ข่าว
การค้าตปท.จีนแกร่ง ทั้งส่งออก-นำเข้า ทำนักเศรษฐศาสตร์งง

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานจากนครเซี่ยงไฮ้ของจีนว่า ทางการจีนได้เผยตัวเลขส่งออกและนำเข้าของจีน ประจำเดือนมกราคมที่ผ่านมา ว่าส่งออกได้มากขึ้นถึง 10.6 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ก็นำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ สวนทางกับคำพยากรณ์ของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ประจำสำนักลงทุนต่างๆ ที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า จะเท่าเดิมหรือลดลงด้วยซ้ำ

ไฟแนนเชียลไทม์สระบุว่า ข้อมูลสถิติการค้าของจีน อาจได้รับแรงหนุนส่งจากระบบออกใบคำสั่งซื้อเทียม ซึ่งกลับมาแพร่ระบาดใหม่ ในลักษณะเวียนเทียน เพื่อใช้ประโยชน์จากค่าความต่างของอัตราดอกเบี้ยเงินหยวนกับเงินตราต่างประเทศ หลีกเลี่ยงมาตรการควบคุมการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศของทางการจีน

นักวิเคราะห์เศรษฐกิจของธนาคารออสเตรเลียแอนด์นิวซีแลนด์ (เอเอ็นซี) ยกตัวอย่างว่า มีบริษัทนำเข้า-ส่งออกของจีนบางบริษัท ใช้วิธีส่งออกไปยังบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือที่ฮ่องกง ซึ่งจะส่งสินค้ากลับไปยังจีนอีกที ในราคาที่เพิ่มขึ้น โดยมีการบวกลบคูณหารความต่างของอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่าขึ้น เฉลี่ยถึง 3 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม นางเฮเลน เฉียว นักเศรษฐศาสตร์ประจำบริษัทมอร์แกนสแตนลีย์ระบุว่า ข้อมูลที่ปรากฎไม่ว่าจะมีที่มาที่ไปอย่างไร ก็ต้องนับว่าน่าอัศจรรย์ใจ ทั้งยังช่วยให้ราคาหุ้นในตลาด และค่าเงินต่อดอลลาร์ของประเทศคู่ค้ารายใหญ่กับจีน อย่างออสเตรเลีย สูงขึ้นด้วย

อังกฤษอ่วมน้ำท่วมสูงพุ่งไม่หยุด

ลอนดอน (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - สถานการณ์อุทกภัยทางตอนใต้ของอังกฤษยังคงวิกฤต เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเทมส์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางการจึงสั่งให้ประชาชนในพื้นที่อพยพออกจากบ้านเรือนแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวฝั่งแม่น้ำเทมส์ ทางตอนใต้ของอังกฤษ โดยเฉพาะที่มณฑลเบิร์กเชียร์ เซอร์เรย์ และบางส่วนของมณฑลโซเมอร์เซ็ท ทยอยอพยพออกจากบ้านเรือนเมื่อวันจันทร์ตามคำสั่งของรัฐบาล ซึ่งพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความเป็นไปได้ที่จะเอ่อล้นคันกั้นน้ำในไม่ช้า

ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ซึ่งยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยรบคอบราและอาสาสมัครเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับสั่งสำรองกระสอบทรายสำหรับเสริมแนวคันกั้นน้ำ และจับตาระดับน้ำในแม่น้ำเทมส์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลานอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีคาเมรอนยังขอร้องประชาชนยุติการตำหนิการทำงานของกระทรวงสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบแก้ไขปัญหาจากภัยธรรมชาติโดยตรง โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตเร็วที่สุด

ด้านทีมวิศวกรเนเธอร์แลนด์นำเครื่องมือมาร่วมเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังหมู่บ้านหลายแห่ง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ มานานนับเดือน ขณะที่หลายพื้นที่มีการประกาศเตือนอันตรายจากน้ำท่วม บ้านเรือนหลายพันหลังริมแม่น้ำเทมส์เสี่ยงที่จะถูกน้ำท่วมเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ หรือเดอะ เม็ท ยังคงเตือนภัยน้ำท่วมในกว่า 300 จุดในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ หลังพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนสูงสุด 30 มิลลิเมตร ในมณฑลโซเมอร์เซ็ท ส่วนปริมาณน้ำฝนในพื้นที่อื่นน่าจะอยู่ที่ระหว่าง 10-20 มิลลิเมตร ในระยะ1-2 วันข้างหน้า

ส่วนสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย ล่าสุด ไฟป่าหลายจุดลดความรุนแรงจากระดับฉุกเฉินแล้ว แต่ยังไม่อาจนิ่งนอนใจ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะรัฐวิคตอเรีย ไฟป่าเผาผลาญบ้านถึง 34 หลัง พื้นที่ป่าถูกเพลิงเผาวอด คาดว่าอาจมีฝนตกลงมาเร็วๆ นี้จากพายุไซโคลน ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่มักจะเกิดไฟป่าเป็นประจำในออสเตรเลีย


สยองรับวาเลนไทน์!ใช้ชีวิตอยู่ร่วมศพสามี 7 ปี

12 ก.พ. 57 สถานีโทรทัศน์ช่องข่าว วายทีเอ็น ของเกาหลีใต้ รายงานว่า เภสัชกรหญิงวัย 47 ปี ที่ถูกระบุแค่นามสกุลว่า โช ได้ใช้ชีวิตอยู่กับศพของสามีที่ถูกดองน้ำยาไว้มานานถึง 7 ปี หลังจากเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง

ทั้งนี้ ตำรวจซึ่งได้รับแจ้งจากบุคคลนิรนาม เปิดเผยว่า โชได้เก็บรักษาร่างที่ไร้วิญญาณของสามีเอาไว้ในอพาท์ตเม้นท์ ในกรุงโซล หลังจากเขาเสียชีวิตเมื่อปี 2550 แต่ศพของเขายังคงสภาพและไม่เน่าเปื่อย โดยที่จริงศพของสามีของโช ถูกพบตั้งแต่เดือนธันวาคม แต่เพิ่งจะมาเป็นข่าวดัง หลังจากช่องวายทีเอ็น นำมาตีแผ่อีกครั้งในวันนี้

วายทีเอ็น รายงานว่า โชเป็นเจ้าของร้านขายยา และใช้ความรู้ด้านเภสัชกรรม มาดองศพของสามี หลังเกิดเหตุ ตำรวจไม่ได้จับกุมเธอ แต่เธอยังจะต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจถูกตั้งข้อหาทางอาญาที่เกี่ยวกับการละเลยต่าง ๆ

สายการบินดังยุโรป เริ่มทดลองใช้"แว่นตาอัจฉริยะ"กูเกิล กลาส

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ว่า สายการบิน "เวอร์จิ้น แอตแลนติก" ได้เริ่มทดลองการใช้งานของแว่นตาอัจฉริยะ "กูเกิล กลาส" แล้ว โดยเริ่มทดลองที่สนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในช่วงทดลองเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์

แว่นตาดังกล่าวสามารถทำให้พนักงานสนามบินพิสูจน์ตัวตนของผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสนามบิน โดยข้อมูลที่ปรากฏบนแว่นตา จะทำให้พนักงานสามารถอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินล่าสุดให้แก่ผู้โดยสาร รวมทั้งบอกสภาพอากาศ และเหตุการณ์ หรือเทศกาลต่างๆ เกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของผู้โดยสารได้ โดยเมื่อแว่นตาได้เริ่มกระบวนการพิสูจน์ตัวตน กูเกิล กลาส จะสามารถเริ่มกระบวนการเช็กอินผู้โดยสารได้อยางอัตโนมัติ และให้บริการนักท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งการแปลภาษาตามสัญชาติผู้โดยสาร เกี่ยวกับข้อมูลการเดินทางได้

ขณะเดียวกัน ในทางกลับกัน ผู้โดยสารที่ใช้แว่นตาอัจฉริยะนี้ ก็สามารถมองเห็นแผนที่เดินทางเสมือนจริงของสนามบิน รวมทั้งห้องน้ำสนามบิน รวมทั้งยังสามารถประเมินราคาค่าโดยสารแท็กซี่ เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินที่หมายปลายทาง จากการแสดงข้อมูลของกูเกิล กลาส ผ่านจอเลนส์แว่นตา อีกทั้งยังสามารถใช้ในงานด้านอื่นๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ซึ่งแว่นตาสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ และรายละเอียดเกี่ยวกับงานศิลปะแต่ละชิ้น รวมทั้งการเลือกเมนูอาหารด้วย