ในความพยายามที่จะช่วยระงับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ โรงพยาบาลท้องถิ่น ซิดาร์ส ซิไน (Cedars Sinai) ในรัฐแคลิฟอร์เนียร่วมช่วยป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่โดยการขอให้ทุกคนที่มาที่โรงพยาบาลสวมหน้ากากในขณะที่อยู่ในอาคาร
ผลกระทบของไข้หวัดใหญ่ดูเหมือนจะเลวร้ายลงทุกวัน จนถึงตอนนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไข้หวัดใหญ่นับ 100ราย และคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้ออีกนับ 10 รายในอาทิตย์นี้ แต่ในปีที่ผ่านมา ในช่วงเวลาเดียวกันได้มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เพียง 9 ราย “เราได้เผชิญกับฤดูไข้หวัดที่รุนแรง ไข้หวัดได้เข้ามากระทบเราแรงและรวดเร็วมาก เชื้อหวัดแบบนี้ เราไม่ได้เจอตั้งแต่การแพร่ระบาดของ H1N1 แล้ว” ดร,เรคฮา เมอร์ที กล่าว เขาได้กล่าวอีกว่า “เฉพาะโรงพยาบาลซิดาร์ส ซิไนก็ได้รับรักษาผู้ป่วยจากไข้หวัดใหญ่ 30-35 รายต่ออาทิตย์ตั้งแต่เดือนธันวาคม และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่น่าแปลกใจคือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ได้รับรายงานว่าเป็นเด็กและหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยกลางคน”
แพทย์แนะนำว่าพฤติกรรมสุขอนามัยประจำวันเช่น การล้างมือและการใช้เจลทำความสะอาดเป็นขั้นตอนที่จะใช้ในการป้องกันการระบาดของเชื้อไข้หวัดได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น การฉีดวัคซีนก็คือการป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ได้ผลดีที่สุด ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะไปฉีดวัคซีนป้องกันเพราะวัคซีนใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันและดูเหมือนว่าเชื้อไขหวัดใหญ่จะยังคงระบาดไปอีกสักระยะ
(แปลและเรียบเรียงโดย ธัญญ่า บราวน์)
กงสุลใหญ่ เจษฎา กตเวทิน เผยโครงการประสานความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ใช้งานไทยนิวเยียร์ สงกรานต์ เฟสติวัล ปีนี้กู้ภาพพจน์ประเทศไทย
สัปดาห์ที่ผ่านมา นายเจษฎา กตเวทิน กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนมีแนวคิดว่าจะใช้งานไทยนิวเยียร์ สงกรานต์ เฟสติวัล ประจำปี 2014 ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายนนี้ เป็นเครื่องมือในการกู้ภาพพจน์ของประเทศไทย ที่มีความวุ่นวายจากปัญหาความขัดแย้งรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา
“ผมเพิ่งได้ประชุมกับบอร์ดของไทยนิวเยียร์ฯ มา ก็คุยกันในที่ประชุมว่า ปัญหาใหญ่ของงานไทยนิวเยียร์ฯ คือทำยังไงถึงจะเพิ่มสปอนเซอร์จากเมืองไทยให้มากขึ้นได้ ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้น ในส่วนของกระทรวงต่างประเทศ นี่จะประสานงานให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพราะอธิบดีกรมสารนิเทศเป็นกรรมการบอร์ดของการท่องเที่ยวด้วย จะประชุมกันทุกสองเดือน ก็จะเอาเรื่องนี้เสนอต่อที่ประชุมเลยว่า เป็นโอกาสดีที่จะใช้งานนี้สำหรับฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศไทย เพราะอย่างที่ทราบกันงานนี้มันใหญ่มาก คนมากันเป็นแสนๆ คน”
กงสุลใหญ่ฯ กล่าวด้วยว่า ตนมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในช่วงที่มีงานไทยนิวเยียร์ สงกรานต์ เฟสติวัลนั้น สถานการณ์ตึงเครียดในประเทศไทยน่าจะคลี่คลายไปมากแล้ว ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ตนก็อยากจะให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ใช้งานนี้เป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ประเทศไทยอย่างเต็มที่
