปล่อยจรวดในเมืองโบกา ชิกา รัฐเทกซัส ก่อนที่จะตกลงบริเวณอ่าวเม็กซิโก เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา

โดยด้านในจรวดดังกล่าวไม่มีนักบินอวกาศ หรือดาวเทียมอยู่บนจรวดลำนี้ ซึ่งการปล่อยจรวดมีขึ้นท่ามกลางการเฝ้ารอชมของประชาชนที่ไปปักหลักกันบริเวณเกาะเซาธ์ ปาเดร ไม่ไกลจากจุดปล่อยยาน

ด้านผู้เชี่ยวชาญของสเปซเอกซ์ ระบุว่า ภายในระยะเวลาประมาณ 4 นาที หลังการทดสอบชิ้นส่วนฐานล่างของยานหลุดออกจากกันหลังจากพุ่งออกจากฐาน ที่ระดับความสูงประมาณ 29 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเครื่องยนต์ประมาณ 5-6 เครื่อง จากทั้งหมด 33 เครื่อง หยุดทำงานหรือไม่อาจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนจะเสียการควบคุมและระเบิดในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ด้านนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทสเปซ เอกซ์ กล่าวว่า ในแง่ของวิศวกรรมยังถือได้ว่าภารกิจครั้งนี้ยังประสบความสำเร็จ เพราะไม่ได้ระเบิดที่ฐานและทำแท่นปล่อยเสียหาย โดยบอกว่าการทดสอบปล่อยจรวดจะต้องมีขึ้นบ่อยๆ และไม่ต้องกลัวความเสียหาย พร้อมประกาศว่าการทดสอบจรวดสตาร์ชิพครั้งใหม่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ ทางองค์การการบินพลเรือน ผู้ออกใบอนุญาตการปล่อยจรวดในสหรัฐฯ ระบุว่า จะมีการสืบสวนกรณีความผิดปกติที่เกิดขึ้น อันเป็นการสืบสวนตามแนวทางปฏิบัติสำหรับกรณีที่มีการสูญเสียยานระหว่างการบิน

อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า การใช้ยานสตาร์ชิปพร้อมจรวดซูเปอร์เฮฟวี ซึ่งมีความสูงรวมกัน 119 เมตร และมีมวลมากถึง 5,000 ตัน ถือเป็นจรวดทรงพลังและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพาหนะส่งมนุษย์เดินทางไปยังดวงจันทร์ ภายใต้โครงการ “อาร์ทิมิส 3” ซึ่งกำหนดไว้ในปี 2568 ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ ภารกิจที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นความพยายามครั้งที่ 2 หลังจากที่เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทสเปซ เอกซ์ต้องประกาศยกเลิกการปล่อยจรวดสตาร์ชิพ เพียงไม่กี่นาทีก่อนกำหนดการ เนื่องจากพบปัญหาวาล์วแรงดันเย็นจัดจนแข็งตัว

โค้งแรกก่อนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

เมื่อวันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566 คุณต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้นำผู้สื่อข่าวท้องถิ่นและผู้สังเกตการณ์เข้าชมระบบการทำงานในการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส รวมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ฯ

สถานกงสุลใหญ่ ฯ ได้เปิดให้ประชาชนไทยในอาณาเขต 13 รัฐทำการลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 9 เมษายน 2566 ทั้งทางออนไลน์หรือส่งแบบฟอร์มเข้ามา โดยจัดให้มีกิจกรรมพบปะชุมชนที่วัด ไทยทาวน์ ตลาด เพื่อให้ความรู้และอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียน มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อมวลชน ตัวแทนชุมชน มหาวิทยาลัยและอื่น ๆ ออกไป

ในปีนี้มีผู้ลงทะเบียนมาใช้สิทธิ์ผ่านสถานกงสุลฯ ทั้งสิ้น 6,664 ราย มากกว่าจำนวนผู้ที่มาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว (ปี 2562) โดยแยกออกเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือก ส.ส. เขตในแต่ละภาคดังนี้

1. กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 3,757 ราย คิดเป็น 56% (ของผู้ลงทะเบียน)

