ข่าว
จำคุก“เบนซ์ เรซซิ่ง” 8 ปี ศาลให้ประกันตัว 1 ล้าน

(7 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 16.25 น. ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 31 ปี นักแข่งรถชื่อดัง จำเลยที่ 1 ในคดีฟอกเงินยาเสพติด ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดให้ติดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ (กำไล EM) กับจำเลยด้วย และห้ามมิให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ขณะที่มารดาของนายอัครกิตติ์ เปิดเผยหลังทราบคำสั่งศาลว่าดีใจมาก รอมานานกว่า 1 ปี และสู้คดีมาโดยตลอด พร้อมยกมือท่วมหัว ส่วนญาติที่มาให้กำลังใจก็แสดงความดีใจเช่นกัน

โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดกำไล EM ที่ข้อเท้าให้แก่จำเลยตามคำสั่งศาล และเมื่อศาลมีคำสั่งปล่อยชั่วคราวแล้ว ศาลก็ได้ออกหมายปล่อยจำเลยพร้อมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ปฏิบัติตามขั้นตอนปล่อยตัว โดยต้องปล่อยตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ย่านคลองเปรม ภายในวันนี้ (7 ก.ย.) เวลาประมาณ 20.00 น. ส่วนนายสรรเสริญกับ น.ส.อังสุพร จำเลยที่ 2-3 นั้น ไม่ได้มีการยื่นคำร้องขอประกันตัวแต่อย่างใด

อนึ่ง เมื่อเช้าที่ผ่านมา ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ได้อ่านคำพิพากษาคดีฟอกเงินยาเสพติด คดีอาญาหมายเลขดำ อย.2201/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดชหรือเบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 31 ปี นักแข่งรถชื่อดัง , นายสรรเสริญหรือเน็ต รสานนท์ อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา จ.นนทบุรี , น.ส.อังสุพรหรืออุ้ม อินา อายุ 30 ปี ภูมิลำเนา จ.น่าน ซึ่งทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานฐานฟอกเงินและสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3,5,9,60 และสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3,4,6,10,14 และ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522

โดยศาลพิพากษา ให้จำคุก 8 ปี นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ม.5 , 60 และให้ยกฟ้องข้อหาสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ และ พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปรามยาเสพติดฯ

ส่วนนายสรรเสริญ และ น.ส.อังสุพร จำเลยที่ 2-3 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันฐานสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด และฐานร่วมกันฟอกเงิน ก็ให้ลงโทษทุกกรรม จำคุกคนละ 8 ปี ฐานร่วมกันฟอกเงิน แต่จำเลยที่ 2-3 ให้การรับสารภาพข้อหาฟอกเงินจึงลดโทษกึ่งหนึ่งจึงจำคุกฐานฟอกเงินคนละ 4 ปี และฐานสมคบกันทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้จำคุกอีกคนละ 20 ปี กับปรับคนละ 400,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2-3 ทั้งสิ้นคนละ 24 ปี และปรับคนละ 400,000 บาท

เฟรนด์ชิป “บิ๊กตู่” ถึง “สุกัญญา” ฝากลายมือต่างหน้ายามจากกัน

(7 ก.ย.) ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่เทศบาลตำบลเขาพระงาม จ.ลพบุรี เพื่อเยี่ยมชมโครงการบ้านสุขภาวะผู้ป่วยเรื้อรังและผู้สูงอายุ ระหว่างปราศรัยได้มีหญิงคนหนึ่งชูภาพขึ้นและรีบชักลง บังเอิญนายกฯ เห็น รีบถามว่าภาพอะไร หญิงคนดังกล่าวบอกว่าภาพนายกฯ สมัยเป็นเด็กนักเรียน นายกฯ จึงเรียกให้มาดูใกล้ๆ ซึ่งตอนดูนายกฯ จำตัวเองไม่ได้ แต่พอพลิกดูด้านหลังที่เขียนข้อความบันทึกไว้ว่า “เราขอมอบภาพนี้ให้แก่สุกัญญา เพื่อนรักไว้ดูเล่นยามเมื่อเราจากกัน จากมิตรแท้ ลงชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2508” นายกฯ ถึงกับพูดขึ้นว่า “เราตอนสมัยเรียนหล่อไม่เบา ใช่เราจริงๆ”

นายกฯ ได้ถามหาเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ “สุรางค์” มาด้วยหรือไม่ อยู่ที่ไหน หญิงคนดังกล่าวบอกว่าสุรางค์ไม่ได้มาด้วย นายกฯ ได้ถามหญิงคนดังกล่าวว่าชื่ออะไร หญิงคนดังกล่าวบอกว่าเราชื่อสุกัญญา พิมลพรรณ มากับเพื่อนอีก 2 คน ชื่อ “ติ๋ว” และ “เหมียว” นายกฯ จึงได้ให้ช่างภาพสำนักนายกรัฐมนตรีถ่ายภาพร่วมกัน

