พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิ.ย. 2562 แล้วนั้น บัดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
นายวิษณุ เครืองาม เป็นรองนายกรัฐมนตรี
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น รมว.กลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่ง
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล เป็นรมช.กลาโหม
นายอุตตม สาวนายน เป็นรมว.คลัง
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรมช.คลัง
นายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นรมว.ต่างประเทศ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
นายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรมว.อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์
นายประภัตร โพธสุธน เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรมว.คมนาคม
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ เป็นรมช.คมนาคม
นายถาวร เสนเนียม เป็นรมช.คมนาคม
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นรมว.พลังงาน
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เป็นรมช.พาณิชย์
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นรมว.มหาดไทย
นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นรมช.มหาดไทย
นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรมช.มหาดไทย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรมว.ยุติธรรม
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นรมว.แรงงาน
นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นรมว.วัฒนธรรม
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็นรมว.ศึกษาธิการ
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นรมช.ศึกษาธิการ
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็นรมช.ศึกษาธิการ
นายสาธิต ปิตุเตชะ เป็นรมช.สาธารณสุข
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรมว.อุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 10 ก.ค.2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ปิด ปฏิทินรัฐบาล หลังถวายสัตย์ประชุม ครม.ถกร่างนโยบายรัฐบาลทันที! ประสาน ‘ชวน’ กำหนด 24-25 ก.ค.นี้ คัดชื่อบุคคลเป็นทีมโฆษกฯรัฐบาลใส่ตะกร้าให้ ‘บิ๊กตู่’ เลือก เผยชื่อ “วัชระ-ลูกตือ” ติดโผ
วันที่ 12 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีลงมาแล้วนั้น ปรากฏว่าบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นไปอย่างคึกคัก แม้บรรดารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะยังไม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ เพราะยังไม่ได้มีการถวายสัตย์ปฏิญานและนายกรัฐมนตรียังไม่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยตลอดทั้งวันได้อ่านเอกสารและเตรียมนโยบายของรัฐบาลที่แต่ละพรรคการเมืองได้เสนอเข้ามาเพื่อเตรียมแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลได้มีการกำหนดและประสานไปยัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯแล้วว่าจะอยู่ระหว่างช่วงวันที่ 24-25 ก.ค.นี้ หลังการสัมนาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระหว่างวันที่ 21-22 ก.ค.นี้ที่วังน้ำเขียว และถ้าเวลาไม่พอก็จะลากไปถึงวันที่ 26 ก.ค.อีก 1 วัน
โดยในช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.ค. นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี จะร่วมทำบุญ 5 ศาสนา เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 ก.ค. ก่อนเดินทางไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
แหล่งข่าวระดับสูงจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในส่วนการเตรียมการของทำเนียบรัฐบาลนั้น เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมนอกเหนือการจัดเตรียมห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ให้กับรองนายกรัฐมนตรี โดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ จะใช้ห้องทำงานเดิมที่ชั้น 1 โดยได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมไว้แล้ว ส่วนที่ชั้น 3 นั้นจัดเตรียมไว้สำหรับรองนายกฯทั้ง 2 คน ขณะที่ชั้น 2 จะเป็นห้องทำงานสำหรับ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมตรี ส่วนห้องทำงานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีนั้น ก็ยังใช้ห้องทำงานเดิมที่ชั้น 5
ในส่วนตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แหล่งข่าวระดับสูงจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะยังไม่ตัดสินใจเลือกใครเข้ามาทำหน้าที่ แต่ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งว่าจะต้องเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ มีความรู้ความสามารถ เข้าใจถึงนโยบายของรัฐบาลอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องการให้สื่อสารเฉพาะประเด็นทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการมืออาชีพสามารถสื่อสารกับประชาชนและต่างประเทศได้ สำหรับประเด็นทางการเมืองนั้นให้เป็นในส่วนของแต่ละพรรค
“ขณะนี้มีหลายรายชื่อที่ถูกเสนอเข้ามาให้ดำรงตำแหน่งโฆษกและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นโควต้าโฆษกรัฐบาล และรอง 1 จะมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และรองโฆษกฯอีก 2 ตำแหน่ง มาจากพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ กก.บห. ว่าที่ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กำลังพิจารณานำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีชื่อของ นายวัชระ กรรณิการ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตบางบอน ซึ่งเคยเป็นอดีตรองโฆษกรัฐบาลมาก่อน ซึ่งเคยมีผู้ใหญ่ในพรรค พปชร.เคยรับปากจะให้เข้ามาทำหน้าที่ นอกจากนี้ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็มีชื่อของ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง สำหรับชื่อของ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ กรรมการบริษัทเนชั่น มีเดียร์กรุ๊ป อดีตแกนนำ กปปส.นั้น ล่าสุดได้ปฏิเสธกับคนใกล้ชิดว่าไม่มีการทาบทามและไม่รับตำแหน่งอย่างแน่นอน” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยอีกว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่นายกรัฐมนตรีดำริให้ดำเนินการทันทีหลังการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญานตน เพื่อหารือถึงร่างนโยบายรัฐบาลที่เตรียมแถลงต่อรัฐสภานั้น ได้มีการประสานไปยังว่าที่รัฐมนตรีแล้วว่าให้เตรียมความพร้อมอยู่ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ค.นี้ โดยก่อนการเข้าเฝ้าฯจะเชิญรัฐมนตรีใหม่ทุกคนถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล สำหรับการถ่ายภาพหมู่ของ ครม.นั้น จะมีขึ้นในการประชุม ครม.นัดแรกอย่างเป็นทางการ ภายหลังการเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญานตนแล้ว
วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องข้าราชการการเมืองลาออกจากตำแหน่ง ด้วยพลเอกวิลาศ อรุณศรีเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2562 โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในประกาศดังกล่าว อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ คือ นายดิสทัต โหตระกิตย์ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีซึ่งได้มาทำหน้าที่ก่อนหน้านี้สักระยะหนึ่งแล้ว
7 พรรคฝ่ายค้าน แตะมือภาคประชาชนเดินสาย อภิปรายนอกสภา ล็อกเป้ารัฐมนตรีมีคดี-ปฏิรูปกองทัพ-แก้รัฐธรรมนูญ ชี้ภาคปชช.ตื่นตัว-มองปัญหาทะลุ
วันที่ 11 ก.ค. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย (พท.) และในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธาน กล่าวถึงการทำงานหลังประกาศแต่งตั้งครม.ว่า คณะกรรมการฯได้รับการสื่อสารจากภาคประชาชนถึงรายชื่อครม. ที่มีข้อครหาทันทีว่า บางคนน่าจะมีคุณสมบัติขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายออกมาแก้ตัวขุ่น ๆ แบบบิดเบี้ยวกฎหมายให้ทันที
พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับคำสั่งและประกาศคสช.ที่มีการยกเลิกไปบางส่วน แต่ก็ยังคงไว้ในแง่การให้อำนาจหน้าที่ฝ่ายทหารดูแลความมั่นคงภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลอันเกิดจากบทเฉพาะกาล ซึ่งเมื่อแก้รัฐธรรมนูญได้สำเร็จปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดลง
พล.ท.ภราดร กล่าวอีกว่า ภาคประชาชนยังมีข้อแนะนำขอให้ 7 พรรคปีกประชาธิปไตย จัดกิจกรรมแบบการอภิปรายนอกสภา โดยเคลื่อนตัวไปในแต่ละพื้นที่ เพื่อรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากประชาชน และนำมาขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งทางคณะกรรมการฯน้อมรับนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
