ข่าว
สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนอีก 5 รายในรัฐนิวยอร์ก ผู้ว่าการรัฐยันไม่ล็อกดาวน์

นางเคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แถลงยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน จำนวน 5 รายในนครนิวยอร์กซิตี้ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาสหรัฐฯ หรือในช่วงเช้าวันนี้ (3 ธ.ค.) ตามเวลาไทย

นางโฮซูล ระบุว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนรายหนึ่งถูกพบในเขตซัฟโฟล์ค เคาตี้ในเมืองลองไอส์แลนด์ ส่วนอีก 4 รายนั้นถูกพบใน 3 เมืองของนิวยอร์กซิตี้ โดย 2 รายพบในเมืองควีนส์ 1 รายพบในเมืองบรูคลิน และอีก 1 รายพบในเมืองแมนฮัตตัน

อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ยืนยันว่า การพบไวรัสโอไมครอนระบาดในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า รัฐนิวยอร์กจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนกับที่เคยประกาศใช้ในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคธุรกิจ และทำให้ประชาชนในรัฐนิวยอร์กหลายล้านคนต้องตกงาน

“เรายังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าเมื่อก่อน ประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้นและไม่มีความตื่นตระหนก สถานการณ์ในขณะนี้ยังคงเป็นแค่วิกฤตด้านสาธารณสุข แต่ไม่ใช่วิกฤตรุนแรงที่จะนำไปสู่การล็อกดาวน์” ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าว

สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยผู้ติดเชื้อรายนี้เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้ และได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์

หลังจากนั้นเพียงวันเดียว สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนรายที่ 2 ในรัฐมินนิโซตา โดยผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเพิ่งเดินทางกลับจากนครนิวยอร์ก หลังจากที่เข้าร่วมการประชุม Anime NYC 2021 ในระหว่างวันที่ 19-21 พ.ย.

ขอขอบคุณ

ภาพ : Yuki IWAMURA / AFP

เปิดหวูด รถไฟขบวนแรก ทางรถไฟสายจีน-ลาว ออกจากเวียงจันทน์แล้ว

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อบ่ายวันศุกร์ (3 ธ.ค.) รถไฟขบวนแรกของทางรถไฟสายจีน-ลาว ซึ่งเชื่อมระหว่างนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และนครหลวงเวียงจันทน์ของ สปป.ลาว ได้ออกเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ หลังจากทางรถไฟข้ามพรมแดนสายนี้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ธ.ค.

รายงานระบุว่า สินค้าส่วนหนึ่งบนรถไฟขบวนปฐมฤกษ์คือผลิตภัณฑ์แร่โพแทช ซึ่งผลิตโดยกิจการร่วมค้าจีน-ลาว “ซิโน-อะกริ อินเตอร์เนชันแนล โพแทช คอมพานี” (Sino-Agri International Potash Company)

“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ขนส่งผลิตภัณฑ์ผ่านรถไฟขบวนแรกที่มุ่งสู่จีน การดำเนินงานของทางรถไฟสายนี้จะช่วยส่งเสริมการผลิตและการส่งออกโพแทสเซียมของลาว” ถง หย่งเหิง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ซิโน-อะกริ อินเตอร์เนชันแนล โพแทช คอมพานี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว

นายไซ มะนีทอง ช่างเทคนิคประจำห้องปฏิบัติการท้องถิ่นของบริษัทฯ เผยว่า การเปิดบริการทางรถไฟลาว-จีน เป็นสิ่งที่ประชาชนใน สปป.ลาวรอคอยมานานหลายทศวรรษ และเป็นข้อพิสูจน์มิตรภาพระหว่างสองประเทศ

“บริษัทของเรายังโอบรับโอกาสเพื่อการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น พนักงานของบริษัทฯ รวมถึงประชาชนท้องถิ่นจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะการเปิดบริการทางรถไฟสายนี้” นายไซ กล่าว

Cr ที่มา-ภาพ : Xinhuathai

ประธานโมเดอร์นาระบุวัคซีนต้านเชื้อโอไมครอน พร้อมใช้งาน มี.ค.

ประธานบริษัทโมเดอร์นาระบุทางบริษัทกำลังเดินหน้าเร่งผลิตวัคซีนรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน คาดว่าจะยื่นขอการรับรองและพร้อมใช้งานในเดือนมีนาคมปีหน้า

3 ธ.ค. 2564: นายสตีเฟน โฮเก ประธานบริษัทโมเดอร์นาหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รายใหญ่ของโลก ระบุถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนกระตุ้น เพื่อรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน โดยทางบริษัทได้เริ่มเดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพวัคซีนแล้ว และคาดว่าจะสามารถทดสอบประสิทธิภาพ และยื่นขอรับรองอนุมัติใช้งานโดยทางการสหรัฐฯได้เร็วที่สุดภายในเดือนมีนาคมปีหน้า นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาวัคซีนที่รับมือได้ถึง 4 สายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงเชื้อโอไมครอนด้วย ซึ่งยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน

สำหรับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อรับมือกับโอไมครอนโดยเฉพาะนี้ ทางบริษัทกำลังเร่งมืออย่างเต็มที่ในการทดลองประสิทธิภาพ แต่คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยจนถึงมีนาคม หรืออาจจะล่วงเลยไปถึงไตรมาสที่ 2 ของปี ซึ่งขึ้นอยู่กับการดำเนินการขององค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อแนะนำต่างๆ หรือปรับขั้นตอนในการอนุมัติใช้งานอย่างไรให้สั้นลง เพื่อให้ทันรับมือกับการระบาดที่รวดเร็วของเชื้อโอไมครอน

นายโฮเกยังกล่าวถึงรูปแบบในการกลายพันธุ์ของเชื้อโอไมครอน ที่พบข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่าจะลดประสิทธิภาพของวัคซีน แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าจะลดประสิทธิภาพลงไปมากน้อยเพียงใด แต่ย่อมส่งผลกระทบต่อวัคซีนที่ทุกคนใช้กันอยู่ในปัจจุบันไม่มากก็น้อย แต่เขายังเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่ใช้งานอยู่จะยังสามารถชะลอการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอนลงได้บ้าง แม้จะไม่สามารถหยุดการระบาดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม โดยทางบริษัทกำลังทดสอบลงลึกไปด้วยว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นาครบโดสแล้ว จะสามารถปกป้องเชื้อกลายพันธุ์ได้มากน้อยเพียงใด เช่นเดียวกับผู้ที่ได้รับวัคซีนในปริมาณ 50 ไมโครกรัม และ 100 ไมโครกรัมสำหรับเข็มกระตุ้น จะมีผลในการป้องกันโรคได้แตกต่างกันหรือไม่ด้วย

ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย


นิวยอร์กกุมขมับ เจอเชื้อโอไมครอนเพิ่มอีกหลายเคส

เชื้อโอไมครอนเริ่มระบาดวงกว้างในสหรัฐฯ ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์ในมหานครนิวยอร์กพร้อมกันหลายเคส หนึ่งในนั้นเพิ่งกลับไปจากเข้าร่วมงานประชุมอนิเมะในแมนฮัตตัน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในนครนิวยอร์กแถลงพบผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอนหลายเคสพร้อมกัน โดยในจำนวนนี้มีชายคนหนึ่งที่เพิ่งไปร่วมงานประชุมอนิเมะในแมนฮัตตันเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านที่มินเนโซตา และตรวจพบเชื้อ

นอกจากนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนอีกอย่างน้อย 5 คน หนึ่งในนั้นมาจากลองไอส์แลนด์ และเพิ่งเดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ มีผู้พักอาศัยในบรู๊คลิน และย่านควีนส์ และอีกรายที่น่าจะติดเชื้อจากการเดินทาง

ด้านนายบิล เดอ บลาซิโอ ระบุว่า จากรูปแบบในการแพร่กระจาย ทำให้เชื่อได้ว่าเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่กำลังเริ่มแพร่กระจายในชุมชน และไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันในงานใดงานหนึ่งเท่านั้น ทำให้ต้องเร่งเตือนประชาชนให้ตื่นตัวในการรับข้อมูลเพื่อเฝ้าระวัง

การพบการติดเชื้อเพิ่มเติมในนครนิวยอร์ก เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่งประกาศว่าพบผู้ติดเชื้อรายแรกในรัฐแคลิฟอร์เนียเพียงแค่วันเดียว โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ นอกจากนี้ยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้ออีกรายเมื่อวันพฤหัสบดีเป็นผู้หญิงในรัฐโคโลราโด ที่มีประวัติการเดินทางไปแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ งานประชุมอนิเมะ 2021ในนครนิวยอร์ก จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19-21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมงานราว 50,000 คน โดยผู้เข้าร่วมงานทุกคนต้องสวมหน้ากากเข้างาน และต้องแสดงหลักฐานการรับวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งหลังจากที่พบว่ามีหนึ่งในผู้เข้าร่วมงานติดเชื้อโควิด-19 เชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน ทางการก็กำลังเร่งติดตามผู้เข้าร่วมงานทุกคน เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อที่จะกระจายเป็นวงกว้างต่อไป เนื่องจากนครนิวยอร์กกำลังจะมีการจัดงานใหญ่ คือ ขบวนพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้าประจำปี และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวอเมริกันและชาวต่างชาติจำนวนมากเข้าร่วมงาน

ที่มา : แชนแนลนนิวส์เอเชีย


กล้องเจมส์เวบบ์เตรียมปล่อยตัวตามแผนเดิม

3 ธ.ค. 2564: กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) เป็นความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซา องค์การอวกาศยุโรป และองค์การอวกาศแคนาดา ซึ่งคาดการณ์ว่าเครื่องมือทรงพลังนี้จะสำรวจเข้าไปในจักรวาลห้วงลึก ตั้งแต่ภายในระบบสุริยะของเราไปจนถึงกาแล็กซีที่สังเกตได้ไกลที่สุดในจักรวาลยุคแรก เรียกว่าช่วยให้มองเห็นประวัติศาสตร์ของจักรวาลก็ว่าได้ มนุษยชาติก็จะเข้าใจที่มาของจักรวาลและที่มาของพวกตนเองเช่นกัน

