ข่าว
“เปรี้ยวหั่นศพ” รอดประหาร ศาลยกข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรอง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 พ.ค. ที่ชั้น 2 บัลลังก์ 12 ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ระหว่างพนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น กับ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว พวกพวก ในคดีเลขดำที่ อ.1957/2560 หรือคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ยหรือ แอ๋ม โดยศาลได้พิพากษายกฟ้องในมาตรา 289 ตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรอง และพิจารณาตามมาตรา 288 ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนา

โดยตัดสินจำคุกตลอดชีวิต น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยวและ น.ส. กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ จึงพิจารณาลดโทษเหลือ 1 ใน 3 ให้จำคุกรวม 34 ปี 6 เดือน

ส่วนนาย วศิน นามพรม โทษจำคุก 23 ปี 4 เดือน 22 วัน ขณะที่ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ โทษจำคุก 33 ปี 9 เดือน และ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนท์ข้อหารับของโจร ถูกจำคุก 2 ปี ลดโทษเหลือ 1 ปี ไม่รอลงอาญา

ขณะเดียวกันศาลได้สั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 1,070,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ตั้งแต่ 23 พ.ค.60 วันที่ก่อเหตุฆ่าน้องแอ๋ม ให้กับครอบครัวผู้ตาย

คดีความดังกล่าว ศาลจังหวัดขอนแก่นประทับรับฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ตามที่พนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น เสนอประกอบด้วย 1.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว 2. นส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น 3.น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ 4.นายวศิน นามพรหม หรือ นิว และ 5.น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนซ์

โดยผู้ต้องหา 4 คนแรก ถูกตั้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น ร่วมกันกังขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นปราศจากอิสรภาพในร่างกายและข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วน น.ส.เบนซ์ ถูกตั้งข้อหารับของโจรเพียงข้อหาเดียว

'บิ๊กแป๊ะ'ปัดเปลี่ยนม้ากลางศึก ลั่นไม่สนิทกับ 'พ.ต.ท.สันธนะ'

11 พ.ค.61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการตั้งชุดทำงานในคดีที่เกี่ยวข้องกับการบุกค้นตลาดใหม่ดอนเมือง ว่า เรื่องนี้ตนได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. เป็นประธานชุดสืบสวนสอบสวนคดี ก็ชัดเจนอยู่แล้ว โดยให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นรองหัวหน้าชุด ไม่มีอะไรเลย ไม่เข้าใจว่าสับสนตรงไหน ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนม้ากลางศึก

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า เดิมทีเมื่อวันที่ 7 พ.ค.61 ได้ตั้ง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ ให้ทำงานด้านสืบสวน และต่อมาวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ให้ทำด้านสอบสวนด้วย ขณะที่ พล.ต.อ.วิระชัย ก็ยังดูเรื่อง เมจิกสกิน เหมือนเดิม ส่วน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ ให้ดูในภาพรวม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดใหม่ดอนเมืองทั้งหมด โดยเร่งรัดการสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เน้นย้ำในประเด็นที่มีผู้มีอิทธิพลมาเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องรอให้มีการสอบสวนเสียก่อน หากเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า กรณีนี้มีอดีตนายตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง จะกระทบต่อการทำคดีหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา แต่ต้องขอดูรายชื่อก่อนว่ามีใครเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นผู้มีอิทธิพลด้วยหรือไม่ ตอนนี้เป็นแค่การพูดกันเท่านั้นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่ามีคนสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ต่างๆในตลาดด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ก็ต้องตรวจสอบให้รอบคอบ ไม่ต้องห่วงเราทำงานทุกมิติอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล และที่ปรึกษาตลาดใหม่ดอนเมือง โทรศัพท์มาหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า มันจบไปแล้ว ไม่มีอะไร ต่อไปนี้เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย

“ใครโทร.มาผมก็รับ ผมว่างผมก็รับ ถ้าไม่ติดงานราชการอยู่ เมื่อเช้านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โทร.มา ใช้เบอร์ไพรเวทโทร.มา ผมก็รับ ทั้งที่นั่งสอบผู้ต้องหาอยู่ที่ศูนย์สืบนครบาล เบอร์ผมเป็นเบอร์สาธารณะอยู่แล้ว ใช้มาตั้งแต่ยังเป็น ร.ต.อ. 6379857 นี่ บางทีคนบ้าโทรมา ผมก็คุยเป็น 10 นาที ผมก็ต้องทนฟัง” ผบ.ตร.กล่าว


ไพร่หมื่นล้านชูธง! ถ้าได้เป็นนายกฯ จะล้มรธน.ปี60 เขียนใหม่ไล่'ทหาร'

11 พ.ค.61 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ กล่าวตอนหนึ่งในงานเสวนาเรื่องอภิวัฒน์สยาม 2562 : ความหวังและอนาคตของประเทศไทย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เนื่องในงานวันปรีดี พนมยงค์ ประจำปี 2561 ว่า ผ่านมากว่า 86 ปี สำนึกทางการเมือง ความเป็นพลเมืองของประชาชนในการกำหนดอนาคตประเทศไทย ประชาชนยังไร้สิทธิ ไร้เสียง และสิทธิเสรีภาพ

นายธนาธร กล่าวว่า ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้า จำเป็นจะต้องนำภารกิจ ที่ยังไม่สำเร็จของคณะราษฎร คือ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจจริงๆ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นในขั้นแรก คือ การยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ขจัดสิ่งที่เป็น "อประชาธิปไตย" ออกมาจากรัฐธรรมนูญ โดยนำจิตวิญญาณธงเขียวของรัฐธรรมนูญ 2540 ให้สังคมเห็นด้วยกลับมาอีกครั้ง

"หากได้เป็นนายกฯ การแก้รัฐธรรมนูญคงไม่ถูก แต่ควรยกเลิกมากกว่า เพราะมีรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะอำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย แต่เนื้อหาหลักการไม่มีความเชื่อและยึดโยงหลักการนี้ รัฐธรรมนูญ 60 เขียนกลไกไว้มาก แก้ไม่ได้ แต่ยกเลิกได้ด้วยการสร้างความเห็นด้วยทั้งสังคม และร่างใหม่ที่มาจากประชาชน


“เก๋” ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลิก “แหลม” เผยอายุ 30 เคยผ่านผู้ชายมาแค่ 2 คน

“น้องเก๋” พัชรีวรรณ กัณหา อดีตแฟนสาว “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน กรณียุติความสัมพันธ์กับเจ้าของแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย ยืนยันจบกับ “แหลม” ด้วยดี ไม่พอใจคนนอกปั่นกระแสโจมตีทั้งที่ไม่เป็นความจริง เผยหนุ่มหน้าตี๋แค่น้องที่คุยด้วย ไม่ใช่แฟนใหม่ ยืนยันสถานะกับแหลม แค่ “พี่น้อง”

ข่าวคราวความเคลื่อนไหวกรณี “เก๋” พัชรีวรรณ กัณหา ประกาศยุติความสัมพันธ์กับ “แหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งทางฝ่ายหญิงเองมีความเคลื่อนไหวมากมายในโลกโซเชียลฯ ส่วนตัวของตน ต่างจาก “เจ้าแหลม” ที่ยังคงเก็บตัวเงียบ ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ที่คอนโดมิเนียมส่วนตัว “เก๋” พัชรีวรรณ กัณหา อดีตแฟนสาวของ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ตั้งโต๊ะแถลงเปิดใจร่ายยาวถึงข่าวดังกล่าวเพื่อให้สังคมได้รับรู้ โดยน้องเก๋กล่าวว่า “จริงๆ เก๋ กับ พี่แหลม ไม่มีอะไรกันเลย เราคุยกันและปรับความเข้าใจกันด้วยดีมาตลอด เพียงแต่ช่วงหลังมีคนเข้ามาปั่นกระแส ไปขุดคุ้ยเรื่องราวเก่าๆ เอามาเล่าใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร”