“คือทาง ททท. เขาก็มีส่วนร่วมไทยนิวเยียร์ฯ อยู่ทุกปี แต่ปีนี้ถ้าจังหวะมันดี ก็น่าจะเป็นงานใหญ่งานแรกหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายมันจบลงแล้ว ถ้าเป็นไปตามแผนนะ ก็ทำให้เต็มที่เลย เชิญผู้ว่า กทม. มาด้วย เพื่อให้ท่านมาบอกกับเขาว่าตอนนี้กรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ปกติแล้ว ไปเที่ยวได้แล้ว ไปลงทุน ไปทำธุรกิจกันได้แล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากต้นเดือนเมษายน เหตุการณ์ในกรุงเทพฯ ยังไม่คลี่คลายจะมีแผนอย่างไรหรือไม่ กงสุลใหญ่ฯ ตอบว่า ก็คงจะแล้วแต่สถานการณ์
“ถ้าไม่จบก็คงจะไปบอกว่ามันจบไม่ได้แล้ว ก็คงต้องทำกันไปตามสถานการณ์” กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส กล่าว
คนไทย แอล.เอ. ชุมนุมหน้าสถานกงสุลใหญ่สนับสนุนการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาฯ ยกป้ายขนาดยักษ์ 50 ฟุต และเปล่งเสียงชวนไปเลือกตั้ง ‘Respect My Vote’ ยื่นจดหมายเปิดผนึก กงสุลเจษฎาตอบรับฟังความเห็นทุกฝ่ายตามหลักประชาธิปไตย เผยเจ้าหน้าที่ State Department ไปเฝ้าดูให้ความคุ้มครอง
เมื่อเช้าวันที่ 31 มกราคม ศกนี้ ที่บริเวณทางเท้าหน้าสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลีส มีชาวไทยราว 88 คนไปรวมตัวกันเปล่งเสียง และยกป้ายสนับสนุนการเลือกตั้งในประเทศไทยที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาให้มีขึ้นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยได้รวมตัวกันที่ฝั่งตรงข้ามถนน ส่วนใหญ่ถือป้ายขนาดย่อมข้อความสนับสนุนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้ และประกาศเจตนารมณ์รักประชาธิปไตย ต่อต้านการรัฐประหาร ไม่เห็นด้วยกับการขัดขวางเลือกตั้ง รวมทั้งวลีสัญญลักษณ์ที่กำลังเป็นที่นิยมชมชื่น ‘Respect My Vote’
ผู้ชุมนุมช่วยกันยกป้ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่สูงไม่ต่ำกว่า 6 ฟุต ยาวประมาณ 50 ฟุต ข้อความส่วนมากแสดงความชื่นชมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และย้ำให้คนไทยออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่จะถึง จากนั้นขบวนพากันเดินยกป้ายไปตามทางเท้าสู่ทางม้าลายเพื่อข้ามถนนแล้วเดินย้อนกลับขึ้นไปยังหน้าสถานกงสุล ผู้ร่วมเดินพากันเปล่งเสียงถ้อยความว่า “2 กุมภา ไปเลือกตั้ง” และ “Respect My Vote” ต่อเนื่องกันตลอดเวลา
จนกระทั่งเวลาราว 10.00 น. นายเจษฎา กตเวทิน กงสุลใหญ่ประจำท้องที่ลอส แองเจลีสและมลรัฐภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลอีกสามสี่ท่านได้ลงมาจากสำนักงานบนชั้นสองของอาคารเพื่อพบกับผู้ชุมนุมซึ่งขอถ่ายภาพร่วมกับกงสุลอยู่พักหนึ่ง แล้วตัวแทนผู้ชุมนุมได้กล่าวเรียนให้ทราบถึงวัตถุประสงค์การไปชุมนุมว่า เนื่องจากเมื่อมีการประกาศยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้แล้ว ได้เกิดการบอยคอตโดยพรรค (ประชาธิปัตย์) ฝ่ายค้านขึ้นในประเทศไทยเป็นเวลาติดต่อกันมาสามเดือน และยังล้นมาถึงบริเวณหน้าสถานกงสุลนี้เองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ดังนั้นกลุ่มคนไทยที่อยู่อาศัยในพื้นที่นครลอส แอนเจลีส และบริเวณรายรอบใกล้เคียงมีความเป็นห่วงว่าในวันเลือกตั้งจริง วันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ สถานกงสุลใหญ่ลอส แองเจลีสจะมีอันเป็นไปไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่จัดการเลือกตั้งได้เหมือนเช่นหน่วยเลือกตั้งหลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้พร้อมใจกัน และนัดหมายอย่างฉุกละหุกไปร่วมกันแสดงออกสนับสนุนการใช้สิทธิเสียงตามระบอบประชาธิปไตย และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่สถานกงสุลปฏิบัติหน้าที่ให้ลุล่วงไปได้อย่างเรียบร้อย ตัวแทนผู้ชุมนุมกล่าวด้วยว่าขอฝากจดหมาย (เปิดผนึก) ไปถึงรัฐบาลรักษาการ แจ้งให้ทราบว่ายังมีคนไทยในท้องที่อีกจำนวนมากกว่านี้ที่ติดธุระการงานไม่สามารถไปปรากฏตัวได้ในครั้งนี้ แต่พวกเขาล้วนต้องการใช้สิทธิทางประชาธิปไตย และสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งนี้
เนื้อความในจดหมายเปิดผนึกจากผู้ชุมนุมที่เรียกตนเองว่า “กลุ่มคนไทยในลอส แอนเจลีสผู้สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง” ตอนหนึ่งกล่าวว่า “การนี้พวกเราชาวไทยที่อาศัยในเขตมหานครลอส แอนเจลีส และย่านใกล้เคียง ซึ่งยึดมั่นในแบบแผนการปกครองทางประชาธิปไตย เห็นชอบและส่งเสริมกรรมวิธีเลือกตั้งให้ได้มาซึ่งตัวแทนของประชาชนผู้เป็นอธิปัตย์สูงสุดแห่งชาติ สุดที่จะทนดูการใช้อำนาจบาดใหญ่เหนือกฏหมายคุกคามและปิดกั้นการใช้สิทธิอันชอบธรรมของผู้ที่ต้องการไปเลือกตั้งได้”
กงสุลใหญ่กล่าวตอบมีเนื้อความว่า ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ สถานกงสุลทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งอย่างครบถ้วนให้ลุล่วงไปตามหน้าที่อยู่แล้ว จะเร่งรีบส่งจดหมายที่มอบนี้ไปถึงมือรัฐบาล (รักษาการ) อย่างแน่นอน นอกจากนั้นการทำงานของสถานกงสุลก็เป็นผู้รับฟังคำร้อง ข้อคิดเห็นของทุกฝ่ายตามหลักการประชาธิปไตย แล้วรายงานให้รัฐบาลทราบเป็นปกติอยู่แล้วเช่นกัน จึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร กงสุลกล่าวจบแล้วก้เดินกลับขึ้นสำนักงาน ผู้ชุมนุมแยกย้ายกันกลับเมื่อเวลาราว 10.30 น.
อนึ่ง ผู้ประสานงานการชุมนุมท่านหนึ่งเปิดเผยว่าในช่วงเช้าขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ตั้งขบวนยกป้ายกันอยู่ทางฝั่งตรงข้ามถนนนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของกระทรวงต่างประเทศ (Department of State) สองท่านขอพบ แจ้งให้ทราบว่าทั้งสองได้รับมอบหมายให้ไปเฝ้าดูความเรียบร้อย โดยได้ประสานงานอยู่กับทางการตำรวจลอส แอนเจลีส (LAPD) เพื่อคุ้มครองไม่ให้เกิดเหตุร้าย (เจ้าหน้าที่ท่านนั้นใช้คำพูดว่า “..to protect you from any attack.”)
นายม้าร์ค ฮ้าร์ทฟีลด์ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกด้วยว่าทางการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ติดตามความเคลื่อนไหวของชุมชนไทยอยู่ตลอดเวลาจึงทราบล่วงหน้าถึงการชุมนุมนี้ และทราบด้วยว่าฝ่ายตรงข้ามก็ทราบเช่นกัน จึงได้ส่งตนและผู้ร่วมงานมาตรวจสอบในพื้นที่โดยตรง หากมีเหตุอะไรเกิดขึ้นหลังจากตนเดินทางออกจากพื้นที่แล้วให้โทรศัพท์ถึงตนโดยตรงตามหมายเลขพกพา พร้อมทั้งแนะนำว่าการชุมนุมอย่าได้ปิดกั้นทางเข้าออกของธุรกิจและผู้อยู่อาศัยบริเวณนั้น
หมายเหตุ เนื้อหาทั้งหมดในจดหมายเปิดผนึกดังต่อไปนี้
ที่ นครลอส แอนเจลีส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557
