ข่าว
'ฮาร์วาร์ด'ยื่นฟ้องคำสั่ง'ทรัมป์' กรณีห้ามนักศึกษาต่างชาติเข้าสหรัฐฯ

วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568:สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลาง เพื่อคัดค้านคำสั่งของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ห้ามนักศึกษาต่างชาติเดินทางเข้าสหรัฐฯ ด้วยวีซ่านักศึกษาเพื่อเข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ด

การยื่นฟ้องดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่ทรัมป์ออกประกาศระงับการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยฮาร์วาร์ดระบุว่าคำสั่งฝ่ายบริหารของรัฐบาลทรัมป์มีเป้าหมายเพื่อเลี่ยงคำสั่งศาลก่อนหน้านี้ที่ระบุว่ากระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ไม่สามารถห้ามนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ดได้

เอกสารที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดยื่นต่อศาลระบุว่าการกระทำของประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ แต่เป็นความพยายามเอาคืนมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอย่างชัดเจน

อลัน เอ็ม. การ์เบอร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ ออกแถลงการณ์หลังจากการยื่นฟ้องไม่นาน โดยกล่าวว่าการเลือกปฏิบัติต่อมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกรณีการรับนักศึกษาต่างชาติและการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทั่วโลก ถือเป็นอีกหนึ่งการกระทำที่ผิดกฎหมายของฝ่ายบริหาร ซึ่งมุ่งกลั่นแกล้งฮาร์วาร์ดโดยเฉพาะ

การ์เบอร์เสริมว่าทางมหาวิทยาลัยกำลังจัดทำแผนสำรองเพื่อให้นักศึกษาและนักวิชาการต่างชาติสามารถทำงานวิจัยและเรียนที่มหาวิทยาลัยต่อไปได้ทั้งในช่วงฤดูร้อนนี้และปีการศึกษาหน้า

ทั้งนี้ การฟ้องร้องครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นการปรับแก้จากคดีความเดิมที่ยื่นไว้ก่อนหน้า โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ หลายครั้งแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ฮาร์วาร์ดปฏิเสธที่จะทำตามข้อเรียกร้องของรัฐบาล (ขอบคุณที่มา xinhuathai)

ศาลสหรัฐฯ ระงับคำสั่งทรัมป์ ปมห้ามนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียน ม.ฮาร์วาร์ด หลังทางมหาวิทยาลัยยื่นคำร้องขอความคุ้มครองจากศาล

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลรัฐบาลกลาง หรือศาลแขวง ของสหรัฐฯ ในนครบอสตัน มีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ให้ระงับคำประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ห้ามนักศึกษาต่างชาติ เข้าศึกษา หรือร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นเวลา 6 เดือน (อาจขยายเวลาเพิ่มขึ้นไปอีก) ตลอดจนสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ พิจารณาเพิกถอนวีซ่านักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่เข้าข่ายนั้นด้วย

โดยคณะผู้พิพากษาของศาลฯ ระบุว่า คำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ข้างต้น อาจก่อให้เกิดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทันทีและไม่สามารถแก้ไขได้ ก่อนที่ศาลจะพิจารณาคดีอย่างถี่ถ้วน

รายงานข่าวแจ้งว่า คำสั่งของศาลดังกล่าว มีขึ้นภายหลังจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอความคุ้มครองจากศาล หลังประธานาธิบดีทรัมป์ มีคำสั่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

ร่วมแสดงความยินดี

เอนก พลอยแสงงาม บิ๊กบอส LAX-C ให้เกียรติไปร่วมงาน มงคลสมรสระหว่าง แพทย์หญิงมิเคล่า อาอโลโลด กับ นายแพทย์พีระภัทร แมกซ์ ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ หลานชายสุดรักของ ศิลปินแห่งชาติ คุณยายรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ประธานในพิธี งานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่โรงแรม อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ รีสอร์ท มีศิลปินนักร้องชื่อดังและแฟนเพลงจากแอลเอ.ไปร่วมสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวอย่างมากมาย.