ทว่าหลังจากเจอโรคเลื่อนมาหลายครั้งหลายครา หนนี้ก็คาดหวังว่ากล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ จะได้ปล่อยตัวออกใช้งานได้เสียที ซึ่งข่าวดีแว่วมาว่า ทีมวิศวกรที่ปลุกปั้นงานกับกล้องกล้องโทรทรรศน์อวกาศดังกล่าวมานาน ได้เสร็จสิ้นการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่ากล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ พร้อมสำหรับการทะยานไปทำงานออกนอกโลกแล้ว และเตรียมการที่ปล่อยขึ้นสู่วงโคจรโลกในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ เวลา 07.20 น. ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา

โดยในช่วงตั้งแต่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา องค์การนาซาได้อนุมัติให้เริ่มเติมเชื้อเพลิง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวได้ใช้เวลาประมาณ 10 วัน จากนั้นปลายเดือนนี้กล้องโทร ทรรศน์อวกาศที่สร้างมากว่า 25 ปี ก็จะเข้าสู่สนามการทำงานจริงแล้ว

Credit : NASA


สวิตเซอร์แลนด์กักตัว 2,000 คน หลังพบคนติด “โอไมครอน” ในโรงเรียนนานาชาติ

วันที่ 3 ธ.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า ทางการรัฐเจนีวาและรัฐโวด์ของสวิตเซอร์แลนด์กักตัวคน 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก หลังตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์โอไมครอน จำนวน 2 คน ในโรงเรียนนานาชาติแห่งเจนีวา ชาเตญเนอเร แคมปัส เมื่อสัปดาห์นี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังรัฐเจนีวายืนยันผู้ติดเชื้อโอไมครอนจำนวน 1 คน ที่เดินทางกลับมาจากแอฟริกาใต้ ส่วนอีกคนต้องสงสัยว่าติดเชื้อ มีความเชื่อมโยงกับคนแรก

หน่วยงานสาธารณสุขรัฐเจนีวาออกแถลงการณ์เมื่อช่วงปลายวันพฤหัสบดีที่ 2 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นว่าหน่วยงานทางการแพทย์รัฐโวด์และเจนีวาร่วมกันตัดสินใจกักตัวนักเรียนและบุคลากรสถานศึกษา 2,000 คน เป็นเวลา 10 วัน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1,600 คน นอกจากนี้ ผู้ปกครองและญาติพี่น้องจะต้องตรวจหาเชื้อด้วย

หน่วยงานสาธารณสุขไม่ได้ระบุว่า การกักตัวล่าสุดเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายแรกที่ยืนยันว่าติดเชื้อโอไมครอนหรือไม่ แต่กล่าวว่าผู้ป่วยทั้งสองมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดภายในครอบครัวกับผู้มีผลตรวจโควิดเป็นบวกที่เดินทางกลับจากทริปแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์ระบุว่าผู้ติดเชื้อโอไมครอนจำนวนหนึ่งกระจายไป 5 รัฐทั่วประเทศ และใช้มาตรการห้ามการเดินทางจากแอฟริกาใต้ และต้องกักตัวผู้โดยสารขาเข้าจาก 23 ประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น อังกฤษ และแคนาดา

ติดโควิดโอไมครอนพุ่ง WHO เรียกร้องทุกประเทศ ยกระดับรองรับด้านสาธารณสุข

องค์การอนามัยโลก เรียกร้องนานาประเทศ ยกระดับการรองรับด้านสาธารณสุขและเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด ขณะพบผู้ติดเชื้อโควิดโอไมครอนพุ่ง

3 ธ.ค. 64 องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) เรียกร้องให้นานาประเทศยกระดับการรองรับด้านสาธารณสุขและดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชาชนในประเทศ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ Omicron (โอไมครอน) ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น พร้อมทั้งชี้ว่าการควบคุมการเดินทาง ด้วยการปิดพรมแดน อาจช่วย ‘ซื้อเวลา’ แต่ไม่ใช่คำตอบเดียวในการสกัดกั้นการระบาดของเชื้อโควิด-19

‘การปิดพรมแดนอาจช่วยซื้อเวลา แต่ทุกประเทศและทุกชุมชนต้องเตรียมพร้อมรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นรอบใหม่’ ทาเคชิ คาไซ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าว พร้อมกับยังเรียกร้องให้ประชาชนไม่ควรแค่จะพึ่งแต่มาตรการปิดประเทศ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเตรียมตัวรับมือเชื้อโควิดกลายพันธุ์เหล่านี้ที่มีศักยภาพในการแพร่กระจายติดเชื้อได้สูงขึ้น และจนถึงขณะนี้ ข้อมูลที่สามารถหาได้ชี้ว่าพวกเราต้องไม่เปลี่ยนวิธีการ

ทาเคชิ คาไซ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ควรฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชาชนในกลุ่มเปราะบางให้ได้ทั้งหมด และเข้มงวดกับมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด อย่างเช่น การสวมหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม

ที่มา : Channelnewsasia