ข่าว
'ม็อบเจนซี'อาละวาด! วิ่งไล่ต้อนนักการเมืองเนปาลลงแม่น้ำ ปาหินใส่จนต้องร้องขอชีวิต

10 กันยายน 2568 เฟซบุ๊กเพจ "Army Military Force" ได้ออกมาโพสต์คคลิป พร้อมระบุข้อความว่า "ด่วน! สื่อออนไลน์เนปาลเผยแพร่คลิปและระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงกำลังไล่ล่านักการเมืองหลายคนที่นั่งเสวยสุขในสภาด้วยภาษีประชาชน และเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุจริตลงไปในแม่น้ำ ก่อนจะไล่ทุบตี

เหตุการณ์การประท้วงในเนปาลครั้งนี้มีสาเหตุจากความไม่พอใจของประชาชน หลังรัฐบาลได้ออกกฎหมายเพื่อจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยม เช่น เฟซบุ๊ก ,อินสตาแกรม ,เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) , ยูทูบ และติ๊กต็อก

‘นายกฯ’ให้คำมั่น! เดินตามข้อตกลงร่วม‘ปชน.’ เร่งจัดทำร่างรธน. ครบ 4 เดือนปุ๊บ‘ยุบสภา’ทันที

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา ภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเสร็จสิ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสภาฯ ได้เดินทางออกจากสภาฯ พร้อมให้สัมภาษณ์อีกครั้ง กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก ให้สภาฯ มีอำนาจเริ่มในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเจตนารมย์ของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่เห็นพ้องต้องกันกับพรรคประชาชน (ปชน.) ที่ต้องมีการเร่งจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ โดยรายละเอียดนั้น พรรคภูมิใจไทยจะมีการหารือกับพรรคประชาชนในภายหลัง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลง

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า คำว่า MOA ที่ทุกคนเรียกกันมาตลอดนั้นอาจไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ในความเป็นจริงต้องเรียกว่า Agreement หมายความว่าไม่มี MO มีแต่ A ขอเน้นย้ำคำมั่นสัญญาว่า จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้กับพรรคประชาชน ส่วนการจัดทำประชามติครั้งที่ 1 พร้อมกับการเลือกตั้งที่จะถึงเร็วๆ นี้นั้น แทบไม่มีอะไรต้องกดดัน เมื่อครบระยะเวลา 4 เดือนปุ๊บ ยุบสภาทันที และหลังยุบสภาก็ไม่มีใครมากดดันอะไรทั้งนั้น คนเราทำงานอย่าไปกดดัน ต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน

"ผมยังคงเน้นย้ำว่า ข้อตกลงที่เกิดขึ้นมาได้นั้น พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน มีความเห็นพ้องต้องการว่าสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นอยู่ ณ วันนี้ ทางออกที่ดีที่สุดนั่นก็คือ ยุบสภา ซึ่งก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรีรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย (พท.) ณ ขณะนั้นไม่มีนายกรัฐมนตรีตัวจริง ก็ต้องเป็นผมที่มาทำหน้าที่สานต่อ ซึ่งมาพร้อมกับข้อตกลงยุบสภาภายใน 4 เดือน ผมต้องทำตามข้อสัญญา" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการปิดประตู สสร.จากการเลือกตั้งของประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้ดูรายละเอียด เพราะวันนี้งานยุ่งทั้งวัน ต้องตรวจสอบคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรี อีกทั้งยังต้องรับรายงานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไปประชุม GBC เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา และตนต้องมาประชุมที่สภาฯ พูดได้อย่างเดียวว่า อะไรที่ตกลงกันไว้ก็เป็นไปตามนั้น ไม่ต้องกังวล

เมื่อถามถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาฯ ภายใน 4 เดือน ถ้าทำได้ก็จะเป็นไปตามขั้นตอน แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องค้างเอาไว้ก่อน จากนั้นก็ยุบสภาก่อนจะมีการเลือกตั้งใหม่ และทุกคนก็ต้องชี้แจงให้พี่น้องประชาชนฟังว่าแต่ละพรรคมีแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อตกลงแบบ Agreement มักจะเป็นเอกสารที่สมบูรณ์และเป็นทางการมากกว่า มีการระบุรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายอย่างละเอียด ส่วน MOA (Memorandum of Agreement) มักจะใช้ในกรณีที่ต้องการบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น หรือข้อตกลงที่ต้องการแสดงเจตจำนงร่วมกันก่อนที่จะทำสัญญารายละเอียดฉบับสมบูรณ์ในภายหลัง


ดับข่าวลือ!!! 'ชัชชาติ สิทธิพันธุ์'หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนต่อไป

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 นายพลรักษ์ รักษาพล คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอดีตคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคประชาชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก ระบุว่า "อาจารย์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันกับผมเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาว่า จะไม่กลับไปเล่นการเมืองระดับชาติ โดยจะมุ่งมั่นทำงานในตำแหน่งในตำแหน่ง #ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เต็มที่ หลังมีข่าวลือว่าถูกทาบทามให้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย"

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏกระแสข่าวลือว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนต่อไป ล่าสุด นายพลรักษ์ จึงได้ไลน์ไปพูดคุยกับนายชัชชาติ เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว ซึ่งก็ได้รับคำตอบชัดเจนตามที่นายพลรักษ์ ได้โพสต์ข้อความไว้


ได้ทีบี้'ส้ม'! 'พท.'อัด'ปชน.'ไม่รอบคอบ หลังศาลรธน. ระบุ'ไม่อาจให้ปชช.เลือกผู้ร่างรธน.ได้โดยตรง'

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2568 น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่าน x กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิฉัย ไม่ให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง หรือเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยตรงจากประชาชนไม่ได้ โดยระบุดังนี้

“MOA ระหว่าง พรรคประชาชน กับ ภูมิใจไทย ระบุชัดว่าจะผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการยกร่างฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ได้ปิดทางไม่ให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยระบุว่า รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง

คำถามคือ คำวินิจฉัยนี้จะส่งผลกระทบต่อ MOA ระหว่างทั้งสองพรรคหรือไม่ พรรคประชาชนได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์นี้ไว้อย่างไร จะเดินต่อเช่นไร ในเมื่อได้ลงนามไปแล้ว และยกมือโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว

หากนี่ถือเป็นความไม่รอบคอบ หรือเป็นการตัดสินใจที่ไม่ประเมินผลลัพธ์อย่างรอบด้าน พรรคประชาชนจะตอบคำถามประชาชนทั้งประเทศอย่างไร ว่าที่เกิดขึ้นเป็นเพราะไม่ได้ประเมินมาก่อน หรือจริง ๆ แล้วรู้ว่าอาจเกิดขึ้นได้ แต่เลือกจะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้

ที่สำคัญ พรรคประชาชน ไม่สามารถโยนความผิดมาที่ พรรคเพื่อไทย ที่ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ เพราะการยื่นดังกล่าวเกิดจากความตั้งใจที่จะสร้างความชัดเจน ลดความขัดแย้ง และป้องกันไม่ให้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญสะดุดล้มกลางทางเหมือนที่ผ่านมา

ปัญหาไม่ได้เกิดจากการยื่นศาลของพรรคเพื่อไทย แต่เกิดจากการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบของพรรคประชาชนเองหรือไม่ ประชาชนทั้งประเทศจะเป็นผู้ตัดสิน"


'ซาฟารีเวิลด์'แสดงความเสียใจ เจ้าหน้าที่โดนสิงโตขย้ำ ยันดูแลครอบครัวเต็มที่

10 กันยายน 2568 เพจเฟซบุ๊ก Safari World โพสต์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่นายเจียน รังคะรัสมี เจ้าหน้าที่ประจำโซนสิงโต ถูกสิงโตทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ระบุว่า

ตามที่ปรากฏข่าวเหตุการณ์อุบัติเหตุกับเจ้าหน้าที่ประจำโซนสิงโตในสวนสัตว์เปิด บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ขอเรียนว่าพนักงานผู้ปฏิบัติงานได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา บริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะให้การดูแลและสนับสนุนครอบครัวอย่างสุดความสามารถ จากการตรวจสอบสิงโตและสัตว์ทุกชนิดอยู่ในสภาวะปกติ และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน บริษัทฯ ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและพนักงานทุกคน โดยเน้นย้ำเรื่องการไม่ลงจากรถระหว่างการเที่ยวชมสวนสัตว์เปิด โดยเฉพาะในโซนสัตว์ดุร้าย บริษัทฯ จะดำเนินการ ตรวจสอบและเสริมมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันมิให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก


เนปาลลุกเป็นไฟ! ม็อบเจนซีหัวรุนแรงจับ'เมียอดีตนายกฯ'ขังในบ้านก่อนเผาทั้งเป็น

10 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนหลายพันคนโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เรียกว่า GenZ รวมตัวชุมนุมหน้ารัฐสภาในกรุงกาฐมาณฑุ เนปาล เพื่อประท้วงนโยบายรัฐบาลที่ประกาศแบนใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของรัฐบาล แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะถูกยกเลิกและนายกรัฐมนตรี เคพี. ชาร์มา โอลี จะลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบแล้ว แต่ผู้คนยังโกรธแค้นหลังรัฐบาล

'ฝรั่งเศส'ระอุ! ผู้ประท้วงประกาศ'Block Everything' ปิดถนนทั่วประเทศ

10 กันยายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการฝรั่งเศสส่งเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงกระจายกำลังไปช่วยรื้อถอนสิ่งกีดขวางต่างๆ ออกโดยเร็วที่สุด และมีการจับกุมผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง ตำรวจกรุงปารีสเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ควบคุมตัวผู้ประท้วงแล้ว 132 คน ตัวแทนสหภาพแรงงานการขนส่งมวลชนที่ประท้วงในกรุงปารีสระบุว่า ปัญหาอยู่ที่ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงและวิธีการบริหารประเทศของเขา ไม่ใช่คณะรัฐมนตรี

การชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นในขณะที่การเมืองของฝรั่งเศสตกอยู่ในความโกลาหล หลังจากรัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรูเมื่อ 2 วันก่อน เนื่องจากเขาเตรียมจะตัดลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อควบคุมหนี้สินประเทศ ต่อมาในวันรุ่งขึ้นประธานาธิบดีมาครงได้แต่งตั้งนายเซบาสเตียน เลอกอร์นู คนสนิทของเขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 ปี สร้างความไม่พอใจให้แก่นักการเมืองฝ่ายซ้าย

นักวิจัยและเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกล่าวว่า “ขวางทุกอย่าง” (Block Everything) เป็นคำกว้างๆ ที่ใช้แสดงออกถึงความไม่พอใจกลุ่มชนชั้นนำผู้ปกครองประเทศที่ล้มเหลวแล้วพร่ำสอนให้คนประหยัดรัดเข็มขัด เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีแกนนำอย่างชัดเจน และจัดขึ้นเฉพาะกิจผ่านสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมโดยกลุ่มฝ่ายขวา แต่หลังจากนั้นกลับถูกกลุ่มฝ่ายซ้ายและซ้ายจัดเข้ามายึดบทบาทแทน การประท้วงครั้งนี้ถูกเปรียบเทียบว่าคล้ายกับการประท้วง “เสื้อกั๊กเหลือง” (Yellow Vest) ปี 2561 ที่เริ่มจากการประท้วงการขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง แล้วขยายวงกว้างเป็นการประท้วงนายมาครงและแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