ข่าว
'แม่' ย้ำ! 'ตั๊ก' ไม่เล่นไลน์

ต้องตามติด เตียงจะร้าวหรือไม่ ไลน์ปริศนาแฉแซ่บสนั่นเน็ต อ่านแล้วอึ้ง!!! คาดว่าน่าจะเป็นไลน์หลุดของ ตั๊ก บงกช หรือไม่? ที่มีข้อความแฉแหลก!!! พฤติกรรมของผู้หญิงคนหนึ่ง และกล่าวอ้างไปถึงว่า เสี่ยใหญ่ บุญชัย เบญจรงคกุล นอกใจตั๊ก แล้วไปซื้อรถให้ผู้หญิงอื่น

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ โทรสอบถามไปยัง เล็ก ธนาภา ชีพนุรัตน์ คุณแม่ตั๊ก ได้คำตอบสั้นๆ น่าจะทำให้ขาเม้าท์มอยเงิบว่า "แม่ไม่รู้เรื่องเลย" เป็นไลน์หลุดที่น่าจะเป็นของตั๊ก สนทนาเกี่ยวกับคุณใหญ่ บุญชัย ค่ะคุณแม่? "ตั้กไม่มีไลน์เลย ไม่เล่นไลน์นะ เลี้ยงลูกอย่างเดียว...แค่นี้ก่อนนะ พอดีแม่อยู่ที่วัด" เป็นที่น่าสังเกตกรุ๊ปไลน์ ที่อ้างว่าตั๊กแชตนั้น เป็นกรุ๊ป 'ไทยนิยม' ซึ่งตั๊กเป็นหนึ่งใน 12 ผู้กำกับที่ร่วมทำหนังสั้นออกมาด้วย".

ประท้วง'ชาร์ลีเอ็บโด'เดือด! มุสลิมชุมนุมต้านการ์ตูนล้อ

ท่ามกลางการชุมนุมที่เป็นไปอย่างสงบในหลายประเทศ ไนเจอร์ถือว่าเป็นชาติที่ 2 ต่อจากปากีสถาน ที่มีเหตุความวุ่นวายระหว่างการชุมนุมต่อต้านนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด โดยที่ปากีสถาน ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจด้านนอกสถานกงสุลฝรั่งเศสในเมืองการาจี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ในนั้นรวมถึงช่างภาพของเอเอฟพี

นิตยสารแนวเสียดสีนี้ตีพิมพ์ภาพศาสดามูฮัมหมัดอีกครั้งเมื่อวันพุธ(14ม.ค.) แต่คราวนี้มีหยดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของพระองค์และถือป้าย “ฉันคือชาร์ลี” (Je suis Charlie) พร้อมข้อความพาดหัวว่า “ให้อภัยหมดแล้ว” โดยมันนับเป็นฉบับแรกที่ออกวางจำหน่าย นับตั้งแต่นิตยสารแห่งนี้ถูกมือปืนอิสลามิสต์โจมตีสำนักงานในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 7 มกราคม คร่าชีวิต 12 ศพ

ภาพดังกล่าวก่อความขุ่นเคืองแก่ชาวมุสลิม โดยกาตาร์ ประณามว่ามันเป็นการ์ตูนที่ก้าวร้าว "พฤติกรรมที่น่าอดสูนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่ใครเลย มันรังแต่จะกระพือความโกรธแค้นและเกลียดชัง" กระทรวงการต่างประเทศเตือน พร้อมระบุว่า "มันละเมิดคุณค่าของมนุษย์ต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ความอดทน ความยุติธรรมและการให้ความเคารพต่อกัน"

ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของบาห์เรนก็แสดงจุดยืนในทิศทางเดียวกัน โดยบอกว่าการตีพิมพ์การ์ตูนล้อลักษณะนี้จะก่อพื้นฐานความคิดที่แผ่กระจายความเกลียดชังและก่อการร้าย "การ์ตูนของชาร์ลี แอบโด ฉบับล่าสุดน่าอัปยศอย่างยิ่งและไม่ควรมีความพยายามยั่วยุมุสลิมและเย้ยหยันศรัทธาของพวกเขาอีก"

พบเห็นเหล่าผู้ชุมนุมราว 1,000 คนในกรุงดาการ์ เมืองหลวงของเซเนกัล จุดไฟเผาธงชาติฝรั่งเศสด้านนอกสถานทูตแดนน้ำหอม ประณามชาร์ลี เอ็บโด และตะโกนกู่ก้องสรรเสริญศาสดามูฮัมหมัด

ในกรุงอัมมัม ของจอร์แดน ผู้ประท้วงราว 2,500 คน เดินขบวนจากมัสยิดอัล-ฮัสเซนี ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น พร้อมชูป้ายข้อความว่า "การดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัดคือก่อการร้ายโลก"