2. ภาคอีสาน จำนวน 997 ราย คิดเป็น 15%

3. ภาคเหนือ จำนวน 730 ราย คิดเป็น 11%

4. ภาคกลาง จำนวน 435 ราย คิดเป็น 7%

5. ภาคตะวันออก จำนวน 303 ราย คิดเป็น 5%

6. ภาคใต้ จำนวน 276 ราย คิดเป็น 4%

7. ภาคตะวันตก จำนวน 166 ราย คิดเป็น 2%

ยอดการลงทะเบียนผ่านสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจิลมาเป็นลำดับ 4 ของสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก รองจากสกญ.ณ เมืองแคนเบอร่า ประเทศออสเตรเลีย เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเมืองซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย โดยพบว่ายอดผู้มาลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทั้งหมดในปีนี้น้อยลงกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนประมาณ 4,000 คน

สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับบัตรเลือกตั้งที่ส่งมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาในเวลา 24.00 น. และได้เริ่มจัดซองเอกสารที่จะส่งให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตามที่อยู่ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันอังคารที่ 18 เมษายน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการบรรจุเอกสารและบัตรเลือกตั้งเพื่อจัดส่งให้แก่ผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิกับสถานกงสุลใหญ่ฯ จำนวน 6,664 ราย เสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2566 เวลา 20:30 น. และซองเอกสารบางส่วนที่ได้ส่งออกไปในชุดแรกประมาณ 1,400 ซองได้ถึงมือผู้มีสิทธิ์ ฯ ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน แล้ว

เอกสารสำหรับการเลือกตั้งในแต่ละซองจะมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ (สำหรับเลือกพรรคการเมืองและเลือกสส.เขต) ซองใส่บัตร รายชื่อของสส.ของเขตในแต่ละคน รายชื่อแคนดิเดตนายกในแต่ละพรรคการเมือง วิธีการลงทะเบียน และซองจดหมายที่จัดส่งเอกสารเลือกตั้งกลับมา นอกจากนี้สามารถดูขั้นตอนวิธีการลงคะแนนในคลิปวิดีโอชื่อ unbox ในเฟสบุคของสถานกงสุลฯ ได้ด้วยเช่นกัน

ขั้นตอนต่อไปเมื่อสถานกงสุลใหญ่ ฯ ได้รับซองกลับมาแล้วจะมีกระบวนการคัดแยกไล่ตามภูมิภาค (จังหวัดและเขต) และนำไปทยอยส่งกลับเมืองไทย โดยมีการวางแผนที่จะส่งไปประมาณ 4 ครั้ง และจะส่งทุกใบไม่ว่าจะมาช้าหรือเร็ว ดังนั้นขอให้ประชาชนที่ได้รับเอกสารเลือกตั้งทุกคนรีบกาบัตรเลือกตั้งและส่งเอกสารกลับมาทันที เพื่อทางสถานกงสุลใหญ่ ฯ จะได้มีเวลาเพียงพอที่จะส่งเอกสารกลับประเทศไทย และถูกส่งต่อไปยังแต่ละคูหาเลือกตั้งเพื่อนำไปนับคะแนนพร้อมกับบัตรที่ประชาชนในประเทศลงคะแนนในวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เพราะหากบัตรที่เราลงเลือกตั้งไปถึงคูหาหลังจากปิดหีบแล้ว หรือหลังกระบวนการนับคะแนนจบแล้ว จะไม่นำมาถูกนับ เพียงแต่ว่าเราไม่ถือว่าเสียสิทธิ์ เพราะทางสกญ.จะเช็คบัตรที่ส่งกลับมาและเช็คชื่อว่าใครส่งมาแล้วจะแจ้งให้กกต.ทราบเพื่อจะได้ไม่เสียสิทธิ์

สำหรับคนที่พลาดการลงทะเบียนสามารถแจ้งเหตุไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ เพื่อรักษาสิทธิ์ทางการเมือง ให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น smart vote ของกกต. ซึ่งจะมีตัวเลือกให้แจ้งเหตุที่ไม่สามารถลงเลือกตั้งได้