รัสเซียเดือด! ถล่มเมืองหลวงยูเครนด้วยขีปนาวุธ-โดรนสังหาร 4 ชีวิต

วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568:สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ารัสเซียได้โจมตีกรุงเคียฟเมืองหลวงของยูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างหนักในช่วงกลางคืน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และเกิดการระเบิดรุนแรงทั่วทั้งเมือง

การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียได้เตือนว่าเครมลินจะตอบโต้หลังจากโดรนของยูเครนทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดหลายลำในพื้นที่รัสเซีย ซึ่งข้อความนี้ถูกส่งผ่านผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์

วิทาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่ามีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน รวมถึง 16 คนที่ต้องเข้าโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิต 4 ราย

การโจมตีในครั้งนี้ยังทำให้ระบบขนส่งรถไฟใต้ดินของกรุงเคียฟได้รับความเสียหาย โดยรัสเซียได้โจมตีและทำลายรางรถไฟระหว่างสถานีต่างๆ ขณะที่ การรถไฟยูเครนรายงานว่าได้มีการเปลี่ยนเส้นทางบางขบวนเนื่องจากความเสียหายของรางรถไฟในบางพื้นที่

โดรนของรัสเซียได้ชนเข้ากับอาคารอพาร์ตเมนต์ในเขตโซโลเมียนสกี้ ทำให้เกิดรูขนาดใหญ่และรอยไหม้ บล็อกคอนกรีตที่หล่นลงมาจากอาคารยังทำให้รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างล่างได้รับความเสียหาย ส่วน**ตำรวจ**ที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุได้ตรวจสอบเครื่องยนต์ของโดรนที่คาดว่าจะตกลงมา

ก่อนหน้านี้ในคืนเดียวกัน ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ ได้ยินเสียงโดรนของรัสเซียที่คล้ายกับเครื่องบินกามิกาเซ่ กำลังบินอยู่ในอากาศ พร้อมกับเสียงการยิงปืนจากการป้องกันของยูเครน

การระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้หน้าต่างของบ้านเรือนในระยะไกลจากจุดเกิดเหตุสะเทือน และบางส่วนของชาวกรุงเคียฟได้หลบภัยในสถานีรถไฟใต้ดินหรือในที่จอดรถใต้ดินเพื่อความปลอดภัย

กองทัพอากาศยูเครน กล่าวว่าได้ถูกโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธในช่วงกลางคืน

การโจมตีครั้งนี้ยังทำให้ เมืองเทอร์โนปิล ในภาคตะวันตกของยูเครนได้รับความเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย ซึ่งทำให้บางส่วนของเมืองไฟฟ้าดับ และนายกเทศมนตรี เซอร์ฮี นาดัล กล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บ 5 คนในเหตุการณ์นี้และแนะนำให้ประชาชนอยู่ในบ้านเพราะมีสารพิษในอากาศจากไฟไหม้

อิโฮร์ โพลิชชุค นายกเทศมนตรี รายงานว่า ในเมืองลุตส์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยูเครน มีผู้บาดเจ็บ 5 คน และมีการทำลายบ้านเรือนส่วนตัว, สถาบันการศึกษา, และอาคารรัฐบาล

การโจมตีนี้เกิดขึ้นหลังจากยูเครน ได้ทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียโดยการใช้โดรนควอดคอปเตอร์ที่ซ่อนในกระท่อมไม้ ซึ่งเป็นหนึ่งในการโจมตีที่กล้าหาญที่สุดในการสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย

ประธานาธิบดีปูตินได้วางแผนตอบโต้การโจมตีของยูเครนที่ฐานทัพอากาศรัสเซีย โดยทรัมป์รายงานหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์กับปูตินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ขอบคุณข้อมูลจาก : Reuters


กลาโหมกัมพูชาเมินคำขอฝ่ายไทย ให้ถอยทหารจากช่องบก

วันที่ 6 มิถุนายน 2568 เพจเฟซบุ๊ก "กระทรวงกลาโหมกัมพูชา" โพสต์เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับกรณีเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย ได้หารือกับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา

โดยกระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่า จากการพูดคุยกัน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะลดความตึงเครียด โดยรักษาการสื่อสาร ความเข้าใจ และการเจรจาอย่างสันติต่อไปในอนาคต เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะทางทหารระหว่างกัมพูชากับไทย

อย่างไรก็ตาม “ในส่วนของคำขอของฝ่ายไทย ให้กัมพูชาถอนทหารออกจากจุดที่ตั้งในพื้นที่มอมเตย (ช่องบก) ซึ่งเกิดการสู้รบเมื่อวันที่ 28 พ.ค. นั้น ฝ่ายกัมพูชาขอปฏิเสธที่จะทำตามคำขอดังกล่าว”

กระทรวงกลาโหมกัมพูชา บอกอีกว่า เนื่องจากจุดที่ตั้งดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งได้ประจำการอย่างถาวรมาตั้งแต่ต้น ฝ่ายกัมพูชาไม่สามารถถอนทหารออกจากจุดที่ตั้งที่กองทัพกัมพูชาประจำการมาเป็นเวลานานและอยู่ในเขตอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาได้

ตราบใดที่ฝ่ายไทยยังคงใช้แผนที่และมาตราส่วนที่แตกต่างกัน เราจะไม่สามารถหาจุดกึ่งกลางในการรักษาเสถียรภาพชายแดนได้ ฝ่ายกัมพูชายังคงยึดมั่นที่จะเคารพบันทึกความเข้าใจปี 2543 (MOU 2543) เช่นเดียวกับที่เคยทำมาในอดีต

ดังนั้น ฝ่ายกัมพูชาจึงได้ตัดสินใจเตรียมการเพื่อส่งพื้นที่พิพาททั้ง 4 แห่ง คือ มอมเตย ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโตช และปราสาทตาควาย ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก เพื่อยุติข้อพิพาทและกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน กัมพูชาตั้งใจที่จะยอมรับเฉพาะสันติภาพ เสถียรภาพ และผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝ่ายเท่านั้น

ในเรื่องนี้ ฝ่ายไทยยังแสดงความเคารพต่อสิทธิของกัมพูชาในการยื่นประเด็นทั้ง 4 พื้นที่ดังกล่าวต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) นอกจากนี้ เรายังตกลงที่จะดำเนินกลไกการเจรจาต่อไปในการประชุม GBC/JBC/RBC ในประเด็นอื่น ๆ ในอนาคต


ปะทะเดือด! 'ทรัมป์-มัสก์'โพสต์ซัดกันยับ ขู่ตัดสัญญารัฐบาล-เรียกร้องถอดทรัมป์

6 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับเจ้าพ่อเทคโนโลยี อีลอน มัสก์ กลายเป็นสงครามการเมืองอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากทรัมป์ขู่จะตัดสัญญารัฐบาลกับบริษัทของมัสก์ และมัสก์ตอบโต้ด้วยการแนะนำให้ทรัมป์ถูกถอดออกจากตำแหน่ง

ความขัดแย้งเริ่มต้นจากการที่ทรัมป์วิจารณ์มัสก์ก่อนที่ทั้งสองจะทะเลาะกันอย่างเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียของตนเอง โดยทรัมป์โพสต์ใน Truth Social ว่า "วิธีที่ง่ายที่สุดในการประหยัดเงินจากงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์คือการยกเลิกเงินอุดหนุนและสัญญารัฐบาลที่ให้กับบริษัทของอีลอน"

หลังจากคำขู่ของทรัมป์ หุ้นเทสลาตกลง 14.3% สูญเสียมูลค่าตลาดกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.25 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท

มัสก์ตอบโต้โดยตอบรับโพสต์ใน X ว่า “ทรัมป์ควรถูกถอดออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ขณะที่ทรัมป์ยังคงมีเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันในรัฐสภา”

ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อมัสก์วิจารณ์ร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายที่ทรัมป์กำลังผลักดัน โดยมองว่ามันจะเพิ่มภาระหนี้สินของประเทศ และยังกล่าวว่าร่างกฎหมายนี้จะทำให้ประเทศต้องเสียหาย

