ข่าว
จีนเตรียมเสนอให้'สาวโสด'แช่แข็งไข่ หลังประชากรลดลงอย่างฮวบฮาบ

1 มีนาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สมาชิกหน่วยงานที่ปรึกษาการเมืองระดับสูงสุดของจีนจะเสนอให้สตรีที่ยังไม่แต่งงานสามารถแช่แข็งไข่สำหรับมีบุตรในอนาคต หลังจากประชากรจีนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ทศวรรษเมื่อปีก่อน

หลู เว่ยอิง แพทย์รักษาผู้มีบุตรยากในมณฑลไห่หนานและสมาชิกสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีนหรือซีพีพีซีซี (CPPCC) เผยกับหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของทางการจีนว่า จะเสนอต่อซีพีพีซีซีที่จะเปิดการประชุมในวันที่ 4 มีนาคมนี้ เรื่องให้สตรีที่ยังไม่แต่งงานสามารถแช่แข็งไข่เพื่อสงวนรักษาไว้ก่อนที่จะผ่านพ้นช่วงวัยเจริญพันธุ์ และเมื่อต้องการจะมีบุตรและตั้งครรภ์ในอนาคตก็ต้องมีการแต่งงานก่อน นอกจากนี้เธอยังจะเสนอให้รวมการรักษาภาวะมีบุตรยากไว้ในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติด้วย ปัจจุบันจีนห้ามสตรีที่ยังไม่แต่งงานรับการรักษาภาวะมีบุตรยาก เช่น การแช่แข็งไข่ การทำเด็กหลอดแก้วหรือไอวีเอฟ (IVF)

ข้อเสนอนี้มีขึ้นในช่วงที่ทางการจีนกำลังหาทางเพิ่มอัตราเด็กเกิดใหม่ด้วยมาตรการจูงใจต่าง ๆ เช่น เพิ่มระยะเวลาลาคลอด ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและการเงินในการมีบุตร ให้เงินอุดหนุนในการมีบ้าน ปี 2565 ที่ผ่านมาจีนมีเด็กเกิดใหม่น้อยที่สุดในรอบ 61 ปี โดยมีเด็กเกิดใหม่เพียง 6.77 คนต่อประชากรทุก 1,000 คน เช่นเดียวกับอัตราเจริญพันธุ์ที่คาดว่าสตรี 1 คนจะมีบุตร 1.18 คน ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ต้องมีบุตร 2.1 คน เพื่อรักษาจำนวนประชากรให้ทรงตัว

‘ผู้ว่าฯร้อยเอ็ด’ลงพื้นที่เช็คการก่อสร้างแลนด์มาร์คใหม่‘องค์พญาศรีสุทโธนาคราช’

1 มีนาคม 2566 ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำธวัชชัย อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายพิชัยยา ตุระซอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด , นางสาวนงนุช สีทาน้อย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด , นางละอองดาว คมสัน สถิติจังหวัดร้อยเอ็ด , นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้าง พญาศรีสุทโธนาคราช ในการปั้นส่วนหางและลำตัวองค์พญานาค โดยในสัปดาห์นี้ได้ดำเนินการยกโครงสร้างเหล็กส่วนหัวเดิมออกเพื่อประกอบโครงสร้างเหล็กส่วนหัวใหม่ และดำเนินการเชื่อมต่อโครงสร้างเหล็กให้ครบถ้วน พร้อมกับทำการปั้นเกร็ดและลำตัวขององค์พญาศรีสุทโธนาคราช

นายทรงพล เปิดเผยว่า ขณะนี้การก่อสร้างมีความก้าวหน้าของตามลำดับ ทั้งในด้านงานโครงสร้างเหล็กซึ่งดำเนินการไปแล้วกว่า 80 % ส่วนด้านงานปูนปั้นดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 50 % ซึ่งถือได้ว่ามีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก โดยจังหวัดร้อยเอ็ดได้รวมพลังความสามัคคี และระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นราชการ คณะสงฆ์ ภาคเอกชน ผู้มีจิตศรัทธา และพี่น้องชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อสร้างองค์พญานาคให้สำเร็จภายในปี 2566