ทางสถานกงสุลใหญ่ ฯ จะไม่มีการเปิดซองบัตรจนถึงคูหาเลือกตั้ง จะเปิดเพียงแค่ซองใหญ่ที่ส่งเอกสารส่งกลับ ซึ่งจะส่งมาพร้อมกับสำเนาบัตรประชาชน สำเนาพาสปอร์ต ส่วนซองที่มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบจะถูกนำไปรวมกับซองของผู้มีสิทธิ์คนอื่นในแต่ละเขตและถูกนำรวมส่งไปเมืองไทยพร้อมกัน โดยจะไม่ทราบว่าเป็นซองบัตรของใคร

ใครที่ลงทะเบียนมาแล้ว สามารถตรวจดูบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรประจำที่เลือกตั้งที่สถานกงสุลใหญ่แอลเอได้ที่นี่ bit.ly/3MFuTc4 (เมื่อดาวน์โหลดไฟล์ PDF แล้ว สามารถกดปุ่ม Ctrl + F แล้วพิมพ์หาชื่อตัวเองในไฟล์ได้เลย)

การเลือกตั้งครั้งนี้ใช้เงินเฉพาะในส่วนของการจัดส่งเอกสารถึงประมาณ 5 ล้านบาท ดังนั้นผู้ที่ได้ลงทะเบียนแล้วและได้รับซองเอกสารควรจะรีบลงคะแนนเสียงและส่งเอกสารกลับทันที เพื่อที่เสียงของคุณจะได้ถูกนับและงบประมาณที่ใช้ไม่เสียเปล่า ทางสถานกงสุลใหญ่ ฯ ใช้ระบบ priority mail ซึ่งจะมีการติดตามซองเอกสารทั้งขาไปและขากลับ ดังนั้นหากผู้ที่ลงทะเบียนแล้วและไม่ได้รับซองเอกสารภายใน 1 สัปดาห์สามารถโทร.มาสอบถามได้ที่สถานกงสุลใหญ่ ฯ หมายเลข (323) 962-9574

เรื่องและภาพ: วลัยพรรณ เกษทอง


ตร.แคนาดาเร่งสอบคดีทองกว่า 500 ล้านหายจากสนามบิน

ตำรวจแคนาดาเร่งสอบสวนเหตุทองคำและของมีค่าอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 14.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 500 ล้านบาท ถูกโจรกรรมหายไปจากโกดังของท่าอากาศยานนานาชาติโตรอนโตอย่างปริศนา

กลายเป็นคดีใหญ่ที่หลายฝ่ายจับตามอง หลังทองคำมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 500 ล้านบาท รวมทั้งสินค้ามูลค่าสูงอีกหลายรายการ หายไปจากโกดังเก็บสินค้าของสนามบินโตรอนโต เพียร์สันของแคนาดา โดยทองคำและของมีค่าทั้งหมด ถูกขนส่งมาโดยเครื่องบิน และเดินทางถึงสนามบินเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการเคลื่อนย้ายไปยังโกดังพักของ ก่อนที่จะได้รับแจ้งว่าของทั้งหมดได้หายไป

ทั้งนี้ จากการแถลงของสตีเฟ่น ดุยเวสติน ผู้ตรวจการตำรวจภูมิภาคพีลแถลงว่า ของมีค่าทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายออกไปอย่างผิดกฎหมาย แต่ยังไม่ระบุชัดว่าคนร้ายใช้วิธีการอย่างไร และไม่ได้ชี้ชัดว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มขบวนการใด โดยตำรวจจะเปิดการสอบสวนให้รอบด้าน และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมาก พร้อมยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนทั่วไปแต่อย่างใด

ขณะที่สื่อท้องถิ่นอย่างโตรอนโต ซัน รายงานว่า ทองที่ถูกขโมยไปมีน้ำหนักถึง 1,633 กิโลกรัม และยังอ้างแหล่งข่าวนิรนามที่ระบุว่า ทางการแคนาดากำลังจับตาไปที่องค์กรอาชญากรรมในภูมิภาคที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย


เยอรมนีลั่น “ไม่มีทางลัด” ให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต

เลขาธิการนาโตเยือนยูเครน ยืนยันการเดินหน้ามอบความช่วยเหลือทางทหาร อย่างไรก็ตาม เยอรมนียืนกรานว่า การเข้าเป็นสมาชิกนาโตของรัฐบาลเคียฟ “ต้องเป็นไปตามขั้นตอน”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ว่า นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวระหว่างการพบหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่กรุงเคียฟ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยืนยันการเดินหน้ามอบความสนับสนุนทางทหารให้แก่ยูเครน ในการสู้รบกับรัสเซีย

อนึ่ง นับตั้งแต่สงครามปะทุเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 นาโตมอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน คิดเป็นเงินทั้งสิ้นมากกว่า 65,000 ล้านยูโร (ราว 2.4 ล้านล้านบาท)

ขณะเดียวกัน สโตลเทนเบิร์กเชิญเซเลนสกี ให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดนาโต ที่กรุงวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย ในเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ด้วย

ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดนาโต ที่กรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย เมื่อปี 2551 มีการลงมติร่วมกัน ว่ายูเครนจะได้รับการรับรองให้เข้าเป็นสมาชิกนาโต “สักวันหนึ่ง” ขณะที่เซเลนสกี ยื่นเอกสารสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโตอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2565

อย่างไรก็ตาม บรรดาประเทศสมาชิกแถวหน้าของนาโตยังคงสงวนท่าทีอย่างมาก ในการกำหนดเส้นทางที่เป็นรูปธรรม และกรอบระยะเวลาชัดเจน เพื่อให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต “ในที่สุด”

นายบอริส พิสทอริอุส รมว.กลาโหมเยอรมนี เน้นย้ำว่า “ไม่มีทางลัด” สำหรับยูเครน ในการเข้าเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา “มากกว่าแค่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” และการหารืออย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว “ยังไม่ใช่ตอนนี้”

เครดิตภาพ : REUTERS...


ตำรวจรวบแก๊งโจรเล็งปล้นทรัพย์ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียา

ทีมตำรวจสหรัฐฯ ติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายเพิ่มเติมได้อีก 2 คน จากกรณีแก๊งโจรอาละวาด บุกปล้นเฉพาะครอบครัวชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ในแคลิฟอร์เนีย

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2566 ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงว่า สามารถติดตามจับกุมคนร้ายในแก๊งปล้นทรัพย์ที่ออกอาละวาดก่อนหน้านี้ เพิ่มเติมได้อีก 2 ราย โดยโจรกลุ่มนี้เป็นโจรติดอาวุธ และมุ่งเป้าหมายไปที่เหยื่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ในชุมชนแปซิฟิก ไอส์แลนเดอร์

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2566 หน่วยตอบรับเหตุฉุกเฉินของตำรวจเมืองซานโฮเซ ได้จับกุมชายวัย 20 ปี ชื่อว่า เดอมาริโอ เอมมานูเอล และ จายอนเน เกลเซอร์ หญิงวัย 19 ปี ทั้งคู่มาจากเมืองโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย

ต่อมา ทีมสืบสวนระบุว่า เอมมานูเอล เป็นหนึ่งในแก๊งวิ่งราวกระเป๋าและขโมยทรัพย์สินจากชาวเมืองหลายราย ระหว่างวันที่ 24 ก.พ.-29 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปล้นชิงทรัพย์หลายกรณีที่เกิดขึ้นทั่วชุมชนในเขตที่เรียกว่าเบย์แอเรีย ไม่ใช่เฉพาะเพียงในเมืองซานโฮเซเท่านั้น

ฝ่ายตำรวจกล่าวว่า ระหว่างการจับกุมนั้น เกลเซอร์ ซึ่งเป็นแฟนสาวของ เอมมานูเอล ได้พยายามขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหลบหนี แต่ไม่สำเร็จและโดนจับกุมในที่สุด

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถของ เกลเซอร์ พวกเขาก็พบอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนสำรองจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังค้นเจอเงินสดหลายหมื่นดอลลาร์ในบ้านของพวกเขา

เอมมานูเอล โดนส่งไปขังไว้ที่เรือนจำ เนื่องจากมีหมายจับที่ระบุค่าตัวไว้ที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34.8 ล้านบาท) เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยคดีปล้นทรัพย์หลายคดี ด้าน เกลเซอร์ โดนคุมขังและตั้งข้อหาหลายกระทง รวมทั้งครอบครองอาวุธปืน, ขัดขืนการจับกุม และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวด้วยอาวุธร้ายแรง

เอมมานูเอล และ เกลเซอร์ เป็นคนร้ายรายที่ 3 และ 4 ที่โดนจับกุมในกรณีปล้นทรัพย์ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ในพื้นที่เบย์แอเรีย ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ซึ่งกินเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี

ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 30 มี.ค. 2566 ตำรวจซานโฮเซ ก็จับกุมคนร้ายได้ 2 คน ชื่อ อิลยาส มูบาเรก วัย 19 ปี และ ไมเคิล พรูอิตต์ วัย 21 ปี

เนื่องจากผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ มีแนวโน้มว่าจะเล็งเป้าหมายของการปล้นไว้ที่ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ตำรวจซานโฮเซจึงประสานงานไปยังสำนักงานอัยการรัฐประจำเขต เพื่อพิจารณาว่าจะตั้งข้อหาการก่ออาชญากรรมด้วยความเกลียดชังด้วยหรือไม่

แหล่งข่าวและเครดิตภาพ : cbsnews.com

เครื่องบินรบรัสเซียทิ้งระเบิดผิดพลาด ยิงถล่มใส่เมืองตัวเอง

วันศุกร์ ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานการระเบิดครั้งใหญ่ในเมือง ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน โดยผู้ว่าการภูมิภาคกล่าวว่า มีผู้หญิง 2 คน ได้รับบาดเจ็บ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า เมื่อเวลา 22:15 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินทิ้งระเบิด Su-34 ของกองทัพรัสเซียได้ยิงกระสุนใส่เมืองเบลโกรอดโดยไม่ได้ตั้งใจ และขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนต้นสายปลายเหตุของความผิดพลาดครั้งนี้

วยาเชสลาฟ แกลดคอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคเบลโกรอดกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวได้ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่กว้างประมาณ 20 เมตรที่ใจกลางเมือง และเหตุการณ์นี้ยังทำให้มีพลเรือนหญิง 2 คนได้รับบาดเจ็บและอาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองเบลโกรอด ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานการระเบิดครั้งใหญ่ในเมือง ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน โดยผู้ว่าการภูมิภาคกล่าวว่า มีผู้หญิง 2 คน ได้รับบาดเจ็บ...

“เครื่องบิน ซุคฮอย ซู-34 ทำการปล่อยกระสุนโดยไม่ได้ตั้งใจ ขณะกำลังบินเหนือเมืองเบลโกรอด” สำนักข่าว “ทาสส์” ของรัสเซีย อ้างอิงคำกล่าวของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย

นอกจากนี้ ตามรายงานของทาสส์ กระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้ระบุถึงประเภทของอาวุธในอุบัติเหตุครั้งนี้ พร้อมกับกล่าวว่า อาคารบางหลังได้รับความเสียหาย และทางการประกาศดำเนินการสอบสวนแล้ว

ด้านนายเวียเชสลาฟ กลัดคอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคเบลโกรอด ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และระบุว่า เกิดหลุมขนาดประมาณ 20 เมตร บนถนนหลักสายหนึ่ง นอกจากนี้ รถยนต์ 4 คัน และอพาร์ตเมนต์ 4 หลัง ในพื้นที่ ยังได้รับความเสียหายเช่นกัน

คลิปวิดีโอจากจุดเกิดเหตุ แสดงให้เห็นกองคอนกรีตบนถนน, รถยนต์ที่เสียหายหลายคัน และอาคารที่มีหน้าต่างแตก ขณะที่อีกภาพหนึ่งเผยให้เห็นรถยนต์พลิกคว่ำ อยู่บนหลังคาของร้านค้าแห่งหนึ่ง

ทั้งนี้ ภูมิภาคเบลโกรอด เป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งเป้าหมายต่างๆ เช่น ร้านจำหน่ายเชื้อเพลิงและกระสุน ต่างสั่นสะเทือนเพราะแรงระเบิด นับตั้งแต่รัฐบาลมอสโกเริ่ม “ปฏิบัติการทางทหารแบบพิเศษ” ในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565

เครดิตภาพ : REUTERS...