ข่าว
แรงงานสุดช้ำ! 'ลอสแอนเจลิส'มีผู้ยื่นเรื่องถูกเลิกจ้างกว่า1ล้านราย

แคธรีน บาร์เกอร์ ผู้บริหารเทศมณฑลลอสแอนเจลิสกล่าวในการแถลงข่าวประจำวันของเธอ โดยอ้างอิงถึงข้อมูลจากบริษัทพัฒนาเศรษฐกิจลอสแอนเจลิส ซึ่งระบุว่าในจำนวนพนักงานกว่า 1 ล้านคนที่ถูกเลิกจ้าง มีมากกว่าร้อยละ 75 ที่ได้รับเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.59 ล้านบาท)

อุตสาหกรรมร้านอาหารได้สูญเสียงานถึงร้อยละ 80 อีกทั้งคนงาน 890,000 คนในวงการภาพยนตร์และบันเทิงถูกเลิกจ้าง

เมื่อวันอังคาร (19 พ.ค.) บาร์เกอร์ได้เป็นประธานในการประชุมครั้งที่ 2 ของคณะทำงานฟื้นฟูเศรษฐกิจแห่งลอสแอนเจลิส ที่มีผู้นำรายสำคัญจากอุตสาหกรรม 13 ประเภทมาเข้าร่วม และอภิปรายเกี่ยวกับผลกระทบที่พวกเขาได้รับ จากการถูกปิดทำการเพราะโควิด-19 และแสดงความมุ่งมั่นที่ต้องการให้ลอสแอนเจลิสกลับมาเปิดอีกครั้งอย่างปลอดภัย โดยเร็วที่สุดในวันที่ 4 ก.ค.

บรรดาผู้นำกล่าวว่าการสั่งปิดในระยะยาวจะบ่อนทำลายความสามารถของธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ในการกลับมาเปิดทำการใหม่ อีกทั้งจะทำให้เกิดการสูญเสียตำแหน่งงานและรายได้ถาวรสำหรับคนนับล้านทั่วเทศมณฑล

ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระบบ (CSSE) ของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) ประกาศสถิติเมื่อเวลา 8.30 น. ของวันที่ 21 พ.ค. ว่ามีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดโควิด-19 จำนวน 40,895 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 1,973 รายทั่วลอสแอนเจลิส

เจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริง'พี่เตี้ย มช.' จ่อแจ้งข้อหาลักทรัพย์-เอาผิดคนฆ่าให้ถึงที่สุด

วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT" โพสต์ข้อความเปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้กระทำทารุณ "เตี้ย มช." สุนัขขวัญใจชาวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จนเสียชีวิต โดยระบุว่า เจ้าของกรรมสิทธิ์เตี้ยตัวจริง! ประสานWDTเข้าแจ้งความเอาผิดข้อหาหนักลักทรัพย์เวลากลางคืน!

"เจ้าของกรรมสิทธิ์พี่เตี้ยตัวจริงประสาน WDT เตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษข้อหาหนักความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ WDTควงทีมกฏหมายทนายคลายทุกข์ คุณเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ปรึกษากฎหมายมูลนิธิ WATCHDOG THAILAND เตรียมเข้าเป็นโจทก์ร่วมเอาผิดคนฆ่าพี่ให้ถึงที่สุด"

โดยการอำนวยการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผย ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผกก.กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วว่ามีเจตนาทำให้พี่เตี้ยตายจริงหรือไม่ โดยขอให้เวลาต้นสังกัดและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ในขณะที่การแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษและการให้ปากคำของ WDT ในฐานะผู้กล่าวหา ก็ดำเนินไปอย่างดียิ่ง โดยอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบและส่งมอบหลักฐาน และออกหมายเรียกพยานเข้าให้ปากคำรวมถึงการสอบพยานแวดล้อมอีกหลายปากเพื่อพิสูจน์เจตนาทารุณกรรมสัตว์ แต่ความหวังที่เคยริบหรี่และหนักหน่วงใจมาตลอดจากการสืบหาเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริงของเตี้ย ซึ่งเป็นผู้มีฐานะเป็นเจ้าของ"ทรัพย์" และมีสิทธิ์ในการร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดข้อหาหนักคือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นลักทรัพย์เวลากลางคืน หรือทำให้เสียทรัพย์ พร้อมข้อหาทารุณกรรมสัตว์ซึ่งเป็นการกระทำผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท

ก็พลันสว่างไสวปลุกปลอบกำลังใจในการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมเพื่อพี่ขึ้นมาทันที ! เมื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริงติดต่อWDT แสดงหลักฐานการครอบครอง ความเป็นเจ้าของ "#ช้าง" ลูกชายแม่ถุงเงินพร้อมพี่น้องครอบครัวของพี่เตี้ย ที่กลายเป็น "เตี้ย มช." หมาเซเลปนักวิ่งในตำนานรับน้องขึ้นดอยของชาว"เด่นช้างชูคบเพลิง"

ยืนยัน ! ไม่เคยละกรรมสิทธิ์! แม้จะรับทราบตลอดมาว่า "ช้าง"ได้กลายเป็น "พี่เตี้ย" ขวัญใจชาว มช.และได้รับการฝังไมโครชิพเพื่อความสะดวกในการดูแลและติดตามโดยแอดมินเพจเตี้ย มช. ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยดูแลพี่ที่ชอบเข้าไปเที่ยวเล่นอยู่ในรั้วสีม่วงอันกว้างใหญ่ไพศาล และเป็นนักวิ่งในตำนาน วิ่งนำคณะต่างๆในวันรับน้องขึ้นดอยทุกปีของชาวลูกช้างมช.

โดยเปิดเผยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่จะไปกลับระหว่างบ้านและ มช.เสมอมา เพราะพี่ชอบเที่ยวและแว้นมอเตอร์ไซค์เป็นชีวิตจิตใจ เจ้าของจึงปล่อยให้พี่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในแผ่นดินเชิงดอยในแบบที่พี่รักและมีความสุข เพราะต่อให้ไม่ปล่อย พี่ก็จะดิ้นรนออกมาเที่ยวเล่นประสาหมาเซเลปที่ใครๆก็รักและอยากเจอตัว

จนในที่สุดเจ้าของต้องสุดกลั้นน้ำตา เพราะไม่เคยคิดเคยนึกไปได้เลยว่า สิ่งสุดท้ายที่พี่ได้รับจากมนุษย์และแผ่นดินที่พี่รักและไว้วางใจ จะกลายเป็นความโหดเหี้ยมอำมหิตที่พรากพี่จากไกลตลอดกาล…

WDT พร้อมกลุ่มเซเลปนักปั้นมือทอง พี่อุ๊บ วิริยะ และ คณบดี ดร.สุรินทร์ เมทะนี และผองเพื่อน เตรียมเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อ ผบตร. พร้อมเจ้าของพี่เตี้ยเตรียมนัดหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ข้อหาหนักความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ที่ สภ.ภูพิงค์ ในการดูแลของทีมกฏหมาย WDT

นำโดยทนายความที่ปรึกษามูลนิธิฯ คุณเดชา กิตติวิทยานันท์

เมื่อWDTผนึกกำลังประชาชนคนรักสัตว์รวมพลังต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมไปด้วยกัน เพื่อพี่เตี้ย มช.ที่สุดรักและคิดถึง ก็เตรียมตัวสะพรึงได้เลยครับ สำหรับใครหรือกลุ่มคนใดก็ตามที่ร่วมกันกระชากชีวิตพี่ไปอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตจนสุดที่จะรับได้

ขอบคุณ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5

พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่

พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่

พ.ต.ท.จิรัฐติพงษ์ เลิศวิริยานันท์ รองผกก.ป.สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่

พ.ต.ท.บุรินทร์ ยมจินดา รองผกก.สส.สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่

พ.ต.ท.จักรี ม่วงคำ รองผกก.(สอบสวน)สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่

พ.ต.ต.ณัฐพล เอกฉันท์รอง สว.สส.สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่

พ.ต.ต. พิชิต เสคา สว.(สอบสวน) สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่

สำนักงานกฎหมาย ทนายคลายทุกข์ คุณเดชา กิตติวิทยานันท์

ที่ปรึกษากฎหมาย WATCHDOG THAILAND

นักปั้นมือทอง พี่อุ๊บ วิริยะ และ คณบดี ดร.สุรินทร์ เมทะนี และผองเพื่อน

ประชาชนคนรักสัตว์ผู้เรียกร้องความยุติธรรมเพื่อพี่เตี้ย

ประชาชนผู้ร้องเรียนเหตุทารุณกรรม

อาสาประชาชนเครือข่าย Watchdog Thailand


'อบจ.ลำพูน'หนาว! ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนปมจัดซื้อ'แคร์เซต'แพงว่าท้องตลาด

วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข่าวถึงความคืบหน้าในหารตรวจสอบเรื่องกล่าวหา นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ลำพูน กับพวกรวม 18 คน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีดำเนินโครงการป้องกันผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) โดยจัดซื้อชุดของใช้ประจำวัน หรือแคร์เซ็ตในราคาสูงนั้น ว่า ป.ป.ช.ได้พิจารณารายงานการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนเป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ อบจ.ลำพูน ดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์ชุดแคร์เซ็ตเพื่อสนับสนุนแก่กลุ่มเสี่ยงสูงต่อการติดโควิด-19 จำนวน 27,700 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ใช้สิทธิหลักประกันถ้วนหน้า ไม่อยู่ในสิทธิหลักประกันของทางราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือประกันสังคม

ต่อมา อบจ.ลำพูน ได้อนุมัติจ่ายขาดเงินสะสม ประจำปีงบประมาณ 2563 วงเงินจำนวน 17,174,000 บาท เพื่อดำเนินการโครงการโดยไม่มีการสืบหาราคาชุดแคร์เซ็ตก่อน แต่ได้ใช้ราคาจากห้าง/ร้าน ในกลุ่มเดียวกันมากำหนดคุณลักษณะและราคากลาง ในราคา ชุดละ 590 บาท และในขั้นตอนการจัดซื้อ คณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ได้มีหนังสือเชิญไปยังห้าง/ร้าน จำนวน 5 แห่ง เพื่อให้เข้ามายื่นเสนอราคา โดยมีห้าง/ร้าน จำนวน 3 รายมายื่นเสนอราคา โดยเสนอราคาเท่ากันในราคารายละ 16,343,000 บาท หรือชุดละ 590 บาท ซึ่งอบจ.ลำพูน ได้เลือกให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด พ.เป็นคู่สัญญาในวงเงิน 16,343,000 บาท

นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า แต่ราคาชุดแคร์เซ็ตจำนวน 13 รายการนั้น จากการสืบราคาจากห้าง/ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าในจังหวัดลำพูน จำนวน 25 ร้านค้า พบว่าราคาเฉลี่ยมีราคาเฉลี่ยเพียงชุดละ 315.55 บาท ดังนั้นการจัดซื้อของ อบจ.ลำพูนดังกล่าวจึงมีมูลฟังได้ว่าได้มีการจัดซื้อในราคาที่สูงกว่าในท้องตลาด และทำให้ อบจ.ลำพูนได้รับความเสียหาย คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวนเบื้องต้น เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน กับพวก รวม 18 ราย ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหา เพื่อให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาในการชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาต่อไป

เมื่อถามถึงมาตรการเตรียมการป้องกันการทุจริตในโครงการที่เกี่ยวกับโควิด – 19 โครงการอื่นๆ นายนิวัติไชย ชี้แจงว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 35 ได้กำหนดแนวทางการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รูปแบบใหม่ แต่เดิมที่ทำหน้าที่เหมือนพนักงานสอบสวน ที่ต้องรอให้คนมาร้องเรียนก่อน จึงเข้าไปตรวจสอบ แต่แนวทางตามกฎหมายใหม่มีเจตนาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำหน้าที่ป้องกันการทุจริตก่อนที่เหตุจะเกิด โดยในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการดําเนินการอย่างใด ในหน่วยงานของรัฐอันอาจนําไปสู่การทุจริตหรือส่อว่าอาจมีการทุจริต ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดําเนินการ ตรวจสอบโดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช.ในทุกพื้นที่ ก็มีการตรวจสอบข้อมูลและติดตามการดำเนินการโครงการที่เกี่ยวกับโควิด – 19 มาโดยตลอด มีการขอเอกสารโครงการมาตรวจสอบ เพราะ ป.ป.ช.ให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้งบประมาณที่เกี่ยวกับผลกระทบของประชาชน จะเห็นได้จากกรณี อบจ.ลำพูน ที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อถามอีกว่าในส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอื่น ๆ ป.ป.ช. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ตามปกติมีการลงพื้นที่ตรวจสอบอยู่แล้วในทุกจังหวัด แต่บางแห่งมองว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เข้าไป จะเป็นการล้วงลูก กดดัน หรือจ้องจับผิด แต่เจตนาของ ป.ป.ช. คือต้องการเข้าไปช่วยดู หรือคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจถูกบีบบังคับให้กระทำการดังกล่าว สามารถแจ้งมาที่ ป.ป.ช.