เรื่อง สนับสนุนการจัดให้มีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย และนอกราชอาณาจักร
เรียน รัฐบาลรักษาการของนายกรัฐมนตรี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านนายเจษฎา กตเวทิน กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แองเจลีส
โดยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้มีการยุบสภา และกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ โดยประกาศในพระราชกฤษฎีกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่การก็ยังปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์ฝ่ายค้านทำการบอยคอตไม่ยอมมีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งครั้งนี้ แล้วยังสนับสนุนให้สมาชิกระดับนำของพรรคจำนวนหนึ่งลาออกไปดำเนินการชักนำผู้คนทำการประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีกับคณะรัฐมนตรีรักษาการผละจากหน้าที่ เพื่อกลุ่มของตนจะได้ทำการแต่งตั้งสภาบุคคลสาขาอาชีพ 400 คน ซึ่งจะมีพวกพ้องของตนรวมอยู่ด้วยจำนวน 1 ใน 4 ทั้งนี้โดยที่สมาชิกสภาดังกล่าวมิได้มาจากกระบวนการเลือกตั้งตามครรลองระบอบประชาธิปไตยแต่อย่างใด
ตลอดเวลาของการประท้วงต่อเนื่องมาเป็นเวลาสามเดือนอันทำความเดือดร้อนให้เกิดแก่ประชาชนผู้อยู่อาศัยใกล้บริเวณการชุมนุมและเวทีประท้วงเป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำหน่วยรักษาความปลอดภัยของฝ่ายประท้วงทั้งในส่วนของ กปปส. และ คปท. ล้วนแต่กระทำการก้าวร้าว คุกคาม และละเมิดสิทธิส่วนตัวของประชาชนที่พักอาศัย และ/หรือสัญจรผ่านบริเวณที่ชุมนุม หลายคนถูกกลุ้มรุมทำร้ายบาดเจ็บหนัก แล้วยังถูกฉกชิงสิ่งของมีค่าที่ติดตัว อาทิ เงินทอง และโทรศัพท์พกพา ประดุจดังการกระทำของอันธพาลครองเมือง
กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมื่อมีการเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในประเทศ และ ณ สถานกงสุลใหญ่ประจำนครลอส แองเจลีสแห่งนี้ ก็ได้มีผู้สนับสนุนการประท้วงกระทำการลุกล้ำเบียดเบียนสิทธิ์ของประชาชนที่ต้องการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของตน ด้วยการปิดกั้นสถานที่อันเป็นคูหาเลือกตั้ง พร้อมทั้งมีการคุกคามกลั่นแกล้งอย่างจะแจ้งต่อผู้ที่พยายามจะเข้าไปใช้สิทธิ์ เป็นความเดือดร้อนส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจของประเทศอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งสายการบินหลายแห่งประกาศงดเที่ยวบินไปสู่ประเทศไทย บริษัททัวร์ต่างชาติบางแห่งระงับส่งนักท่องเที่ยวไปประเทศไทย บรรษัทเงินทุนต่างประเทศหลายแห่งลดทอน หรือถอนเงินลงทุนไปจากประเทศไทย รวมไปถึงอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ก็เตรียมที่ย้ายแหล่งผลิตออกไปจากไทย
มิหนำซ้ำยังมีหนังสือพิมพ์ไทยในท้องที่ซึ่งร่วมมือกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ทำการโจมตีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอย่างสาดเสียเป็นที่น่าละอายอย่างยิ่ง ล่าสุดมีการพาดหัวข่าวแสดงถึงจิตสำนึกอันต่ำต้อยที่คัดค้านระบอบประชาธิปไตย เย้ยหยันทางการสหรัฐอเมริกาด้วยว่าพวกตนสามารถชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้งละเมิดสิทธิคนอื่นๆ ได้อย่างลอยชาย
