ข่าว
“กัญชา” ชนะโหวต! แคลิฟอร์เนียอนุญาตเสพเพื่อความเพลิดเพลิน

ใครจะเป็นประธานาธิบดีก็เป็นไป!? ดาราส่วนหนึ่งว่าเอาไว้แบบนั้น และต่างออกมาแสดงความยินดีที่ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียส่วนใหญ่ลงคะแนนให้ “กัญชา” เป็นสิ่งถูกกฎหมายที่สามารถใช้เสพเพื่อสร้างความบันเทิงได้ แม้ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ฝั่งฮอลลีวูดส่วนใหญ่หนุนหลังจะแพ้เลือกตั้ง อย่างพลิกล็อกสุดช็อก แต่อย่างน้อยวงการบันเทิงก็ยังได้เฮ เมื่อชาวแคลิฟอร์เนียมากกว่า 50% ได้ไปลงมติรับรองการเสพกัญชาในรัฐแคลิฟอร์เนียให้เป็นเรื่องถูกกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้งานนี้ สนูป ด็อกก์ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการเรียกร้องให้การเสพกัญชาเป็นเรื่องถูกกฎหมายได้นำทีมคนดังออกมาแสดงความยินดีกับเรื่องนี้ ท่ามกลางความเศร้าของชาวบันเทิงที่ ฮิลารี คลินตัน แพ้เลือกตั้งแก่มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยชาวรัฐแคลิฟอร์เนียถึง 56% ได้แสดงความเห็นชอบให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฏหมายในรัฐ โดยหลังจากนี้บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปี ขึ้นไปสามารถเสพกัญชาได้โดยไม่ถูกจับ ซึ่งนอกจาก สนูป ด็อก ที่ทั้งออกตัวสนับสนุนการใช้กัญชา และยังทำธุรกิจเกี่ยวกับยาเสพติดชนิดนี้ด้วย ก่อนหน้านี้ แคลิฟอร์เนีย คือรัฐที่อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ แต่กฎหมายมาตราที่ 64 จะทำให้ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียสามารถเสพกัญชาเพื่อความสุขส่วนตัวได้ด้วย

ปีติ สมเด็จพระบรมทรงโอบหลังปลอบสมเด็จพระเทพฯ

เมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 15 พ.ย. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช มีพระพิธีธรรม 8 รูปจากวัดวัดอนงคารามวรวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร


‘ยิ่งลักษณ์-สมชาย’ เข้าร่วมในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งระหว่างทางก็มีประชาชนที่มาถวายบังคมพระบรมศพ มาขอถ่ายรูปและให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อนเดินทางเข้าร่วมงาน


“กนก” สะกิดหน่วยงานลัดคิวสักการะพระบรมศพ ย้อนดูปชช.ต่อแถวตั้งแต่เช้ามืด

17 พ.ย. 59 นายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรและผู้ประกาศข่าว ได้โพสต์ข้อความลงแฟนเพจชื่อ “Kanok Ratwongsakul Fan page” โดยระบุว่า วันนี้อ่านข่าว เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ติติงผู้ที่ไม่ได้มาต่อแถวรอถวายสักการะพระบรมศพเหมือนประชาชน ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานรัฐ หรือองค์กรต่างๆ ที่มีตั้งแต่การทำหนังสือขอมาเป็นพิเศษ หรือหน่วยงานที่สลับหมุนเวียนกันมา ขอเข้าสักการะเป็นกรณีพิเศษ ผ่านช่องทางต่างๆ

ที่พบมากคือ มักจะเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมจากที่ขอมา 10 คน แต่ถึงเวลามาจริง มากันหลายสิบคน พอเข้ามานั่งในเต๊นท์พักคอยภายในกำแพงแก้วของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พอเสร็จช่วงพิธี คนกลุ่มนี้จะได้ขึ้นถวายสักการะพระบรมศพเลย เท่ากับคนกลุ่มนี้ได้ "แซงคิว" คนที่ต่อแถวอยู่ภายนอกนานหลายชั่วโมง

หลายคนยังนำโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพโดยไม่ให้เกียรติสถานที่ ขณะที่ชาวบ้านที่ต่อแถวมานานหลายชั่วโมง ยังไม่กล้าทำ ทุกครั้งที่กลุ่มพิเศษนี้แซงคิว จะยิ่งทำให้ประชาชนภายนอกเกิดภาวะอั้น แถวไม่ขยับ

เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง จึงอยากฝากไว้ว่า ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรใช้สิทธิพิเศษมาเข้าถวายสักการะ หรือถ้าใช้สิทธิ์ก็ไม่ควรแห่กันมามากเกินไป เพราะแม้แต่ญาติพี่น้องของข้าราชการในสำนักพระราชวังที่ทำงานถวาย ยังต้องต่อคิวเหมือนประชาชนทั่วไป "ขอให้เห็นใจประชาชนที่ต่อแถวหลายๆชั่วโมงด้วย"


องค์กรสิทธิระดับโลก ขอให้ยกเลิกข้อกล่าวหาต่อ “ทนายความกลุ่มปชต.ใหม่”

สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ออกปฏิบัติการด่วนเรียกร้องสมาชิกและผู้สนับสนุนมากกว่าเจ็ดล้านคนทั่วโลกให้ร่วมกันเขียนจดหมายส่งถึงทางการไทย เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกทุกข้อกล่าวหาต่อ “ศิริกาญจน์ เจริญศิริ” หรือ “จูน” ทนายความสิทธิมนุษยชนที่โดนข้อหาปลุกระดมอย่างไม่เป็นธรรม ในแถลงการณ์ระบุว่า ศิริกาญจน์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและด้านข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เธอถูกดำเนินคดีหลังให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ โดยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ตำรวจได้แจ้งข้อหาว่าว่าเธอทำความผิดฐานยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญา และชุมนุมทางการเมืองเกินห้าคนตามคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ซึ่ง ศิริกาญจน์จะต้องเข้ารับการพิจารณาที่ไม่เป็นธรรมในศาลทหารเมื่อถูกสั่งฟ้อง และหากถูกตัดสินว่ามีความผิด เธออาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี ทั้งนี้ ศิริกาญจน์ถูกดำเนินคดีอยู่ก่อนแล้วในข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานและซ่อนเร้นพยานหลักฐานตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เธอปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นรถยนต์โดยไม่มีหมายค้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559


อธิบดี DSI ลงนามคำสั่งพักราชการ 2 รายพัวพันทุจริตคดีฟอกเงิน

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในคำสั่งพักราชการข้าราชการดีเอสไอ 2 ราย ที่ถูกพนักงานสอบสวนสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 แจ้งข้อหาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรง โดยมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ระดับ 9 เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรง สำหรับข้าราชการดีเอสไอที่ถูกพักราชการและสอบสวนความผิดทางวินัย 2 ราย คือ พ.ต.หญิง นาฏยา มุตตามระ ผู้อำนวยการส่วนช่วยอำนวยการและประชาสัมพันธ์ และ พ.ท.อมร มุตตามระ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ สมัยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีดีเอสไอ โดยบุคคลทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน ทั้งนี้ หลักฐานในการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของกลุ่มนายหน้าขายที่ดินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ให้กับ บริษัท พิษณุโลก เอทานอล จำกัด หรือคดีพิเศษที่ 42/2559 โดยพบว่า มีการหักค่านายหน้าในการขายที่ดิน 60 ล้านบาท ซึ่งเงิน 40 ล้านบาท เชื่อมโยงกับข้าราชการดีเอสไอ


