ข่าว
ยูเครนตึงเครียดวันชาติ-6 เดือนสงครามรัสเซีย

เคียฟ (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์)-ยูเครนเครียดจัด ยกระดับมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยทั่วประเทศในวันชาติ หรือวันครบรอบ 31 ปี การประกาศเอกราชยูเครน ประธานาธิบดี โวโลดีเมียร์ เซเลนสกีเตือน รัสเซียอาจโจมตีหนักวันนี้ แต่ยูเครนจะไม่มีวันยอมแพ้ในการต่อสู้เพื่อรักษาเสรีภาพจากการครอบงำของรัสเซีย

ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์ ซึ่งมีการบันทึกไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 6 เดือนที่รัสเซียใช้กำลังบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขากล่าววว่า ยูเครนไม่ได้มองอีกต่อไปว่า สงครามจะยุติลงเมื่อการสู้รบสงบลง แต่มองว่า สงครามจะสงบก็ต่อเมืองยูเครนได้รับชัยชนะเท่านั้น เขากล่าวด้วยว่า ประเทศใหม่แห่งหนึ่งปรากฏขึ้นในโลกในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลา 04.00 น.ซึ่งไม่ได้เป็นการถือกำเนิดครั้งแรก แต่เป็นการกลับมาเกิดใหม่ เป็นประเทศที่ไม่ร้องไห้ ไม่กรีดร้อง ไม่กลัว ไม่หลบหนี ไม่ยอมแพ้และไม่ลืม นายเซเลนสกี วัย 44 ปี กล่าวปราศรัยอยู่ด้านหน้าอนุสาวรีย์ในกลางกรุงเคียฟ ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกเหตุการณ์ที่ยูเครนแยกตัวจากสหภาพโซเวียต ที่มีรัสเซียเป็นแกนหลัก เมื่อปี 1991 เซเลนสกี เน้นย้ำถึงท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นของยูเครน ที่ไม่สนการประนีประนอมใดๆ อีกต่อไป เขาประกาศให้คำมั่นว่า ยูเครนจะกลับไปยึดเอาคืนดินแดนที่สูญเสียไปในแคว้นดอนบาสก์และคาบสมุทรไครเมีย ที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นดินแดนของตนในปี 2014

ทั้งนี้ ยูเครนได้ยกระดับมาตรการความมั่นคงทั่วประเทศในวันพุธ โดยในกรุงเคียฟ งดจัดกิจกรรมสาธารณะเพื่อฉลองวันเอกราชนาน 2 วัน ด้านชาวกรุงเคียฟและเจ้าหน้าที่รัฐบาลประเทศตะวันตกหวั่นว่ารัสเซียกำลังเตรียมโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครนครั้งใหม่ในวันดังกล่าว ส่วนในเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน ขยายเวลาเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาล ออกไปจนถึงวันที่ 25 ส.ค.ทำให้สภาพเมืองคาร์คีฟแทบกลายเป็นเมืองร้าง นอกจากนี้ ทางการยูเครนยังได้ประกาศเคอร์ฟิวในบางเมือง และสั่งงดจัดงานฉลองเอกราชที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากไปแล้ว ทั้งในกรุงเคียฟและอีกหลายเมือง

ขณะที่ก่อนหน้านี้ สถานทูตสหรัฐฯ ในยูเครน ประกาศเตือนครั้งใหม่ ให้ชาวอเมริกันที่อยู่ในยูเครน เดินทางออกจากยูเครนโดยทันที หากสามารถทำได้อย่างปลอดภัย หลังจากสหรัฐฯ เชื่อว่ารัสเซียอาจมีเป้าหมายโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลและของพลเรือนในช่วงวันประกาศเอกราชยูเครน

สำหรับรัสเซีย ขณะนี้มีเสียงเรียกร้องจากกลุ่มการเมืองชาตินิยมให้โจมตียูเครนให้หนักหน่วงขึ้น เนื่องจากเกิดเหตุระเบิดรถยนต์เมื่อวันเสาร์ลอบสังหารลูกสาวของนายอเลกซานเดอร์ ดูกิน ผู้นำกลุ่มแนวคิดชาตินิยมที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซีย ผู้ที่เรียกร้องให้รวบรวมดินแดนเพื่อตั้งจักรวรรดิรัสเซียขึ้นใหม่ ซึ่งในพิธีศพเมื่อวันอังคาร เขาก็เรียกร้องให้รัสเซียเอาชนะยูเครนให้ได้ ด้านหน่วยข่าวกรองของรัสเซียกล่าวหาว่า ยูเครนเป็นผู้ก่อเหตุลอบสังหาร แต่รัฐบาลยูเครนปฏิเสธว่าข้อกล่าวหานี้ไม่มีมูล