การนี้พวกเราชาวไทยที่อาศัยในเขตมหานครลอส แอนเจลีส และย่านใกล้เคียง ซึ่งยึดมั่นในแบบแผนการปกครองทางประชาธิปไตย เห็นชอบและส่งเสริมกรรมวิธีเลือกตั้งให้ได้มาซึ่งตัวแทนของประชาชนผู้เป็นอธิปัตย์สูงสุดแห่งชาติ สุดที่จะทนดูการใช้อำนาจบาดใหญ่เหนือกฏหมายคุกคามและปิดกั้นการใช้สิทธิอันชอบธรรมของผู้ที่ต้องการไปเลือกตั้งได้
เราจึงรวมตัวกันมาแสดงปณิธานแม่นมั่นต่อกงสุลใหญ่ เพื่อให้ท่านถ่ายทอดไปสู่รัฐบาลรักษาการได้ทราบว่ามีชาวไทยที่อาศัยอยู่ในท้องที่การดูแลของท่านจำนวนไม่น้อย ที่สนับสนุนการจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งนี้ เฉกเช่นอารยะชนในประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย จะคอยเป็นกำลังใจสนับสนุนให้การเลือกตั้งลุล่วง และต่อไปแม้เมื่อหลังจากได้รัฐบาลชุดใหม่เข้าไปบริหารประเทศแล้ว จะไม่ถูกกระบวนการโค่นล้มประชาธิปไตย โดยพลังอำนาจทางทหาร ตุลาการ และองค์กรอิสระปู้ยี่ปู้ยำอีก
สหรัฐเผชิญสภาพอากาศวิปริตหนัก ตอนใต้เจอพายุหิมะ หลายพื้นที่อุณภูมิติดลบมากมาย หิมะและน้ำแข็งจับผิวถนนทำการจราจรอัมพาต
ภายหลังเผชิญกับกระแสลมวนขั้วโลกเหนือที่กระหน่ำเกือบทั่วทุกพื้นที่ของสหรัฐหลังปีใหม่ ในสัปดาห์นี้สหรัฐกลับมาเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นผิดปกติอีกครั้ง โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบลึกลงมาถึงรัฐทางใต้ เช่น เท็กซัส, อัลบามา, ฟลอริด้า, เซาท์แคโรไลนา และอีกหลายรัฐที่ขึ้นชื่อเป็นแหล่งพักพิงหนีหนาวของผู้คนทางเหนือ หลายรัฐได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันอังคารและวันพุธ ซึ่งบางพื้นที่นั้นมีอุณหภูมิต่ำสุดถึง -34 องศาเซลเซียส
หลายเมืองมีหิมะตก บางแห่งสูงเกือบ 3 นิ้ว และอากาศเย็นจัดผิดปกติ เจ้าหน้าที่ประสบปัญหาในการกำจัดหิมะเนื่องจากไม่มีรถไถหิมะหรือรถโรยเกลือ โรงเรียนยังต้องปิดการเรียนการสอนต่ออีกในวันพุธ ที่แอตแลนตามีอากาศหนาวเย็นที่สุดนับแต่คนรุ่นปัจจุบันจำความได้ อุณหภูมิติดลบ 10 องศา ส่วนที่นิวออร์ลีน -1 องศา
พายุหิมะครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 รายนับแต่วันอังคาร ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ รวมถึง 4 คนถูกไฟคลอก เพราะเครื่องทำความร้อนในรถไหม้ มีรายงานอุบัติเหตุนับไม่ถ้วน เช่น ที่จอร์เจียเกิดรถชนกันมากกว่า 1,200 ครั้ง ส่วนใหญ่เนื่องจากมีน้ำแข็งจับผิวถนน และคนในพื้นที่ไม่คุ้นเคยกับการขับรถบนหิมะหรือน้ำแข็ง
การจราจรเป็นอัมพาตทำให้ผู้สัญจรหลายหมื่นคนติดอยู่บนท้องถนน ผู้คนจำนวนมากต้องสละรถเข้าไปขอไออุ่นตามโบสถ์ ร้านค้า และสถานีดับเพลิง นักเรียนนับหมื่นคนในโรงเรียนที่รัฐจอร์เจียและอัลบามาต้องค้างคืนที่โรงยิมเมื่อวันอังคาน เนื่องจากไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ และยังมีนักเรียนอีกนับพันที่ติดค้างอยู่บนรถบัสที่ติดอยู่บนถนนในเมืองแอตแลนตาของจอร์เจีย ทำให้บรรดาผู้ปกครองไม่พอใจกล่าวตำหนิเจ้าหน้าที่และโรงเรียนที่ไม่เตรียมการปิดเรียนล่วงหน้าแม้จะมีพยากรณ์อากาศเตือนพายุหิมะ
คาซิม รีด นากยเทศมนตรีเมืองแอตแลนตา และเนธาน ดีล ผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย ต้องออกแถลงการณ์ขอโทษประชาชนเมื่อวันพุธจากปัญหาการจราจรติดขัด ทางการรัฐนี้ได้ขอร้องให้ประชาชนงดเดินทางจนถึงวันพฤหัสบดี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เปิดเส้นทางและช่วยผู้ที่ยังติดอยู่บนถนน จราจรอัมพาตที่นี่ตำรวจต้องช่วยทำคลอดให้หญิงคนหนึ่งกลางทางด่วนที่หิมะปกคลุม
โดยรวมทั่วสหรัฐในวันพุธมีเที่ยวบินถูกระงับราว 1,700 เที่ยว