นางสุกัญญา พิมลพรรณ เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งใจมาพบ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อนสมัยเรียน ป.1 ถึง ป.7 โรงเรียนสหกิจวิทยา ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนโปลีเทคนิคลพบุรี นายกฯ ได้มอบภาพนี้ให้พร้อมบันทึกข้อความไว้ด้านหลังตอนที่จะแยกย้ายไปเรียนสถานที่อื่นตอน มศ.1

“สมัยนั้นนายกฯ เป็นคนอารมณ์ดี ชอบเล่นสนุก ซุกซน แต่เป็นที่รักของเพื่อนๆ และเป็นคนชอบวาดเขียนงานศิลปะ และเป็นคนพูดตรงไปตรงมา เราเป็นเพื่อนกันสมัยเรียนที่โรงเรียนสหกิจวิทยา แม่นายกฯ เป็นอาจารย์คณิตศาสตร์ สอนเรา แม่ พล.อ.ประยุทธ์เคยเล่าให้ฟัง ไปดูดวงมาว่ามีหมอดูบอก พล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นผู้นำประเทศแต่ไม่รู้แบบไหน” นางสุกัญญากล่าว

นางสุกัญญากล่าวว่า ตนไม่ได้เจอ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ปี 2507 วันนี้เอาไข่เค็มดินสอพอง และขนมเปี๊ยะมาให้นายกฯ พร้อมนำเฟรนด์ชีพสมัยช่วงเป็นนักเรียนมาให้ดู มีข้อความว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสเขียนลายมือของเราลงไปในสมุดของเธอ หวังว่าเธอคงจะดูลายมือต่างหน้ายามเมื่อเราจากกัน หวังดี ประยุทธ์ จันทร์โอชา”

อนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนสหกิจวิทยา จ.ลพบุรี กระทั่งระดับชั้นมัธยมศึกษา ได้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ย่านบางแค กรุงเทพฯ ก่อนที่จะเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ตามลำดับ


บิ๊กตู่ลั่นรัชกาลนี้ต้องสงบที่สุด อย่าให้มีการประท้วงเกิดขึ้น

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 7 ก.ย.ที่เทศบาลตำบลเขาพระงาม จ.ลพบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พร้อมคณะ เยี่ยมชมโครงการบ้านสุขภาวะผู้ป่วยเรื้อรังและผู้สูงอายุ โดยช่วงหนึ่งนายกฯได้ทักทายกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่ ที่มารอต้อนรับพร้อมประชาชน 200 คนว่า เราเคยเจอกันหรือเปล่า สงสัยเวลาไปประชุมสงสัยฉันอาจเคยเจอหน้าพวกเธอ หรือไม่ก็เห็นหน้าตอนประท้วง อย่ามีอีกนะ รัชกาลนี้ต้องเป็นรัชกาลที่สงบที่สุดเข้าใจไหม เราเปลี่ยนรัชกาล บ้านเมืองเราวันนี้ดีหมดข้างนอกและข้างในดีหมด ฉะนั้นการเลือกตั้งต้องไปสู่ความสงบ อย่าเกิดการประท้วงขึ้นอีกเลย อย่าให้ไปเจอหน้ากันที่กรุงเทพฯที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จำหน้าได้หมดแล้ว

นายกฯกล่าวว่า การเลือกตั้งต้องให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ถ้าเลือกตั้งแบบเดิมก็กลับมาที่เก่า ต้องให้มีการเปลี่ยนแปลง อย่าไปเห็นแก่เล็กๆน้อยๆ บางทีเขาเอาเงินมาแจก 100 บาท มันซื้อเราได้เหรอ เงิน 100 200 300 และ500 บาท ซื้อเราได้เหรอ สิทธิของเราถ้าเราจะเลือกใคร พอใจอย่างไรท่านก็เลือกไป จะเลือกด้วยคน เลือกด้วยพรรค แต่ถ้าเลือกไอ้คนให้ตังค์ วันหน้ามันก็เอาเงินคืนใช่ไหม มีใครให้อะไรฟรีๆอย่าไปรับ สัญญานะ ไม่ใช่พอวันหน้ามีรัฐบาลใหม่เข้ามาบอกให้เล่นงานรัฐบาลเก่า สัญญานะ

จากนั้นนายกฯได้ร่วมถ่ายเซลฟี่กับประชาชนและข้าราชการ พร้อมทำมือสัญลักษณ์มินิฮาร์ทและไอเลิฟยู ก่อนเดินทางกลับกทม.


