วันศุกร์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567 : กระทรวงต่างประเทศแจงข่าวเศร้า!!! เผยคนไทยเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 รายที่อิสราเอล
พร้อมแจ้งเตือนแรงงานในพื้นที่เสี่ยงให้แจ้งสถานทูตฯอพยพออกจากพื้นที่ตามที่มีรายงานข่าวเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถัง (anti-tank missile) เข้าไปยังนิคมเกษตร Yir’on ทางเหนือของอิสราเอล ติดชายแดนเลบานอน เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (11 ต.ค. 2567) ที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยในพื้นที่ นั้น
11 ต.ค.67 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งที่มีคนไทยเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 รายที่อิสราเอล โดยได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่าทางการอิสราเอลตรวจสอบแล้วและพบว่า สาเหตุเกิดจากระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ ไม่ใช่จากเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถังดังปรากฏตามข่าวก่อนหน้านี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้เสียชีวิตก่อนจะแจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป
สำหรับแรงงานไทย 1 ราย ที่ได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง Safed ทางเหนือของอิสราเอลแล้ว และสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
สถานเอกอัครราชทูตฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ในนิคมเกษตรดังกล่าว มีคนไทยประมาณ 10 คน และได้ประสานทางการอิสราเอลให้อพยพคนไทยทั้งหมดออกจากพื้นที่ในทันทีแล้ว
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอลอีกครั้งแล้วว่า หากยังมีแรงงานไทยอยู่ในเขตปิดทางทหารหรือพื้นที่เสี่ยง และมีความยากลำบากในการย้ายออกจากพื้นที่ ขอให้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อประสานงานกับทางการอิสราเอลในการย้ายออกพื้นที่ต่อไป
เมื่อเวลา 17.25 น.วันที่ 11 ต.ค.67 ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6(บน.6) ดอนเมือง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี แรงงานไทยเสียชีวิต 1 คน จากเหตุสู้รบ อิสราเอล - เลบานอนว่า นายกฯได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศเฝ้าติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อาจอยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง
รวมทั้งกำชับให้กระทรวงต่างประเทศรายงานสถานการณ์ทุกชั่วโมงโดยเฉพาะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครอยู่ที่จังหวัดใด
หน่วยงานซึ่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากระเบิดนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี 2567
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่า คณะกรรมการโนเบลนอร์เวย์ ประกาศมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2567 ให้แก่ สมาพันธ์ผู้ประสบภัยจากระเบิดปรมาณูและไฮโดรเจนแห่งญี่ปุ่น หรือ นิฮง ฮิดันเกียว “จากความพยายามในการทำให้โลกปลอดอาวุธนิวเคลียร์ และสำหรับการพิสูจน์ผ่านคำให้การของผู้รอดชีวิต ว่าต้องไม่มีการนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้อีกต่อไป”
นิฮง ฮิดันเกียว ก่อตั้งเมื่อปี 2499 โดยกลุ่มผู้รอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิมา และเมืองนางาซากิ ซึ่งกองทัพสหรัฐเป็นผู้ใช้ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง
ปัจจุบัน นิฮง ฮิดันเกียว มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น มีเป้าหมายเรียกร้องให้ภาครัฐ เดินหน้าและยกระดับความสนับสนุนให้แก่ผู้ประสบภัยร้ายแรงดังกล่าว และผลักดันให้รัฐบาลญี่ปุ่น ขับเคลื่อนนโยบายปลอดนิวเคลียร์
ทั้งนี้ นิฮง ฮิดันเกียว จะได้รับใบประกาศเกียรติคุณ เหรียญรางวัลโนเบล และเงินรางวัล 11 ล้านโครนาสวีเดน (ราว 35.31 ล้านบาท) โดยผู้แทนของนิฮง ฮิดันเกียว จะเข้ารับพระราชทานรางวัลทั้งหมด จากสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 ในพิธีซึ่งจะจัดขึ้น ณ ศาลาว่าการกรุงออสโล ในวันที่ 10 ธ.ค. นี้ ตรงกับวันคล้ายวันเสียชีวิตของนายอัลเฟรด โนเบล.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES...
รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศว่า ภาคเอกชนได้ร่วมลงทุนเป็นเงินมากกว่า 888,228 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาพลังงานสีเขียว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่าเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ ผู้นำสหราชอาณาจักร เรียกการลงทุนครั้งนี้ว่า “การแสดงความเชื่อมั่นครั้งยิ่งใหญ่” ของรัฐบาลพรรคแรงงาน และแผนการเติบโตระยะยาว แม้การเริ่มต้นของรัฐบาลชุดใหม่จะชะงักงัน นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะ จากการเลือกตั้ง เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาก็ตาม
พรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านมานานถึง 14 ปี ให้คำมั่นฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร โดยอ้างว่า เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอย่างหนัก ตลอดช่วงการบริหารของรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมหลายชุด ที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่ปี 2553
แผนการหลักของรัฐบาลพรรคแรงงาน ได้แก่ “พลังงานสีเขียว” เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม, คลื่น และแสงอาทิตย์ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกล่าวหาเซอร์สตาร์เมอร์ และนางราเชล รีฟส์ รมว.การคลัง ว่าทำให้บรรดานักลงทุนหวาดกลัว ด้วยการอ้างถึงเศรษฐกิจอันเลวร้ายในอดีต และมาตรการแก้ไขที่ยากจะรับมือในอนาคต
บริษัทอิเบร์โดลาของสเปน ซึ่งเป็นเจ้าของสกอตติช พาวเวอร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพลังงานของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า จะเพิ่มการลงทุนด้านพลังงานสะอาดอีกสองเท่า ภายในช่วงเวลา 4 ปีข้างหน้า เป็น 24,000 ล้านปอนด์ (ราว 1 ล้านล้านบาท)
ขณะเดียวกัน บริษัทเออร์สเตดของเดนมาร์ก กำลังลงทุน 8,000 ล้านปอนด์ (348,569 ล้านบาท) และบริษัทกรีนโวลต์ของโปรตุเกส กำลังลงทุน 2,500 ล้านปอนด์ (ราว 108,925 ล้านบาท)
ทั้งนี้ รัฐบาลพรรคแรงงานของเซอร์สตาร์เมอร์ ประกาศกลยุทธ์ด้านพลังงานสีเขียว เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง การจัดตั้ง “เกรต บริติช เอ็นเนอร์จี” ซึ่งจะเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่รับผิดชอบการกระตุ้นการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศ โดยจะได้รับเงินทุน 8,3000 ล้านปอนด์ (ราว 361,681 ล้านบาท) ภายในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES...
การประชุมสุดยอดอาเซียนซึ่งลาวทำหน้าที่ประธานปีนี้ ปิดฉากอย่างเป็นทางการ ขณะที่มาเลเซียจะรับตำแหน่งเจ้าภาพประจำปีหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่านายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาว แถลงปิดการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งลาวทำหน้าที่ประธานในปีนี้ ขอบคุณความสนับสนุนและความร่วมมือจากสมาชิกทุกประเทศ ซึ่งทำให้การประชุมครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี
หลังจากนั้น ผู้นำลาวส่งมอบค้อนสัญลักษณ์ประธานอาเซียน ให้แก่นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย ซึ่งจะทำหน้าที่ประธานในปี 2568
ทั้งนี้ อันวาร์กล่าวว่า มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนปีหน้า จะยังคงรักษาค่านิยมหลัก และคุณค่าพื้นฐานของอาเซียน พร้อมทั้งยืนยันว่า อาเซียนภายใต้การนำของมาเลเซีย จะยังคงเป็นประชาคมที่สันติ มีเสถียรภาพ และเป็นภูมิภาคที่รุ่งเรือง
นอกจากนี้ ปี 2568 จะเป็นปีครบรอบ 10 ปี การก่อตั้งประชาคมอาเซียน ( เออีซี ) ซึ่งเป็นการส่งเสริมความร่วมมือภายในภูมิภาค ที่ประกอบด้วยสามเสาหลัก ได้แก่ ประชาคมเศรษฐกิจ ประชาคมความมั่นคง และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม.
เครดิตภาพ : AFP...
วันศุกร์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567:ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ "พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์" เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 15
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ พ้นจากตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2567 ประกาศ ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2567 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012