พรรคอิสลามิค แอคชัน ฟรอนต์ พรรคฝ่ายค้านของจอร์แดน ฝ่ายการเมืองของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมสาขาจอร์แดน ประณามการเผยแพร่การ์ตูนล้อเลียนดังกล่าวว่า "เป็นการโจมตีมุสลิมทั่วโลก" ส่วนกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหล่าผู้นำโลกที่ร่วมเดินขบวนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันต่อต้านการก่อการร้ายในปารีส บอกเมื่อวันพฤหัสบดี(15ม.ค.) การชาร์ลี เอ็บโด ฉบับล่าสุดนั้นขาดความรับผิดชอบและขาดการยั้งคิด

ชาวแอลจีเรียราว 2,000-3000 คน เดินขบวนในกรุงแอลเจียร์ ตะโกนว่า "เราทุกคนล้วนศรัทธามูฮัมหมัด" ขณะที่บางส่วนก็ตะโกนสนับสนุนสองพี่น้องคูอาชี ที่ลงมือสังหารหมู่ชาร์ลี เอ็บโด ส่วนที่อิสตันบูล ของตุรกี มีผู้ประท้วงราว 100 คน ออกมารวมตัวกันตามเสียงเรียกร้องของกลุ่ม Fraternal Platform of the Prophet's Companions ด้วยบางส่วนก็ชูป้ายสองพี่น้องตระกูลคูอาชีเช่นกัน

ประชาชนชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนร่วมชุมนุมกันที่มัสยิดอัล-อักดาของเยรูซาเลม พร้อมกับป้ายข้อความ "อิสลามคือศาสนาแห่งสันติ" และ "พระองค์มูฮัมหมัดจะทรงเป็นผู้นำของเราไปตลอดกาล" ขณะที่กองกำลังความมั่นคงอิสราเอลที่คอยทำหน้าที่ควบคุมการเข้าออกมัสยิดดังกล่าว บอกว่าการสวดมนต์ในวันศุกร์(16ม.ค.) ผ่านพ้นไปโดยปราศจากเหตุการณ์ใดๆ และไม่มีรายงานเหตุความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมหลังจากนั้น

ในซูดาน มีประชาชนหลายร้อยคนหลั่งไหลไปยังมัสยิดกลางของกรุงคาร์ทูม และเดินขบวนข้ามไปยังจตุรัสแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกัน พร้อมตะโกนว่า "ตะเพิดเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสออกไปซะ ชัยชนะของพระศาสดา" ขณะที่ป้ายของความหนึ่งเขียนเป็นภาษาอาหรับ มีใจความว่า "รัฐบาลฝรั่งเศสควรขอโทษ และรัฐบาลฝรั่งเศสควรหยุดดูหมิ่นบุคคลทางศาสนา"

การประท้วงต่อต้านการ์ตูนในเตหะรานถูกยกเลิก โดยไม่มีคำยืนยันถึงเหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านพูดกล่าวนักแสวงบุญว่าการตีพิมพ์การ์ตูนล้อศาสดามูฮัมหมัดเทียบเท่ากับความชั่วช้า

สภาอุลามาอ์อาวุโส ซึ่งเป็นองค์กรศาสนาสูงสุดของซาอุดีอาระเบีย ก็ประณามการตีพิมพ์ภาพล้อศาสนามูฮัมหมัดเช่นกัน โดยชี้ว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพแห่งการสร้างสรรค์หรือเสรีภาพทางความคิดใดๆเลย พร้อมเตือนว่าการเผยแพร่ภาพดังกล่าวรังแต่จะถูกพวกหัวรุนแรงสุดโต่งใช้เป็นข้ออ้างในการเข่นฆ่าและก่อการร้าย


เลขเด็ดเพื่อนนายตร.คนดัง เลขท้าย 2 ตัวตรงเผง “74”

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ห้องกาญจนาภิเษก 2 สถาบันวิชาการทีโอที ซอยงามวงศ์วาน 17 อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) ประจำงวดวันที่ 16 ม.ค. 2558 ซึ่งเป็นวันครูแห่งชาติ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีทั้งประชาชน และพนักงานทีโอที เข้ามารับชมการออกรางวัลจำนวนมาก

สำหรับการออกรางวัลสลากฯ ครั้งนี้ มีนางปิยะพันธุ์ อุดมศิลป อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นประธานออกรางวัล โดยรางวัลเลขท้าย 3 ตัวได้แก่ หมายเลข 877, 398, 068, 595 รางวัลเลขท้าย 2 ตัว ได้แก่หมายเลข 74 และรางวัลที่ 1 ได้แก่หมายเลข 244351 ส่วนรางวัลที่ 1 พิเศษกลุ่มที่ 1 ได้แก่ ชุดที่ 05 หมายเลข 244351 และรางวัลที่ 1 พิเศษกลุ่มที่ 2 ได้แก่ ชุดที่ 60 หมายเลข 244351