“ถือได้ว่าภาคประชาชนต่าง ๆ เขาตื่นตัว มองปัญหาทะลุปรุโปร่งว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้คืออุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศจึงต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะบทบาทของการรักษาความสงบที่จะเปลี่ยนไปได้เมื่อ 7 พรรคปีกประชาธิปไตยเข้ามาเป็นรัฐบาล ผลักดันนโยบายการสร้างทหารอาชีพตามหลักสากล และเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือน ที่ต้องมีบทบาทหลักในงานรักษาความมั่นคงภายใน” พล.ท.ภราดร กล่าว
มิสแกรนด์ – เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ไบเทคบางนา กองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ จัดการประกวดรอบพรีลิมมินารี่ โดยมี ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน รวมถึงน้ำอ้อย ชนะพาล มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2018
เทเรซ่า ชัยวิสุทธิ์ Vice President Miss Grand International และ คลาร่า โซซ่า มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2018 โดยมีแพม เปรมิกา ปาเมล่า มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2017 รับหน้าที่พิธีกร
สำหรับการประกวดเปิดเวทีด้วยสาวงามทั้ง 77 จังหวัด อวดโฉมในชุดค็อกเทล พร้อมแนะนำตัวตามแบบฉบับของตนเองอันเป็นสีสันของเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เรียกเสียงเชียร์จากแฟนนางงามท่วมท้น
ก่อนการเดินโชว์ตัวในชุดราตรียาว จากดีไซเนอร์นักออกแบบประจำจังหวัด ปิดท้ายด้วยการเดินแบบชุดว่ายน้ำทูพีซสีสันสดใสแบรนด์ MGI
ต่อมาพิธีกรประกาศสาวงามผู้เข้ารอบ Best in Swimsuit 5 คนสุดท้าย ได้แก่
• มิสแกรนด์สุราษฎร์ธานี
• มิสแกรนด์ตราด
• มิสแกรนด์เชียงใหม่
• มิสแกรนด์ระยอง
• มิสแกรนด์นครพนม
โดยจะประกาศผลในการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2019 รอบตัดสิน คืนวันที่ 13 ก.ค. ที่ ฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ถ่ายทอดสด ทาง ช่อง 7 HD
วันที่ 11 ก.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ลงนามในรัฐกฤษฎีกาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เขตนิคมเชอร์โนบิล ในแคว้นเคียฟ ทางตอนเหนือของยูเครน ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบเหตุ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ที่เลวร้ายที่สุดในโลก เมื่อปี 2529
โดยรัฐบาลยูเครนจะสร้างเส้นทางสำหรับท่องเที่ยวในบริเวณที่ปลอดภัย รวมทั้งสร้างทางน้ำ และจุดตรวจ นอกจากนี้จะขยายเขตรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และยกเลิกข้อห้ามถ่ายวิดีโอในเชอร์โนบิลด้วย
“เชอร์โนบิลเป็นส่วนลบของยูเครนมาโดยตอด ต่ครั้งนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เราจะสร้างกรีนคอร์ริดอร์สำหรับนักท่องเที่ยว เชอร์โนบิลเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์บนโลกใบนี้ ที่ซึ่งธรรมชาติเกิดขึ้นใหม่หลังจากเผชิญภัยพิบัติครั้งใหญ่ด้วยน้ำมือมนุษย์ เราต้องการเปิดสถานที่นี้แก่โลก แก่นักวิทยาศาสตร์ นักชีววิทยา นักประวัติศาสตร์ และนักท่องเที่ยว” นายเซเลนสกีกล่าว
File Photo: President Volodymyr Zelensky signed a decree on Wednesday that set out plans for new walking trails and enhanced mobile phone reception. /unian.info/
ทั้งนี้ เหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลเกิดขึ้นระหว่างการทดสอบระบบหล่อเย็นและระบบทำความเย็นฉุกเฉินของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่จู่ๆ มีแรงดันไอน้ำสูงฉับพลัน และระบบตัดการทำงานอัตโนมัติไม่ทำงาน
Visitors walk in the abandoned city of Pripyat, near the Chernobyl nuclear power plant, Ukraine on June 2, 2019. Reuters
ส่งผลให้เกิดความร้อนสูงจนแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ตัวหนึ่งหลอมละลายและเกิดระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตโดยตรงถึง 31 ราย กัมมันตรังสีแผ่กระจายครอบคลุมยุโรป มีพื้นที่ดินปนเปื้อนเกือบ 50,000 ตารางกิโลเมตร และปัจจุบันยังมีกัมมันตรังสีในระดับสูงกว่าปกติ
A man taking a photo of containment structure covering the damaged fourth reactor at the Chernobyl Nuclear Power Plant. ©ZUMAPRESS.com
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมายังเชอร์โนบิล ซึ่งสำนักข่าวแห่งชาติยูเครนระบว่าในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมายังเชอร์โนบิลราว 60,000 คน แม้จะมีเพียงบางส่วนที่เข้าไปได้ และมีการจำกัดระยะเวลา ก็ตาม ขณะที่การท่องเที่ยวยูเครนกล่าวเช่นกันว่าในช่วงปี 2561 มีการจองทัวร์เที่ยวเชอร์โนบิลเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30