“ที่ผ่านมาแยกกันอยู่ ก่อนที่พี่แหลมจะไปป้องกันแชมป์ไฟต์ล่าสุดด้วยซ้ำ เก๋พยายามปรับความเข้าใจกับพี่แหลมมาตลอด แต่ปรับจนมันไม่สามารถปรับกันได้แล้ว เราอยู่กันไปแล้วมันไม่โอเค มันมีอะไรหลายอย่างผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย”

“เรื่องที่ว่าต่างคนต่างมีใหม่ เก๋ก็ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าตอนนี้ต่างคนต่างมีคนคุยของกันและกัน แต่ยังไม่ได้เปิดตัวว่าเป็นแฟนใหม่ บางทีเก๋ไปคุยกับอีกคนแล้วรู้สึกดี ก็เหมือนกับที่พี่แหลมไปคุยกับคนอื่นแล้วรู้สึกดีเหมือนกัน จริงๆ เราเคยคุยกันไว้ด้วยว่าในอนาคตเราอาจกลับมาเหมือนเดิมกันได้”

“ตอนนี้ทุกคนเอาแต่ไปขุดเรื่องเก่าๆ มาโพสต์มาต่อว่าเก๋ เก๋ก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ตอนนี้เก๋อายุ 30 แล้ว ใครบ้างที่ไม่เคยผิดพลาด หลายคนหาว่าเก๋มีชู้ แต่เก๋ก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก มันไม่เป็นความจริง เก๋คิดว่าเก๋จะไม่ออกมาด่าคนที่พิมพ์ปั่นกระแส เก๋ทำอะไรเก๋รู้ดี 14 ปีที่เก๋อยู่กับพี่แหลมมา เราทั้งคู่ล้วนแล้วมีแต่จุดที่ไม่ดีทั้งนั้น แต่เก๋เลือกที่จะไม่พูด เก๋ไม่พูดทำร้ายพี่แหลม ลองไปไล่ดูได้ว่าเก๋ไม่เคยพูดใส่ความพี่แหลมเลยแม้แต่ครั้งเดียว”

“เก๋ เคยเปิดใจกับพี่แหลมแล้ว ว่า เก๋คุยกับคนนี้แล้วรู้สึกดีนะ พี่แหลมจะว่ายังไง พี่แหลมเขาก็บอกว่าก็ไม่เป็นไรถ้าคุยกับเขาแล้วรู้สึกดี เพราะพี่แหลมเขาก็มีคนคุยของเขาเหมือนกัน เราแยกกันอยู่ก็ได้ จริงๆ เราไม่ได้ทะเลาะกันเลย เรารู้กันดี เราแค่แยกกันอยู่เพราะความต้องการของทั้งคู่”

“เก๋ อายุ 30 แล้ว เก๋ก็ยอมรับว่าเก๋เคยเดินทางผิด เก๋ก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่ไม่เข้าใจว่าเพจบางเพจจะมาปั่นกระแสทำไม บางคนว่าเก๋เสียๆ หายๆ เป็นกะหรี่บ้างอะไรบ้าง คำมันแรงนะ เก๋ไม่สนใจหรอก ทุกคนเคยผิดพลาด แต่เรารู้กันแค่สองคน ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมายุ่ง”

“เราห่างกัน และแยกกันอยู่ตั้งแต่ช่วงก่อนที่พี่แหลมไปป้องกันแชมป์โลกไฟต์ล่าสุดกับเอสตราด้า เราไม่ได้เพิ่งมามีปัญหากัน เรามีปัญหากันมาระยะหนึ่งแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เก๋คุยกับพี่แหลมตลอด เราไม่ได้เลิกกันเพียงแค่ต่างคนต่างอยู่ เราห่างกันเพราะว่าเราทะเลาะกัน จริงๆ บางคำพูดที่พูดใส่กันบางทีก็หงุดหงิด ง่ายๆ คือความรู้สึกของเรามันไม่เหมือนเดิม”

