ข่าว
อ่านโดยพลัน!เปิดโมเดลแก้‘หวยแพง’ฉบับ‘แรมโบ้’ ง้างดาบฟันยับพวกขายเกินราคา

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 เมษายน 2565 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานก.พ. นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคาในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคากว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงภายหลังเป็นประธานประชุมทีมพิเศษแนวทางแก้ปัญหาสลากเกินราคา ว่า ที่ประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเบื้องต้น โดยมีแนวคิดที่จะเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาการขายสลากไม่ให้เกิน 80 บาท โดยเสนอให้สำนักงานสลากจัดทำแพลตฟอร์มขึ้นมาเอง เพื่อให้ผู้ได้รับโควตาสลากทั้งกลุ่มมูลนิธิ กลุ่มเปราะบาง มาฝากขาย หรือหากสำนักงานสลากยังไม่พร้อม ให้ดึงแพลตฟอร์มของเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นคู่สัญญาในการจำหน่ายสลาก และออกกฎระเบียบควบคุมให้ถูกต้อง พร้อมกับระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่าหากนำไปขายเกินราคาจะถูกดำเนินคดี

ยกตัวอย่าง การขายฝากอาจจะให้ส่วนต่างประชาชนทั่วไปได้คนละ 5 เล่ม คือ 500 ใบ คิดส่วนต่างใบละ 9.60 ต่อใบ จะได้ 4,800บาท /2งวด9,600บาท ถ้าฝากขายทั้งหมด จึงไม่น่ากังวลว่าจะเกิดปัญหากรณีรวมหวยชุดแล้วมาขายเกินราคา เนื่องจากเลขจะอยู่ในแพลตฟอร์มของกองสลาก ไม่สามารถเปลี่ยนมือได้ ซึ่งตัวเลขตรงนี้ยังเป็นข้อเสนอ ต้องให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาส่วนต่างอีกครั้ง ถึงตัวเลขที่เหมาะสม และประชาชนได้ประโยชน์จริง เพราะบางคนได้โควตาแต่ไม่สามารถขายได้หมด ก็นำมาขายให้กับกองสลาก สำหรับคุณสมบัติแพลตฟอร์มเอกชนที่จะมาเป็นคู่สัญญานั้น ทางสำนักงานสลากฯจะไปหารือเพื่อกำหนดคุณสมบัติอีกครั้ง โดยวิธีขายฝากลักษณะนี้ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เร็วที่สุด

นายเสกสกล กล่าวอีกว่า ที่ประชุมจะเสนอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเพื่อความโปร่งใสขึ้นมาเป็นผู้คัดกรองที่มาของผู้ได้รับโควตาว่าเป็นตัวจริงหรือสวมสิทธิ์หรือไม่ โดยเฉพาะผู้ค้าเสรี ที่กดจองผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทย 1.2 แสนราย ต้องมาตรวจสอบว่ามีการสวมสิทธิ์ หรือแอบอ้างชื่อหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติต้องไม่ใช่ข้าราชการ คนมีฐานะอยู่แล้ว เช่นเดียวกับจุดจำหน่าย 80 บาท ระดับอำเภอ 3 จุด ทางผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัด ต้องเข้ามาช่วยคัดกรองคุณสมบัติและขึ้นทะเบียนผู้ประสงค์รับโควตาเป็นข้อมูลเอาไว้ หากพบว่าคนได้รับสิทธิ์กระทำผิด ให้พิจารณาคนลงทะเบียนในระบบลำดับถัดไปขึ้นมาแทน ยืนยันว่าคณะกรรมชุดนี้จะทำงานด้วยความโปร่งใสไม่เอื้อประโยชน์ให้กับใครอย่างแน่นอน

“ในที่ประชุมเห็นว่าควรกำหนดบทลงโทษกับผู้ที่ขายเกินราคา โดยเฉพาะความผิดทางแพ่ง ให้นำกฎหมายฟอกเงิน กฎหมายล้มละลายมาบังคับใช้ฟ้องร้อง รวมถึงต้องมีเบี้ยปรับ หรือยึดเงินหลักประกัน” นายเสกสกล กล่าว

เมื่อถามว่าการจับกุมผู้ค้าสลากออนไลน์ถูกมองจะเป็นการเตะตัดขาเอกชนหรือไม่ นายเสกสกล กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ใช่การเตะตัดขา เพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงต้องทำตามหน้าที่

นายเสกสกล ยังกล่าวถึงกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องเงิน15ล้าน เพื่อแลกกับโควตาสลาก ว่า วันนี้ขอตอบเพียงเรื่องการแก้ปัญหาหวยแพง ตามที่นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์จะให้จำหน่ายสลากในราคา 80บาทให้ได้ ส่วนประเด็นอื่นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ตนได้ประสานขอดูกล้องวงจรปิดภายในร้านอาหาร ที่นางจุรีพร สินธุไพร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปนั่งรับประทานอาหาร เพื่อจะได้ดูว่าใครเป็นคนที่อัดเสียงดังกล่าว

‘สืบภาค8-ศปอส.ตร.’ทลายแก๊งพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียน 50 ล้าน

6 เมษายน 2565 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 , พ.ต.อ.จิตปะพัทธ์ เอกโพธ์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.8 , พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.8 ร่วมกับแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 ราย คือ 1.นายนิรวิทย์ อยู่หมู่ 1 ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.114/2565 ลงวันที่ 25 มี.ค.2565 และ 2.นายสมศักดิ์ อยู่ ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.113/2565 ลงวันที่ 25 มี.ค.2565 พร้อมของกลางเงินสด 3,713,400 บาท ,โฉนดที่ดิน 3 ฉบับ , หนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน 4 ฉบับ โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง และคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง

พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เน้นย้ำให้เข้มงวดตรวจสอบป้องกันปราบปรามการพนันออนไลน์ ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมที่มีต้นเหตุมาจากการพนันออนไลน์ ทาง บช.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ชุด ศปอส.ตร. จึงได้ดำเนินการตรวจสอบ โดยขยายผลจากกรณีผู้ต้องหาชาวเมียนมา ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองทวีชัย จ.ภูเก็ต ได้ทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 378 บาท มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท พร้อมทั้งเงินสดอีกจำนวนหนึ่งแล้วหลบหนีไป ภายหลังสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้และผู้ต้องหาให้การว่านำทองคำไปขายแล้วนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ในเว็บไซต์ https://789xbet.com

เช่นเดียวกับจากกรณียายและหลานสาวแจ้งความร้องทุกข์กับ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าเงินในบัญชีธนาคารหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ภายหลังสืบทราบว่าหลานได้ทำการผูกแอปพลิเคชันธนาคารเข้ากับโทรศัพท์มือถือของหลานและโอนเงินเพื่อเติมเงินเข้าเว็บไซต์การพนันออนไลน์จำนวนหลายครั้ง จนหมดบัญชี และกรณีมีกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจรีดเอาทรัพย์จากผู้เสียหายเป็นเงินจำนวน 4 แสนบาท และพระเครื่องจำนวน 1 องค์ หลังจากเล่นการพนันจากเว็บไซต์การพนันออนไลน์แล้วได้เงินเกือบ 2 ล้านบาท

ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหา 2 ราย มีความเกี่ยวข้อง จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต และต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันหรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันในการเล่นซึ่งไม่ได้รับอนุญาตของเจ้าหน้าที่และร่วมกันมีหรือใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

จากนนั้นปูพรมค้น 2 จุด ที่โรงแรมใน ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตามหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ค.51/2565 ลงวันที่ 4 เม.ย.2565 โดยได้ทำการจับกุมตัว นายนิรวิทย์ และนายสมศักดิ์ เอาไว้ได้ จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าทำมานานกว่า 2 ปี เงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท


‘เงินเฟ้อ’ทุบสถิติ รับสินค้าเดือนมี.ค.280 รายการขึ้น

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนมี.ค. 2565 เท่ากับ 104.79 เทียบกับก.พ.2565 เพิ่มขึ้น 0.66% เทียบกับเดือนมี.ค. 2564 เพิ่มขึ้น 5.73% สูงสุดในรอบ 13 ปี นับจากปี 2551 หลังจากทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปีมาแล้วเมื่อเดือนก.พ.2565 ที่ผ่านมา ที่สูงขึ้น 5.28% ส่วนเงินเฟ้อรวม 3 เดือนปี 2565 (ม.ค.-มี.ค.) เพิ่มขึ้น 4.75% และเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก ดัชนีอยู่ที่ 102.43 เพิ่มขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. 2565 และเพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. 2564 และรวม 3 เดือนเพิ่มขึ้น 1.43%

สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เงินเฟ้อเดือนมี.ค.2565 สูงขึ้น มาจากสินค้าในกลุ่มพลังงานสูงขึ้น 32.43% โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น 31.43% และค่ากระแสไฟฟ้าสูงขึ้น 39.95% รวมถึงสินค้าประเภทอาหาร ได้แก่ ผักสด เพิ่ม 9.96% เนื้อสัตว์ (สุกร ไก่สด) เพิ่ม 5.74% ไข่ไก่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่ม 6.08% เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 8.16% อาหารบริโภคในบ้าน เช่น กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวแกง ข้าวกล่อง ก๋วยเตี๋ยว เพิ่ม 6.28% และอาหารบริโภคนอกบ้าน เช่น ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง เพิ่ม 6.15% โดยปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบ และยังมีสาเหตุจากฐานราคาในเดือนเดียวกันของปีก่อนอยู่ในระดับต่ำ มีส่วนทำให้เงินเฟ้อในเดือนนี้สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าที่จำเป็นอีกหลายรายการที่ราคาปรับลดลง เช่น ข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ผลไม้สดบางชนิด เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ

ทั้งนี้ ในเดือนมี.ค. 2565 มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 280 รายการ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง อาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) กับข้าวสำเร็จรูป เนื้อสุกร ไข่ไก่ อาหารเช้า น้ำมันพืช น้ำประปา เป็นต้น สินค้าไม่เปลี่ยนแปลง 59 รายการ เช่น ค่าใบอนุญาตขับขี่ค่าเบี้ยประกันทรัพย์สิน ค่าเดินทางไปเยี่ยมญาติและทำบุญ ค่าเบี้ยประกันภัยรถ ค่าเบี้ยประกันคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พ.ร.บ.) ค่าภาษีรถยนต์ประจำปี และราคาลดลง91 รายการ เช่น ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ส้มเขียวหวาน ขิง ค่าธรรมเนียมการศึกษา ถั่วฝักยาว ค่าเช่าบ้าน กล้วยหอม และผลิตภัณฑ์ซักผ้า (น้ำยาซักแห้ง)

นายรณรงค์กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อในเดือนเม.ย. 2565 ถ้าดูจากตัวเลขในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยม.ค.เพิ่มขึ้น 3.23% ก.พ.เพิ่ม 5.28% และมี.ค.เพิ่ม 5.73% มีความเป็นไปได้ที่จะสูงขึ้น เพราะผลกระทบจากสถานการณ์สงครามเริ่มรุนแรงขึ้น

ทั้งนี้ จากสถานการณ์เงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาสแรก สนค.ได้ปรับประมาณการเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปี 2565 ใหม่ โดยปรับจากเดิม 0.7-2.4% ซึ่งเป็นการตั้งเป้าเมื่อเดือนพ.ย.2564 ที่ยังไม่มีภาวะสงคราม แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน ปัจจัยต่างๆ เปลี่ยน จึงปรับประมาณการใหม่เป็น 4-5% โดยมีสมมุติฐานจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 3.4-4.5% น้ำมันดิบดูไบ 90-110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 32-34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าในระยะต่อไป สถานการณ์เปลี่ยนไปและดีขึ้น ก็จะมีการปรับคาดการณ์อีกครั้ง

สำหรับความกังวลที่จะเกิดสถานการณ์ Stagflation ที่เศรษฐกิจตกต่ำและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นนั้น ต้องดูภาวะเศรษฐกิจในประเทศประกอบด้วย เพราะหากเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี จากการเปิดประเทศ การมีนักท่องเที่ยวเข้ามา

และการส่งออกยังเติบโต รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจมีการขับเคลื่อน และเงินเฟ้อ ที่สูงขึ้น มาจากต้นทุนที่สูงขึ้น กำลังซื้อยังเป็นปกติ ถือว่าไม่น่าห่วง แต่ถ้าเศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อสูง กำลังซื้อไม่มี เป็นอีกเรื่องที่จะต้องติดตาม

'ผู้นำยูเครน'ประกาศกร้าว! สมควรยุบ'ยูเอ็น' หากหยุด'รัสเซีย'ไม่ได้

ผู้นำยูเครนปราศรัยต่อทีประชุมคณะมนตรีความมั่นคง ประณามการสังหารพลเรือนในสงคราม กดดันให้คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น จัดการกับรัสเซียที่ก่ออาชญากรรมสงครามครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และประกาศกร้าวด้วยว่าหากทำไม่ได้ก็สมควรยุบองค์กร ขณะที่รัสเซียยังยืนยันว่า ภาพที่ปรากฎออกมาเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ ย้ำรัสเซียไม่เคยโจมตีพลเรือน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ผ่านวิดีโอเมื่อวันอังคาร โดยเนื้อหาสำคัญคือ เหตุการณ์ที่เมืองบูจา ทางตอนเหนือของกรุงเคียฟ ซี่งยูเครนชี้ว่า ในขณะที่รัสเซียยึดครองเมืองนี้อยู่กว่า 1 เดือน ได้สังหารพลเรือนมากมายและยังมีหลุมศพขนาดใหญ่ ประเมินเบื้องต้นมีศพพลเรือนเสียชีวิตราว 300 คน เขาจึงประกาศจะนำความยุติธรรมมาให้เหยื่ออาชญากรรมสงครามทุกคน นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้จัดตั้งศาลพิเศษขี้นมาเพื่อพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามเช่นเดียวกับที่ตั้งขี้นเพื่อเอาผิดสมาชิกนาซีของเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สอง

ผู้นำยูเครนยังได้ตำหนิคณะมนตรีความมั่นคงที่ไม่สามารถสร้างความมั่นคงได้เลย และตั้งคำถามถึงอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงที่มีสมาชิก 15 ชาติ รวมถึงรัสเซีย หลังจากไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับรัสเซีย นับตั้งแต่เริ่มบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.เพียงเพราะรัสเซียมีอำนาจยับยั้งหรือวีโตเพื่อล้มมติใดๆ เช่นเดียวกับชาติสมาชิกถาวรอีก 4 ชาติ พร้อมกับย้ำว่า หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ก็จะจบลงที่แต่ละรัฐหันใช้อาวุธเพื่อรักษาความมั่นคงของตัวเอง แทนที่จะพึ่งกฎหมายระหว่างประเทศและสถาบันระหว่างประเทศ เมื่อนั้นสหประชาชาติก็ควรยุบไปเลย

ด้าน อันโตนิโอ กูเตียร์เรซ เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า เขาจะไม่มีทางลืมความโหดร้ายในเมืองบูจา ที่พลเมืองต้องถูกสังหาร สงครามในยูเครนความท้าทายครั้งใหญ่ต่อระเบียบโลก

จากนั้น วาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โต้แย้งว่าทหารรัสเซียไม่ได้พุ่งเป้าทำร้ายพลเรือนและข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเป็นคำโกหก และยืนยันว่าระหว่างที่เมืองบูจาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียก่อนจะถอนกำลังออกมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ไม่มีพลเรือนแม้แต่คนเดียวต้องประสบกับความรุนแรงใดๆ ยืนกรานว่า ภาพและหลักฐานที่เผยออกมาจากเมืองบูจานั้น เป็นหลักฐานปลอมที่ยูเครนจัดฉากขี้นเพื่อใส่ร้ายยูเครนเพราะเกิดขี้นหลังจากที่รัสเซียถอนกำลังออกมาจากเมืองแล้ว พร้อมกันนั้น เขายังได้กล่าวโจมตีชาติตะวันตกว่า กำลังปั่นกระแสเกลียดชังรัสเซียทุกวัน ต่อไปก็จะมีคำกล่าวอ้างปลอมเหมือนกรณีเมืองบูจาออกมาอีก เพื่อให้ร้ายทหารรัสเซียว่าเป็น ฆาตกรและอาชญากรข่มขืนโดยใช้เทคโนโลยีทีมีอยู่สร้างภาพวีดีโอปลอมขี้นมา

กรณีเมืองบูจานี้ ทำให้มีปฏิกริยาจากหลายประเทศ เช่น อินเดียซี่งหลีกเลี่ยงที่จะประณามรัสเซีย ก็ได้ประณามการสังหารพลเรือน และเรียกร้องให้เปิดการสืบสวน เช่นเดียวกัน อิสราเอล ซึ่งมีรัฐบาลที่พยายามเลี่ยงการประณามรัสเซีย ก็เพิ่งออกแถลงการณ์ประณามรัสเซียว่า ได้ก่ออาชญกรราสงครามในยูเครน

ในสัปดาห์นี้หลายชาติยุโรปได้สั่งขับนักการทูตรัสเซียราว 200 คน ออกนอกประเทศ อีกทั้งกำลังพิจารณามอบความช่วยเหลือให้ยูเครนมากขี้น ล่าสุด สาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศสหภาพยุโรปชาติแรกที่ประกาศจะมอบอาวุธโจมตีให้กับยูเครนโดยตรง โดยจะมอบรถถังและยานยนต์ทหารราบที่ผลิตสมัยสหภาพโซเวียตให้กับยูเครน ส่วนชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ก็ประชุมกันในวันพุธ เพื่อหารือการมอบอาวุธช่วยเหลือและอุปกรณ์การแพทย์ให้กับยูเครน เพิ่มเติมด้วย ขณะที่ชาติตะวันตกก็เตรียมประกาศมาตรการลงโทษรัสเซียเพิ่มอีก เพื่อตัดเงินทุนในการทำสงคราม

ซึ่งเรื่องนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้กล่าวล่าสุดเตือนประเทศต่างๆ ว่า กำลังกลบเกลื่อนความผิดพลาดของตัวเองที่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำและราคาพลังงานสูงขี้น แล้วโยนความผิดให้กับรัสเซีย บางประเทศพยายามยึดกิจการของรัสเซียในประเทศนั้นๆ ไปเป็นทรัพย์สินของรัฐด้วย