สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐโอไฮโอ ตั้งข้อหาลักพาตัวและข่มขืนกระทำชำเราแก่ นายอารีล คาสโตร หนึ่งในสามผู้ต้องสงสัยในคดีลักพาตัวหญิงสาว 3 คนคือ อแมนดา เบอร์รี อายุ 27 ปี, จีนา เดจีซัส อายุ 23 ปี มิเชล ไนท์ อายุ 32 ปี และกักขังไว้ที่บ้านของเขาในเมืองคลีฟแลนด์ เป็นเวลานานนับทศวรรษ ก่อนทั้งหมดจะได้รับการช่วยเหลือเมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) ที่ผ่านมา
เมื่อช่วงบ่ายวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยในงานแถลงข่าวที่เมืองคลีฟแลนด์ว่า นายอารีล คาสโตร จะถูกตั้งข้อหาลักพาตัว 4 กระทง จากการลักพาตัว น.ส.เบอร์รี, น.ส.เดจีซัส และ น.ส.ไนท์ รวมถึง ด.ญ.โจเซลีน วัย 6 ขวบ ลูกสาวของน.ส.เบอร์รี ที่เกิดระหว่างถูกกักขัง นอกจากนี้ นายคาสโตรจะโดนตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราอีก 3 กระทงด้วย
ตำรวจยังเผยอีกว่า ได้เก็บหลักฐานมากกว่า 200 ชิ้นจากบ้านของนายคาสโตร และได้สอบปากคำหญิงสาวทั้ง 3 คน ซึ่งทำให้ตำรวจได้ข้อมูลเพียงพอที่จะตั้งข้อหาดังกล่าวแก่นายคาสโตร รวมถึงข้อหาอื่นๆ ในอนาคต ขณะเดียวกัน อัยการวิคเตอร์ เปเรซ ระบุว่าไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าพี่น้องอีก 2 คนของนายอารีล คาสโตร คือ โอนิล และ เปโดร มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่ออาชญากรรมครั้งนี้
ด้านสำนักข่าวบีบีซี รายงานอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสืบสวนในคดีว่า หญิงผู้ถูกจับกุมถูกกระทำชำเราจนตั้งครรภ์และถูกทำร้ายจนแท้งลูกหลายครั้ง แหล่งข่าวบอกอีกว่า หญิงผู้ถูกกักขังคนหนึ่ง ถูกบังคับให้ช่วย น.ส.เบอร์รี ทำคลอด และถูกขู่เอาชีวิตหากเด็กทารกไม่รอด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจสอบเพื่อหาว่าใครเป็นพ่อของ ด.ญ.โจเซลีน ขณะที่ น.ส.ไนท์ ยังคงต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนอีกสองคนสามารถกลับบ้านไปกับครอบครัวได้แล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ว่า นายโคดี้ วิลสัน หนุ่มอเมริกันชาวรัฐเท็กซัส สมาชิกกลุ่ม"The the Liberator" ซึ่งมีหัวสนับสนุนแนวคิดอนาธิปไตยปกป้องตัวเองเปิดเผยว่า เขาประสบความสำเร็จในการผลิต"ปืนพลาสติก"ที่ทำจากเครื่องปริ๊นเตอร์ภาพ 3 มิติ ใช้ตะปูเป็นเข็มแทงชนวนกระสุนปืน ซึ่งถือเป็นวัตถุประกอบอย่างเดียวที่เป็นโลหะ และเจ้าตัวได้โพสต์คลิปวีดีโอในยูทิวบ์ ประกาศว่า เขาจะเปิดเผยวิธีการผลิตอาวุธปืนดังกล่าวให้ชาวอเมริกันได้มีโอกาสเป็นเจ้าของอาวุธปืนพลาสติกนี้ โดยเฉพาะคนที่มีเครื่องปริ๊นเตอร์แบบ 3 มิติ
รายงานระบุว่า การสร้างอาวุธดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่สังคมมะกันได้สร้างปืนพลาสติกยิงได้จริง แม้ก่อนหน้านี้จะคาดกันว่า อาวุธชนิดนี้จะต้องถูกผลิตขึ้นได้สักวันหนึ่ง ด้วยงบประมาณราว 1,000 ดอลลาร์ และเคยถูกผลิตขึ้นแล้วแต่ล้มเหลวในการยิงด้วยกระสุนจริง และปืนดังกล่าวถือเป็นปืนพลาสติกยิงได้จริงอย่างประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก โดยที่ผ่านมา สหรัฐไม่ได้ห้ามการผลิตอาวุธปืนพลาสติกแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเปิดเผยนี้ ส่งผลให้นักการเมืองบางรายของสหรัฐแสดงความวิตกกังวล เนื่องจากอาวุธดังกล่าวสามารถพกขึ้นเครื่องบินได้อย่างสบาย ๆ โดยจะไม่ถูกตรวจจับจากเครื่องตรวจจับที่สนามบิน โดยนายชัค ชูเม่อร์ วุฒิสภารัฐนิวยอร์ก ได้ประกาศลั่นว่า เขาจะเสนอกฎหมายแบนอาวุธปืนพลาสติกนี้ เพราะถือเป็นอาวุธซ่อนพิษสงอันตราย เนื่องจากสามารถพกผ่านเครื่องตรวจจับของสนามบิน รวมทั้งโรงศาลได้ โดยหากไม่มีการห้าม อาวุธดังกล่าวอาจถูกกลุ่มก่อการร้ายนำไปใช้ได้
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ เปิดเผยคดีฆาตกรรมสุดช็อกของ โนอาห์ ครู้กส์ ปัจจุบันวัย 14 ปี จากรัฐไอโอวา สหรัฐฯ ผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงแม่แท้ ๆ ของตัวเอง หลังจากพยายามข่มขืนเธอไม่สำเร็จ
เหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นในคืนวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2012 ขณะที่วิลเลียม ครู้กส์ วัย 41 ปี พ่อของเขาออกไปปาร์ตี้กับที่ทำงาน ปล่อยให้โนอาห์อยู่บ้านกับนางเกรทเชน ครู้กส์ แม่วัย 37 ปี ของเขาอย่างที่เคยเป็นอยู่เสมอ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อโนอาห์ได้ก่อเหตุยิงแม่ของตัวเอง หลังจากพยายามข่มขืนเธอแต่ไม่สำเร็จ และเมื่อเห็นว่านางเกรทเชนเสียชีวิตด้วยน้ำมือของตัวเองแล้ว โนอาห์ก็รีบส่งข้อความไปหาวิลเลียมทันทีว่า "พ่อ นี่โนอาห์ ผมเผลอยิงแม่ตาย และรู้สึกผิดมาก รีบกลับมาบ้านด่วน" ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจ สารภาพผิดในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปทั้งหมด
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มายังที่เกิดเหตุ และพบร่างที่พรุนด้วยลูกกระสุนของเจรทเชนถูกคลุมด้วยเสื้อโค้ท ชุดนอนด้านบนของเธอถูกเลิกขึ้น และเปลือยตั้งแต่เอวลงไป ก่อนที่จะยึดปืน .22 มม. อาวุธสังหารได้จากในครัว ขณะที่โนอาห์นั้นอยู่ในสภาพที่สงบมาก เขาไม่ร้องไห้และไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้นระหว่างถูกควบคุมตัว เนื่องจากยังช็อกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่
ด้านนายบาร์บ ไมเคิล เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งเรื่องจากโนอาห์ ได้เปิดเผยว่า โนอาห์โทรเข้ามาแจ้งตำรวจเพื่อสารภาพความผิดทุกอย่าง เขาบอกว่าเขาได้ลงมือฆ่าแม่ตัวเอง หลังจากพยายามข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ เขาไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นได้ยังไง ก่อนหน้านั้นแม่ของเขาเพิ่งจะทำโดนัทให้เขาทาน แต่ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะฆ่าแม่ได้ เขาได้แต่หวังว่าทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงความฝันที่ตื่นขึ้นมาก็หายไป นอกจากนี้ โนอาห์ยังเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังอีกว่า แม่เขายึดวิดีโอเกมไป เพราะเกรดเขาตกต่ำมากอีกด้วย
ขณะที่ในการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา วิลเลียม ครู้กส์ พ่อของโนอาห์ ได้เผยต่อศาลว่า แม้ว่าโนอาห์กับภรรยาของเขาจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่พวกเขาก็รักกันดีและจะกลับมาเล่นด้วยกันเสมอ ส่วนปืน .22 มม. นั้นก็เป็นของขวัญวันเกิดซึ่งภรรยาของเขาเป็นผู้ซื้อให้โนอาห์ในปี ค.ศ. 2010 เอง และที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามใด ๆ และไม่เคยพูดว่าอยากฆ่าแม่ของตัวเองเลย
ส่วนทางด้านทนายความของโนอาห์ ไม่ได้ปฏิเสธว่าลูกความของเขาฆาตกรรมแม่ของตัวเอง แต่ได้อ้างว่าเด็กชายมีอาการป่วยทางจิต ซึ่งทำให้เขาเกิดคลั่งขึ้นในช่วงเวลาที่ลงมือ แต่อย่างไรก็ดี คณะลูกขุนและทนายความเห็นพ้องกันว่า ต้องรอการยืนยันจากจิตแพทย์ก่อนว่าเด็กชายมีอาการป่วยด้วยโรคที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมรุนแรง และความก้าวร้าวของตัวเองได้จริงหรือไม่
ทั้งนี้ คดีฆาตกรรม เจรทเชน ครู้กส์ ได้กลายมาเป็นคดีฆาตกรรมรายแรกของเมืองโอเซจ ของไอโอว่า นับตั้งแต่ ค.ศ. 1898 เป็นต้นมา ซึ่งได้สร้างความสะเทือนให้กับหลาย ๆ คนอย่างมาก
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012