บรรยากาศการออกรางวัลในส่วนรางวัลเลขท้าย 2 ตัว หมายเลข 74 นั้น ทันทีที่ทราบผลเรียกเสียงฮือฮา ดีใจจากเซียนหวยที่มาลุ้นการออกรางวัลอย่างมาก เพราะเป็นตัวเลขดังที่มาจากกระแสข่าวที่อดีตรัฐมนตรี ได้ให้เลขท้าย 2 ตัว ไว้ คือเลข 71, 72, 74 และ 78 ส่วนรางวัลที่ 1 ก็เรียกเสียงฮือฮาและดีใจไม่แพ้กัน เพราะเลขท้ายรางวัลที่ 1 เป็นเลขปีค.ศ.ของปีนี้ 2015

พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า รางวัลเลขท้าย 74 ที่ตรงกับการคำนวณตัวเลขของเพื่อนนายปรีดา พัฒนถาบุตร อดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย นั้น การให้ตัวเลขตามกระแสข่าวเป็นความบังเอิญและการคาดเดา ซึ่งมองว่าตัวเลขดังกล่าว เป็นกระบวนการสร้างมูลค่าของตัวเลข แต่มีโอกาสจะถูกหรือไม่นั้น จะมีสัดส่วนอยู่ที่ 1 ใน 10 เท่านั้น

“ขอยืนยันว่ากระบวนการออกรางวัลของสำนักงานสลากฯ มีมาตรฐานตามหลักสากล มีความโปร่งใสและสามารถตัวสอบได้ โดยเฉพาะการออกรางวัลจะเป็นกระบวนการสุ่มทั้งหมด ที่ไม่มีอะไรมาจับเชื่อมโยงกันได้เลย ทั้งกรรมการและหลักของการออกรางวัล ที่ไม่สามารถจะคำนวณล่วงหน้าได้อยู่แล้ว และที่ผ่านมาการคำนวณตัวเลขที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ถูกเสมอไป โดยเฉพาะงวดนี้ก็สุ่มตัวเลขที่มีทั้ง 2 และ 7 นำหน้า” พล.ต.ฉลองรัฐกล่าว

สำหรับขั้นตอนการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ พ.ศ.2517 จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ วันที่ 23 ม.ค.นี้ ก่อนที่จะเสนอให้นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง พิจารณาเป็นขั้นตอนต่อไป โดยเชื่อว่ากระทรวงการคลังจะพิจารณาโดยเร็วที่สุด เพื่อเสนอให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบ ส่วนการป้องกันสลากฯ ปลอม ได้สั่งการให้สำนักงานจ่ายเงินรางวัลเน้นย้ำกับผู้แทนให้ตรวจสอบสลากฯที่มาขึ้นรางวัลให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้ามาหลอกลวง

ท่ามกลางการชุมนุมที่เป็นไปอย่างสงบในหลายประเทศ ไนเจอร์ถือว่าเป็นชาติที่ 2 ต่อจากปากีสถาน ที่มีเหตุความวุ่นวายระหว่างการชุมนุมต่อต้านนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด โดยที่ปากีสถาน ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจด้านนอกสถานกงสุลฝรั่งเศสในเมืองการาจี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ในนั้นรวมถึงช่างภาพของเอเอฟพี

นิตยสารแนวเสียดสีนี้ตีพิมพ์ภาพศาสดามูฮัมหมัดอีกครั้งเมื่อวันพุธ(14ม.ค.) แต่คราวนี้มีหยดน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของพระองค์และถือป้าย “ฉันคือชาร์ลี” (Je suis Charlie) พร้อมข้อความพาดหัวว่า “ให้อภัยหมดแล้ว” โดยมันนับเป็นฉบับแรกที่ออกวางจำหน่าย นับตั้งแต่นิตยสารแห่งนี้ถูกมือปืนอิสลามิสต์โจมตีสำนักงานในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 7 มกราคม คร่าชีวิต 12 ศพ

ภาพดังกล่าวก่อความขุ่นเคืองแก่ชาวมุสลิม โดยกาตาร์ ประณามว่ามันเป็นการ์ตูนที่ก้าวร้าว "พฤติกรรมที่น่าอดสูนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่ใครเลย มันรังแต่จะกระพือความโกรธแค้นและเกลียดชัง" กระทรวงการต่างประเทศเตือน พร้อมระบุว่า "มันละเมิดคุณค่าของมนุษย์ต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ความอดทน ความยุติธรรมและการให้ความเคารพต่อกัน"

ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของบาห์เรนก็แสดงจุดยืนในทิศทางเดียวกัน โดยบอกว่าการตีพิมพ์การ์ตูนล้อลักษณะนี้จะก่อพื้นฐานความคิดที่แผ่กระจายความเกลียดชังและก่อการร้าย "การ์ตูนของชาร์ลี แอบโด ฉบับล่าสุดน่าอัปยศอย่างยิ่งและไม่ควรมีความพยายามยั่วยุมุสลิมและเย้ยหยันศรัทธาของพวกเขาอีก"

พบเห็นเหล่าผู้ชุมนุมราว 1,000 คนในกรุงดาการ์ เมืองหลวงของเซเนกัล จุดไฟเผาธงชาติฝรั่งเศสด้านนอกสถานทูตแดนน้ำหอม ประณามชาร์ลี เอ็บโด และตะโกนกู่ก้องสรรเสริญศาสดามูฮัมหมัด

ในกรุงอัมมัม ของจอร์แดน ผู้ประท้วงราว 2,500 คน เดินขบวนจากมัสยิดอัล-ฮัสเซนี ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น พร้อมชูป้ายข้อความว่า "การดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัดคือก่อการร้ายโลก"

พรรคอิสลามิค แอคชัน ฟรอนต์ พรรคฝ่ายค้านของจอร์แดน ฝ่ายการเมืองของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมสาขาจอร์แดน ประณามการเผยแพร่การ์ตูนล้อเลียนดังกล่าวว่า "เป็นการโจมตีมุสลิมทั่วโลก" ส่วนกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหล่าผู้นำโลกที่ร่วมเดินขบวนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันต่อต้านการก่อการร้ายในปารีส บอกเมื่อวันพฤหัสบดี(15ม.ค.) การชาร์ลี เอ็บโด ฉบับล่าสุดนั้นขาดความรับผิดชอบและขาดการยั้งคิด

ชาวแอลจีเรียราว 2,000-3000 คน เดินขบวนในกรุงแอลเจียร์ ตะโกนว่า "เราทุกคนล้วนศรัทธามูฮัมหมัด" ขณะที่บางส่วนก็ตะโกนสนับสนุนสองพี่น้องคูอาชี ที่ลงมือสังหารหมู่ชาร์ลี เอ็บโด ส่วนที่อิสตันบูล ของตุรกี มีผู้ประท้วงราว 100 คน ออกมารวมตัวกันตามเสียงเรียกร้องของกลุ่ม Fraternal Platform of the Prophet's Companions ด้วยบางส่วนก็ชูป้ายสองพี่น้องตระกูลคูอาชีเช่นกัน

ประชาชนชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนร่วมชุมนุมกันที่มัสยิดอัล-อักดาของเยรูซาเลม พร้อมกับป้ายข้อความ "อิสลามคือศาสนาแห่งสันติ" และ "พระองค์มูฮัมหมัดจะทรงเป็นผู้นำของเราไปตลอดกาล" ขณะที่กองกำลังความมั่นคงอิสราเอลที่คอยทำหน้าที่ควบคุมการเข้าออกมัสยิดดังกล่าว บอกว่าการสวดมนต์ในวันศุกร์(16ม.ค.) ผ่านพ้นไปโดยปราศจากเหตุการณ์ใดๆ และไม่มีรายงานเหตุความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมหลังจากนั้น

ในซูดาน มีประชาชนหลายร้อยคนหลั่งไหลไปยังมัสยิดกลางของกรุงคาร์ทูม และเดินขบวนข้ามไปยังจตุรัสแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกัน พร้อมตะโกนว่า "ตะเพิดเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสออกไปซะ ชัยชนะของพระศาสดา" ขณะที่ป้ายของความหนึ่งเขียนเป็นภาษาอาหรับ มีใจความว่า "รัฐบาลฝรั่งเศสควรขอโทษ และรัฐบาลฝรั่งเศสควรหยุดดูหมิ่นบุคคลทางศาสนา"

การประท้วงต่อต้านการ์ตูนในเตหะรานถูกยกเลิก โดยไม่มีคำยืนยันถึงเหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านพูดกล่าวนักแสวงบุญว่าการตีพิมพ์การ์ตูนล้อศาสดามูฮัมหมัดเทียบเท่ากับความชั่วช้า

สภาอุลามาอ์อาวุโส ซึ่งเป็นองค์กรศาสนาสูงสุดของซาอุดีอาระเบีย ก็ประณามการตีพิมพ์ภาพล้อศาสนามูฮัมหมัดเช่นกัน โดยชี้ว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพแห่งการสร้างสรรค์หรือเสรีภาพทางความคิดใดๆเลย พร้อมเตือนว่าการเผยแพร่ภาพดังกล่าวรังแต่จะถูกพวกหัวรุนแรงสุดโต่งใช้เป็นข้ออ้างในการเข่นฆ่าและก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พล.ต.ต.นิธิพัฒน์ พัฒนถาบุตร ผบก.อก.ภ.5 บุตรชายนายปรีดา พัฒนถาบุตร อดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย และรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เคยให้หวยแม่นนั้น ก็เผยว่า งวดนี้ยังมีเพื่อนของตนให้เลขเด็ดมาด้วยเช่นกัน เป็นเลข 7 โดยคำนวนเลขก็เห็น เพื่อนคนนี้ถูกหวยเลขท้ายรางวัลที่ 1 มาแล้วหลายครั้ง เหมือนกัน งวดนี้ เลขที่เหมาะสำหรับเล่นเลขท้ายบนล่าง คือ 71,72,74,78