“เรื่องที่ออกสื่อไปเก๋ยืนยันว่าหลายๆ เรื่องมันไม่จริง พี่แหลมเขาคนนะคะ ไม่ใช่ควาย ถ้ามีเรื่องอะไรจริงๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ ที่เขาไม่รู้ก็เพราะว่ามันไม่จริงไง”

“เริ่มต้นเลย คือ ตอนแรกเก๋คุยกับพี่แหลมว่าเก๋จะโพสต์เฟซบุ๊กนะว่าเราจะยุติความสัมพันธ์กัน พี่แหลมเขาก็โอเค เพราะตอนนั้นเก๋คิดว่าเราควรโพสต์บอกสังคมไปเลยดีกว่า เวลาเก๋และพี่แหลมไปไหนมาไหนกับคนอื่น คนที่มาเห็นจะได้ไม่เข้าใจผิด ไหนๆ เราก็ไปด้วยกันไม่ได้แล้วเราก็ขอโพสต์บอกสังคมเลยดีกว่าว่าเรายุติความสัมพันธ์กัน เรื่องจริงๆ มันมีแค่นี้เอง แต่หลังจากนั้นหลายๆ เพจหลายคนก็ไปเอาเรื่องเก่าๆ มาพูดทำให้เก๋ดูแย่ลงไปเรื่อยๆ”

“ตอนนี้เก๋คิดว่าตัวเองอาจจะทำคนอื่นเขาเดือดร้อน น้องที่รู้จักกันที่เก๋ลงรูปเขาก็เสียหาย น้องคนนั้นไม่ได้เป็นแฟนกัน เก๋กับเขาแค่คุยกันและรู้จักกัน เก๋ก็อยากจะขอโทษครอบครัวเขา เก๋โพสต์ไปเพราะความใจร้อนของเก๋ น้องเขาก็มาคุยว่าเก๋จะลงรูปทำไม เก๋ก็ขอโทษเขาไปแล้วจริงๆ”

“ทุกเรื่องที่ผ่านมาครอบครัวของเรานั้นรู้ดี ทั้งครอบครัวเก๋และครอบครัวพี่แหลม ทุกอย่างเก๋บอกพ่อแม่ของเก๋เองว่าไม่ต้องยุ่ง มันเป็นเรื่องของเก๋เอง พ่อแม่เก๋ไม่ออกมาพูดเพราะเก๋บอกไว้ไม่ต้องพูดไม่ต้องยุ่ง เก๋เป็นผู้ใหญ่มากพอ ไม่ใช่ว่าไม่พอใจนิดเดียวก็มาโพสต์ ไปขุดโพสต์เก่าๆ ดูได้ว่าเก๋เป็นอย่างไร”

“ตอนนี้เก๋ยืนยันไม่ได้ว่ากับพี่แหลมเราจะกลับมาเหมือนเดิมได้หรือเปล่า แต่ตอนนี้เรายังคุยกันเป็นพี่น้องกัน ที่ผ่านมาเราทะเลาะกัน เราบ่นใส่กัน บางทีมันก็เถียงกันด้วยคำพูดที่รุนแรงเกินไป ยืนยันว่าสถานะตอนนี้คือเราเลิกกัน”

“ต่างคนต่างก็คิดว่าเรารักกัน ขอให้อยู่ในฐานะดีๆ ที่เรามีให้กันมากกว่า มันไม่ใช่เรื่องของมือที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 ที่ 7 อะไรทั้งนั้น เราคุยกันตลอด แล้วที่สำคัญเก๋ต้องขอโทษคนที่โดนขุดเรื่องเมื่อ 6 ปีก่อนที่ถ่ายรูปกับเก๋ ตอนนั้นเก๋ยอมรับว่าเก๋อาจจะไปคุยกับเขา แต่มันผ่านมานานแล้ว ตอนนี้เขาก็มีแฟนของเขา แต่ไปโดนขุดรูปมา เขาก็เสียหาย อยากให้คนอื่นเลิกปั่นกระแสเสียที”

“ส่วนเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่พ่อแม่พี่แหลมออกมาพูด เก๋ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าใครไปปั่นให้พ่อแม่พี่แหลมออกมาพูดแบบนั้น จริงๆ ทั้งเก๋และครอบครัวพี่แหลมเองรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่เป็นจริง เก๋กับพี่แหลมตกลงทุกอย่างกันเรียบร้อยตั้งแต่ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เราแบ่งทรัพย์สินอะไรกันเรียบร้อยแล้ว อย่างเช่นคอนโดฯ นี้ พี่แหลมก็ยกให้เก๋ ส่วนเรื่องรถ เก๋ไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย เราตกลงกันด้วยดี ก็อย่างที่บอกเราคุยกันด้วยดี แต่ดันมีคนมาปั่นกระแสเอง”

“สถานะที่พี่แหลมโพสต์ว่าเขาเป็นคนโง่มาตลอด เขาไม่ได้หมายถึงเก๋ค่ะ เขาคงหมายถึงคนอื่นว่าเขาอุตส่าห์เชื่อคนนั้นมาตั้งนาน แต่เราไม่น่าโง่ไปเชื่อเลย แค่นั้นเองค่ะ ไม่ได้หมายถึงเก๋แน่นอน”

“ต่อไปถ้าพี่แหลมไปเจอคนที่ดี เก๋ก็ดีใจด้วย แต่ถ้าเจอคนไม่ดี เก๋ก็เสียใจ ทุกเรื่องเก๋กับพี่แหลมตัดสินใจร่วมกัน เราโตๆ กันแล้ว สรุปสถานะตอนนี้เรากับพี่แหลมเลิกกัน และเป็นแค่พี่น้องกัน แต่เราก็จบกันด้วยดี”

“ถ้าคุณอายุ 30 ปี แล้วคุณผ่านผู้ชายมาแค่ 2 คน แสดงว่าคุณโกหกแล้วแหละ เชื่อเก๋ไหมทุกคนที่อายุ 30 เท่าเก๋ ย่อมผ่านอะไรมาเยอะแยะ ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจนั่นแหละ จากนี้อนาคตต่อไปเก๋ก็อยู่ของเก๋ปกติแหละค่ะ เราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดเราจะ “ก็ฝากถึงคนที่ชอบปั่นกระแส อยากให้ดึงสตินิดหนึ่ง เรื่องมันไม่มีอะไรเลยแต่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ดีไม่ดีก็รู้อยู่แก่ใจ”


หมายจับ “สันธนะ” กับพวก กรรโชกทรัพย์ผู้ค้าตลาดใหม่

(11 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เรียกรับเงินจากผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง ว่าในส่วนการดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้มีอิทธิพล หลังจากพ่อค้าแม่ค้าเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนกว่า 200 คน และจากการตรวจค้นสำนักงานที่ตลาดใหม่ดอนเมืองเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นศาลพิจารณาคำร้องได้อนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล และที่ปรึกษาตลาดใหม่ดอนเมือง ข้อหากรรโชกทรัพย์ จำนวน 9 หมาย เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนั้นยังออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 10 คน รวม 45 หมายจับ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ศาลออกหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ ถึง 9 หมายเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งข้อหากรรโชกทรัพย์นั้นเข้ามูลฐานความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ส่วนที่ถามว่าเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียนั้น ตามกฎหมายคำว่าผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียไม่ได้บัญญัติไว้ แต่ลักษณะการกระทำความผิดดังกล่าวรวมอยู่ในข้อหากรรโชกทรัพย์แล้ว ทุกอย่างอย่างมีหลักฐานการกระทำความผิดที่ชัดเจน ศาลจึงได้กรุณาออกหมายจับ ส่วนที่ พ.ต.ท.สันธนะอ้างว่าเป็นการเก็บค่าส่วนกลางนั้นเป็นหน้าที่ของ พ.ต.ท.สันธนะ ที่จะต้องไปชี้แจงต่อศาลเอง

