ข่าว
สุดทึ่ง เจ็ดขวบหญิงเมืองผู้ดี กลายเป็น"ดีเจ"อายุน้อยที่สุดของโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ว่า แอมเบอร์ จาค็อบส์ เด็กนักเรียนหญิงของอังกฤษ เตรียมจะได้รับการบันทึกว่าเป็นดีเจอายุน้อยที่สุดของโลกแล้ว ภายหลังเธอได้เป็นดีเจเปิดรายการเพลงออกอากาศสด ของสถานีออนไลน์ "TBFM" กับบิดาของเธอ โดยเธอได้ช่วยงานดีเจพ่อของเธอในทุกสัปดาห์ ก่อนที่เธอจะผันตัวเองมาจัดรายการโดยแนะนำเพลงต่าง ๆ ที่เธอเห็นว่าน่าสนใจ

โดยดีเจหนูน้อยรายนี้บอกว่า เธอขอบเล่นเพลงโปรดของเธอและฟังวงที่เธอโปรด และชอบได้นั่งเก้าอี้ดีเจและควบคุมแผงวงจรเล่นเพลงไปด้วย ขณะที่นายสตีฟ จาค็อบส์ พ่อของเธอบอกว่า ระหว่างที่เธอนั่งเก้าอี้ดีเจ ลูกสาวของเขาจะเลือกเพลง และพูดไประหว่างหาเพลง ซึ่งส่วนใหญ่เธอจะพูดเรื่องดนตรี วงโปรดของเธอ และเรื่องราวของเธอกับเพื่อนในโรงเรียน นอกจากนี้ เธอยังชอบเต้นไปรอบ ๆ สตูดิโอ และมีความสุขมาก ขณะที่กระแสตอบรับถือว่าเยี่ยมมาก เพราะเธอเป็นธรรมชาติมาก ๆ

10 สาขาวิชาเอกที่ตกงาน-ค่าตอบแทนน้อยสุด กับ 10 สาขาที่ได้เงินสูงสุดในอเมริกา

มีแนวทางด้านการศึกษาที่เว็บไซต์ฟอร์บ ได้นำเสนอผลสำรวจจากศูนย์การศึกษาและทำงาน แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ สหรัฐอเมริกา (ซีอีดับเบิ้ลยู) ทำการสำรวจสถานะวิชาเอกในมหาวิทยาลัย วิชาเอกใดที่จบออกมามีโอกาสว่างงานและได้รับผลตอบแทนไม่สูงนัก ทั้งนี้เป็นการสำรวจเฉพาะในสหรัฐอเมริกาช่วงปี 2009-2010 อย่างไรก็ตามมีความน่าสนใจไม่น้อยถึงเทรนด์การศึกษาของประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาว่าตลาดแรงงานของเขากำลังให้ความสนใจไปที่สาขาวิชาเอกใดในห้วงทศวรรษนี้


1.สาขาวิชามนุษยวิทยาและโบราณคดี มีอัตราว่างงานที่ 10.5 เปอร์เซ็นต์
2.สาขาวิชาภาพยนตร์ และภาพถ่าย มีอัตราว่างงานที่ 12.9 เปอร์เซ็นต์
3.สาขาศิลปกรรม อัตราว่างงานที่ 12.6 เปอร์เซ็นต์
4.สาขาศาสนาและปรัชญา อัตราว่างงาน 10.8 เปอร์เซ็นต์
5.สาขาศิลปศาสตร์ อัตราว่างงาน 9.2 เปอร์เซ็นต์
6.สาขาดนตรี อัตราว่างงาน 9.2 เปอร์เซ็นต์
7.สาขากายภาพ อัตราว่างงาน 8.3 เปอร์เซ็นต์
8.สาขาออกแบบกราฟฟิก อัตราว่างงาน 11.8 เปอร์เซ็นต์
9.สาขาประวัติศาสตร์ 10.2 เปอร์เซ็นต์
10.สาขาวรรณคดีและภาษาอังกฤษ อัตราว่างงาน 9.2 เปอร์เซ็นต์

ส่วนวิชาเอกที่มีอัตราว่างงานต่ำและมีค่าตอบแทนสูง ได้แก่
1.สาขา วิศวกรรมศาสตร์ด้านชีวการแพทย์
2.สาขา ชีวเคมี
3.สาขา วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
4.สาขา วิศวกรรมศาสตร์ซอฟท์แวร์
5.สาขา วิศวกรรมศาสตร์สิ่งแวดล้อม
6.สาขา วิศวกรรมศาสตร์ผังเมือง
7.สาขา ธรณีวิทยา
8.สาขา บริหารจัดการระบบข้อมูล
9.สาขา วิศวกรรมศาสตร์ปิโตรเลียม
10.สาขา คณิตศาสตร์ประยุกต์

เหล่าดาราหญิงดังฮอลลีวูด ดาหน้าถล่ม"มิตต์ รอมนีย์"

