วันที่ 29 พ.ย. 56 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน หลังเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เคลื่อนขบวนเข้ามาในกองบัญชาการทหารบก เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยมวลชนได้ดันประตูด้านหน้ากองทัพบกเข้าไปภายใน ก่อนจะไปรวมตัวกันที่สนามหญ้า หน้ากองบัญชาการกองทัพบก พร้อมกับนำรถหกล้อขยายเสียงเข้าไปด้วย 2 คัน ขณะที่ฝ่ายทหารได้เตรียมทีมแพทย์ พร้อมเครื่องขยายเสียงมาประชิดด้านหน้ากลุ่มผู้ชุมนุม
จากนั้นเวลาประมาณ 13.10 น. พล.ท.ศุภกร สงวนชาติศรไกร ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายส่งกำลังบำรุง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้เรียนเรื่องดังกล่าวให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) รับทราบเเล้ว โดย ผบ.ทบ. ขอให้ใช้วิธีเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างสันติ ห้ามใช้กำลังหรือความรุนแรงใดๆ
ต่อมา นายนิติธร ล้ำเหลือ และนายอุทัย ยอดมณี สองแกนนำ ได้เข้าพูดคุยกับ พ.อ.สุรพล ตาปนานนท์ ผอ. ส่วนสนับสนุนกองทัพบก ซึ่ง พ.อ.สุรพล ขอให้ผู้ชุมนุม ชุมนุมด้วยความความสงบ บริเวณสนามหญ้า หน้าอาคาร และหากเสร็จสิ้นภารกิจ ยื่นหนังสือแล้ว ก็ขอให้กลับไปยังที่ตั้งอย่างสงบและปลอดภัย ซึ่งแกนนำได้ตอบตกลง พร้อมกับจัดระเบียบกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
พร้อมกันนี้ แกนนำ คปท. ยังได้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่มเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงจุดยืนว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน หรือรัฐบาลเผด็จการ จากนั้นได้มอบเอกสารแถลงการณ์ ผ่านทาง พล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก เพื่อนำเรียนผู้บัญชาการทหารบกต่อไป
ทั้งนี้ นายนิติธร ได้ประกาศด้วยว่า หากการดำเนินการใดๆ ในวันนี้ ก่อให้เกิดความเสียหาย จะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากเป็นผู้สั่งการ และนำพามวลชนมาด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 14.35 น. แกนนำ คปท.ได้นำมวลชนออกจากกองบัญชาการกองทัพบกด้วยความเรียบร้อย โดยไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น.
เมื่อเวลา 13.55 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้แถลงการ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ว่า ตามที่มีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยการประท้วงและเข้ายึดสถานที่ราชการบางแห่ง ปรากฏเป็นข่าวตามที่ทราบโดยทั่วกันนั้น
"ดิฉันขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนทุกท่าน รวมถึงเพื่อนมิตรต่างชาติ ที่เป็นห่วงเป็นใยในสถานการณ์ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของดิฉัน ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และได้ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมด้วยความละมุนละม่อม เพื่อที่จะไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายถึงขั้นเกิดความรุนแรง ประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตายดังเช่นเหตุการณ์ในอดีต"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่การที่รัฐบาลใช้แนวทางสันตินั้น ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศ หรือไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยได้ ทุกวันนี้ การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ยังดำเนินการอยู่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ แม้ว่าการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนโดยบางหน่วยงานที่อาจได้รับผลกระทบ และมีความไม่สะดวกบ้าง แต่รัฐบาลก็มีแผนรองรับที่จะให้บริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ดิฉันเชื่อมั่นว่าผู้ที่เป็นข้าราชการส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันอย่างไร ต่างรู้และตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติงานตามหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อคงไว้ซึ่งความมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลไม่ต้องการเล่นเกมทางการเมือง เพราะรัฐบาลเชื่อว่าเกมการเมืองจะทำให้ประเทศถดถอย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและความน่าเชื่อถือจากต่างประเทศ รัฐบาลยินดีรับฟังข้อเสนอ ข้อเรียกร้องของประชาชนทุกกลุ่มที่ชุมนุม ซึ่งยังยึดสถานที่ราชการอยู่ เพียงแต่ข้อเรียกร้องจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้มีการจัดตั้งสภาประชาชนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นจริงได้ ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับนี้
"ดิฉันจึงขอยืนยันอีกครั้งว่า ดิฉันมีความตั้งใจอย่างแท้จริงที่จะให้เกิดความร่วมมือในการหารือ เพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศ ขจัดความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันที่เรื้อรังต่อเนื่องยาวนาน และสร้างความเสียหายให้กับประเทศมามากพอแล้ว ในการนี้ ดิฉันขอเสนอให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม คืนสถานที่ราชการเพื่อให้กลไกระบบราชการเดินหน้าได้ต่อไปได้ และดิฉันจะเปิดเวทีพูดคุย เพราะรัฐบาลไม่ต้องการการเผชิญหน้า แต่รัฐบาลพร้อมที่จะร่วมมือในการหาแนวทางกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อวางกระบวนการแก้ไขปัญหาให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงเวลาต่อไปนี้ เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนทุกคนควรร่วมใจกันเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนพรรษา ด้วยการน้อมนำกระแสพระราชดำรัส “รู้รัก สามัคคี” เพื่อถวายเป็นสักการะแด่ในหลวงที่เป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคน
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ในการเจรจาแกนนำผู้ชุมนุม รัฐบาลพร้อมทุกรูปแบบ จะให้ไปเจรจาเองก็ได้ เพราะอยากให้บ้านเมืองเกิดความสงบ เมื่อถามว่าหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นรู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าว ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่อยากให้ทุกอย่างในบ้านเมืองสงบมากกว่า อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกัน
เวลา 21.10 น. วันที่ 28 พ.ย. ความคืบหน้าการชุมนุม นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่เวทีศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ อาคาร บี
ทั้งนี้ นายสุเทพ ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ขอกล่าวถึงนายกรณ์ จาติกวาณิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนมีชื่อเสียง ได้แสดงความคิดต่อการชุมนุมของพวกตนว่าไม่เห็นด้วยในการเข้าไปยึดกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ซึ่งนายกรณ์มีสิทธิจะไม่ได้เห็นด้วย แต่แกนนำทุกคนไม่ได้ติดหนี้บุญคุณใดๆและไม่ได้รับการสนับสนุนจากนายกรณ์ การชุมนุมเป็นการตัดสินใจจากประชาชนเอง นายกรณ์แสดงความไม่สบายใจ ประชาชนก็ไม่สบายใจกับท่าทีของนายกรณ์เช่นกัน แกนนำมีความดีใจที่ไม่ได้ชักชวนนายกรณ์มาเป็นแกนนำด้วย ต่อไปนี้ตนจะไม่อาศัยนักการเมืองและพรรคการเมืองอีกต่อไป ต่อไปนี้นายกรณ์ไม่ต้องเสนออะไรกับพวกตนอีก ปล่อยให้พวกตนสู้ต่อไป
นายสุเทพ กล่าวถึงถ้อยแถลงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯอ้างว่ารัฐบาลปฏิบัติกับผู้ชุมนุมอย่างสันติ แต่ตำรวจพยายามสลายการชุมนุมที่กระทรวงการคลังเมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งยังพยายามจะจับตัวนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ไปเป็นตัวประกันเพื่อแลกตัวกับตน แบบนี้เป็นการโกหกประชาชน ส่วนที่นายกฯ อ้างว่าพร้อมฟังข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ขอบอกเลยว่าประชาชนจะไม่เจรจาต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะยุบสภาหรือลาออก ก็ไม่เอาเพราะต้องกำจัดระบอบทักษิณออกไปเท่านั้น ส่วนที่ว่าให้ยุติการชุมนุม และจะเปิดการเจรจากับตัวแทนผู้ชุมนุม ยืนยันว่าจะไม่ยุติ จะเดินหน้าให้แรงขึ้นกว่านี้ จะไม่มีใครกลุ่มไหนไปเจรจากับรัฐบาลทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายกรณ์กล่าวถึงกรณีนายสุเทพนำกลุ่มผู้ชุมนุมบุกยึดกระทรวงการคลังว่า ไม่เห็นด้วย และไม่สบายใจในกลยุทธ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยพยายามพูดคุยกับผู้รับผิดชอบว่าต้องรักษาเกณฑ์การชุมนุม ไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่แกนนำมองว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรม ตั้งแต่ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนอยากเตือนสติทุกคน จะทำอะไรขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย เริ่มต้นจากรัฐบาลที่ต้องเคารพหลักนิติรัฐ และกระบวน การยุติธรรม แต่รัฐบาลปฏิเสธโดยชัดแจ้งจนทำให้ผู้ชุมนุมปรับท่าที รัฐบาลไม่แสดงท่าทีว่าจะทำอะไร ทั้งที่คนออกมาชุมนุมจำนวนมาก แทนที่จะคืนอำนาจให้ประชาชนโดยการยุบสภา แต่ปฏิเสธไม่ยุบสภา ไม่ลาออก และไม่บอกว่าจะทำอย่างไร เพื่อคลี่คลายอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012