ม็อบได้คืบจะเอาศอก บุกป่วนทำเนียบจี้'บิ๊กตู่'ลาออก-ไม่เอา'ประวิตร'รักษาการ

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี และมีมติเสียงข้างมากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันนี้ (24 ส.ค.) จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ได้มีกลุุ่มการเมือง ใช้ชื่อว่า ม็อบอิสระ นัดรวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนมุ่งหน้าเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก รวมทั้งประกาศไม่ยอมรับตำแหน่งรักษาการนายกฯ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1

อย่างไรก็ตามมีผู้ชุมนุมบางส่วนมารอสมทบกันที่แยกนางเลิ้ง แต่มีจำนวนค่อนข้างบางตา ขณะที่มีรายงานว่า ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ตั้งแนวสกัดอยู่ที่บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ มีการปักหลักทำกิจกรรมร้องรำทำเพลงบริเวณแยกนางเลิ้ง โดยยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ

ต่อมาเวลา 19.19 น. ผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊ส รวมชูป้ายข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา ยกเลิก 112 ปฏิรูปสถาบัน” พร้อมกับรวมตัวหน้าแนวรั้วเหล็ก ฝั่ง ร.ร.ราชวินิตมัธยม ส่วนตำรวจ คฝ. เสริมกำลังที่แนวรั้วเหล็ก พร้อมโล่ และอาวุธ โดยกลุ่มทะลุแก๊สได้ระดมปาถุงสีข้ามแนวรั้วเหล็กเข้าใส่แนวกั้นของตำรวจ คฝ.แต่ก็ตกอยู่เพียงหน้าป้ายโรงเรียนราชวินิตมัธยม ก่อนที่จะยุติการชุมนุมในเวลา 20.00 น.


วัชระ รุดเยี่ยมอดีตตลกดัง‘ยอด นครนายก’ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว

น้ำใจยามยาก ชาวปชป.ไม่ทิ้งกัน! วัชระ รุดเยี่ยม “ยอด นครนายก” พร้อมมอบเงิน-สิ่งของช่วยเหลือจากจุติ-เฉลิมชัย ล่าสุด อดีตตลกดังเสียชีวิตแล้ว

หลังจากที่มีข่าว “ยอด นครนายก”อดีตตลกชื่อดังและนักการเมือง ได้ห่างหายไปจากวงการและมีข่าวเมื่อต้นปี’63ว่าตกอับ ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ยังชีพด้วยเงินจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใช้แค่เดือนละ 600 บาท ภรรยาและลูกๆ ให้เงินบ้างแต่ก็ไม่เพียงพอ มีอาการหลงๆ ลืมๆใส่เสื้อผ้าเองไม่ได้จากอาการป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ความดัน ไม่มีเงินรักษา ต้องขออาศัยอยู่ที่บ้านน้องสาวนั้น

ยอด นครนายก หรือมีชื่อจริงว่า นายสมัคร ผลประเสริฐ ล้มป่วยอาการทรุดหนัก เดินไม่ได้ พูดโต้ตอบไม่ได้ ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ ก่อนหน้านี้ที่พอสื่อสารได้ ก็บ่นว่าไม่ไหว ท้อแท้ ญาติๆ พยายามให้กำลังใจตลอด เพราะเกรงจะคิดสั้น

ต่อมานายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปเยี่ยมที่บ้านเลขที่ 54 ม. 5 ซอยโคกม่วงต.พรหมมณี อ.เมือง จ.นครนายก ด้วยความห่วงใยในฐานะคนเคยลงสมัครสส.พร้อมกัน สายใยประชาธิปัตย์ยังคงแน่นแฟ้น พร้อมนำข้าวสาร อาหารแห้งน้ำดื่ม และเงินช่วยเหลือจากดร.เฉลิมชัยศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์เลขาธิการพรรค จำนวน 10,000 บาทและนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อดีตเลขาธิการพรรค 5,000 บาทมามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ โดยมี นางบุญมีผลประเสริฐ น้องสาวของยอดเป็นผู้รับเงินพร้อมกล่าวขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ทอดทิ้งกัน ส่วนข่าวที่ว่าพี่ยอดกลั้นหายใจฆ่าตัวตายนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