‘เดียร์’ สวนคนวิจารณ์’ยิ่งลักษณ์’ ถ้าช่วยชาวนาได้ดีกว่าก็รีบทำ

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงการขายข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า สิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำเป็นเพียงส่วนเล็กๆ เพื่อช่วยระบายข้าว ให้ชาวนาได้เจอกับผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่ผ่านคนกลาง ปริมาณข้าวที่นำมาขายถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณข้าวทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด จึงไม่ทำให้กลไกราคาตลาดเสีย ทำเพื่อชาวนา อีกทั้งหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อช่วยเหลือชาวนาแล้ว เหมือนเป็นแรงผลักดันให้หลายๆ ภาคส่วนที่กลัวน้อยหน้า ต้องรีบหาวิธีเพื่อช่วยเหลือชาวนาเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลทหารหรือพรรคประชาธิปัตย์ “คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าท่านมีวิธีที่ช่วยชาวนาได้ดีกว่านี้ และชาวนาได้รับประโยชน์สูงสุด ก็ให้รีบทำ หรือแท้ที่จริงที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันนั้นเพราะต้องการแสดงถึงความอิจฉาริษยาที่มีต่อนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน และยังคงเป็นที่รักของคนไทยจำนวนมาก” น.ส.ขัตติยากล่าว


คุณแม่ออสซี่ท้องสองครั้งติด ห่างกันแค่ 10 วัน หาได้ยากมาก

เมื่อ 16 พ.ย. บีบีซีรายงานเรื่องราวแปลกและหาได้ยากในทางการแพทย์ เมื่อหญิงชาวออสเตรเลียตั้งท้องห่างกันเพียง 10 วัน ก่อนจะคลอดบุตรสาวสองคนพร้อมกัน ชาร์ล็อต และโอลิเวีย เป็นเด็กน้อยฝาแฝดที่คลอดพร้อมกันเมื่อสิบเดือนก่อน มีรูปร่างและน้ำหนักต่างกัน แพทย์พบว่า คุณแม่ชื่อ เคต ตั้งครรภ์ทั้งสองห่างกัน 10 วัน ซึ่งเป็นกรณีที่หาได้ยากมาก เพิ่งเคยพบ 10 กรณีเท่านั้นทั่วโลก “เราไม่รู้ความพิเศษนี้ จนกระทั่งพวกแกเกิดค่ะ” เคต ฮิลล์ให้สัมภาษณ์สื่อเซเวน เน็ตเวิร์กในออสเตรเลีย ขณะที่นายปีเตอร์กล่าวติดตลกว่า “เป็นโฮลอินวัน น่ะครับ” เคต ฮิลล์ เผยว่าตนเอง เข้ารับการรักษาอาการทางรังไข่ polycystic ovary syndrome ด้วยฮอร์โมน เนื่องจากอยู่ในข่ายของผู้มีบุตรยาก ไม่สามารถผลิตไข่ได้ แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นหญิงสาวตั้งครรภ์ขึ้นสองรอบ ด้วยสภาวะที่เรียกว่า ซูเปอร์ฟีเทชั่น ซึ่งเป็นการตั้งครรภ์ติดๆ กัน แม้จะมีเพศสัมพันธ์ครั้งเดียว จากปกติที่ไข่ต้องใช้เวลารอบเดือน แต่ภาวะนี้ตั้งครรภ์ต่อกันได้เลย

เดนเวอร์ไฟเขียวใช้กัญชาถูกกม.เหมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

16 พฤศจิกายน เมืองเดนเวอร์ เมืองหลวงของรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา กลายเป็นเมืองแรกในสหรัฐอเมริกาที่เปิดทางให้การบริโภคกัญชาเพื่อเข้าสังคม ในธรุกิจอย่างบาร์ โรงเรียนสอนโยคะ หรือห้องแสดงผลงานศิลปะ เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย กฎหมายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายจำนวนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกัญชาที่ถูกบรรจุลงในบัตรลงคะแนนเสียงเพื่อถามความเห็นของประชาชน 9 รัฐ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเมืองเดนเวอร์ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะนำออกบังคับใช้หลังการนับบัตรลงคะแนนเกือบเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด โดยกฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามความเชื่อที่ว่าผู้ใหญ่ควรได้รับการเปิดโอกาสให้ใช้กัญชาในการเข้าสังคมเช่นเดียวกันกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเปิดทางให้ธุรกิจเอกชนในเมืองเดนเวอร์ สามารถขออนุญาตในการเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าสามารถนำกัญชามาบริโภคได้ โดยธุรกิจดังกล่าวจำเป็นต้องขออนุญาตและต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจในท้องถิ่น รวมถึงประชาชนในละแวกดังกล่าวด้วย