ล่าสุดได้รับความเมตตาจากพระอนุสรณ์ ปภัสสโร หรือพระอาจารย์ต้อม วัดท่าแสบง อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด บริจาคเงินสมทบทุนในการก่อสร้างจำนวนเงิน 1,200,000 บาท นอกจากนี้ยังได้รับเมตตาจากพระครูวิมลบุญโกศล เจ้าอาวาสวัดวิมลนิวาส บ้านหนองแก ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด ซึ่งท่านมีประสงค์จะบริจาคเงินสมทบทุนในการก่อสร้างให้กับจังหวัดร้อยเอ็ดอีกจำนวน 1,200,000 บาท เนื่องในโอกาสทำบุญอายุวัฒนมงคลครบ 61 ปี ในวันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่ตะถึงนี้

ทั้งนี้การสร้างองค์พญาศรีสุทโธนาคราช เพื่อที่จะพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ดในการพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นโครงการที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งในด้านการก่อสร้างองค์พญานาค การบริหารจัดการและใช้ประโยชน์ โดยมุ่งหวังให้มีองค์พญาศรีสุทโธนาคราช เป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์ ที่แสดงออกถึงพลังศรัทธาและความเป็นศิริมงคลแก่ประชาชน ตลอดจนความรุ่งเรืองของจังหวัดร้อยเอ็ดในอนาคต ซึ่งองค์พญานาค จะมีความยาว 111 เมตร และมีสูงถึง 22 เมตร จังหวัดร้อยเอ็ดจึงได้มีการติดตามการดำเนินงานก่อสร้างองค์พญานาค และก่อสร้างศาลา ตามรูปแบบที่สำนักงานโยธาธิการฯ ได้ดำเนินการออกแบบไว้ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส เกิดประโยชน์ต่อจังหวัดร้อยเอ็ดให้มากที่สุด สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดร้อยเอ็ด ต่อไป


หลอนหนักมาก!แม่วอนจนท.ช่วย ลูกชายพังรถดูดส้วม นึกว่าตุ๊กแก

1 มีนาคม 2566 ตำรวจ สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี รับแจ้งจากนางจิต ผู้เป็นแม่ ว่า ลูกชายคือนายสมรักษ์ อายุ 26 ปี ชาวบ้านบ้านเชียง หมู่ 12 ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เสพยาจนหลอนหนัก อาละวาดทำร้ายทรัพย์สินของชาวบ้าน แม้กระทั่งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ (จยย.) หรือรถดูดส้วมวิ่งเข้ามาในบ้านก็ไม่เว้น ถูกลูกชายทุบกระจกหน้ารถบานใหญ่จนแตก เพราะคิดว่าเป็นตุ๊กแกตัวใหญ่เข้ามาภายในบ้าน อยากให้พาตัวไปฉีดยาและบำบัดรักษา ไม่เช่นนั้นจะทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านอีก

ต่อมาตำรวจสายตรวจได้มาเกลี้ยกล่อม แต่นายสมรักษ์ไม่ยอม บอกว่าตำรวจจะมาทำไม ไม่ได้เป็นอะไร ขณะที่แม่ยืนยันอยากให้ตำรวจพาไปบำบัดรักษา และลูกชายไม่ยอมกินยาที่แม่ผสมใส่นมให้ โดยนายสมรักษ์โวยวายขอกินยารักษาก่อน จึงเรียกแม่ให้เอายามาให้ และแม่บอกลูกชายว่า “บักหล่าอย่าอาละวาดอีกเด้อ ให้ฟังแม่หน่อย วันนี้แม่เอายากินแก้ตุ๊กแกให้กิน ไม่ใช่ยาประสาท”

แต่นายสมรักษ์ก็ยังไม่ยอมไป ร้องไห้งอแงหนักมาก ในเมื่อเป็นประสงค์แม่อยากให้เอาลูกชายไป แต่นายสมรักษ์ร้องไห้งอแงหนักมาก บอกว่าไม่ไป “ผมกลัวตุ๊กแก อย่าให้ผมไปเลย” และบอกว่าให้หมอมาฉีดยาที่บ้านได้ไหม แต่แม่ไม่ยอม จึงพากันอุ้มขึ้นหลังรถไปส่งโรงพยาบาลหนองหานเพื่อบำบัดทัน

นางจิต กล่าวว่า ลูกชายมีป่วยจิตเวชและกลัวตุ๊กแกหนักมาก วันนี้ก็พังรถหลายคัน หนักสุดคือรถดูดส้วมที่เข้ามาดูดส้วมภายในบ้านก็ถูกลูกชายตีจนกระจกแตก ต้องหาเงินไปจ่ายค่ากระจกรถให้เขา ลูกทำแบบนี้ ทนไม่ไหวแล้ว อยากพาลูกไปฉีดยาและบำบัดรักษา


ระทึกหนองบัวลำภู!!! หนุ่มหึงโหดบุกยิงสาว 4 นัดคาโรงเรียน แค้นตีตัวออกห่าง

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ธีรวิทย์ จันทจร รองสว.(สืบสวน) สภ.เมืองหนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุ มีคนถูกยิงในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งบริเวณเส้นทางรอบเมือง ใกล้สี่แยก TOT ต.หนองภัยศูนย์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู พบหญิง สาวทราบชื่อภายหลังว่าคือ นางสาววันเพ็ญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการของโรงเรียน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 4 นัด บริเวณลำตัวและหน้าอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู อาการสาหัส และถูกส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โดยนางสาววันเพ็ญฯ ผู้ถูกยิงให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนที่จะสลบไปว่าผู้ก่อเหตุ เป็นอดีตเพื่อนชายคนสนิทที่เพิ่งเลิกรากันไป

โดยนายพัชรินทร์ ช่างผู้รับเหมาทาสี ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าให้ฟังว่า ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัดช่วงเดินออกมาพอดี หันไปเห็นผู้ก่อเหตุกำลังลดปืนลง ลักษณะใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีเขียวเข้ม ตนตกใจตะโกนบอกครูที่ทำงานอยู่ในห้อง ให้โทรแจ้งตำรวจก่อน จะวิ่งไปดูผู้บาดเจ็บซึ่งล้มลงนอนหงาย โดยไม่ได้สังเกตุว่า ผู้ก่อเหตุหลบหนีไปทางไหน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนปืน เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนแห่งนี้คนหนึ่งเล่าว่า นางสาววันเพ็ญ เคยทำงานที่โรงเรียนนี้ประมาณ 2 ปีก่อน และลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว ได้ 7-8 เดือน และกลับมาทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้ใหม่เป็นวันแรกก็มาถูกยิง

พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก. สภ.เมืองหนองบัวลำภู เปิดเผยว่า ขณะนี้รู้ตัวคนก่อเหตุแล้วเป็นชายวัย 31 ปี ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นพาหนะลงมือคนเดียว สาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง คาดปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ ขณะี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง หนองบัวลำภู ชุดสืบสวนกำลังเร่งไล่ล่าตัว คาดว่าผู้ก่อเหตุชื่อนายวรวุฒิ อายุ 31 ปี ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ก่อเหตุเสร็จได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทางอำเภอศรีบุญเรือง สวมใส่หมวกกันน็อคเต็มใบเข้าไปในโรงเรียน จากนั้นโทรศัพท์พูดคุยให้นางสาววันเพ็ญออกไปหา และยิงผู้บาดเจ็บที่ลานจอดรถในโรงเรียน

ส่วนสาเหตุเบื้องต้น คาดว่าฝ่ายหญิงต้องการเลิกรา เนื่องจากคนร้ายเป็นคนหน้าตาดี มีผู้หญิงเข้ามาชอบพอหลายคน ทำให้ผู้ตายไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวด้วย ซึ่งตำรวจเร่งเช็คกล้องวงจรปิดตามถนนสายต่างๆ เพื่อเป็นเบาะแสติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป


‘อินโดนีเซีย’มอง‘ไทย’คู่แข่งสำคัญระบบนิเวศอุตสาหกรรม‘ยานยนต์ไฟฟ้า’

1 มีนาคม 2566 สำนักข่าว Antara ของอินโดนีเซีย เสนอข่าว Indonesia must compete with Thailand in EV ecosystem: minister อ้างคำกล่าวของ แอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต (Airlangga Hartarto) รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจ ที่ระบุว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของอินโดนีเซีย จะต้องแข่งขันกับประเทศไทย โดยเปรียบเทียบแรงจูงใจสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าต่อคันถูกกำหนดไว้ที่ 7 ล้านรูเปียห์ หรือราว 16,240 บาท ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ในขณะที่ไทยให้แรงจูงใจยานยนต์ไฟฟ้าต่อคันถึง 80 ล้านรูเปียห์ หรือราว 1.85 แสนบาท

ฮาร์ตาร์โต ซึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้ในงาน “CNBC Economic Outlook 2023” ทางออนไลน์เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2566 ยังเปิดเผยด้วยว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการสรุปกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป ส่วนแรงจูงใจ 7 ล้านรูเปียห์สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในอินโดนีเซียจะได้รับการจัดเตรียมสำหรับมอเตอร์ไซค์ผลิตใหม่ตลอดจนการเปลี่ยนมอเตอร์ไซค์ รวมถึงกฎระเบียบเกี่ยวกับเรื่องนี้จะออกในอนาคตอันใกล้

“แรงจูงใจของรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์จะขึ้นอยู่กับการผลิตในประเทศทั้งหมด การตัดสินใจครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนกระแสที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงระบบนิเวศการผลิต ซึ่งขณะนี้ได้ฟื้นตัวแล้ว ภาคการผลิตของอินโดนีเซียมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) แตะระดับ 51.3 ในเดือนมกราคม 2566” ฮาร์ตาร์โต กล่าว

ฮาร์ตาร์โต ยังกล่าวอีกว่า การปรับปรุงนี้มาพร้อมกับยอดขายรถยนต์ที่ทำลายสถิติ ซึ่งสูงถึง 1.04 ล้านคันในปี 2565 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขก่อนเกิดโรคระบาด ซึ่งในความเป็นจริง การส่งออกยานยนต์ของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 และส่งออกไปยังกว่า 70 ประเทศแล้ว นอกจากนี้ ตนขอให้นักลงทุนรักษาความไว้วางใจในการลงทุนในอินโดนีเซียในช่วงปีการเมือง เนื่องจากรัฐบาลและรัฐสภาให้การรับประกัน

“การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2567 จะไม่ใช่ครั้งแรกที่อินโดนีเซียจัดขึ้น แต่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 5 ในช่วงหลังการปฏิรูป ตลอดการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในปี 2547 2552 2557 และ 2562 สภาพของอินโดนีเซียยังคงทรงตัว” ฮาร์ตาร์โต กล่าวในตอนท้าย

รถไฟ 2 ขบวนชนกันที่ประเทศกรีซ เบื้องต้นเสียชีวิตแล้ว 26 ราย-เจ็บระนาว

1 มีนาคม 2566 โฆษกสำนักงานบริการดับเพลิงของกรีซ รายงานว่า เกิดเหตุรถไฟตกรางในเส้นทางระหว่างกรุงเอเธนส์ นครหลวงกับเมืองเทสซาโลนิกิ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของกรีซ ในคืนวันอังคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 ราย และอีก 85 รายได้รับบาดเจ็บ

ขณะนี้พบผู้เสียแล้วอย่างน้อย 26 ราย และปฎิบัติการช่วยเหลือยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ ในขณะที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 85 รายซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงเรียบร้อยแล้ว โฆษกยืนยันว่า รถไฟ 2 ขบวนชนกัน ขบวนหนึ่งเป็นรถขนส่งสินค้าส่วนอีกชบวนเป็นรถไฟโดยสาร ซึ่งมีผู้โดยสาร 350 คน

อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้ตู้รถไฟ 3 ตู้หลุดออกจากรางที่บริเวณใกล้กับเมืองลาริซสา โทรทัศน์อีอาร์ทีรายงานว่า ตู้รถไฟ 1 ตู้ เกิดไฟลุกไหม้และมีผู้โดยสารหลายคนติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่รับมือภัยฉุกเฉินรีบรุดมายังที่เกิดเหตุ ประกอบด้วยตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 40 คน และรถพยาบาลประมาณ 30 คัน