'อัจฉริยะ'แฉหวย90ล.อาจโอละพ่อ 'พีท' ลั่น 'ความจริงก็คือความจริง'

7 ก.ย. 61 จากกรณีพ่อค้าแผงลอตเตอรี่ภายในปั้มน้ำมัน ปตท. ถนนเอกชัย ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สุมทรสาคร มอบโชครางวัลใหญ่ให้แก่ “ชาย จ.สมุทรสงคราม” จนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 734510 งวดประจำวันที่ 1 ก.ย. 2561 มากถึง 15 ใบ ได้รับเงินรางวัลสูงถึง 90 ล้านบาท

ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก "ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม" โดยทนายความชื่อดัง "อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "เคสที่บอกขายหวยถูก90ล้านอาจโอละพ่อไม่จริงชมรมขอท้าพิสูจน์มั่นใจว่าหวังผลบางอย่าง จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน" จนทำให้ผู้พบเห็นข้อความสงสัยว่า สลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลที่ 1 นั้นมีจริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังระบุว่าอาจมีการสร้างภาพแปะตัวเลขว่าเป็นหวยรางวัลที่ 1 ก็เป็นได้ เนื่องจากยังไม่เห็นหลักฐาน

จากนั้น นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 10 กันยายน 2561 เวลา 10.00 น. ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะนำภาพเอกสาร ตามรูปที่ 1 เข้าร้องต่อผอ.กองสลาก เพื่อขอให้มีการตรวจสอบว่า ภาพดังกล่าวมีการถูกล็อตเตอรี่ 90 ล้านจริงหรือไม่ และมีผู้มาขึ้นเงินรางวัลแล้วหรือยัง โดยสาเหตุที่มีการร้องขอให้ ผอ.กองสลากตรวจสอบ เนื่องจากทางชมรมฯ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเลขบนล็อตเตอรี่

ขณะที่ นายธนวรรธน์ หรือ พีท คำแหงพล อายุ 35 ปี เจ้าของแผงขายลอตเตอรี่ 90 ล้าน ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.เอกชัย ถนนเอกชัย ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตนเองนั้นยินดีให้นายอัจฉริยะดำเนินการทุกอย่างตามที่นายอัจฉริยะต้องการ เพราะตนมั่นใจว่ามีหลักฐานที่จะยืนยันกับสังคมได้คือต้นขั้วของลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ความจริงก็คือความจริง แต่ในส่วนตัวเสียความรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะทำดีแล้วกลับกลายมาเป็นประเด็นดราม่า แต่ทั้งนี้ตนก็จะยึดมั่นในความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและอาชีพ แม้ว่าจะต้องกลับไปเดินเร่ขายเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม คงจะไม่ฟ้องกลับนายอัจฉริยะเนื่องจากตนเองเป็นแค่พ่อค้าขายลอตเตอรี่ หาช้ากินค่ำ ไม่มีเงินมากพอที่จะเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี


ด่วน ‘นคร มาฉิม’ อดีต ส.ส.ปชป. ทหารล้อมบ้าน! หลัง ‘อียู’ เข้าพบ

7 ก.ย. 2561 เมื่อเวลา 17.00 น. นายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก โพสต์ข้อความและรูปภาพทหารมาล้อมบ้านพักที่จ.พิษณุโลก พร้อมระบุว่า “ตอนนี้ กอ.รมน. และทหารจากมณฑลทหารบก ที่ 39 (มทบ.39) กองทัพภาค 3 นำโดยพ.อ.นพดล มาที่บ้านพักของผมครับ”

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา นายนคร ได้เผยแพร่จดหมายที่ตนเองทำชี้แจงสหภาพยุโรป(อียู) หลังเจ้าหน้าที่อียูเข้าพบในวันเดียวกัน โดยเนื้อหาในหนังสือนายนคร ชี้แจง 5 ข้อเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองช่วง 4 ปี รัฐประหารในไทย และเรียกร้องให้อียูดำเนินการตรวจสอบดังนี้

1.ติดตามและประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบในประเทศไทย

2.กดดันให้รัฐบาลเผด็จการทหารไทยเร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด

3.ส่งตัวแทนเข้าร่วมสังเกตุการณ์และตรวจสอบกระบวนการเลือกตั้งและนับผลการเลือกตั้งในประเทศไทยเป็นไปโดยเสรีและเป็นธรรม เพื่อให้ผลการเลือกตั้งสะท้อนเสียงที่แท้จริงของปวงชนชาวไทย

4.ระงับการให้ความร่วมมือและการเจรจาใดๆ กับรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และรอจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมก่อนเท่านั้น

5.กดดันให้มีการปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมดโดยเร็ว และหามาตรการใหม่ที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของคนไทยทุกหมู่เหล่าได้อย่างแท้จริง

ด้าน นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่ทหาร ไม่น่าน้อยกว่า 10 นาย จากมณฑลทหารบก ที่ 39 สังกัด หน่วยงาน กอรมน. กองทัพภาคที่ 3 หัวหน้าชุดคือ พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร มาขอพบกับตน ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงราว 5 โมงเย็น ซึ่งตนอยู่นอกบ้านมีคุณยายอยู่บ้านคนเดียวจึงรู้สึกตื่นตระหนก

โดยเมื่อประสานกันแล้วตนจึงบอกว่า ขอนัดหมายคุยกันวันที่ 8 ก.ย. เวลา 10.00 น. ที่บ้านพักส่วนตนที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อให้ประชาชนทั่วไป และผู้สื่อข่าวรับฟังพร้อมกันด้วย เบื้องต้นวันนี้ก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่า เข้าใจต้องปฏิบัติหน้าที่ไปตามคำสั่ง แต่ยังไงพวกเราก็เป็นลูกหลานชาวบ้านเหมือนกัน คำสั่งไหนไม่ชอบธรรมก็ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรับใช้เผด็จการขนาดนั้น

ส่วนตนนั้นไม่รู้สึกอะไร ชินแล้วที่ต้องเจออะไรแบบนี้ คาดว่าเจ้าหน้าที่มาวันนี้ เกิดจากการพบปะพูดคุยสถานการณ์ทางการเมืองกับ ดร.โคลิน สไตน์บัค ที่ปรึกษาเอกหัวหน้าฝ่ายการเมืองและข้อมูลข่าวสาร และคัคนางค์ ไกท์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ทีผ่านมา 100 เปอร์เซ็นต์

2 น.ศ.สาวไทยก่อเหตุสยอง แทงรูมเมทดับแล้วฆ่าตัวตาย

ตร.สรุป”ออย”แทง”น้องแอ๋ม” จากกรณี น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ หรือ “แอ๋ม” อายุ 25 ปี นักศึกษาสาวปริญญาโท มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เสียชีวิตภายในห้องพักพร้อมน.ส.ฐิฎิอร โชติช่วงทรัพย์ หรือ ออย อายุ 32 ปี รูมเมต ที่อพาร์ตเมนต์มอลลอย เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

ความคืบหน้าผลการสอบสวนคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปว่า น.ส.ฐิฎิอร อายุ 32 ปี แทงน.ส.กรกมล อายุ 25 ปีเสียชีวิต จากนั้นจึงฆ่าตัวตาย

จากผลการชันสูตรพลิกศพของสำนักงานชันสูตรคิง เคาน์ตี เมดิคัล เอ็กแซมไมเนอร์ น.ส.กรกมลถูกแทงหลายแผลจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่สรุปสาเหตุการตายว่าเป็นฆาตกรรม ส่วนน.ส..ฐิฎิอรเสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่แทงหน้าอกตนเองเพียงครั้งเดียว เจ้าหน้าที่สรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ทั้งสองเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ก.ย.

รายงานระบุว่า ทั้งสองถือสัญชาติไทย พบกันที่มหาวิทยาลัยบอสตัน และเป็นรูมเมตกันตั้งแต่น.ส.กรกมลเริ่มเรียนปริญญาโทใบที่สองที่มหาวิทยาลัยแห่งวอชิงตัน หรือ UW เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้

ญาติของผู้ตายเผยว่า ทางมหาวิทยาลัย UW นัดให้ น.ส.กรกมลไปตรวจสุขภาพช่วงบ่ายวันเสาร์ แต่น.ส.กรกมลไม่ได้ไป ญาติจึงไปแจ้งความวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ย. ว่าน.ส.กรกมลหายตัวไป เพราะไม่มีใครได้ยินข่าว และติดต่อไม่ได้มาสองสามวันแล้ว

กระทั่งวันอังคารที่ 4 ก.ย. ตำรวจจึงได้รับแจ้งจากอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 4337 ริมถนนหลักสายที่ 15 จากผู้จัดการอพาร์ตแมนต์ว่าพบผู้หญิงบาดเจ็บสาหัสในห้องพัก เมื่อตำรวจไปถึง พบหญิงสาวสองคนเสียชีวิตแล้วอยู่ในห้องพัก

ในช่วงแรกของการสอบสวน แม้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นการฆาตกรรมแล้วฆ่าตัวตาย เนื่องจากขั้นตอนการชันสูตรยังไม่เสร็จสิ้น แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนคดีฆาตกรรมแจ้งว่า ไม่มีผู้ต้องสงสัยเด่นชัด จึงอนุมานได้ว่าไม่มีคนร้ายรายอื่นอีก

สำหรับครอบครัวของน.ส.กรกมล หรือ น้องแอ๋ม อยู่ในประเทศไทย แต่มีลูกพี่ลูกน้องของผู้ตายอาศัยอยู่ที่ฮูสตัน ทางครอบครัวเดินทางไปซีแอตเทิลเมื่อวันศุกร์ที่ 7 ก.ย.นี้ เพื่อรับศพกลับไปทำพิธีที่ประเทศไทย