'พระเกษม' รับชัดตุ๋ยลูกศิษย์ อ้างไม่รู้ตัว ไม่ผิดพระธรรมวินัย

เหล่าลูกศิษย์สุดช็อก!! "พระเกษม" เจ้าสำนักสงฆ์สามแยก ยอมรับตุ๋ยลูกศิษย์หนุ่มวัย 34 จริง แต่ทำไปโดยไม่รู้ตัว ถือไม่ผิดพระธรรมวินัย จนลูกศิษย์บางส่วนรับไม่ได้แนะให้สึกเพราะปาราชิก ประกาศแยกตัวไม่ขอยุ่งเกี่ยว แต่อีกส่วนมีมติเชิญพระผู้ใหญ่ สอบสวนใหม่ให้แน่ชัด...

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 58 พระเกษม อาจิณณสีโล หัวหน้าสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก ต. วังกวาง อ.น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ ได้ชี้แจงต่อคณะศิษย์ ซึ่งข้องใจสงสัยในพฤติกรรมเสพเมถุน กับลูกศิษย์อุปฐากจนเกิดเรื่องฉาวโฉ่ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในกลุ่มลูกศิษย์ ขณะที่พระเกษมยอมรับกึ่งภาคเสธว่า ได้กระทำไปในขณะไม่รู้สึกตัว ไม่มีเจตนา ไม่มีความตั้งใจกระทำในพฤติกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด แต่หากมีการสอบสวน หรือคณะศิษย์มีมติเป็นเอกฉันท์ให้สึก ก็ยินดีสึกออกจากสำนักไปโดยไม่มีเงื่อนไขต่อรอง ขอเพียงเสื้อผ้าและข้าวเพียงห่อเดียวเท่านั้น

ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ที่ศาลาปฎิบัติธรรม สำนักสงฆ์ป่าสามแยก ได้มีบรรดาคณะลูกศิษย์ และมัคทายกวัด รวมทั้งพระลูกศิษย์ราว 60 คน ได้เปิดทำการไต่สวนพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์สามแยก ซึ่งโด่งดังจากคดีหมิ่นศาสนา และคลิปการกระทำไม่เหมาะสม หลังจากมีข่าวลือในหมู่ลูกศิษย์ว่า พระเกษมเสพเมถุนกับลูกศิษย์อุปฐากอายุ 34 ปี ภายในสำนักสงฆ์ และเมื่อคณะกรรมการสำนักสงฆ์ ได้รับทราบจึงทำการติดตามตรวจสอบ กระทั่งมีการพบเบาะแสว่าเป็นความจริง โดยลูกศิษย์หนุ่มใหญ่ที่ถูกพระเกษมเสพเมถุน ได้ยอมรับพร้อมเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง จนนำมาสู่การไต่สวนอย่างเปิดเผย

สำหรับการไต่สวนในครั้งนี้ นอกจากจะมีบรรดาลูกศิษย์ใกล้ชิดและมัคนายกวัดเข้าร่วมแล้ว หนุ่มลูกศิษย์วัดที่เป็นคู่กรณีกับพระเกษม ยังเข้าร่วมให้รายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย นอกจากนี้ ระหว่างไต่สวนยังมีการถ่ายทอดสด โดยแพร่ทั้งภาพและเสียงผ่านทางอินเตอร์เน็ตของสำนักสงฆ์ป่าสามแยกอีกด้วย แต่ปรากฏว่าเมื่อมีลูกศิษย์เอ่ยปากถามพระเกษม กลับได้รับคำตอบว่า เป็นความจริงแต่ที่ทำไปนั้นไม่รู้ตัว

ขณะที่พระเกษม อ้างว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้ต้องอาบัติปาราชิก เพราะช่วงที่ก่อเหตุตนเองไม่มีสติสัมปชัญญะ จึงไม่จำเป็นต้องสึกจากผ้าเหลือง และเสนอให้ลูกศิษย์ทำการตั้งศาลสงฆ์ ขึ้นตรวจสอบตนเองได้เลย เพราะพระธรรมวินัยระบุ ถ้าการกระทำไปโดยไม่รู้สึกตัว ถือว่าไม่ผิดพระธรรมวินัย ขณะที่ฝ่ายลูกศิษย์มีท่าทีแตกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งเห็นว่าควรที่จะสึกจากความเป็นสงฆ์ และบางส่วนเห็นว่าไม่ได้ทำความผิด