สำหรับอดีตตลกชื่อดัง “ยอด นครนายก” เคยลงสมัครสส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ปทุมธานี เขต 6 ในการเลือกตั้งสส.ทั่วไปวันที่ 3 กรกฎาคม2554 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อวันที่24 ส.ค. 2565 ยอด นครนายก ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 72 ปี


ญี่ปุ่นเปิดให้เข้าปท. ไม่ต้องตรวจหาเชื้อ สิงคโปร์ยกเลิกคำสั่ง

หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันติดเชื้อโควิด ทั้ง“ญี่ปุ่น-สิงคโปร์” โดยนายกฯคิชิดะของญี่ปุ่นประกาศยกเลิกมาตรการตรวจหาเชื้อก่อนเข้าประเทศ สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนครบ ส่วนรองนายกฯสิงคโปร์ยกเลิกคำสั่งใส่แมสก์ในสถานที่ปิดเริ่ม 29 ส.ค. ยกเว้นในรพ.-ระบบขนส่ง-บ้านพักคนชรา และเลิกกักตัวคนเข้าปท.ที่ฉีดวัคซีนไม่ครบ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการว่า นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น ซึ่งกักตัวที่บ้านพัก หลังติดเชื้อโควิด-19 แถลงผ่านออนไลน์ว่า ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนเป็นต้นไป ญี่ปุ่นจะไม่กำหนดให้ผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบ 3 เข็ม ต้องแสดงผลตรวจที่ยืนยันว่าไม่ติดเชื้ออีกต่อไป แต่ยังไม่มีการตัดสินใจ เรื่องการเพิ่มจำนวนคนที่อนุญาตให้เข้าประเทศจากวันละ 20,000 คน เป็น 50,000 คน หลังจากนี้ รัฐบาลจะทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดการระบาด และจะประกาศมาตรการกักตัว นายกฯคิชิดะระบุด้วยว่า ต้องการให้มาตรการเปิดพรมแดนของญี่ปุ่นสอดคล้องกับมาตรการของประเทศในกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ที่ญี่ปุ่นเป็นสมาชิกอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญี่ปุ่นเพิ่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีเมื่อเดือนมิถุนายน โดยกำหนดให้ต้องขอวีซ่าและท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะที่มีมัคคุเทศก์นำทาง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ญี่ปุ่นเผชิญการระบาดระลอกที่ 7 เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และBA.5 บริษัทหลายแห่งระงับการผลิต และมีผู้เสียชีวิตรายวันมากเป็นประวัติการณ์ 343 คน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ขณะที่นายลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์แถลงวันนี้ (24 สิงหาคม)ตามเวลาท้องถิ่นว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคมเป็นต้นไป ชาวสิงคโปร์ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยในชีวิตประจำวัน ยกเว้นขณะอยู่ในสถานพยาบาล สถานที่ปิดในโรงพยาบาล คลินิกรักษาโรค รถพยาบาล บ้านพักคนชรา และ ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น MRT LRT และรถโดยสารสาธารณะ รวมไปถึงภายในอาคารของระบบขนส่งสาธารณะ เช่น บริเวณจุดขึ้นรถ จุดเปลี่ยนรถ และชานชาลา ส่วนการเดินทางด้วยพาหนะส่วนตัว รถโรงเรียน รถแท็กซี่ และในสนามบิน ประชาชนสามารถเลือกได้ว่าจะสวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ ขณะที่การสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการโดยสารเครื่องบินนั้น ขึ้นกับข้อกำหนดของแต่ละสายการบินและประเทศปลายทาง

นอกจากนี้ นับตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมเป็นต้นไป ผู้เดินทางเข้าสิงคโปร์ที่ฉีดวัคซีนโควิดไม่ครบโดสไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วันอีกต่อไป แต่ต้องมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ 2 วัน ก่อนเดินทางถึงสิงคโปร์ ส่วนผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว จะเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อหรือกักตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันสิงคโปร์อนุญาตให้ถอดหน้ากากอนามัยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานที่เปิดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การประกาศยกเลิกใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่ปิดครั้งนี้ ยังยกเว้นเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรสวมหน้ากากอนามัยต่อไปเมื่ออยู่ในสถานที่ปิด หรือที่มีคนหนาแน่นเพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ

ด้านกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ให้เหตุผลของการผ่อนคลายข้อจำกัดการสวมหน้ากากอนามัยว่า เป็นเพราะประชาชนมีความยืดหยุ่นในการต่อต้านไวรัสมากขึ้น เพราะฉีดวัคซีนมากขึ้น การติดเชื้อโควิดทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลงมาก จนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลไม่ถึง 400 คน ถือว่ามีจำนวนลดลงกว่าครึ่งจากที่เคยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 800 คนในเดือนกรกฎาคม

ยุโรปเผชิญ‘ภัยแล้ง’รุนแรงสุดรอบ 500 ปี

บรัสเซลส์/ปารีส/มาดริด/ลอนดอน (ซินหัว/ยูโรนิวส์)-รายงานการวิเคราะห์ประจำเดือนสิงหาคมจากสำนักงานสังเกตการณ์ภัยแล้งยุโรป หรืออีดีโอ เผยว่ายุโรปกำลังเผชิญภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบอย่างน้อย 500 ปี โดยมีพื้นที่อยู่ภายใต้สถานะเตือนภัยแล้ง ราวร้อยละ 47 ขณะร้อยละ 17 อยู่ภายใต้สถานะเฝ้าระวัง รวมเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของทวีป

รายงานการวิเคราะห์ประจำเดือนสิงหาคมจากสำนักงานสังเกตการณ์ภัยแล้งยุโรป หรือ อีดีโอ ระบุว่าภัยแล้งรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อหลายภูมิภาคของยุโรปตั้งแต่ต้นปี ขยายวงกว้างและทวีความรุนแรงเมื่อนับถึงต้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยภูมิภาคยุโรปตะวันตก-เมดิเตอร์เรเนียน มีแนวโน้มเผชิญอากาศอบอุ่นและแห้งกว่าปกติไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ทั้งทำให้การขนส่งภายในประเทศและการผลิตไฟฟ้าหยุดชะงัก และส่งผลให้ผลผลิตพืชบางชนิดลดน้อยลง

แถลงการณ์จากคณะกรรมาธิการยุโรป หรืออีซี เผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งตอนนี้อาจรุนแรงที่สุดในรอบอย่างน้อย 500 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อพืชผลฤดูร้อนด้วย โดยมีการตั้งเป้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี 2022 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ถึงร้อยละ 16 ส่วนเป้าหมายผลผลิตถั่วเหลืองและทานตะวัน ลดต่ำร้อยละ 15 และร้อยละ 12 ตามลำดับ ส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเผชิญผลกระทบเช่นกันโดยส่งผลต่อการดำเนินงานของผู้ผลิตไฟฟ้าหลายราย เนื่องจากการขาดแคลนน้ำสำหรับป้อนระบบหล่อเย็นขณะระดับน้ำที่ลดต่ำได้ขัดขวางการขนส่งตามแนวแม่น้ำไรน์และที่อื่นๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการขนส่งถ่านหินและน้ำมัน

มารียา กาเบรียล กรรมาธิการด้านนวัตกรรม การวิจัย วัฒนธรรม การศึกษา และเยาวชน กล่าวว่า ภัยแล้งและคลื่นความร้อนรุนแรงได้สร้างความกังวลเรื่องสถานการณ์ระดับน้ำในสหภาพยุโรปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงพบเห็นฤดูเกิดไฟป่ามากกว่าค่าเฉลี่ย และผลกระทบวงกว้างที่มีต่อการผลิตพืชผลสภาพภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากขึ้นทุกปี

คำเตือนที่น่าหวาดหวั่นของคณะนักวิจัย มีขึ้นหลังระดับในแม่น้ำหลายสายแห้งขอดลงอย่างรวดเร็วทั่วยุโรป ซึ่งบางแห่งปรากฏให้เห็นซากวัตถุโบราณ รวมทั้งหินที่เรียกว่า hunger stones หรือ “หินหิวโหย” ซึ่งเป็นคำเตือนและย้ำเตือนให้ตระหนักถึงความทุกข์ยากที่ประชาชนเผชิญระหว่างเกิดภัยแล้งในอดีต ซึ่งเท่ากับเป็นการเตือนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความอดอยากเหมือนที่เกิดขึ้นในอดีต และซากเรือนาซีที่จมในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังโผล่ให้เห็นเหนือน้ำ ส่วนในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีการประกาศภัยแล้งอย่างเป็นทางการในหลายภูมิภาค ต้นไม้บางต้นเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จนต้องเรียกขานกันว่า เป็น “ฤดูใบไม้ร่วงที่หลอกลวง” อันเนื่องมาจากคลื่นความร้อนรุนแรง