สำนักต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ว่า เหล่าดาราดังหญิงฮอลลีวูด ประกอบด้วย สการ์เล็ตต์ โยฮานส์สัน ,อีวา ลองโกเรีย และเคอร์รี่ วอชิงตัน ต่างร่วมรณรงค์โจมตีนายมิตต์ รอมนีย์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวีดีโอของกลุ่ม"MoveOn.org"ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต ในประเด็นที่ฝ่ายหลังต่อต้านการทำแท้ง โดยในคลิปดังกล่าว สการ์เล็ตต์ กล่าวว่า ฉันอยากพูดกับทุกคน และนายมิตต์ รอมนีย์ เรื่องผู้หญิง และว่าหากชาวอเมริกัน คิดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีผลกระทบกับชีวิตคุณ จงคิดเสียใหม่ และเลือกบารัก โอบาม่า

นอกจากนี้ เธอและดาราคนอื่น ๆ ได้โจมตีนายรอมนีย์ว่า คุกคามต่อการคว่ำการทำแท้งเสรี และจะยกเลิกการสนับสนุนการวางแผนครอบครัว และปล่อยให้พรรครีพับลิกันยอมให้"การข่มขืนจิตใจ"เป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย โดยคลิปดังกล่าวมีกำหนดจะเผยแพร่ในช่วงที่นายโอบามาและนายรอมนีย์ จะต้องหาเสียงต่อสู้ในสนามใหญ่ในรัฐโคโลราโด และเวอร์จิเนีย รวมทั้งในช่วงโชว์รายการโทรทัศน์ที่มีกลุ่มผู้หญิงจำนวนมากติดตามชม

ทั้งนี้ สำหรับผลการสำรวจกระทำโดย"กัลลอพ โพล"ระบุว่า ผู้หญิงในรัฐที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกผู้สมัครรายใดอย่างแน่ชัด หรือ"รัฐสวิง โหวต"พบว่า นายโอบามามีคะแนนนิยม 49 เปอร์เซนต์ และนายรอมนีย์ มีคะแนนนิยม 48 เปอร์เซนต์

"นิวสวีค"ปิดฉากนิตยสาร เดินหน้าสื่อออนไลน์-ดิจิตอล

นิตยสารนิวสวีค ประกาศเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ว่า จะยุติการพิมพ์นิตยสารแบบเล่มภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นแบบดิจิตอลทั้งหมด ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่รุนแรง

นิวสวีคประกาศยุติการตีพิมพ์นิตยสารที่ดำเนินการมายาวนาน 80 ปี ภายในสิ้นปีนี้ โดยจะหันมามุ่งเน้นผลิตผ่านสื่อออนไลน์และดิจิตอลแทน

นางทีน่า บราวน์ บรรณาธิการบริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัทนิวส์วีค เดลี่ บีสต์ออนไลน์ เปิดเผยในเว็บไซต์เดลี่ บีสต์ ว่า บริษัทกำลังทำการเปลี่ยนโฉมนิวสวีคเสียใหม่ ไม่ใช่การโบกมือลาแต่อย่างใด การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคุณภาพของแบรนด์หรือความเป็นสื่อมวลชน ที่ยังคงทรงพลังเช่นเดิม แต่เพื่อตอบสนองความท้าทายด้านเศรษฐกิจของสื่อสิ่งพิมพ์และการจัดจำหน่ายในปัจจุบัน

แถลงการณ์ของบริษัทนิวสวีค เดลี่ บีสต์ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า นิวสวีคฉบับสุดท้ายในรูปแบบนิตยสารจะวางแผงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ จากนั้นจะหันมาผลิตเป็นสื่อออนไลน์และดิจิตอลแทน โดยจะมุ่งเน้นผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือที่ต้องการทราบข่าวสารข้อมูลของโลก อีกทั้งสามารถติดตามนิวสวีคในรูปแบบสื่อออนไลน์และดิจิตอลได้ผ่านทางเว็บไซต์ เครื่องเล่นแท็บเล็ต แต่ต้องสมัครเป็นสมาชิกเท่านั้น

นางบราวน์เรียกการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจสิ่งพิมพ์ของบริษัทและการปฏิบัติงานของเว็บไซต์เดลี่ บีสต์ ออนไลน์ ว่า "นิวสวีค โกลบอล" ที่อาจจำเป็นต้องมีการปลดพนักงานออกทั้งฝ่ายข่าวและเจ้าหน้าปฏิบัติงาน ทั้งในสหรัฐฯเองและในต่างประเทศ

นิวสวีคเคยได้ชื่อว่าต่อกรกับนิตยสารคู่แข่งอย่าง ไทมส์ แมกกาซีน แต่ช่วงหลังมานี้ขาดรายได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้นทุนการพิมพ์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ลูกค้าสนใจลงโฆษณาลดลง แต่ความนิยมทางสื่อออนไลน์ของนิวสวีคกลับมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง