เมื่อวันที่ 23 ส.ค.62 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้เรื่องจำนวนครั้งในการติดต่อทวงถามหนี้

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา9(3) และมาตรา16(1) แห่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า“ประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้เรื่องจำนวนครั้งในการติดต่อทวงถามหนี้ ”

ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ข้อ 3 ให้ผู้ทวงถามหนี้ติดต่อลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ได้ทราบการทวงถามหนี้ไม่เกินหนึ่งครั้งต่อหนึ่งวัน

ประกาศ ณ วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2562 พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการกำกับการทวงถามหนี้

24 สิงหาคม 2562 กรมอุตุนิยมวิทยารายงาน ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ราบเชิงเขาในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือ ด้วยความระมัดระวังในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

อนึ่ง พายุ “ไป๋ลู่” บริเวณตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านทางตอนใต้ของเกาะไต้หวันในวันนี้(24 สิงหาคม 2562) และจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศจีนฝั่งตะวันออกในวันที่ 25 สิงหาคม 2562 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง

พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร

สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม/ชม

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

วันที่ 22 ส.ค. รอยเตอร์ และ เอเอฟพี รายงานสถานการณ์การประท้วงรัฐบาลฮ่องกงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 12 ว่าผู้ชุมนุมกลุ่มคนรุ่นใหม่แสดงพลังยืนเรียงกันเป็นโซ่มนุษย์ และส่องไฟฉาย ที่ย่านใจกลางเมือง รวมถึงริมอ่าวสถานที่ท่องเที่ยวหลักของฮ่องกง พร้อมนัดแนะกลับไปสร้างแรงกดดันไปยังสนามบินนานาชาติฮ่องกงอีกครั้ง

การชุมนุมแบบโซ่มนุษย์ดังกล่าว ผู้ชุมนุมเผยว่า ยังเป็นการรำลึกวาระครบรอบ 30 ปี การชุมนุมวิถีบอลติก เมื่อปี 2532 ที่ผู้คนกว่า 2 ล้านคนยืนเรียงจับมือต่อกันเป็นโซ่มนุษย์ ระยะทาง 600 ก.ม. กินพื้นที่จากเอสโตเนีย ลัตเวีย ไปถึงลิทัวเนีย เพื่อต่อต้านการยึดครองของสหภาพโซเวียต

ส่วนการนัดหมายวันที่ 24 ส.ค. ผู้ชุมนุมแจ้งขัดขวางเส้นทางการเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงทุกเส้นทาง ได้แก่ รถบัส รถไฟเอ็มทีอาร์ รถไฟแอร์พอร์ต เอ็กซ์เพรส เชื่อมสนามบิน และอาจมีการกีดขวางเส้นทางคมนาคมเพื่อทำให้การจราจรติดขัดด้วยวิธีต่างๆ

การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นนี้ มีขึ้นพร้อมความตึงเครียดทางการทูตเพิ่มขึ้น ระหว่างรัฐบาลจีนกับชาติตะวันตก เมื่อจีนกักตัว นายไซมอน เฉิง เจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลอังกฤษประจำฮ่องกง ไว้ที่เมืองเซินเจิ้น นับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. ระบุว่าละเมิดกฎหมายสาธารณะ แต่ไม่ให้รายละเอียด ก่อนที่สื่อกระบอกเสียงของทางการจีนอ้างว่าถูกกักตัวเพราะใช้บริการโสเภณี

ครอบครัวของของนายเฉิง ปฏิเสธรายงานข่าวของ โกลบอลไทมส์ พร้อมโต้แย้งว่าสื่อของทางการจีนดังกล่าวแต่งเรื่องขึ้นเอง

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สถานกงสุลประเทศแคนาดาประจำฮ่องกงแถลงระงับการเดินทางไปจีนของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ด้วยเกรงว่าอาจตกเป็นเหยื่อ หลังจากทางการจีนกล่าวหาอังกฤษและชาติตะวันตก อยู่เบื้องหลังการประท้วงใหญ่ของฮ่องกง ส่วนอังกฤษแจ้งเตือนพลเมืองที่จะเดินทางจากจีนเข้าฮ่องกง ว่าจะถูกตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน โกลบอลไทมส์และซินหัว สำนักข่าวแห่งชาติของจีน ต่างรายงานโจมตีบริษัทรถไฟใต้ดิน เอ็มทีอาร์ของฮ่องกง ว่าช่วยเหลือผู้ประท้วงชาวฮ่องกง โดยเสนอให้นั่งรถไฟฟ้าไต้ดินฟรีและพิเศษแก่ผู้ประท้วงโดยเฉพาะเพื่อหลบหนีตำรวจ หลังผู้ชุมนุมนั่งประท้วงเรียกร้องความยุติธรรม ครบ 1 เดือนที่ถูกแก๊งเสื้อขาวทุบตีบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน

ด้านบริษัทเอ็มทีอาร์แถลงชี้แจงว่า บริษัทตั้งใจช่วย ผู้โดยสารที่ติดค้างในสถานี และเพื่อความปลอดภัยของ ผู้เดินทางและเจ้าหน้าที่บริษัท จึงเตรียมรถไฟที่มีผู้โดยสารเพื่อเลี่ยงหยุดที่สถานีที่ตำรวจกำลังสลายชุมนุม รวมถึง จัดตู้รถไฟว่างไว้สำหรับคนที่ต้องการออกจากสถานีทันที

สำหรับ เอ็มทีอาร์กลายเป็นบริษัทล่าสุดที่เผชิญกับสถานการณ์ที่อึดอัดใจจากจีน หลังสายการบินคาร์เธ่ย์ แปซิฟิก สายการบินประจำฮ่องกง ถูกกดดันจนซีอีโอต้องลาออก รับผิดชอบต่อกรณีที่กัปตัน แอร์โฮสเตส รวมถึงพนักงานอื่นๆ สนับสนุนการชุมนุม

คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เรียกประชุมสมาชิกฯตามคำขอจากรัสเซียกับจีน ด้วยวาระภัยคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างประเทศ หลังสหรัฐฯยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางระยะไกล 500 กม. ถือว่าละเมิดสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง ปี 2520 ซึ่งห้ามทดสอบขีปนาวุธ แต่สหรัฐฯกับรัสเซียต่างถอนตัวแล้วเมื่อ 2 ส.ค.

วันเดียวกัน โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ ออกมาปฏิเสธความหวังของสหรัฐฯที่จะทบทวนการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ครั้งใหม่ โดยนายสตีเฟน บีกัน ทูตพิเศษของสหรัฐฯประจำเกาหลีเหนือ ตัวแทนเจรจาระดับทำงาน อยู่ระหว่างเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้เพื่อเตรียมขั้นตอนเจรจากับเกาหลีเหนือ ขณะที่เกาหลีเหนือระบุการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางของสหรัฐฯและแผนเคลื่อนเครื่องบินรบ เอฟ-35 มาร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ ถือเป็น “อันตราย” อาจทำให้เกิดสงครามเย็นครั้งใหม่

ขณะเดียวกัน นายไมเคิล กริฟฟิน รัฐมนตรีกลาโหมด้านวิจัยและวิศวกรรมแห่งสหรัฐฯประกาศยกเลิกโครงการมูลค่าเกือบ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯเพื่อพัฒนาอาวุธทำลายขีปนาวุธฝ่ายศัตรู เพราะปัญหาเรื่องการออกแบบ และจะเสนอโครงการออกแบบใหม่.

"แทมมี ดักเวิร์ธ" สตรีอเมริกันเชื้อสายไทยคนแรกในตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เข้าพบ "บิ๊กตู่" ที่ทำเนียบ ชื่นชมพัฒนาการทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย เชื่อมั่นความสัมพันธ์ 2 ประเทศ

วันที่ 23 สิงหาคม 2562 เวลา 11.00 น. พันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ (Ladda Tammy Duckworth) สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเดินทางมาราชการที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2562 สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับในนามรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ยินดีที่ทราบว่า พันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ได้รับเชิญให้ไปบรรยายพิเศษที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นศิษย์เก่า ชื่นชมและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบสตรีอเมริกันเชื้อสายไทยคนแรกที่ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ อีกทั้งเป็นผู้ที่เคยรับราชการทหารสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นเพื่อนร่วมอาชีพ และเป็นตัวอย่างของทหารที่เข้มแข็ง เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนจำนวนมาก

ทางด้าน พันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ กล่าวว่า ยินดีที่การเดินทางมาไทยในครั้งนี้ได้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญของไทย ชื่นชมต่อพัฒนาการทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย ยินดีที่ไทยและสหรัฐฯ ดำเนินความสัมพันธ์ได้เต็มรูปแบบ เชื่อมั่นว่าไทยและสหรัฐฯ ในฐานะมิตรประเทศที่มีการติดต่อสัมพันธ์กันมายาวนานจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดต่อกันในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนการอบรม

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยในฐานะประธานอาเซียน พร้อมมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้สหรัฐฯ มีความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ในภูมิภาค และพร้อมช่วยแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคอื่นๆ อาทิ สถานการณ์ในรัฐยะไข่ สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ทะเลจีนใต้ อีกทั้ง พร้อมสนับสนุนการดำเนินบทบาทที่สร้างสรรค์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาค เพื่อสร้างสรรค์เสถียรภาพ ความมั่นคง ซึ่งจากยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ อาเซียนมี ASEAN Outlook on the Indo-Pacific เป็นกรอบแนวทาง พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเชิญชวนสหรัฐฯ ดำเนินความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมกับอาเซียน รวมไปถึงการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างความร่วมมือระดับอนุภูมิภาค อาทิ ACMECS เป็นต้น.