ทรัมป์ออกมาพูดในวันที่ 5 มิถุนายน ว่าเขารู้สึก "ผิดหวังอย่างมาก" กับมัสก์และกล่าวว่า "ดูสิ ตอนนี้อีลอนและฉันมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่ไม่แน่ใจว่าเราจะมีเหมือนเดิมอีกหรือไม่"

ขณะที่มัสก์ยังคงโจมตีทรัมป์ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวว่า "ถ้าไม่มีผม ทรัมป์คงแพ้การเลือกตั้ง" หลังจากที่เขาทุ่มเงินเกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯสนับสนุนทรัมป์และพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ ในการเลือกตั้งปีที่แล้ว และยังเสริมว่า "ช่างเป็นคนอกตัญญูจริงๆ"

นอกจากนี้ มัสก์ยังประกาศว่าจะยกเลิกการใช้ยานอวกาศ Dragon ของ SpaceX หากทรัมป์ดำเนินการตามคำขู่ เนื่องจาก Dragon คือยานเดียวที่สามารถส่งนักบินอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติได้

การทะเลาะครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งสองยังมีบทบาทสำคัญในการเมืองและธุรกิจ โดยมัสก์เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินที่สำคัญของทรัมป์ในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา และยังเคยเป็นที่ปรึกษาหลักในรัฐบาลทรัมป์

ทั้งนี้ ความขัดแย้งครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อการควบคุมของพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสในการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้า เนื่องจากมัสก์มีอิทธิพลทั้งในวงการธุรกิจและในโลกออนไลน์

ในขณะที่ทรัมป์มุ่งมั่นที่จะผลักดันร่างกฎหมายภาษีใหม่ มัสก์ได้กล่าวว่า ทำให้ร่างกฎหมายนี้ตกไปซะ แต่ยอมรับว่าจะเห็นด้วยกับการลดเครดิตภาษีรถยนต์ไฟฟ้าหากกฎหมายปรับปรุงและลดการใช้จ่ายที่ไร้ประโยชน์

การทะเลาะครั้งนี้ถือเป็นจุดแตกหักครั้งใหญ่ของความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : Reuters

"ฮุน มาเนต" ต่อสาย "อันวาร์" ย้ำจุดยืนกัมพูชา ยื่นศาลโลกตัดสินข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา

ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โดยย้ำจุดยืน 4 ข้อของกัมพูชาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ว่าจะให้ศาลโลกตัดสิน

วันที่ 6 มิถุนายน 2568 นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะที่มาเลเซียเป็นประธานอาเซียนในปี 2568 โดยเขาได้ร่วมแสดงความยินดีกับผู้นำมาเลเซีย ที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46 พร้อมขอบคุณที่อีกฝ่ายให้ความใส่ใจต่อสถานการณ์ปัญหาเขตแดนระหว่างกัมพูชาและไทย

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเปิดเผยว่า ในระหว่างการสนทนา เขาได้ชี้แจงจุดยืนของรัฐบาลกัมพูชาเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนกับไทย โดยแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อหลัก ได้แก่

1.กัมพูชายึดมั่นในสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือกับประเทศไทย

2.การตัดสินใจยื่นเรื่องปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ (สามเหลี่ยมมรกต) ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ เป็นการใช้สันติวิธีเพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนให้สิ้นสุดโดยเร็วและยั่งยืน มากกว่าปล่อยไว้ระยะยาวจนกลายเป็นชนวนความขัดแย้งอาจนำไปสู่การปะทะทางทหารอีกครั้ง

3.เดินหน้าร่วมมือกับฝ่ายไทยเพื่อผลักดันการสำรวจ แบ่งเขต และปักปันเขตแดนส่วนที่ยังคงค้างอยู่ (นอกเหนือจากพื้นที่ 4 จุดที่ส่งเรื่องให้ ICJ ผ่านกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC)

4.กัมพูชาจะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ผ่านทุกกลไกที่มีอยู่ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองชาติ

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรีกัมพูชามีขึ้นหลังจากกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า ได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อขอคำวินิจฉัยเกี่ยวกับสถานะของพื้นที่ 4 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พิพาทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อยุติข้อขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะประเด็นปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเคยเป็นจุดปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชาในช่วงปี 2551–2554.