ล่าสุด พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ได้นำกำลังไปจับกุม พ.ต.ท.สันธนะ ที่บ้านพักใน ซ.พหลโยธิน 8 แล้ว

ด้าน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ในฐานะประธานที่ปรึกษา บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) ได้ระบุว่า ขณะนี้ ศาลฯอนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผกก.สันติบาล และที่ปรึกษาตลาดใหม่ ดอนเมือง ข้อหากรรโชกทรัพย์ จำนวน 9 หมาย เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนั้น ยังออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 10 คน รวม 45 หมายจับนั้น ตนเองขอยืนยันว่า พร้อมจะเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมืองแน่นอน แต่เนื่องจากขณะนี้ตนเองยังอยู่ระหว่างทำธุระส่วนตัวที่ต่างจังหวัด คงเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ไม่ทันในวันนี้ จึงขอนัดหมายเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ในวันเสาร์ที่ 12 พ.ค.2561 เวลา 17.00 น.ทั้งนี้เพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจว่าไม่หลบหนี ตามที่เคยยืนยันไว้ก่อนหน้านี้

“สุชาติ”ศิลปินแห่งชาติยัวะ! ‘แจกกล้วย’กทม.ยึด‘หอศิลป์’

11 พ.ค.61 นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “สุชาติ สวัสดิ์ศรี” ด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างจะดุเดือด หลังไม่พอใจที่ทางกรุงเทพมหานคร(กทม.) จะเข้าไปบริหารจัดการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครเอง แทนที่มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ นายสุชาติ ระบุข้อความว่า “ในฐานะที่ผมเป็นหนึ่งที่เคยร่วมเรียกร้องให้ได้มาซึ่ง “หอศิลป์ กทม.” ผมขอใช้คำหยาบที่หน้ากระดานของผมได้ไหม - ค ควาย ตามด้วย ว แหวน และปิดท้ายด้วย ย ยักษ์ คือถ้าเป็นเช่นนั้นเมื่อใด สุดท้ายก็จะกลายเป็น “หอค…ย”

จากนั้น นายสุชาติ ยังโพสต์ข้อความต่อเนื่อง ระบุว่า “กวีภิวัฒน์ นักเขียนนกหวีด ศิลปิน Bangkok Shutdown ท่านเห็นฤทธิ์เดชของ “ผู้ว่า กทม.” ที่มาจาก ม.44 หรือยัง”

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงแนวทางบริหารจัดการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ว่า จากที่การบริหารงานหอศิลป์ฯในปัจจุบันโดยมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร พบว่าเกิดความไม่สะดวกในหลายๆรูปแบบ ซึ่งแต่ละปีกทม.จะต้องสนับสนุนงบประมาณเพื่อการดูแลปีละกว่า40 ล้านบาท จึงมาพิจารณาดูแล้วเห็นว่า กทม.เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณบางส่วนอยู่แล้ว หากสามารถนำกลับมาบริหารจัดการเองนั้น ก็จะสามารถพัฒนาในรูปแบบต่างๆให้เหมาะสม ทำเป็นพื้นที่ที่ประชาชนเด็กและเยาวชนสามารถมาใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้น และประชาชนก็สามารถตรวจสอบการทำงานต่างๆได้อย่างเต็มที่

“แนวทางการบริหารนั้น จะให้สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว เป็นผู้บริหารจัดการในรูปแบบเดียวกับการดูแลหอสมุดเมือง และจะเปิดให้บริการในทุกวันเช่นเดิม โดยเฉพาะในวันนักขัตฤกษ์เพื่อให้เด็กมีพื้นที่หาความรู้ในวันหยุดได้ ส่วนในพื้นที่การค้าก็จะมีการบริหารจัดการเพื่อให้มีงบประมาณมาดูแลพื้นที่อย่างเหมาะสม ซึ่งแนวทางการนำหอศิลป์ฯมาบริหารจัดการเองนั้น ผมคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว