ข่าว
เตือนให้เจ้าของธุรกิจรับมือ การเข้าตรวจสอบใบอนุญาต

มิเชลล์ ปาร์ค สตีลรองประธานคณะกรรมาธิการภาษีของรัฐแคลิฟอร์เนีย เตือนให้เจ้าของธุรกิจในเขตเมืองด้านล่างนี้ ซึงมีธุรกิจไทยถึงการเข้าตรวจสอบใบอนุญาตต่างๆและการเสียภาษีจากหน่วยเฉพาะกิจ (S.C.O.P. – Statewide Compliance and Outreach Program) ของเสตทบอร์ดออฟอีควอไรเซชั่น (State Board of Equalization) ซึ่งจะเข้าตรวจสอบธุรกิจทุกแห่งจาก16Zip Codesใน 11เมื่องใหญ่ ดังนี้:

Monrovia (91016) San Diego (92110) Aguanga (92536) Anza (92539) Auburn (95603)Concord (94518) Mountain Center (92561)Newcastle (95658)Penryn ( 95663) Petaluma ( 94954)Rancho Santa Margarita ( 92688)Rocklin(95765) Sausalito (94965) Wildomar (92595) Winchester (92596) Winnetka (91306)

ทั้งนี้ทางสำนักงานเสตทบอร์ดได้ส่งจดหมายแจ้งล่วงหน้าให้ธุรกิจในเขตดังกล่าวกว่า 11,661ฉบับทราบถึงการเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจนี้ตั้งขึ้นในเดือนกันยายน 2008 และได้เข้าตรวจธุรกิจกว่า 394,200 แห่งในจุดประสงค์ที่ต้องการเห็นธุรกิจต่างๆ มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง โดยการเข้าตรวจสอบแบบเหวี่ยงแหไปทุกธุรกิจและตรวจสอบถึงการชำระภาษีว่า ได้เสียถูกต้องตรงกับความจริงหรือเปล่า

คุณมิเชลล์จึงอยากจะแจ้งให้เจ้าของธุรกิจในเขตดังกล่าวทราบ เจ้าหน้าที่จะตรวจใบอนุญาตต่างๆ เช่น Seller’s Permit/ABC License/Cigarette Licenseซึ่งเจ้าของร้านควรจะติดไว้ให้เจ้าหน้าที่เห็นอย่างชัดเจน ถ้ามี การสอบถามอะไรเพิ่มเติม ก็ควรจะพูดคุยกับเจ้าของกิจการเท่านั้นเพราะมีหลายกรณีที่เจ้าหน้าที่มักจะสอบ ถามกับผู้จัดการร้านหรือคนเสิร์ฟเพื่อหาข้อมูล เป็นเหตุผลในการตรวจสอบภาษีย้อนหลังในภายหลัง (Full Audit) ซึ่งคุณมิเชลล์ไม่เห็นด้วยจากการหารายได้เพิ่มของรัฐแบบนี้

ถ้าท่านมีปัญหากับเจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่ประพฤติไม่สุภาพ ก็ขอให้แจ้งหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในเขตของท่าน ที่เบอร์โทรศัพท์ดังนี้ 800-400-7115 หรือติดต่อกับสำนักงานของมิเชลล์ผ่านคุณ คิด ฉัตรประภาชัย ที่เบอร์โทรศัพท์ (310)377-8016 ได้

หน่วยเฉพาะกิจนี้จะเป็นหน่วยทดสอบ ซึ่งจากการประเมินของเสตทบอร์ดคาดว่า จะมีการหนีภาษีถึง 2 พันล้านเหรียญ (2 Billion)ซึ่งเป็นความแตกต่างจากภาษีที่รัฐควรจะเก็บได้กับภาษีที่รัฐได้รับจากเจ้าของธุรกิจ

โปรดทราบตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ (October 1, 1013)ภาษีในเมื่อง San Fernando (City of San Fernando) ใน LA Countyจะขึ้นอีก .05% เป็น9.5 %

คนปูด'ไดอานา'ถูกลอบสังหาร หนีมากบดานในประเทศไทย

27 ก.ย.56 แท็บลอยด์ เดลี่ เมล รายงานว่า สไนเปอร์ ที่ใช้นามแฝงว่า โซลเจอร์ เอ็น และอ้างว่า เจ้าหญิงไดอานา ถูกลอบปลงพระพระชนม์ ได้หนีมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว เนื่องจากเกรงว่า ชีวิตจะตกอยู่ในอันตราย

โซลเจอร์ เอ็น อ้างว่า เขาเป็นสไนเปอร์ของหน่วยรบพิเศษทางอากาศของกองทัพอังกฤษ หรือ SAS และมือสังหารของ SAS ได้ส่องไฟเข้าตาของนายอองรี ปอล คนขับรถของเจ้าหญิง จนนำไปสู่อุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อปี 2540 ซึ่งสก็อตแลนด์ยาร์ด ของอังกฤษ ต้องรื้อคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อตอบโต้ข้ออ้างของเขา แต่เขากลับหนีออกนอกประเทศก่อนที่คดีจะถูกสาวมาถึงตัว

โซลเจอร์ เอ็น อ้างว่า หน่วย SAS เกี่ยวข้องกับแผนลอบปลงพระชนม์เจ้าหญิงไดอานา พระชายาในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ และตอนนี้ มีรายงานว่า เขาหนีมากบดานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่สก็อตแลนด์ยาร์ด กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนข้ออ้างของเขาที่ว่า SAS เป็นตัวการที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ด้วยการส่องไฟเข้าตาของนายปอล คนขับรถยนต์ จนตาพร่า และสูญเสียการควบคุมรถยนต์เมอร์ซิเดส จนพุ่งชนกับเสาอุโมงค์ ปองด์ เดอ ลัลม่า ในกรุงปารีส

หนังสือพิมพ์ เดลี่ สตาร์ รายงานว่า โซลเจอร์ เอ็น หนีออกนอกประเทศก่อนที่สก็อตแลนด์ยาร์ด จะได้ตรวจสอบหลักฐานที่ได้รับมาจากหน่วยสารวัตรทหาร หรือ RMP ที่่มีหน้าที่ตรวจสอบวินัยของบุคลากรในกองทัพ

ตอนแรกมีรายงานว่า เขาหนีไปดูไบ แต่แหล่งข่าวทางทหารที่ไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า ที่นั่นอาจไม่เหมาะสำหรับเขา เพราะเป็นที่ตั้งของชุมชนอดีตบุคลากร SAS ขนาดใหญ่ ที่ใช้ดูไบ และที่อื่นๆ เป็นฐานในการปฏิบัติงาน ซึ่งการอาศัยอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังมีค่าใช้จ่ายสูง และไม่เชื่อว่า เขาจะมีทรัพยากรพอที่จะไปปักหลักเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น และแน่นอนว่า บุคลากรของ SAS ย่อมไม่พอใจเรื่องที่เขาออกมาบอกว่า SAS อยู่เบื้องหลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา

เดลี่ เมล ระบุว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของพวกที่หลบหนีคดี เนื่องจากระบบตำรวจ ที่ไม่เข้มงวด และค่าครองชีพต่ำ // โซลเจอร์ เอ็น ยังมีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวกับอาวุธปืน ซึ่งหลายประเทศจะไม่ยอมให้เขาเข้าประเทศ // นายโมฮัมเหม็ด อัล ฟาเอ็ด นักธุรกิจวัย 84 ปี อดีตเจ้าของห้างแฮร์รอดส์ ที่นายโดดี บุตรชายของเขาอยู่ในรถยนต์คันเดียวกับเจ้าหญิงไดอานา และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ได้เรียกร้องหลายครั้งให้มีการสืบสวนเรื่องนี้ และเขาไม่พอใจอย่างยิ่ง ที่ไม่มีการขัดขวางการหนีออกนอกประเทศของโซลเยอร์ เอ็น

ตร. ออกหมายจับ "แม่ม่ายขาว" พัวพันเหตุโจมตีห้างหรูเคนยา

วันที่ 27 ก.ย.56 ตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ออกหมายจับซาแมนธา ลิวธ์เวท หรือฉายา "แม่ม่ายขาว" ทั่วโลกในขณะที่มีรายงานว่า เธอทำงานอยู่ที่ร้านขายพายฮาลาล ระหว่างหลบหนีการจับกุมอยู่ที่เมืองเลนาเซีย ชานนครโจฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้ เพื่อใช้หนี้ธนาคารและร้านค้า

ลิวธ์เวท ต้องสงสัยว่า อยู่เบื้องหลังแผนการสังหารหมู่ภายในศูนย์การค้าที่กรุงไนโรบีของเคนยาซึ่งตำรวจสากล ระบุว่า การออกหมายจับนี้ เป็นไปตามความประสงค์ของทางการเคนยา เพราะเธอเป็นที่ต้องการตัว ฐานครอบครองวัตถุระเบิด และวางแผนก่อวินาศกรรมรีสอร์ทหรู เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2554 นอกจากนี้ เธอยังถูกขึ้นบัญชีดำเป็นผู้หญิงที่เป็นที่่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก

ลิวธ์เวท แต่งงานกับหนึ่งในมือระเบิดพลีชีพ ที่โจมตีเครือข่ายระบบขนส่งในกรุงลอนดอน เมื่อปี2548 สถานีโทรทัศน์ ENCA ของแอฟริกาใต้ รายงานว่า จากข้อมูลเครดิตของเธอ พบว่า เธอมีหนี้สินเกือบ 3 หมื่นแรนด์ หรือราว 9 หมื่นบาท อยู่กับธนาคาร 2 แห่ง และอีกเกือบ 1 พันดอลลาร์หรือราว 30,000 บาท อยู่กับร้านเสื้อผ้า 2 แห่ง ระหว่างหลบหนีอยู่ที่แอฟริกาใต้

สถานีวิทยุ รายงานว่า เธอทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ไอที ให้กับร้านพายฮาลาล ในเมืองเลนาเซียที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิม โดยใช้ชื่อปลอม เธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าพัวพันการโจมตีศูนย์การค้าในเคนยา หลังจากรัฐมนตรีเคนยา ระบุว่า มีผู้หญิงอังกฤษอยู่ในกลุ่มก่อการร้ายด้วย ขณะที่ตำรวจอังกฤษ ก็ระบุว่าเธอคือผู้ต้องสงสัยด้วยเช่นกัน

ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุโจมตีที่ศูนย์การค้าเวสต์เกทในปัจจุบัน อยู่ที่ 72 คน แต่อาจสูงกว่านี้ เนื่้องจากยังมีศพที่ยังไม่ได้นับติดอยู่ในซากปรักหักพังของอาคารที่พังถล่มลงมา ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 175 คน รวมทั้่งกว่า 60 คน ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีชาวต่างชาติอย่างน้อย 18 คน รวมอยู่ในจำนวนผู้เสียชีวิตด้วย

ตำรวจสากล ระบุว่า ลิวธ์เวทเป็นที่ต้องการตัวในข้อหาครอบครองวัตถุระเบิด และวางแผนก่อเหตุวินาศกรรมเมื่อธันวาคม ปี 2544 แต่ไม่ได้อ้างถึงเหตุการณ์ที่ศูนย์การค้าเวสต์เกท และไม่ได้ระบุว่าเหตุใดจึงเพิ่งมาออกหมายจับในตอนนี้

มีรายงานว่า ลิวธ์เวทเคยถูกตำรวจสอบปากคำ แต่ไม่เคยถูกจับกุม ส่วนการออกหมายจับของตำรวจสากล ได้มีการเวียนไปยังสมาชิก 190 ประเทศ และการออก "หมายแดง" (Red Notice)ซึ่งก็คือ การประกาศจับบุคคลในที่ต้องการตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดในการตามล่าตัวผู้ร้ายสากล ซึ่งทางการเคนยา ได้เตือนไปยังประเทศสมาชิกตำรวจสากลด้วยว่า ลิวธ์เวทไม่ได้เป็นอันตรายแต่เฉพาะในภูมิภาค แต่เป็นอันตรายต่อทั้งโลกด้วย

ก่อนหน้านี้ สก็อตแลนด์ยาร์ด ของอังกฤษ ได้ไปค้นเซฟเฮาส์ของลิวธ์เว้ท ในเขตไนยาลี สถานที่ตกอากาศในมหาสมุทรอินเดีย และพบหลักฐานว่า เธอเกี่ยวข้องกับเจอร์เมน แกรนท์ ผู้ต้องหาคดีแผนลอบวางระเบิดสถานที่ตากอากาศในเมืองมอมบาซา ของเคนยา รวมถึงอุปกรณ์และวัตถุระเบิด ได้แก่ สวิทช์ไฟฟ้า , อะซิโตน , ไอโดรเจนเปอร์อ็อกไซด์ และแอมโมเนียม ไนเตรท ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่เจอร์เมน ลินด์เซย์ สามีของเธอ ใช้ระเบิดตัวเองที่สถานีรถไฟใต้ดิน พิคคาดิลลี่ ในอังกฤษเมื่อปี 2548 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน


เตือนโรบินฮูดระวัง ถูกหลอกจากทนาย

ผู้ให้การสนับนสนุนเหล่าโรบินฮูดเตือนระวังถูกหลอกจากทนาย เนื่องจากกฎหมายอิมมิเกรชั่นยังไม่ผ่านร่าง กิล ซีดิลโล่ สมาชิกสภาแอล.เอ. เขต 1 นัดกลุ่มโรบินฮูดรวมพลังเดินขบวนกดดันรัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายอิมมิเกรชั่นโดยเร็ว ร่วมกับ 40 เมืองทั่วประเทศ

ในขณะที่ร่างกฎหมายอิมมิเกรชั่นถูกดึงไว้ที่สภาล่าง ซึ่งไม่ทราบชะตากรรมว่ากฎหมายฉบับนี้จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อให้ผ่านร่างกฎหมาย สำหรับชาวโรบินฮูด กว่า 11 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนที่มากมายมหาศาลขนาดนี้อาจต้องใช้ระยะเวลานานเป็นปีเพื่อทำให้การลงทะเบียนเสร็จสิ้นเมื่อวันนั้นมาถึง สิ่งที่น่าเป็นห่วงจากนี้คือการหลอกลวงจากทนาย หรือ ทะแนะต่างๆ ที่อาจหลอกลวงต้มตุ๋นเงินจาก โรบินฮูดเหล่านี้ เพื่อจะให้ได้เป็นคิวอันดับต้นๆ ในการทำเรื่องเพื่อให้ได้สถานะอยู่อย่างกฎหมาย ถึงแม้ว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ออกกฎหมายของแคลิฟอร์เนียได้ผ่านกฎหมายห้ามดำเนินการเก็บค่าธรรมเนียมในการบริการจากโรบินฮูดเกี่ยวเนื่องกับกฎหมายปรับปรุงระบบอิมมิเกรชั่นแล้วก็ตาม แต่การผ่านกฎหมายยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเหลือโรบินฮูดจึงได้ออกมากเตือนเรื่องนี้เอาไว้

การเตรียมเอกสารต่างๆ ในขณะนี้นั้นยังไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาทนายความ เพียงแต่เตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการอยู่อาศัยในสหรัฐเอาไว้เท่านั้น เช่น หลักฐานการเข้ามาในสหรัฐอเมริกา บิลต่างๆ เช่นการเช่าบ้าน หรือแม้กระทั้งหลักฐานการซื้อรถ

และในวันที่ 5 ตุลาคนนี้ เวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ให้การสนับสนุนการปฏิรูป 40 เมืองทั่วประเทศจะทำการเดินขบวนพร้อมกันเพื่อกดดันให้รัฐสาภสหรัฐฯ โหวตช่วยเหลือเหล่าโรบินฮูด โดย ที่เมืองแอล.เอ. กิล ซีดิลโล่ สมาชิกสภาแอล.เอ. เขต 1 จะร่วมขบวนในการกดดันรัฐสภาสหรัฐในครั้งนี้ด้วย โดยเค้าได้จัดแถลงข่าวนี้ไปเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณหัวมุมถนน Western ตัดกับ Hollywood โดยใช้ชื่อการเดินขบวนครั้งนี้ว่า National Day for Dignity and Respect "March of the stars" วันชุมนุมและเดินขบวนพร้อมกันของชาวโรบินฮูด

'ไทเกอร์' ซิวนักกอล์ฟยอดเยี่ยมพีจีเอสมัยที่ 11

ไม่มีพลิกโผ! ไทเกอร์ วูดส์ ได้รับเลือกให้ความรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมประจำปีนี้ จากผลงานเหนือคู่แข่ง ซิวแชมป์ 5 รายการ พร้อมทำสถิติได้รางวัลสมัยที่ 11 ของเจ้าตัวอีกด้วย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 28 ก.ย.ว่า "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ โปรหมายเลข 1 ของโลก ชาวอเมริกัน คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมประจำปี ของสมาคมนักกอล์ฟอาชีพสหรัฐฯ หรือพีจีเอ จากการประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น)

วูดส์ วัย 37 ปี ได้รับรางวัลนี้เป็นครั้งแรก ในรอบ 4 ปี และเป็นสมัยที่ 11 ของตัวเอง โดยเขาได้เสียงโหวตจากผู้เล่นในทัวร์ ชนะคู่แข่งอย่าง แม็ตต์ คูชาร์, ฟิล มิคเกลสัน จากสหรัฐฯ,อดัม สกอตต์ จากออสเตรเลีย และเฮนริค สเตนสัน จากสวีเดน

สำหรับผลงานในปีนี้ วูดส์ แม้ว่าจะไม่ได้แชมป์เมเจอร์เลย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แต่เขาก็ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยสามารถซิวแชมป์พีจีเอไปได้ถึง 5 รายการ จากการลงแข่ง 16 รายการ ของตนเอง ขณะที่คู่แข่งคนอื่นๆ คว้าแชมป์ทัวร์ในปีนี้ได้ไม่เกิน 2 รายการ.