ย้ายไปเวียดนาม ‘พานาโซนิก’จ่อปิดโรงงานผลิต‘เครื่องซักผ้า-ตู้เย็น’ในไทยปลายมี.ค.64

21 พ.ค. 2563 สำนักข่าว Jiji Press ของญี่ปุ่น เสนอข่าว “Panasonic to Close Appliance Plant in Thailand” ระบุว่า พานาโซนิก (Panasonic) บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนปิดโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าตู้เย็นซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย ในช่วงปลายเดือน มี.ค. 2564 และจะย้ายไปเดินสายการผลิตในพื้นที่ใกล้กับกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามแทน

ผู้เชี่ยวชาญชี้‘ยาต้านมาลาเรีย’รักษาโควิด-19 อาจฆ่าคนอ่อนแอได้!

21 พฤษภาคม 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน ลิเวอร์พูล เอคโค่ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นสหราชอาณาจักร เปิดเผยคำเตือนจากศาสตราจารย์ชาวสหราชอาณาจักร ที่ชี้ว่าคำแนะนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับการใช้ยาต้านมาลาเรียเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) “สามารถคร่าชีวิตคนที่อ่อนแอได้”

เมื่อวันจันทร์ (18 พ.ค.) ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเขารับประทานยาไฮดรอกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquin) เป็นประจำทุกวัน โดยระบุว่านี่อาจเป็นวิธีการรักษาโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ แม้จะมีคำเตือนว่ายาชนิดนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านหัวใจ

“ผมเริ่มกินยานี้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ผมบอกได้เลยว่าจนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าผมจะไม่เป็นไร” ทรัมป์เผย

อย่างไรก็ดี เมื่อวันอังคาร (19 พ.ค.) คาลัม เซมเปิล (Calum Semple) ศาสตราจารย์ด้านสุขภาพเด็กและยารักษาโรคระบาดแห่งมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล กล่าวว่าเขาไม่แนะนำให้ใช้ยาตัวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรครุนแรง พร้อมโต้แย้งคำแนะนำของทรัมป์อย่างหนักแน่น

“คลอโรควินจัดเป็นยาต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ใช้ยารักษาโรคเบาหวานแบบจำเพาะ เนื่องจากมันจะไปลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรุนแรง และอาจนำไปสู่ความตายได้ เข้าใจไหมครับ? ดังนั้นเราจะต้องชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราไม่แนะนำให้ใช้ยาตัวนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคที่มีความรุนแรง”

“คลอโรควินอาจส่งผลเสียต่อผู้ที่เป็นโรคตับและผู้สูงอายุที่มีการทำงานของไตไม่ดีด้วย พวกเขามีความเสี่ยงสูงต่อผลข้างเคียงจากคลอโรควิน ดังนั้นผมจึงผิดหวังมากที่ได้ยินเรื่องนี้”

ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้ออกมาเตือนว่าการใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินหรือคลอโรควิน (chloroquine) สำหรับโรคโควิด-19 “นอกโรงพยาบาลหรือการทดลองทางคลินิกอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้านการเต้นของหัวใจ”

“ยังไม่มีรายงานที่แสดงว่าไฮดรอกซีคลอโรควินและคลอโรควินปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาหรือป้องกันโรคโควิด-19” แถลงการณ์จากองค์การ์ฯ ระบุ “ขณะนี้ยาทั้งสองตัวยังอยู่ระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพทางคลินิกเพื่อใช้ในการรักษาโรคโควิด-19”

นอกจากนั้นการศึกษาที่เผยแพร่โดยสำนักบริหารสุขภาพทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายน ระบุว่ายาข้างต้นไม่มีประสิทธิผลในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 และพบว่าผลลัพธ์หลักสองประการที่ตามมาหลังผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาตัวนี้คือพวกเขาจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเสียชีวิต