ข่าว
คืนเดียว! แจ็ค หม่า หน้าบาน "อาลีบาบา" โกยเงิน แสนล้าน สั่งซื้อของออนไลน์ผ่านเว็บ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แจ๊ค หม่า เจ้าของเว็บขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังของประเทศจีน ′อาลีบาบา′ ประกาศเตรียมความพร้อมสำหรับเทศกาลคนโสดหรือ ′ซิงเกิ้ล เดย์′ ที่ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกๆปี เนื่องจากเป็นวันเดียวที่มีแต่เลข 1

โดยกิจกรรมที่หนุ่มและสาวโสดนิยมปฏิบัติกันในวันนี้คือออกไปช็อปปิ้ง ซื้อสินค้าต่างๆกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้คน นิยมซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น นายแจ๊ค หม่า จึงประกาศเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่คาดว่าจะมียอดจับจ่ายมากกว่าปีก่อนๆ

ด้านสำนักข่าวยูเอสเอทูเดย์รายงานว่านับตั้งแต่เริ่มกิจกรรมเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ได้เพียง90 นาที มียอดการสั่งสินค้าผ่านเว็บไซต์อาลีบาบา 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 179,000 ล้านบาท ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอาจมีเงินหมุนเวียนสูงถึง 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 390,000 ล้านบาท

มท.1 เผยยอดลงทะเบียน 'ปั่นเพื่อพ่อ'พุ่ง 6.7 แสนคน

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมพร้อมกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ ว่า โดยสรุปผลจำนวนผู้ลงทะเบียน เข้าร่วมกิจกรรม ปั่นเพื่อพ่อ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 607,909 คน แบ่งเป็นใน กทม. จำนวน 99,999 คน ต่างจังหวัด 498,105 คน และต่างประเทศ 9,805 คน ถือว่าประชาชนให้ความสำคัญ เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามพระราชปณิธาณของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ต้องการให้ทุกคนมาร่วมใจกัน ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยในการจัดกิจกรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ขอให้ทั่วประเทศได้ช่วยกันดูแลความปลอดภัย เป็นหูเป็นตา อย่าให้ใครมาก่อกวนทำให้เกิดเหตุไม่เรียบร้อยขึ้น ทั้งนี้ได้ย้ำกับผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เตรียมพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัย ทั้งในเรื่องของความไม่สงบเรียบร้อย ด้านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว


เผย'พล.ต.'ยื่นลาออกแล้ว ตั้งกก.สอบวินัย"ผู้การโจ้"

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย พ.อ.คชาชาต บุญดี ฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 หลังขาดราชการเกิน 7 วันว่า เป็นไปตามระเบียบราชการ เพราะตามระเบียบข้าราชการทหาร หากจะเดินทางออกนอกประเทศ ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพต้นสังกัด และ รมว.กลาโหมล่วงหน้า และยอมรับว่านายทหารยศ พล.ต. เพื่อนสนิทของ พ.อ.คชาชาต ได้ทำหนังสือลาออก โดยส่งมาถึงกระทรวงกลาโหมตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. 58 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงกลาโหม

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามระเบียบการขาดราชการทหารเกินกว่า 7 วัน จะต้องดำเนินการสอบสวนทางวินัย โดยหากขาดราชการเกิน 15 วัน หน่วยงานต้นสังกัดจะต้องพิจารณาเรื่องการออกจากราชการ แต่ต้องดูว่ากองทัพภาคที่ 3 พิจารณาในประเด็นใดว่าเป็นการขาดราชการเพราะติดต่อไม่ได้ หรือขาดราชการเพราะหนีคดีอาญา


ปธน.เมียนมาส่งสารยินดี "ซูจี" ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง

(11 พ.ย.58) สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง แห่งเมียนมาร์ ร่วมแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในการเลือกตั้งแก่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางออง ซาน ซูจี เจ้าของรางวัลโนเบล

นายอู เย ทุต โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีเมียนมาร์ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า “ข้อความของเราสู่ประชาชนในประเทศ ในนามของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีต้องการแสดงความยินดีต่อประชาชนชาวเมียนมาร์สำหรับวันเลือกตั้งที่สงบ ยุติธรรม และมีเสรีภาพ” ก่อนเสริมต่อว่า “และในส่วนที่สอง ประธานาธิบดีต้องการแสดงความยินต่อพรรคเอ็นแอลดีสำหรับความสำเร็จในการเลือกตั้ง และปรารถนาให้พวกเขาสามารถเติมเต็มความปรารถนาของประชาชนในอนาคต”

ภายใต้การประกาศผลที่นั่งในสภาที่ดำเนินไปประมาณ40 เปอร์เซ็นต์ พรรคเอ็นแอลดีครองคะแนนเสียงเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (ยูเอสดีพี) ครองที่นั่งประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์

ก่อนหน้านี้ นางซูจีได้เขียนเอกสารถึงประธานาธิบดีเต็ง เส่งเพื่อร้องขอให้ประชุมเจรจาถึงการประนีประนอมแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีฯเผยว่า การประชุมลักษณะนี้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อผลการเลือกตั้งทั้งหมดถูกประกาศออกมาแล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการพยายามที่จะทำให้ประกาศผลการเลือกตั้งล่าช้า


ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก นปช. คนละ3-13ปี คดีเผาศาลากลาง ไม่รอลงอาญา

(11 พ.ย.58) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 12 ชั้น 2 ศาลจังหวัดขอนแก่น ศาลได้กำหนดให้มีการนัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นยื่นฟ้อง 4 ผู้ต้องหากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ประกอบด้วย นายอดิศัย วิบูลเสข จำเลยที่ 1,นายจิรัฐตระกูล สุมหา จำเลยที่ 2, นายสุทัศน์ สิงห์บัวขาว จำเลยที่ 3 และนายอุดม คำมูล จำเลยที่ 4 ในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และร่วมกันเข้าไปในอาคารเก็บรักษาทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 และกลุ่มคนเสื้อแดงได้ร่วมชุมนุมและบุกรุกเข้าไปในศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 ก่อนทำการบุกเข้าไปภายในอาคารทำลายข้าวของและทำการใช้ยางรถยนต์เผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังเก่า จนได้รับความเสียหายและลุกลามไปยังศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังใหม่ได้รับความเสียหายบางส่วน

โดยศาลได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนมีคำพิพากษาว่าในวันเกิดเหตุกลุ่มคนเสื้อแดงได้นัดชุมนุมกันจำนวนหลายร้อยคนบริเวณสวนสาธารณะรัชดานุสรณ์ซึ่งตั้งอยู่ติดกับศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนตรงไปยังประตูทางเข้าศาลากลางทางทิศตะวันตก ซึ่งปิดล็อกอยู่แล้วร่วมกันฝ่าแนวกั้นที่มีทั้งสิ่งกีดขวางและกำลังเจ้าหน้าที่ของรัฐดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่หลังจากฝ่าแนวกั้นประตูเข้าไปได้แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือต่อนายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น(ขณะนั้น)เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุติการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์

อย่างไรก็ตาม แม้จะยื่นหนังสือข้อเรียกร้องเสร็จแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงก็ยังไม่ยอมออกไปจากศาลากลางจังหวัด ยังชุมนุมกันต่อด้วยท่าทีที่รุนแรงเกรี้ยวกราด ในระหว่างนั้นผู้ชุมนุมได้พยายามรุกคืบเข้าไปภายในตัวอาคารศาลากลางจังหวัด มีการนำยางรถยนต์ไปวางสุมแล้วจุดไฟเผา บ้างก็ขว้างปาขวดที่เชื่อว่ามีน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในตัวอาคาร บ้างก็หยิบก้อนหิน อิฐตัวหนอนที่อยู่บริเวณนั้นขว้างปา ทุบทำลายทรัพย์สินทางราชการ ทรัพย์สินของประชาชน

"ระหว่างการชุมนุมจนถึงเหตุการณ์จุดไฟเผาศาลากลาง ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่บักทึกไว้ได้ทั้งจากช่างภาพสื่อมวลชนหลายแขนงและจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐที่นำมาใช้สืบพยานในชั้นศาลปรากฏมีภาพของจำเลยทั้ง 4 ร่วมก่อเหตุอยู่ด้วยอย่างชัดเจน แต่ละคนมีพฤติการณ์การกระทำผิดที่รุนแรงแตกต่างกันไป ฯลฯ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าจำเลยที่ 1-4 มีพฤติกรรมฐานความผิดหลายข้อหา โดยเฉพาะการมีความผิดร่วมกันในข้อหาชุมนุมสร้างความวุ่นวายในที่สาธารณะตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป, ร่วมกันบุกรุกทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นหรือของสาธารณประโยชน์หรือทำลายทรัพย์สินของแผ่นดิน"

ศาลจึงมีคำพิพากษาสั่งจำคุกจำเลยทั้ง 4 ในฐานความผิดหลายมาตราแตกต่างกันไป โดยสั่งจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 13 ปี จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 13 ปี จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 3 ปี และจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้แม้จำเลยที่ 3 และ 4 มีโทษจำคุกเพียง 3 ปีแต่ก็ไม่มีเหตุให้รอลงอาญา เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ชี้ให้เห็นว่าจำเลยทั้ง 2 ไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองและไม่ต้องการให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้กระทำความผิด

ด้านนายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความประจำ นปช. และ จำเลยทั้ง 4 กล่าวว่า ทีมทนายความยังคงขอต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ รวมไปถึงการยื่นขอประกันตัว แต่มีปัญหาเนื่องจากไม่สามารถใช้ตำแหน่ง ส.ส.ยื่นขอประกันได้เพราะหลังมีการรัฐประหาร สถานภาพ ส.ส.ก็หมดสิ้น มีทางเดียวคือนัดหารือญาติของผู้ต้องหาเพื่อหาหลักทรัพย์มายื่นขอประกัน ซึ่งยังไม่ทราบว่าต้องใช้หลักทรัพย์มูลค่าเท่าไหร่และตอบไม่ได้ว่าจะสามารถยื่นประกันได้เมื่อใด


จีนฟันนักเก็งกำไรรายใหญ่ สั่งอายัดหุ้นมูลค่ารวมหลายหมื่นล้านบาท ฐานใช้ข้อมูลวงใน

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนได้อายัดหุ้นที่มีมูลค่ารวมกันสูงถึงเกือบ 6,600 ล้านหยวน หรือประมาณ 36,000 ล้านบาท ที่ถือครองโดยตระกูลของนายซู่ เซียง ผู้จัดการกองทุนเก็งกำไรที่มีชื่อเสียงในจีน ซึ่งกำลังถูกทางการสอบสวนภายใต้ข้อกล่าวหาซื้อขายหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อมูลวงใน

โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายซู่และผู้ร่วมงานในบริษัทเจ้อสี อินเวสต์เมนต์ กองทุนเก็งกำไรในนครเซี่ยงไฮ้ ได้ถูกกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน สอบสวนภายใต้การกล่าวหาว่าได้ทำการซื้อขายหุ้นล่วงหน้าโดยมิชอบ จนส่งผลให้เกิดความผันผวนอย่างหนักในตลาดหุ้นจีนโดยปรับลดลงไปมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์นับแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ภายใต้การสอบสวนนี้ยังมีผู้สื่อข่าว ผู้บริหารอาวุโสในบริษัทนายหน้าค้าหลักทรัพย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานกำกับหลักทรัพย์อีกหลายคนติดร่างแหด้วย

ดีลักซ์ แฟมิลี บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยวันเดียวกันว่า ทางตำรวจได้ร้องขอให้บริษัทอายัดหุ้นที่ถือครองโดยบริษัทเจ้อสีที่มีอยู่จำนวน 90 ล้านหุ้นเอาไว้ก่อนเป็นเวลา 2 ปี ปัจจุบันหุ้นของดีลักซ์ แฟมิลีมีมูลค่าตกหุ้นละ 13.2 หยวน ทำให้มูลค่าหุ้นโดยรวมที่เจ้อสีถือครองอยู่ในดีลักซ์ แฟมิลีมีสูงถึงราว 1,190 ล้านหยวน

นอกจากนี้ จากการเปิดเผยของ หนิงป๋อ จงไป่ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในจีนระบุว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หุ้นของหนิงป๋อที่ถือครองโดยบริษัท สีจ้าง เจ้อเถียน จำนวน 35.4 ล้านหุ้น จะถูกอายัดไว้เป็นเวลา 2 ปีหรือจนถึงเดือนพฤศจิกายนปี 2560 ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้ ซีเคียวริตี นิวส์ สื่อของทางการรายงานว่า นายซู่ ป๋อเหลียง พ่อของนายซู่ เซียง ได้เข้าไปลงทุนด้วยการถือครองหุ้นในหนิงป๋อโดยผ่านบริษัทสีจ้าง เจ้อเถียน อย่างไรก็ดี บริษัทหนิงป๋อเปิดเผยว่า ไม่สามารถติดต่อนายซู่ ป๋อเหลียงมาได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมาแล้ว

ขณะที่เมื่อวันก่อนหน้านี้ บริษัท เหวินเฟิง เกรท เวิลด์ เชน ดีเวลอปเม้นต์ คอร์ป ผู้ดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้า และ บริษัท ต้าเหิง นิว อีพอค เทคโนโลยี อิงค์. ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ต่างออกแถลงการณ์แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดการถือหุ้นในบริษัทตนของนางเจิ้ง ซู่เจิน แม่ของนายซู่ เซียง เป็นเวลา 2 ปีด้วย

ญี่ปุ่นนำเครื่องบินเจ็ตผลิตเอง ลงทดสอบเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี

(11 พฤศจิกายน 2558) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ในวันนี้ ญี่ปุ่นได้ทำการทดสอบเครื่องบินเจ็ตโดยสารผลิตเองลำแรกในรอบกว่า 50 ปี ณ สนามบินนาโกยา นาน 90 นาที เป็นครั้งแรก หลังโครงการใช้เวลาในการพัฒนานับทศวรรษ

เครื่องบินมิตซูบิชิรีเจินแนลเจ็ต (เอ็มอาร์เจ) ลำนี้ พัฒนาขึ้นโดยบริษัทมิตซูบิชีเฮวี่ มีความยาวเครื่องประมาณ 35 เมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 80 ที่นั่ง และเป็นเครื่องบินประเภทสองเครื่องยนต์ ซึ่งคาดหวังว่าเอ็มอาร์เจนั้นสามารถมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารรวมภายใต้ค่าปฏิบัติการที่ต่ำ และตั้งเป้าเป็นจุดกระตุ้นภาคการบินในประเทศ

รายงานระบุว่า เครื่องยนต์ของเอ็มอาร์เจพัฒนาขึ้นโดยบริษัทแพรตต์และวิทนี่ย์จากสหรัฐอเมริกา ซึงชิ้นส่วนจากอเมริกานี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดค่าปฏิบัติการได้ถึง 20 เปอร์เซนต์

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถูกห้ามพัฒนาเครื่องบินภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเอ็มอาร์เจนี้ทำให้ญี่ปุ่นเข้าสู่การแข่งขันภาคการบินในประเทศกับประเทศอื่น ๆ อาทิ บราซิล และแคนาดา