อย่างไรก็ตาม หลังพระเกษม เปิดปากยอมรับความจริง ปรากฏว่าบรรดาลูกศิษย์ที่นั่งฟังชี้คำแจง ต่างตกอยู่ในอาการตะลึง เนื่องจากไม่คาดคิดว่าจะได้ยินพระเกษม เอ่ยปากยอมรับอย่างชัดถ้อยชัดคำแบบนี้ โดยบรรดาลูกศิษย์ แม้เห็นพ้องว่าพระเกษมต้องปาราชิก หรือควรสึกออกไป แต่ก็ยังมีเสียงทัดทานจากพระลูกวัดบางรูปถึงข้ออ้างว่า พระเกษมทำไปโดยไม่รู้ตัว จึงมีมติให้มีการเชิญพระสงฆ์ผู้ใหญ่และบุคคลภายทำการสอบสวน และล่าสุดที่เว็บไซต์สำนักสงฆ์ป่าสามแยก เริ่มมีบรรดาลูกศิษย์ประกาศแยกตัวไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพระเกษมอีกต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิโชติ สินพรหม หนึ่งในคณะที่ปรึกษากฎหมายของพระเกษม กล่าวว่า ข่าวนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง แม้แต่คณะศิษย์ก็แบ่งแยกออกเป็นสองสามฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าพระเกษม มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เชื่อว่ากระทำผิดจริง และอีกส่วนหนึ่งเชื่อทำไปในขณะไม่รู้สึกตัวขาดเจตนาไม่สมควรให้ท่านสึก.


'ประยุทธ์'วอนประชาชน ใช้เหตุผลปม'ถอดถอน'

16 ม.ค.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้กับคนในชาติ กล่าวถึงประเด็นเรื่องการยื่นเสนอขอถอดถอนที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของสนช.อยู่ในขณะนี้ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องถกเถียงกันในช่วงนี้ คือ การถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ผิดหรือไม่ผิด ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ก็ขอทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า การที่จะทำผิดกฎหมายนั้น คงต้องแยกแยะ ปนกันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม ผิดถูกอย่างไร ถูกจริยธรรมหรือไม่ถูกอย่างไร ผิดกฎหมายอย่างไร ก็ว่ากันมา จะมีกฎหมายที่ผิดทั้งอาญา ผิดทั้งแพ่ง และผิดทางการเมือง

"อันนี้สังคมต้องแยกแยะ อย่าให้ใครมาปลุกระดมให้เกิดความไม่เข้าใจกันอีก ต้องเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน บางครั้งกฎหมาย อาจจะมีช่องทางที่ทำให้เกิดการต่อสู้กัน ทั้งถูกและผิด เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเชื่อมั่นในความสามารถหรือคุณสมบัติของ สนช. สปช. อะไรต่าง ๆ ที่เราเข้าไปทำงานในเวลานี้ สังคมต้องพยายามเข้าใจ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องการปรับปรุงกฎหมาย รัฐบาลได้จัดลำดับความเร่งด่วน ความสำคัญในการเร่งนำกฎหมายเข้าสู่การพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เราจะต้องมีตามพันธะสัญญาที่ทำไว้กับต่างประเทศ กฎหมายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน กฎหมายที่ล้าสมัย กฎหมายที่จะลดความเหลื่อมล้ำ เช่น กฎหมายมรดก กฎหมายที่เป็นสัญลักษณ์ กำลังอยู่ในวาระ 2 ของคณะกรรมาธิการซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งรัฐบาลก็ให้ข้อสังเกตไปแล้วถึงความห่วงใย ว่าจะทำอย่างไร การจัดเก็บภาษีมรดกนั้น ควรจะต้องมีข้อยกเว้นหรือไม่ สำหรับผู้ที่รับมรดกไปแล้วไม่ได้ขายต่อ จะต้องจ่ายภาษีอย่างไรหรือไม่ต้องจ่ายอย่างไร ไปพิจารณาดู เช่น การรับมรดกบ้านเก่ามาแต่ยังอยู่อาศัยหรือรับมรดกที่นามาแล้ว ยังทำกินทำเกษตรต่อจะทำอย่างไร แม้กระทั่งการโอนกันไปก่อนช่วงนี้ ที่หลายๆ คนมีข่าวว่า มีการโอนในช่วงนี้ช่วงนี้เพื่อจะหนีภาษีมรดก ก็ให้ไปทบทวนทั้งหมด

"เพราะฉะนั้นกฎหมายทุกกฎหมายทุกคนสามารถที่จะไปเสนอข้อคิดเห็นหรือส่งความเห็นได้ที่คณะกรรมาธิการ เพราะต้องเข้าพิจารณาถึง 3 วาระด้วยกัน กฎหมายใดๆ ที่จะเป็นกฎหมายให้เกิดปัญหานั้น เราก็ชะลอไว้ก่อน เช่น กฎหมายที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการลงทุน ทำให้การลงทุนลดลง ไม่เกิดความเชื่อมั่นในธุรกิจต่างๆ เพราะฉะนั้นกฎหมายที่จะออกให้เร็วก็จะต้องเป็นกฎหมายที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ ให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับทุกพวกทุกฝ่าย ในส่วนที่มีรายได้มากก็อาจจะเดือดร้อนบ้าง รายได้น้อยคิดว่าคงไม่เดือดร้อน ไม่มีใครเขาอยากจะออกกฎหมายให้คนมีรายได้น้อยเดือดร้อน อยากจะขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในเรื่องนี้ด้วย พยายามทำความเข้าใจกันด้วย รัฐบาลก็พร้อมจะรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย ขอให้มีเหตุมีผล ไม่เห็นด้วยก็ขอให้มีการเสนอทางออกหรือทางเลือกอื่นๆ ให้เราได้พิจารณา ไม่ใช่ต่อต้านทุกวัน เดินหน้าต่อไปไม่ได้ ประเทศชาติจะมีปัญหาไปทั้งหมด เรื่องของการแก้ไขหรือการออกกฎหมายนั้น มีขั้นตอนของกฎหมาย ทุกคนอาจจะยังไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นมีโอกาสที่จะรับฟังข้อพิจารณา ข้อสังเกต ให้ความคิดเห็น แต่อย่างไรก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของชาติเป็นหลัก อย่าให้เกิดความขัดแย้งมาอีกเลยในการที่จะเดินหน้าประเทศ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“ทนายปู”แจงข้อบังคับให้สิทธิ ยัน “ยิ่งลักษณ์”แถลงปิดคดีเอง

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบผู้แทนคดีไปตอบข้อซักถามต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คดีรับจำนำข้าวว่า ในข้อบังคับการประชุมสนช. ข้อที่ 154 ระบุว่า เมื่อที่ประชุมมีมติให้มีการซักถามในประเด็นปัญหากับผู้เกี่ยวข้อง จึงหมายถึงผู้แทนคดีด้วย และตามรายงานการพิจารณาการแถลงเปิดสำนวน ลงวันที่ 9 ม.ค. ตอนท้ายระบุชัดแจ้งว่า “ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติกำหนดให้มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อซักถามผู้เกี่ยวข้อง” ดังนั้น ในคดีนี้ผู้ถูกกล่าวหา จึงใช้สิทธิตามข้อบังคับให้ผู้แทนคดีตอบข้อซักถามแทน จนกว่าจะเสร็จ อีกทั้งที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาได้แถลงคัดค้านและชี้แจงต่อเรื่องที่มีการกล่าวหาในทุกๆ ประเด็นจนครบถ้วนแล้ว

“คณะทนายความเห็นว่าบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในฐานะผู้บริหาร กำกับแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว สามารถตอบข้อซักถามเพราะเป็นผู้ปฎิบัติงานในโครงการรับจำนำข้าวโดยตรงอยู่แล้ว จึงเสนอน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ควรมอบหมายให้บรรดารัฐมนตรีที่แต่งตั้ง เป็นผู้แทนคดีไว้แล้วเป็นผู้ตอบข้อซักถามในวันนี้ ประกอบกับขั้นตอนการพิจารณาคดียังไม่เสร็จสิ้น ยังเหลือวาระในเรื่องของการแถลงปิดคดีอยู่อีก และผู้แทนคดี อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีตรมช.คลังและอดีตประธานคณะกรรมการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และนายยรรยง พวงราช อดีตรมช.พาณิชย์ ล้วนเป็นผู้บริหาร กำกับ ควบคุม ดูแล โครงการรับจำนำข้าวในคดีที่มีการพิจารณาถอดถอนผู้ถูกกล่าวหา เป็นผู้รู้และทราบข้อเท็จจริงโดยละเอียด ที่จะชี้แจงตอบข้อซักถาม ในเรื่องที่มีการกล่าวหาได้ในทุกประเด็น อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปแถลงปิดคดี ในวันที่ 22 ม.ค.ด้วยตนเอง” นายนรวิชญ์ กล่าว

16 ม.ค.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้กับคนในชาติ กล่าวถึงประเด็นเรื่องการยื่นเสนอขอถอดถอนที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของสนช.อยู่ในขณะนี้ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องถกเถียงกันในช่วงนี้ คือ การถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ผิดหรือไม่ผิด ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ก็ขอทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า การที่จะทำผิดกฎหมายนั้น คงต้องแยกแยะ ปนกันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม ผิดถูกอย่างไร ถูกจริยธรรมหรือไม่ถูกอย่างไร ผิดกฎหมายอย่างไร ก็ว่ากันมา จะมีกฎหมายที่ผิดทั้งอาญา ผิดทั้งแพ่ง และผิดทางการเมือง

"อันนี้สังคมต้องแยกแยะ อย่าให้ใครมาปลุกระดมให้เกิดความไม่เข้าใจกันอีก ต้องเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน บางครั้งกฎหมาย อาจจะมีช่องทางที่ทำให้เกิดการต่อสู้กัน ทั้งถูกและผิด เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเชื่อมั่นในความสามารถหรือคุณสมบัติของ สนช. สปช. อะไรต่าง ๆ ที่เราเข้าไปทำงานในเวลานี้ สังคมต้องพยายามเข้าใจ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องการปรับปรุงกฎหมาย รัฐบาลได้จัดลำดับความเร่งด่วน ความสำคัญในการเร่งนำกฎหมายเข้าสู่การพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เราจะต้องมีตามพันธะสัญญาที่ทำไว้กับต่างประเทศ กฎหมายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน กฎหมายที่ล้าสมัย กฎหมายที่จะลดความเหลื่อมล้ำ เช่น กฎหมายมรดก กฎหมายที่เป็นสัญลักษณ์ กำลังอยู่ในวาระ 2 ของคณะกรรมาธิการซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งรัฐบาลก็ให้ข้อสังเกตไปแล้วถึงความห่วงใย ว่าจะทำอย่างไร การจัดเก็บภาษีมรดกนั้น ควรจะต้องมีข้อยกเว้นหรือไม่ สำหรับผู้ที่รับมรดกไปแล้วไม่ได้ขายต่อ จะต้องจ่ายภาษีอย่างไรหรือไม่ต้องจ่ายอย่างไร ไปพิจารณาดู เช่น การรับมรดกบ้านเก่ามาแต่ยังอยู่อาศัยหรือรับมรดกที่นามาแล้ว ยังทำกินทำเกษตรต่อจะทำอย่างไร แม้กระทั่งการโอนกันไปก่อนช่วงนี้ ที่หลายๆ คนมีข่าวว่า มีการโอนในช่วงนี้ช่วงนี้เพื่อจะหนีภาษีมรดก ก็ให้ไปทบทวนทั้งหมด

"เพราะฉะนั้นกฎหมายทุกกฎหมายทุกคนสามารถที่จะไปเสนอข้อคิดเห็นหรือส่งความเห็นได้ที่คณะกรรมาธิการ เพราะต้องเข้าพิจารณาถึง 3 วาระด้วยกัน กฎหมายใดๆ ที่จะเป็นกฎหมายให้เกิดปัญหานั้น เราก็ชะลอไว้ก่อน เช่น กฎหมายที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการลงทุน ทำให้การลงทุนลดลง ไม่เกิดความเชื่อมั่นในธุรกิจต่างๆ เพราะฉะนั้นกฎหมายที่จะออกให้เร็วก็จะต้องเป็นกฎหมายที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ ให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับทุกพวกทุกฝ่าย ในส่วนที่มีรายได้มากก็อาจจะเดือดร้อนบ้าง รายได้น้อยคิดว่าคงไม่เดือดร้อน ไม่มีใครเขาอยากจะออกกฎหมายให้คนมีรายได้น้อยเดือดร้อน อยากจะขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในเรื่องนี้ด้วย พยายามทำความเข้าใจกันด้วย รัฐบาลก็พร้อมจะรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย ขอให้มีเหตุมีผล ไม่เห็นด้วยก็ขอให้มีการเสนอทางออกหรือทางเลือกอื่นๆ ให้เราได้พิจารณา ไม่ใช่ต่อต้านทุกวัน เดินหน้าต่อไปไม่ได้ ประเทศชาติจะมีปัญหาไปทั้งหมด เรื่องของการแก้ไขหรือการออกกฎหมายนั้น มีขั้นตอนของกฎหมาย ทุกคนอาจจะยังไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นมีโอกาสที่จะรับฟังข้อพิจารณา ข้อสังเกต ให้ความคิดเห็น แต่อย่างไรก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของชาติเป็นหลัก อย่าให้เกิดความขัดแย้งมาอีกเลยในการที่จะเดินหน้าประเทศ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายนรวิชญ์ กล่าวอีกว่า ขอความเป็นธรรมต่อสนช.ให้วางตัวเป็นกลาง ไม่มีอคติ และขอให้ฟังข้อมูลข้อเท็จจริงที่อดีตรัฐมนตรีทุกคนชี้แจง จะได้ทราบว่าอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เคยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย อีกทั้งขอให้สมาชิก สนช.ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม ไม่มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง เพียงเพื่อต้องการล้มล้างคณะรัฐมนตรีที่มาจากระบอบประชาธิปไตย และมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น